Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง – ตอนที่ 259

ตอนที่ 259

บทที่ 259

ฉันจะไม่ให้อภัยนายแม้แต่ตอนที่ฉันกลายเป็นผี

เจียงซิ่วหัวเราะ “ฉันคิดเอาไว้แล้ว ว่านายหญิงหนานก๋งผู้ที่มีสติปัญญาอันสูงส่ง จะต้องคิดเรื่องที่ง่ายดายแบบนี้ออกแน่นอนและสามารถทำให้ฉันหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ไปได้”

“ในที่สุดนายก็เริ่มพูดเหมือนมนุษย์บางแล้ว” นายหญิงหนานก๋งกำลังด่าเทพซิ่วทางอ้อมว่าเขาไม่ใช้มนุษย์!

เจียงซิ่วครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ สิ่งที่เกินขึ้นในวันนั้นอาจจะเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของพวกเขาก็จริง แต่บางอย่างเช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่มีคนตั้งใจจะให้เกิดขึ้น และเนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้น ความบริสุทธิ์ของนายหญิงหนานก๋งจึงถูกพรากไปโดยเจียงซิ่ว และมันไม่มีทางเลยที่เธอจะไม่เสียใจในเรื่องนี้ แม้ว่าเธอจะด่าเจียงซิ่ว แต่วันนั้นเขาก็ผิดด้วยเช่นกัน

“แล้วเรื่องนี้ล่ะ? หาคนที่นั่นไปก่อน และฉันจะโอนเงินเข้าบัตรคนนั้นให้ ไว้นายมีเงินแล้วค่อยเอามาคืนฉัน โอเคไหม?”

“ก็ได้!”

สิ่งนี้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแน่นอน ไม่มีสิ่งใดที่เงินไม่สามารถจัดการได้ในโลกนี้ อย่างไรก็ตาม เจียงซิ่วประเมินความห่างไกลของสถานที่ที่เขาอยู่ต่ำเกินไป เขาถามไปรอบๆ แต่ไม่มีใครมีบัตรธนาคารอยู่ที่นี่เลย พวกเขาทั้งหมดมีสมุดบัญชีเงินฝากซึ่งออกโดยเครดิตการเกษตรร่วมกัน

เสียงของหนานก๋งโควเอ๋อเลวร้ายลง “นายไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกลแบบนั้นได้ยังไง?”

เจียงซิ่วตอบอย่างไม่สามารถทำอะไรได้ “ฉันก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะให้มันเป็นแบบนี้!”

“ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น?”

เทพซิ่วยึดถือหลักการของเขา และหลักการก็คือ ‘ตั้งแต่ที่คุณฉลาด ก็ไปคิดเอาเอง’ นายหญิงหนานก๋งที่น่าสงสารของเราถูกขนานนามไว้ว่าเป็นคนที่ฉลาดมากและนั่นก็ทำให้สมองของเธอเร่งคิดเพื่อหาทางแก้ปัญหาของเขา แม้ว่าเธอจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ตาม

“ทำไมเธอไม่มาที่นี่หล่ะ?” เจียงซิ่วแนะนำ

“อะไรนะ?”

แม้ว่านายหญิงหนานก๋งโดยธรรมชาติแล้วเป็นคนที่ค่อนข้างสงบ แต่หลังจากได้ยินคำขอที่ไม่สมควรเช่นนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะโกรธเคือง “เจียงซิ่ว เราไม่ได้สนิทกัน นายยังกล้าถามเรื่องแบบนี้ออกมา?”

“แน่นอนว่าเราไม่ได้สนิทกัน แต่เราทั้งคู่ก็เข้าใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี”

“บ๊ะ!”

นายหญิงหนานก๋งขัดใจกับปลายสายจนหน้าแดง เจ้าบ้านี่ นายยังกล้าพูดออกมาอีก เวรกรรมจริงๆ นายฉกฉวยประโยชน์จากฉัน และตอนนี้ก็ยังมาโอ้อวดมันอีก ไอ้กากมูลฝอย

นายควรได้ตำแหน่งโสเภณีผู้ชาย

“ดูสิว่าฉันจะหักฟันของนายยังไง ถ้านายยังพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ต่อไป…” แม้ว่าคำพูดของเธอจะดุร้าย เสียงของเธอก็ดูอ่อนลง อาจจะเกิดจากความรู้สึกเขินอาย

“ฮี่ฮี่ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เราจะไม่พบกันอีกหลังจากนี้”

