บทที่ 245
พลังอำนาจ
“เกรี้ยวโกรธ?” เจียงซิ่วจ้องมองไปที่มาดาม RV ดวงตาของเขาไม่มีการล้อเล่นแม้แต่เพียงนิดเดียว มีเพียงแต่เปลวไฟแห่งโทสะหมุนวนอยู่ข้างใน เมื่อรัศมีของเขาค่อยๆ ทะยานขึ้นอย่างช้าๆ “ตระกูลลีจากเกาหลี ตระกูลหลง ประตูสวรรค์…”
เขาจ้องมองไปยังใบหน้าที่ขาวซีดของหลงหยิงชิง และในทันที ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ผมของเขาค่อยๆ ยืดยาวออกมาอย่างบ้าคลั่ง ความโกรธที่คล้ากับเปลวไฟลุกโชติช่วงท่วมท้นท้องฟ้ากว้างใหญ่ทันที
“ใครหน้าไหนที่กล้าโกรธฉัน เจียงโหลวเซี่ย???!!!!!”
เซียนหมายเลข 1 ของจีนในที่สุดก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว!
เมฆดำมารวมตัวกันบนท้องฟ้า ปิดบังแสงว่างจากดวงจันทร์ พายุก่อตัวขึ้น ขณะที่ได้ยินฟ้าร้องดังมาจากระยะไกล มันมาพร้อมกับสายฟ้าที่แปลบปลาบ มันราวกับว่าเทพเจ้าได้คลืบคลานลงมาสู่โลกใบนี้แล้ว มาเพื่อฝั่งความกลัวลงไปสู่จิตใจของมนุษย์
“พระเจ้า!”
ผู้ที่อยู่ตรงนี้ในที่สุดได้รู้แล้วว่าเจียงซิ่วทรงพลังมากเพียงใด การฆ่าคนถือเป็นเรื่องเล็กน้อย หากเทียบกับความสามารถที่แท้จริงของเขา พลังอำนาจของเขามีอิทธิพลต่อโลก และถึงกับสร้างปรากฏการการผันผวนขึ้น
เมฆปกคลุมหนาแน่น และความมืดมิดก็ปกคลุมพื้นที่นี้อย่างต่อเนื่อง
ร่างกายของหลงหยิงชิงเริ่มสั่นสะท้าน ใบหน้าของเธอซีดเหมือนกระดาษ เธอไม่สามารถยืนได้อีกต่อไปและล้มลงไปกับพื้น เธอไม่สามารถขยับนิ้วใดๆ ได้อีก ความเจ็บปวดที่ไม่อาจพรรณนาได้เริ่มเกิดขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ มันเริ่มต้นการทรมานตัวเธอ ในใดนั้นเอง หน้าผากของเธอก็เต็มไปด้วยเหงื่อ เธอขดตัวคล้ายกับรูปวงกลม
“อ๊าาาาาาา!!”
ภายในปราสาทแห่งหนึ่งในอโกลล์ ความโศกเศร้า เสียงโหยหวนดังกึกก้องไปทั่วทั้งสถานที่ เสียงร้องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่บริเวณหรือที่ใดที่นึง แต่มันปรากฏโดยตรงในจิตใจของทุกคนที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้
“เกิดอะไรขึ้น?”
ภายในห้องประชุมของประตูสวรรค์ ชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมของลัทธิเต๋าสีดำ เขาตัวสั่นด้วยความเจ็บปวด
“เกิดอะไรขึ้น? บอกฉัน!”
พวกเขาทั้งหมดเป็นเซียน และอยู่ที่นี่เพื่อตัดสินใจว่าจะฆ่าหรือชักชวนเจียงโหลวเซี่ย คนที่พวกเขาทำให้มาติดกับดักอยู่ในยุโรปเช่นนี้ ในขณะที่พวกเขากำลังโต้เถียงกันอย่างดุเดือด เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในทันใด
“ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลย!”
นิ้วของชายคนนั้นจับโต๊ะไม้แน่น มือที่โปร่งใสของเขาเริ่มมีไอสีดำที่น่ากลัวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“หลงไซ๋ซง มีใครบางคนกำลังยุ่งอยู่กับร่างกายของหลานสาวเจ้า!” เสียงของเขาแหบแห้ง
“สถานการณ์เป็นไง?”
