ตอนที่ 361 เริ่มการแข่งขัน
เจียงซิ่วเพียงยิ้มนิดหน่อย แต่ไม่ตอบ ลวี้ฉุนฉุนกล่าวว่า: “นายกำลังมาดูเธอใช่ไหม ดูเหมือนว่านายจะไม่ผิดหวัง แต่ก็ไม่แปลกเด็กสาวคนนี้หน้าตาสวย และยังยอดเยี่ยมอีก”
เจียงซิ่วไม่ได้อธิบาย
ใบหน้าของลวี้ฉุนฉุนมีคำขอโทษ เธอกล่าวว่า“ ฉันขอโทษ มันเป็นความประมาทเลินเล่อของฉันเองและมันทำให้นายเสียหาย”
เจียงซิ่วขมวดคิ้วและพูดว่า “เธอหมายถึงอะไร
ลวี้ฉุนฉุนกล่าวว่า: “ฉันหมายความว่าการหย่ากับภรรยาของนายเกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างมักง่ายและหยาบคายของฉัน ฉันขอโทษนายด้วย”
เจียงซิ่วส่ายหัวของเขา: “ตอนนี้ฉันเป็นอย่างนี้ แม้ว่าเธอจะทนฉันได้ซักพัก ฉันก็จะไม่มีวันทนกับชีวิตของฉันอยู่ดี การหย่าร้างเป็นเรื่องของเวลา ไม่มีอะไรเลยสำหรับกับการบังคับใช้กฎหมายของเธอ”
ลวี้ฉุนฉุนฟังที่เขาบอก เธอก็สบายใจ
เพื่อนที่อยู่ข้างพูด “ฉุนฉุน เขาคือใคร?”
“อ้อ เพื่อนของฉัน เขาชื่อเจียงซิ่ว”
เจียงซิ่วพยักหน้าให้พวกเขาและกล่าวสวัสดี เขาสังเกตเห็นว่าเพื่อนของลวี้ฉุนฉุนตั้งใจดูที่ขาของเขา คงจะดูว่าฉันด้วนจริงหรือเปล่า
“งั้นฉันจะไปก่อนหล่ะ”
ลวี้ฉุนฉุนพยักหน้าและนึกขึ้นได้ทันทีว่า: “อ้อใช่ ขากลับอยากจะติดรถของฉันไปด้วยไหม?”
เจียงซิ่วส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ต้องแล้ว”
อย่างไรก็ตามเจียงซิ่วไปที่ทางเข้าโรงยิม แต่เขาถูกหยุดโดยใครบางคนเขาไม่สามารถเข้าไปได้เขาต้องมีเอกสาร เจียงซิ่วไม่ได้ทำเลย เดิมทีเขาสามารถให้จดหมายเชิญได้ ปัญหาคือเขาไม่ได้นำมาด้วย
“เป็นอะไรไป?”
ลวี้ฉุนฉุนรอคนที่กำลังจะเขาร่วมสนาม
“เขาไม่มีเอกสาร … “
ลวี้ฉุนฉุนแสดงเอกสารของเธอเองและพูดว่า “เขาเป็นเพื่อนของฉัน คุณช่วยให้เขาเข้าไปได้มั้ย?”
เจ้าหน้าที่บริการส่ายหัว: “ไม่ได้ ยกเว้นว่าผู้เข้าแข่งขัน จะสามารถนำสมาชิกในครอบครัวมาได้ เพื่อนคนอื่นๆ ทำไม่ได้ถ้าพวกเขาทั้งหมดเป็นเพื่อน งั้นทุกคนก็สามารถเข้างานได้ทั้งหมดแล้ว”
ลวี้ฉุนฉุนพูดกับเจียงซิ่ว: “นายมีวิธีพาคนคนนั้นออกมารับนายไหม?”
เจียงซิ่วส่ายหัว
“ฉุนฉุน การแข่งขันเริ่มแล้ว เรารีบเข้าไปกันเถอะ” เจ้าหน้าที่ตำรวจชายถัดจากเธอพูดกับเธอ
ลวี้ฉุนฉุนกล่าวว่า: “คุณเข้าไปก่อนเลย และช่วยฉันเรียกกองพลหน่อย”
“ฉุนฉุน กองพลอาจไม่สามารถออกมาจากเกม หรือไม่ก็ช่างมันเถอะ เราไปกันเถอะ ถ้าเขาเข้าไปไม่ได้ก็ให้เขากลับบ้านแล้วผ่านการโทร” เจ้าหน้าที่ตำรวจชายกล่าว
“ช่วยฉันเรียกหน่อยเถอะ ถ้างั้นฉันจะลองคิดหาอีกวิธี”
เจ้าหน้าที่ตำรวจชายมองเจียงซิ่ว รู้ไม่สบายใจเข้าไปในเวลาเดียวกัน
เจียงซิ่วกล่าวว่า: “เธอไม่ต้องรอฉันหรอก เธอสามารถไปกับเพื่อนร่วมงานของเธอได้ ฉันสามารถคิดหาวิธีอื่น”
ลวี้ฉุนฉุนกล่าวว่า: “เลิกเรื่องไร้สาระได้แล้ว เธอคิดว่าฉัน ลวี้ฉุนฉุน ไม่มีเพื่อนดีๆเลยหรอ?”
“ฉันอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องของนายกับคนคนนั้นของนาย นายบอกฉันได้ไหม?”
หญิงสาวอยากรู้เกี่ยวกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง นี่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่เจียงซิ่วไม่คิดมาก แม้ว่าพื้นหลังของเขาจะไม่เลว แต่ครอบครัวก็แย่ แต่ก็ยังมีขาที่ด้วนอีก และแม้แต่การหย่าร้างก็มีพฤติกรรมที่ไม่ดี เขาไม่คิดว่าลวี้ฉุนจะทำให้เขามากขนาดนี้ “เรื่องราวเก่าๆ เราสองคนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในโลก”
“อ๋อ ที่จริงแล้วมันเป็นแบบนี้ แล้วขาของนายด้วนได้ยังไง?” ลวี้ฉุนฉุนรีบอธิบายว่า:“ ฉันไม่ได้พยายามจะขุดแผลเก่าของนายนะ แต่ฉันคิดว่าโรงพยาบาลเจริญรุ่งเรืองในตอนนี้บางทีอาจมีโอกาสรักษาได้”
เจียงซิ่วส่ายหัวและไม่พูดอะไร
ในเวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสูงวัย 30 ปีมาพร้อมกับกลุ่มคน “ฉุนฉุน … “
หากทีมมีปัญหาเธอต้องออกเดินทางแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจร่างสูงแสดงบัตรประจำตัวของเขาแก่พนักงานเสิร์ฟแล้วนำเจียงซิ่วเข้ามาอย่างราบรื่น ” ไม่ต้องเกรงใจฉัน นายมีเรื่องอะไร ฉันจะช่วยนายให้ถึงที่สุด การพลาดดูการแข่งขันเกมส์นี้แล้ว สิ่งอื่นนับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย”
ความสำคัญของการแลกเปลี่ยนนี้ชัดเจนมาก กล่าวกันว่าไม่ว่าจะเป็นเขตทหารระบบตำรวจหรือกลุ่มทางชีวภาพทุกคน จะได้รับรางวัลอันน่าทึ่งจากการเข้าสู่ศิลปะการต่อสู้แบบกึ่งเทพเจ้าเป็นครั้งแรก
นอกจากคนที่ได้ที่หนึ่ง อันดับต้นๆ ยังมีรางวัลมากมายมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิตได้
อาจเป็นความเสี่ยงที่ลวี้ฉุนฉุนทำแบบนี้ แต่ถ้าเจียงซิ่วไม่ได้เดาผิด เขาควรเป็นผู้ที่ตามตื้อลวี้ฉุนฉุน นี้อาจทำให้ลวี้ฉุนฉุนต้องยอมขายหน้าอยู่บ้าง และแน่นอน ใบหน้าของลวี้ฉุนุนค่อนข้างร้อนเธอกล่าว: “ขอบคุณ!
“ไปเถอะ เจียงซิ่วไปกับพวกเราไปดูการแข่งขัน”
เมื่อเจียงซิ่วเข้ามาเขาต้องการไปที่โพเดียม แต่เขาก็ถูกลวี้ฉุนฉุนลากไปแล้ว
เกมสองสามเกมแรกนั้นเป็นกุมารเวชศาสตร์มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย การประลองที่แท้จริงนั้นอยู่เบื้องหลังอย่างไรก็ตามความสนใจก่อนหน้านี้ไม่น้อยเกินไป
เจียงซิ่วมองดูที่นั่งส่วนใหญ่ในสนามนั้น มันเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนคนค่อนข้างมากและหลายร้อยคนอยู่ใกล้กับคนนับพัน
“เด็กน้อย นายต้องการเดิมพันไหม ถ้านายไม่มีเงินฉันจะให้นายยืมนิดหน่อย”
เจียงซิ่วส่ายหัว
“ไม่หรอก ถ้านายอยากสร้างโชคลาภ ก็รอให้ทีมทำได้ดีและนำเงินมา นายอาจจะได้รับโชคลาภ ทางที่จะทำให้นายร่ำรวยและมีรายได้นับหมื่น” คนที่พูดนั้นเป็นแค่ตำรวจชาย” เฮ้ ดูเหมือนหมื่นดอลลาร์ไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยเลยนะ “
เจียงซิวกล่าวว่า: “ไม่เดิมพัน!”
“ก็แค่ยืมเงินจากพวกเราก่อน”
เจียงซิ่วยังส่ายหัว
“ไม่สนใจ!”