หัวใจของผู้หญิงนั้นมักเปราะบางกว่าผู้ชายอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากทั้งคู่มีความสัมพันธ์แบบนั้นไปแล้วครั้งนึง มันเป็นตัวอย่างที่สำคัญของวลีนี้ให้ได้ – การอยู่ด้วยกันทั้งวันด้วยฐานะสามีและภรรยานั้นก็หมายถึงการเสียสละอุทิศตนตลอดชีวิตที่เหลือของพวกเขา หนานก๋งโควเอ๋อกล่าว “ถ้างั้นก็ดี รออยู่ตรงนั้น ฉันจะช่วยนายแค่คราวนี้เท่านั้น ครั้งต่อไปอย่าได้มาหาฉันอีก ฉันจะไม่ช่วยนายหลังจากนี้แล้ว”

“อืมมม ฉันสัญญา”

หญิงสาวถามเขาร้อนใจ “เหลียวตงที่นายอยู่ มันอยู่ที่ไหน?” หลังจากถามที่อยู่ เธอวางสาย เธอสัญญาว่าจะไปรับเจียงซิ่ว

เหลียวตงไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก มันก็แค่ต้องจองตั๋วเครื่องบิน ไปสนามบิน นั่งเครื่องบินไปเหลียวตง จากนั้นก็โบกรถแท็กซี่เพื่อไปยังที่ตั้งของเขาหลังจากที่เธอไปถึงเหลียวตงแล้ว… มันไม่ง่ายเลยที่จะเดินทางมาที่นี่และแม้แต่เทพซิ่วของเราก็รู้สึกว่ามันลำบากเล็กน้อย ดังนั้นมันจึงโชคดีที่หนานก๋งโควเอ๋อสัญญาว่าจะมาจริงๆ

เฮ้อ ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ได้ตกหลุมรักฉัน ใช่ไหม? ฉันบาปแน่เลย!

หลังจากสายจบลง เขามองไปที่ลุงแล้วกล่าว “เพื่อนของฉันกำลังมารับ แต่คงต้องจะใช้เวลาหนึ่งคืน ก็เพราะพวกเขามาจากเมืองหลวงจักรพรรดิ ฉันคงต้องให้ลุงลำบากแล้วในการพักบ้านลุงต่ออีกคืน”

ลุงตอบเขาอย่างจริงใจ “ไม่มีปัญหา”

หลังจากได้ยินว่าชายชราช่วยชีวิตใครบางคน ชาวบ้านต่างก็แวะมาดู หลังจากเห็นเจียงซิ่ว พวกเขาทั้งหมดก็ได้ข้อสรุปเดียวกัน เขาดูหล่อ

หลังจากทั้งหมดแล้ว การปรากฏตัวในปัจจุบันของเจียงซิ่วนั้นก็คือตัวตนที่แท้จริงของเทพซิ่ว

พวกเขาไม่เคยเห็นคนที่หล่อเหลาแบบนี้มาก่อนแม้แต่กระทั่งในทีวี ใบหน้าของเขาดูเหมือนจะถูกแกะสลักออกมาจากหยก และทิ้งความประทับใจไว้ให้ผู้คนเมื่อมองเขาเพียงครั้งเดียว

เขาหล่อมากจนไม่อาจเป็นคนธรรมดาไปได้

พวกเขาทั้งหมดเดาะลิ้นของพวกตัวเองด้วยความสงสัย

เจียงซิ่วคิดกับตัวเองว่า ถ้าเขาวางป้ายไว้ที่ประตู และเขียนว่า ‘ชำเลืองมองหนึ่งครั้ง 10 หยวน’ เขาก็คงรวบรวมเงินที่ต้องใช้กลับสู่เมืองหลวงได้แล้ว

ในคืนวันนั้น เจียงซิ่วนอนบนเตียงที่ไม่คุ้นเคยและไม่รู้สึกอยากนอน เขามีลางสังหรณ์บางอย่าง และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เขานอนไม่หลับ เขาสงสัยว่าหนานก๋งโควเอ๋อจะมาถึงเหลียวตงแล้วรึยัง

การไม่มีโทรศัพท์มันไม่สะดวกจริงๆ

ประมาณ ตี 2 ลางสังหรณ์นี้ก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้น ในบรรดาสามออร่าศักดิ์สิทธิ์ในร่างกายของเขา มีออร่าสีขาวของออร่าศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนจะทำให้เขามีความสามารถในการรับรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นแล้วสวมเสื้อผ้าอย่างร้อนร้น หลังจากนั้นเขาก็เคาะประตูห้องของคู่สามีภรรยา “ลุง ป้า ตื่นเร็ว แผ่นดินไหวกำลังจะเกิดขึ้นที่นี่”

ข้างใน ลุงยังคงนอนกรนอยู่ แต่ป้าก็ถูกปลุกด้วยเสียงดัง เธอผลักสามีของเธอแล้วพูดกล่าว “ดูเหมือนว่าชายหนุ่มคนนั้นอยู่ที่หน้าประตูของเรา บางทีเขาอาจต้องการบางอย่าง?”