หลายคนในที่นี่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนั้น เด็กหญิงตัวน้อยที่ชื่อว่าหลงหยิงชิงกำลังจะตาย หลงไซ๋ซงขอความช่วยเหลือจากพระสงฆ์ ซึ่งเขาก็ใช้ทักษะลับเพื่อรักษาชีวิตของเธอไว้ และจากนั้น เด็กหญิงตัวเล็กนางนั้นก็กลายมาเป็นสื่อกลางในการบรวงสรวงของพระสงฆ์ เนื่องจากสิ่งนี้ ตระหลงจึงได้ติดหนีบุญคุณของพระสงฆ์
แต่บางคนกำลังยุ่งอยู่กับร่างของเด็กหญิงตัวเล็กนางนั้น ตอนนี้มันส่งผลทำให้เขาเจ็บปวดอย่างสุดแสน
“ท่านพระสงฆ์ที่น่านับถือ ปัญหาเล็กน้อยเช่นนี้จะรบกวนคุณได้ยังไง?” ชายชาวจีนผู้สูงอายุกล่าวขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยย่น และดูเหมือนเป็นชิ้นงานศิลปะที่มีรอยบุบยุบไปทั่ว เขาสวมรอยยิ้มที่ผ่อนคลายบนใบหน้าของเขา และไม่ได้ใส่ใจปัญหานี้อย่างจริงจัง
ไม่เพียงแต่เขา คนอื่นที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เห็นมันเป็นเรื่องจริงจัง
พวกเขามีพลังอำนาจสูงกว่าผู้คนในโลกนี้มาก และเชื่อว่าพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนี้ ไม่มีใครสามารถสร้างผลกระทบต่อพวกเขาได้ นับประสาอะไรกับการคุกคามพวกเขา
“จัดการมันเร็ว เรายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องหารือต่อ!”
แต่ทว่า…
พระสงฆ์เริ่มสั่นรุนแรงมากขึ้น และไอระเหยสีดำก็โผล่ออกมาจากตัวเขา ดวงตาของเขากลายเป็นแดงก่ำ ในขณะที่ใบหน้าของเขาเบลอหายออกไปด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ความแข็งแกร่งที่มีของเขาจางหายไปอย่างรวดเร็ว เขากรีดร้องเสียงดัง “มันคือเจียงโหลวเซี่ย!”
“อะไรนะ?”
ทุกคนตกตะลึงหลังจากได้ยินสิ่งนี้
“ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
พระสงฆ์อธิบาย “เขาดึงวิญญาณคนตายที่ฉันฝังมันลงไปในร่างของมิสหลงออกไป มันเป็นร่างแยกที่ข้าได้ใช้ความพยายามเพื่อสกัดกลั่นมันอย่างหนักและมันยังเป็นแหล่งต้นกำเนิดชีวิตของข้า… เจียงโหลวเซี่ย… เขาต้องการดึงมันออกจากตัวเธอ … และมันก็ไม่มีทางที่วิญญาณซึ่งตายไปแล้วจะหนีออกไปได้… มันจะหายสาปสูญ!”
“อ๊ากกกกกกก!!”
พระสงฆ์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง ความรู้สึกที่เขารู้สึกอยู่ มันราวกับว่าวิญญาณของมนุษย์กำลังถูกดึงออกจากร่างกายโดยผ่านการบังคับ การผสมผสานระหว่างจิตวิญญาณและร่างกายนั้นคล้ายคลึงกับผิวหนังและเนื้อหนัง และความเจ็บปวดที่เขารู้สึกในตอนนี้ก็คล้ายกับความเจ็บปวดที่รู้สึกเมื่อตอนถูกถลกหนังออกไปทั้งๆ ที่มีชีวิตอยู่
“ท่านไม่สามารถต้านทานเขาได้?”