ใบหน้าของทีมดูเย็นชาขึ้น เขาต้องการทำตัวใจกว้างต่อหน้าลวี้ฉุนฉุน เขาไม่ได้คาดหวังว่าเจียงซิ่วจะไม่ทำตามเขา แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ คือเขาเป็นคนที่หยิ่งยะโสอยู่ในใจ
เกมในสนามได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่ทีมยังไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเตรียมตัว เขาเพิ่งบอกว่ามันเป็นการคุยโวเพื่อช่วยลวี้ฉุนฉุนให้มาในเกม
เวลาเล่นเกมของเขาน่าจะจะเร็วมาก
“พื้นฐานของเกมนี้คืออะไร”
มือลวี้ฉุนฉุนถูกใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง นั่งข้างๆ เจียงซิ่วและไม่สนใจสายตาของคนอื่น: “โอ้มันขึ้นอยู่กับ อายุกลุ่มอายุ 30 ปี ก็อยู่กับกลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไป”
“คนที่อายุมากกว่าสามสิบมักจะแข็งแกร่ง”
เจียงซิวส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ถูก!”
“อะไรไม่ถูก?”
เจียงซิ่วกล่าวว่า: “สิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับอายุความแข็งแกร่งเกี่ยวข้องกับลำดับการปลุกตื่น หลังจากการกำเนิดของโลกที่แตกต่างกันก่อนหน้านี้ การปลุกตื่นนี้จะเป็นตัวกำหนดความแข็งแกร่ง”
โลกที่แตกต่างกันคืออะไรของนาย ปลุกตื่น?” ลวี้ฉุนฉุนได้ยินแล้วสับสนเล็กน้อย
เจียงซิ่วพลาดที่เขาบอกเหตุผลที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในโลก แต่สิ่งนี้ก็คือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก หรือเทพก็ไม่สามารถบอกเหตุผลได้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้มัน
“ไร้สาระ ชายที่ไม่เข้าใจศิลปะการต่อสู้ต้องใช้เวลาในการเป็นสะสมประสบการณ์ มันมีการตัดสินใจครั้งใหญ่ แน่นอนมันก็เป็นไปตามอายุนายเห็น แต่เกมอื่นๆ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ เพื่อแบ่งกลุ่ม” ทีมงานกล่าวอย่างอึดอัด
เจียงซิ่วกล่าวว่า: “เซียนนั้นแตกต่างกัน เวลาในการปลุกตื่นคือเกณฑ์ในการตัดสินความแข็งแกร่งและความอ่อนแอ”
“เด็กน้อย ตกลงนายเข้าใจหรือไม่เข้าใจ?”
“ใช่แล้ว นายเป็นคนธรรมดาที่ได้มาอยู่ที่นี่ แต่ก็ยังพูดในสิ่งที่เทพเท่านั้นที่รู้ นายไม่อายเลยหรือไง”
เจียงซิ่วปิดปากลง
“ถ้านายอารมณ์เสียก็ออกไปข้างนอกและรอ ฉันจะใช้เพียงมือเดียวสู้กับนาย”
ดวงตาของเจียงซิ่วเริ่มเย็นลง“นายไม่มีคุณสมบัติ!”
“แกกำลังพูดเรื่องอะไร?”
“เด็กน้อย แกมาอยู่ที่นี่ได้ก็เพาระถือหางหมาป่าใหญ่ไว้ ฉันสามารถฆ่าแกได้ดังแต่ก้าวถึงหนึ่งเมตร แกเชื่อไหม?”
เจียงซิ่วหัวเราะเยาะ
เจียงซิ่วถูกนำตัวเข้ามาโดยลวี้ฉุนฉุน แต่ในขณะนี้เจียงซิ่วพูดคำพูดที่งุ่มง่ามเธอก็น่าอายเช่นกัน
“ฉุนฉุน เพื่อนของเธอคนนี้ไม่เข้าใจอะไรเลย เขาเป็นหนี้เธอ!” “
“ฉันมองเขา ฉันคิดว่าเขาก็แค่อายที่จะทำอะไร และดีแต่พูด! “
ลวี้ฉุนฉุนกล่าวว่า: “เอาหล่ะ จุดสุดท้ายคือการรักษาศีลธรรม เขาบอกว่าถ้านายไม่ชอบฟังก็อย่าฟัง” ทันใดนั้นคำพูดของเธอก็หันไปชี้ไปที่สนามแล้วพูดว่า “การแข่งขันเริ่มแล้ว” “
เมื่อมองลงไปในแนวสายตา เขาเห็นเฉิงหลิงซู่ค่อยๆ เดินไปตรงกลางและฝูงชนโดยรอบให้กำลังใจที่อบอุ่นและเสียงก็ดังกว่าคนอื่นๆ ความงามของบุคคลนั้นดีภายใต้ความเข้มแข็งเดียวกัน ผู้สนับสนุนของเธอต้องมีมากขึ้น
“เธอสามารถเผชิญหน้ากับพวกเราได้ เธออายุน้อยกว่า 20 ปีไม่ว่าจะประสบความสำเร็จในครั้งนี้เทพเหล่านี้จะฝึกฝนอย่างจริงจัง ในอนาคตอนาคตของเธอนั้นไร้ขีดจำกัด ” หลังจากนั้น ลวี้ฉุนฉุนก็มองไปที่มัน เจียงซิ่วถอนหายใจอย่างหมดหนทาง เขารู้สึกว่าการรับรู้ตนเองของเจียงซิ่วถูกต้องเฉิงหลิงซู่จะเป็นฟีนิกซ์ของเจียงเฉิงเมื่อเธอให้โอกาสเธอจะบินหนีไม่พ้น