ลุงลุกขึ้นอย่างมึนงงและสวมเสื้อนอกจากนั้นจึงไปเปิดประตู “ลมหนาวพัดมาจากข้างนอกทำให้จิตใจของเขาแจ่มใส่ขึ้น “มีอะไรรึเปล่า?”

“แผ่นดินไหวกำลังจะเกิดขึ้นที่นี่”

“แผ่นดินไหว?”

เจียงซิ่วพยักหน้า “ไปปลุกชาวบ้านให้ตื่นขึ้นมากันเถอะ…”

“เจ้าหนุ่ม เธอคงไม่ได้เดินละเมอ ใช่ไหม?” ทำไมแผ่นดินไหวถึงเกิดขึ้นที่นี่โดยไม่มีเหตุผล? เหลียนตงของเราไม่เคยมีแผ่นดินไหวใดๆ เกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นที่นี่? บางทีเธออาจรู้สึกแบบนี้ เพราะดูข่าวเกี่ยวกับแผ่นดินไหวตอนเช้ามากเกินไปรึเปล่า?”

“เร็วเข้าต้องเตรียมตัวให้พร้อม”

ไม่จำเป็นต้องให้เขาอธิบายเรื่องนี้เพราะข้อเท็จจริงกำลังทำหน้าที่พิสูจน์ได้อย่างรวดเร็ว

ประมาณ 3-4 นาที แผ่นดินก็เริ่มสั่นไหวเล็กน้อย การแสดงออกของลุงบิดเบี้ยวทันที หลังจากที่เขาได้ยินเสียงน้ำไหลออกมาจากถ้วยที่วางอยู่บนโต๊ะ

“อัยหย๊า มันเป็นแผ่นดินไหวจริงๆ!”

“ที่รัก ตื่นเร็ว”

ลุงแต่งตัวอย่างรวดเร็วจากนั้นก็วิ่งออกไปด้านนอกและวิ่งไปตีระฆัง ขณะที่เขาวิ่งเขาก็ตะโกนออกไปสุดเสียง “แผ่นดินไหว ออกมาเร็ว!”

เจียงซิ่วมองไปยังหมู่บ้านจากห่างไกล ก่อนหน้านี้ มันเปล่งประกายด้วยแสงที่สวยงาม แต่ตอนนี้มันมืดลงเนื่องจากสายไฟขาด เขาหลับตา หลังจากนั้นประกายไฟเล็กๆ ก็ลอยออกมาจากหน้าผากเขาและไปยังหูบ้านนั้น เมื่อเขาลืมตาขึ้น พวกมันก็ส่องแสงสีขาวเปล่งประกายคล้ายกับดวงไฟ เมื่อสายตาเขาตกลงไปที่ดวงไฟ เขาก็เห็นทิวทัศน์มุมกว้างของสถานที่ ซึ่งเป็นที่ๆ ดวงไฟอยู่

เขาเห็นว่าหมูบ้านกำลังวุ่นวาย ดินที่แยกออก และอาคารต่างๆ ก็ทรุดตัวลง หลายคนตื่นขึ้นจากความฝันและคร่ำครวญ

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือสายไฟขาดหลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้น มันค่อนข้างดึกแล้ว ดังนั้นมันจึงมืดมิดและให้ความรู้สึกเหมือนกับคราวกัลปาวสาน บางคนเตรียมไฟฉาย ในขณะที่คนอื่นใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ก็ไร้ประโยชน์

แสงบินผ่านไปและผ่านไป เจียงซิ่วเห็นการแตกร้าวของผืนแผ่นดินพร้อมกับการที่มันเริ่มทวีคูฯมากขึ้น โดยที่แยกหลุมขนาดใหญ่ในพื้นดินนั้น ดูเหมือนจะมีความลึกที่ไร้ก้นบึง บ้านหลายหลังตกลงไป และคนที่ไม่สามารถหลบหนีได้ก็อยู่ภายในเช่นกัน

และตอนนี้ ที่เหลียวตง เมืองฮ๋า หนานก๋งโควเอ๋อที่ยังคงนอนหลับอยู่ในโรงแรมก็ตื่นขึ้นมา ข้างนอกมันวุ่นวายเรียบร้อยแล้ว เขารีบสวมเสื้อผ้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ออกไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางของเธอ โรงแรมเองก็วุ่นวายเช่นกัน บางคนตะโกน “อย่าลงลิฟต์ ไปใช้บันได”

เสียงไซเรนดังก้องอยู่ข้างนอกโดยไม่หยุด

“แผ่นดินไหวเหรอ?”