หลงไซ๋ซงตื่นตระหนก เซียนคนอื่นก็เหมือนกัน ถ้าพระสงฆ์ไม่ตอบกลับ พวกเขาก็จะไม่เชื่อมัน พระสงฆ์เดินตามแนวทางบ่มเพาะการบรวงสรวงวิญญาณ และได้มาถึงระดับการฝึกฝนในปัจจุบันของเขา แม้ว่าความแข็งแกร่งของเจียงโหลวเซี่ยจะแข็งแกร่งกว่าเขา แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ความสำเร็จของเขาในด้านนี้จะสูงกว่าของพระสงฆ์
เด็กนับว่าไม่สำคัญ แต่ผู้ชายที่เพิ่งอายุ 20 ปี จะสามารถแข่งขันกับพระสงฆ์ที่เคยฝึกฝนตามพระคัมภีร์มาหลายชั่วอายุคนแล้วได้?
“อ๊ากกกกกก!!”
พระสงฆ์กรีดร้องอีกครั้ง ตอนนี้ แม้แต่ร่างกายของเขาก็เริ่มเหี่ยวเฉา
“ช่วยข้า…”
การแสดงออกที่ผ่อนคลายบนใบหน้าของเซียนหายไปในทันทีหลังจากได้ยินเสียงร้องของขอความช่วยเหลือจากพระสงค์ ใบหน้าของพวกเขาดูน่ากลัว ก็ในเมื่อพวกเขารู้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีแล้ว
พระสงฆ์ไม่สามารถต้านทานเจียงโหลวเซี่ยได้จริงๆ!!
ตามสถานการณ์ปัจจุบัน หากพระสงฆ์ไม่สามารถหลุดพ้นจากเขาไปได้ เขาก็จะต้องตายลงไปอย่างหน้าอถานใจ และยังเป็นเพราะเจียงโหลวเซี่ย!!
พวกเขาทั้งหมดสูดหายใจเข้าอย่างหนาวเหน็บหลังจากที่คิดถึงสิ่งนี้
เจียงซิ่วดูเหมือนจะบรรลุเขตแดนลึกลับของการบรวงสรวงวิญญาณเช่นกัน
“เหอะ! ดูตอนนี้สิ ขณะที่พวกเรากำลังหารือกันว่าจะยอมรับเขาเข้าองค์กรดีหรือไม่ เขาก็ได้แสดงความแข็งแกร่งออกมาก่อนแล้ว” ผู้ชายคนหนึ่งกระแทกโต๊ะด้วยความโกรธ
“เราต้องฆ่าเขา!”
พระสงฆ์ยังคงโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เส้นทางที่เขาบ่มเพาะอันที่จริงแล้วมันมาจากคัมภีร์นอกรีต หลายคนไม่สามารถฝึกฝนตามเส้นทางของมันได้ ดังนั้น แม้ว่าจะมีเซียนมากมายอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้
“ชะ ช่วย ข้า…”
เสียงผ่านเข้ามา “ทิ้งร่างแยกของเจ้าไปซะ”
ชายผู้ที่สวมชุดคลุมงูเก้าหัวหันกลับมาอย่างช้าๆ “มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเจ้าในการปรับแต่งร่างแยกนี้ แต่เมื่อเทียบกับชีวิตของเจ้า เจ้าควรจะรู้ว่าสิ่งไหนสำคัญกว่ากัน พวกเรามักมีคำพูดในประเทศจีน – ตราบใดที่มีชีวิตอยู่ ที่นั่นย่อมมีความหวัง”
หากพระสงฆ์ตัวการเชื่อมต่อกับร่างแยกของเขา เจียงโหลวเซี่ยก็ไม่มีวิธีใดที่จะโจมตีเขาได้ อย่างน้อยเขาก็สามารถรักษาชีวิตของเขาไว้ได้
“มันจะสายเกินไปถ้ามัวแต่รอ”
พระสงฆ์กัดฟัน และประทับสัญลักษณ์มือประหลาดๆ ด้วยมือของเขา ในขณะที่ร่ายมนต์ลึกลับบางอย่าง ร่างของเขาสั่น ตามมาด้วยไอดำจำนวนหนึ่งกระจายตัวออกจากร่างกายของเขา และหายไป
“ฮาร์…”
เขาปล่อยลมหายใจผ่อนคลาย มันราวกับว่าพลังทั้งหมดของเขาถูกดูดออกไป และไม่มีแรงที่จะเคลื่อนไหวใดๆ อีก อายุเขาดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นและดูเริ่มเหี่ยวเฉา ผิวของเขาดูเหมือนผิวส้มที่ลอกออกมา
“รู้สึกยังไงบ้าง?”
พระสงฆ์กล่าว “ข้ารอดชีวิตมาได้ด้วยวิธีนี้ แต่ข้าก็สูญเสียการบ่มเพาะที่มีไป 70-80%”
แต่ทันทีหลังจากนั้น สีหน้าของเขาก็ดูแปลกประหลาด เขากล่าว “เจียงซิ่วต้องการให้ฉันส่งข้อความต่อ ผู้ที่ทำให้เขา เจียงโหลวเซี่ยขุ่นเคือง จะไม่ใช่คนเดียวที่ตาย แต่กลุ่มทั้งหมดของพวกเขา จะต้องตายไปด้วยกัน”
วูสสสส!
การโยนหินลงไปน้ำสระน้ำครั้งนี้ มันสร้างคลื่นกว่าพันระลอกคลื่น!
“เจียงโหลวเซี่ยกล้าพูดเช่นนี้จริงๆ เขาดูถูกประตูสวรรค์ของฉันอย่างเปิดเผย” เสียงที่ดูมืดมนดังก้องอยู่ในห้อง
“เซียนใหม่ที่ไม่มีนัยยะสำคัญ หาญกล้าที่จะกล่าวคำออกมาอย่างกล้าหาญ ดูเหมือนว่าประตูสวรรค์ของเราอ่อนข้อเกินไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาคงลืมความดุร้ายของเราไปแล้ว”
“มันไร้สาระจริงๆ ที่มีคนเสนอให้เจียงโหลวเซี่ยมาเป็นพวก”
“มีความจำเป็นต้องหารือกันเรื่องนี้อีกต่อไปไหม?”
เซียนกล่าวออกมาอย่างขุ่นเคืองและไม่สามารถยับยั้งความโกรธของเขาได้อีก พวกเขามงกุฎประตูสวรรค์ถูกทำให้อับอายด้วยวิธีดังกล่าว นี่เป็นความอัปยศครั้งยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขา
“ประตูสวรรค์ของเราจะไม่เหลือหน้าใดๆ อีก หากเราไม่ฆ่าเจียงโหลวเซี่ย”
ชายเสื้อคลุมงูหัวขมวดคิ้ว “เขาพูดว่าอะไรอีก?”
พระสงฆ์กล่าว “เขายังบอกด้วยอีกว่า เขากำลังจะส่งของขวัญมาให้กับทุกคน… มันอยู่ในตัวของฉัน…” เนื้อตัวของเขาเริ่มรู้สึกร้อนขึ้น ในขณะที่เขากล่าว เขาก็ไม่สามารถทนต่อความร้อนนี้ได้อีก เขาถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกมา ร่างที่โปร่งใสของเขาเริ่มเปล่งแสงออกมา
“นี่คืออะไร?”
การแสดงออกทางสีหน้าของพระสงฆ์เริ่มเจ็บปวด และร่างกายของเขาก็เริ่มแตกออกมาพร้อมกับแสงที่เข้มข้น เขากรีดร้องอีกครั้ง และเมื่อแสงถึงจุดสูงสุด… ร่างกายของพระสงฆ์ก็ระเบิดออก
ขี้เถ้าลอยอยู่ภายในห้อง
ความเงียบราวกับคนตายเข้ามาแทนที่ทันที!
พวกเซียนต่างก็งงงวย ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ แม้แต่กระทั่งคนสวมชุดงูเก้าหัวก็เผยความกลัวในดวงตาของเขา ขณะที่เขาจับก้อนหินไว้อย่างหนาแน่น
นะ นี่ใช้วิธีการเช่นใดกัน?
ความสามารถในการฆ่าเซียนผ่านระยะทางกว่าร้อยกิโลเมตร มันน่ากลัวยิ่ง