หนานก๋งโควเอ๋อถามด้วยความหวาดกลัว

“ใช่ ลงไปชั้นล่างเร็วและออกจากอาคาร…”

เสียงกรีดร้องตามมาหลังจากนั้น โรงแรมเริ่มแกว่งไปมาเล็กน้อยราวกับว่ามันกำลังจะพังลงทั้งอย่างนั้น สิ่งนี้ทำให้พวกเธอตื่นตระหนก เนื่องจากพวกเธอจะต้องตายอย่างแน่นอน หากโรงแรมทรุดตัวลง

พื้นดินที่โรงแรมเริ่มแยกตัวออก แต่นี้เองก็เริ่มทำให้โรงแรมโอนเอียงมากขึ้น ตึกที่เอียงอยู่สูงมากว่า 50-60 เมตร และก็ผู้คนก็หนีออกจากที่นั่นอย่างบ้าคลั่ง

สถานที่รอบๆ โรงแรมก็อยู่ในสภาพคล้ายกัน ดินยังคงยกยกสูงขึ้นอีก และมันก็ตามมาด้วยเสียงระเบิดของแผ่นดินที่แตกออก โชคยังดี ที่โรงแรมไม่รวมไปจนกระทั่งถึงตอนนี้

ในเวลาที่หนานก๋งโควเอ๋อได้หลบหนีออกจากโรงแรม สภาพแวดล้อมยังคงดูคุ้นเคย แต่ไม่มีถนนเหลืออยู่อีกแล้ว มันมีแต่ภูเขาหินที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้ที่เติบโตอยู่ไปทั่ว สถานที่นั้นคล้ายกับยอดเขา แม้แต่ดินที่เธอเดินไปยังรู้สึกอบอุ่น

ในตอนแรก เธออยู่ใกล้ทางเข้าร้านสะดวกซื้อที่อยู่เชิงเขา ซึ่งมันก็ห่างจากเธอไป 500 เมตร แต่ร้าน 24 ชั่วโมงที่เปิดก็มืดสนิท มันตามมาด้วยเมืองทั้งเมืองมืดลง สายไฟขาดลง

ความมืดปกคลุมเหนือสถานที่ทั้งหมด

หนานก๋งโควเอ๋อไม่กล้าเดินไปมา เธอไม่ได้เข้าร่วมกับคนอื่นและจัดกลุ่มเข้าด้วยกัน แต่เธอก็พบหินภูเขาที่ราบเรียบแทน เธอนั่งที่นั่นอย่างโง่เขลา หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความวิตกกังวล เธอทำได้เพียงสวดภาวนาให้แผ่นดินไหวจบลงอย่างเร็วๆ และเธอก็สาปแช่งเจียงซิ่วอยู่ในใจของเธอ มันเป็นเพราะนาย เจ้าบ้า ฉันจะไม่เจอกับแผ่นดินไหวครั้งนี้ ถ้ามันไม่ใช่เพาะนาย

“ไอ้บ้าๆ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนนี้นะ ฉันจะไม่ให้อภัยนายแม้แต่ตอนที่ฉันกลายเป็นผี…”

Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง

Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง

Status: Ongoing

เจียงซิ่วเคยถูกเคลื่อนย้ายไปยังทวีปการต่อสู้นิรันดร์ เขามีชีวิตที่ยาวนานอยู่่ที่นั้น และได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ ทว่าเขาก็พบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาในสถานที่แปลกๆ และยังค้นพบอีกว่าเขาได้กลับมาโลกที่ได้จากมา เกิดบ้าอะไรขึ้น? แล้วเขาจะทำอะไรต่อจากนี้? ติดตามเจียงซิ่วในขณะที่เขาเกี่ยวข้องกับชะตากรรมและเหตุการณ์บ้าบอที่ถูกเก็บไว้ให้เขาโดยเฉพาะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท