ก่อนนี้ภายในเมืองนี้เขาสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจ มันจะเป็นไรไปกับแค่การทำผิดกฏจราจร แต่เพราะอะไรทำไมเจ้าของรถ โรลส์-รอยซ์ คันนั้นไม่ยอมลงมาขอโทษเขาสักที!
“บ้าเอ๋ย ทำไมมันยังไม่ลงมาจากรถอีก”
หลังจากที่เขารอมาพักหนึ่งแลว้ แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ลงมาจากรถ ทำให้เขาเริ่มที่จะหมดความอดทน
“บางทีเขาอาจจะรู้ว่าเป็นคุณก็ได้นะ นายน้อยซู ฉันว่าตอนนี้เขาคงกลัวจนฉี่ราดแล้ว!”
เธอกล่าวและหัวเราะเยาะเย้ย
“คุณนี่ปากหวานจังเลยนะ!!”
นายน้อยซูมีความสุขเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะผ่านไปอีกสักพัก แต่โรลส์-รอยซ์คันนั้นก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเปิดประตูลงมาขอโทษแต่อย่างใด ทำให้ตอนนี้นายน้อยซูไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“มาลองดูกันฉันจะลงไปแล้วบอกให้มันขอโทษ!”
คุณซูลงจากรถด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว เขาเดินไปที่โรลส์-รอยซ์ และทุบหน้าต่างไปสองครั้ง
“นาย ออกมา!”
ครืดดด! เจียงเป่ยเฉินเปิดหน้าต่างพลันขมวดคิ้ว
มันชัดเจนมากว่าอีกฝ่ายไม่ขับรถตามกฏจราจรทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทำไมเขายังมาทำตัวกร่างแบบนี้อีก
“นายมีปัญหาอะไร นายขับรถผิดกฏมาชนรถฉัน นายต้องรับผิดชอบ! นายต้องจ่ายค่าซ่อมให้ฉัน!”
เจียงเป่ยเฉินชี้ไปที่หน้ารถและกล่าว
นายน้อยซูตะลึง
“นายว่าไงนะ นายต้องการให้ฉันจ่ายค่าซ่อมรถให้นายงั้นหรอ”
นายน้อยซูคิดว่าเขาได้ยินอะไรผิดไปเลยถามย้ำอีกรอบ
“ใช่ ฉันก็เพิ่งจะบอกนายไป นายมีปัญหาอะไร”
เจียงเป่ยเฉินขมวดคิ้ว
“ฮ่าๆๆ!”
นายน้อยซูขำ เขายกมือท้าวเอวทำให้เห็นเข็มขัด Hermes ที่อยู่ตรงเอวของเขา เขายิ้มและถามออกไป
“นายตาบอดหรอ นายน่าจะรู้จักรถคันนั้นใช่มั้ย”
“ถ้านายลงจากรถและขอโทษฉันและสัญญาว่าจะช่วยซ่อมรถให้ฉัน เรื่องวันนี้ก็ถือว่าแล้วกันไป แต่ถ้านายไม่ทำงั้นนายก็ต้องยอมรับกับผลที่ตามมาด้วย!”
นายน้อยซูกล่าวกับเจียงเป่ยเฉิน
“แค่นายขับรถหงฉี ทำไมฉันต้องขอโทษด้วย”
เจียงเป่ยเฉินขมวดคิ้วถาม
หงฉีก็เป้นรถที่ดีคันหนึ่งที่คนระดับสูงส่วนใหญ่ใช้ แต่สำหรับเขามันก็ไม่ได้ต่างจากรถทั่วไปเลย
“ไอ้หนู แก่แกล้งโง่หรือเปล่า”
นายน้อยซูเยาะเย้ย เขาเค้นเสียงและกล่าว “ถ้านายไม่ลงมา นายเชื่อหรือเปล่ว่าฉันจะทำให้นายหายไปจากเมืองนี้ด้วยการโทรเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!”
“ฮะฮะ นายแน่ใจงั้นหรอ!”
ตอนนี้นั้นรอยยิ้มของเจียงเป่ยเฉิยกลายเป็นเย็นชาแววตาของเขาคมกริบบรรยากาศรอบๆตัวเขาเปลี่ยนไปในทันที่ กลิ่นอายฆ่าฟันอันเข้มขนสามารถสัมผัสได้จากตัวเขาทำให้นายน้อยซูถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว
“นาย…”
“นายน้อยซู คุณเป็นอะไร!”
ตอนนี้มีตำรวจจราจรสองคนเดินเข้ามา
“หัวหน้าจาง บังเอิญจังที่เจอคุณ หมอนี่มันชนรถผมและไม่ยอมลงมาจากรถ คุณลองดูเอาแล้วกัน พิจรณาตามกฏหมายอย่างเป็นกลางด้วยนะ!”
นายน้อยซูกล่าว
“นั่นมันเป็นเรื่องปกติที่ผมจะต้องใช้กฏหมายอย่างเป็นกลางอยู่แล้ว!”
หัวหน้าจางตอบ นายน้อยซูคนนี้เป็นทายาทรุ่นที่สองที่มีชื่อเสียงของหยุนไห่ ตระกูลของเขาเป็นเจ้าของกิจการรายใหญ่ที่นี่ ทั้งมีศูนย์การค้ามากมากในเครือของเขา และที่สำคัญปู่ของเขานั้นเคยเป็นที่หนึ่งในเมืองนี้ แม้ว่าตอนนี้เขานั้นจะเกษียณแล้วก็ตาม
หัวหน้าจางเดินมาที่ด้านข้างของโรลส์-รอยซ์และกล่าวกับเจียงเป่ยเฉิน “คุณครับ โปรดลงมาจากรถด้วยครับ!”
หัวหน้าจางพูดค่อนข้างสุภาพ ยังไงก็ตามคนที่สามารถซื้อ โรลส์-รอยซ์ มาใช้ได้นั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาเขาเป็นเพียงตำรวจตัวเล็กๆ เขาจะไม่ยั่วยุคนแบบนี้แน่นอน
“โทษที แต่เราสามารถคุยกันตรงนี้เลยได้!”
เจียงเป่ยเฉินปฏิเสธ
หัวหน้าจางตะลึง แม้ว่าเขารู้สึกหงุดหงิดแต่ด้วยความที่เขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาต้องทำตามหน้าที่ เขาทำหน้าจริงจังและกล่าวออกไปอีกครั้ง
“คุณครับ ผมจะพูดอีกครั้ง กรุณาลงมาจากรถด้วยครับ!”
ครืดดด! เจียงเป่บเฉิยไม่กล่าวอะไรเขากลับเลื่อนกระจกรถขึ้น
หัวหน้าจางจะลึงไปอีกครั้ง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวในทันที แม้ว่าคนๆนี้อาจจะมีภูมิหลังที่ใหญ๋โต แต่แบบนี้มันก็ท้าทายกันเกินไปมั้ย?
“อะไรของแกว่ะเนี้ย!”
นายน้อยซูทนไม่ไหว เขากล่าวออกมาว่า“ได้ ถ้าวันนี้ฉันทำให้นายออกมาจากรถไม่ได้ฉันจะยอมใช้แซ่ของนายเลย!”
“หัวหน้าจาง เขาปฏิเสธคำสั่งคุณนี่ถือเป็นการขัดขวางการทำงานของเจ้าพนักงานใช่หรือเปล่า?”
“งั้น ทุบกระจกรถเขาเลย! “
นายน้อยซูกล่าวพลางชี้ไปที่กระจก
หัวหน้าจางยิ้มและกล่าว “อย่าได้สร้างปัญหาเลยนายน้อยซู โรลส์-รอยซ์ คันนี้เป็นรุ่นกันกระสุน คุณไม่สามารถทุบมันได้หรอก!”
ที่จริงก็ใช้ว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย หากว่ามันเป็น BMW, Benz หรืออะไรก็ตามแต่ เขาคงใช้กำลังบังคับไปแล้ว แต่ทว่านี่มันเป็น โรลส์-รอยซ์ หากว่าเขาไม่รู้จักคนๆนี้อย่างดีเขาจะไม่ทำอะไรเกินเลยไปแน่นอน
“ได้! งั้นฉันต้องหาคนมาช่วยงั้นสินะ!”
นายน้อยซูเโกรธเป็นอย่างมาก เขาหยิบโทรศัพท์และกดโทรออกทันที
“ลุงเกา รถผมโดนชนและคนชนไม่ยอมลงมาจากรถ คุณมาช่วยผมหน่อยได้ไหม?”
“ได้ ผมจะรอคุณ! “
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีรถตำรวจหลายคันขับมา
คนอื่นๆที่เห็นเหตุการณ์เห็นว่าชายหนุ่มออกมาโทรศัพท์และไม่นานก็มีตำรวจหลายนายมาหาเขาทันที
“หัวหน้า คุณก็มาหรอ!”
หัวหน้าจางรีบเขาไปทักทายด้วยร้อยยิ้มทันที
“เสี่ยวจาง สถานการณ์เป็นยังไง ทีมของนายรับมือกับเรื่องแค่นี้ไม่ได้งั้นหรอ?”
เกากัวเฟิงกล่าวด้วยความไม่พอใจ
“หัวหน้าเป็นนายน้อยซูที่ทำผิดกฏหมาย!”
หัวหน้าจางกระซิบ
“โอ้?”
เกากัวเฟิงประหลาดใจและเดินไปดูเหตุการณ์ เขามองเห็นหงฉีที่ชนกับโรลส์-รอยซ์อยู่แบบนั้นทำให้เขาขมวดคิ้วทันที
“ลุงเกา คุณมาแล้ว คุณต้องช่วยผมจัดการไอ้หมอนี่นะ ผมไม่เคยเห็นใครกร่างแบบนี้มาก่อนเลย!”
นายน้อยซูกล่าวเสียงดัง
นายขับรถแบบนั้นยังจะมาบอกว่าคนอื่นกร่างอีกงั้นหรอ
เกากัวเฟิงมองไปที่ซูเทียนเฉินอย่างผิดหวัง ตั้งแต่เด็กแล้วที่เด็กคนนี้เย่อหยิ่งไม่ยอมใครมาตั้งแต่ยังเล็ก เป็นเพราะปู่และครอบครัวของเขาคอยเอาอกเอาใจและค่อยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดนั้นแหละ
“เทียนเฉิง ที่จริงแล้วเธอนะ…”
“ลุงเกา อย่าพูดถึงเรื่องของผมเลย ผมอยากให้ไอ้หมอนั้นมันลงมาขอโทษผม แล้วผมจะไปทันที”
ซูเมียนเฉินยืนกราน เขาได้ออกปากไปแล้วว่าจะทำ อีกอย่างมีคนมากมายที่ได้ยินที่เขาพูดหากเขาไม่สามารถทำตามที่กล่าวได้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
เกากัวเฟิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และเดินไปที่รถ
เขาเคาะไปที่ประตูรถเบา ๆ “คุณครับกรุณาลงมาจากรถ…”
ครืดด! หน้าต่างรถค่อยๆเปิดเผยให้เห็นใบหน้าของคนขับรถ ทันทีที่เขาเห็นใบหน้าของคนๆนั้น ดวงตาของเขาก็พลันเบิกกว้างทันที
“ผู้กำกับเกา ผมไม่คิดเลยนะว่าหน่วยงานจราจรก็อยู่ภายใต้การควบคุมของคุณเหมือนกัน”
“คุณเจียง คุณเจียง เข้าใจผิด! คุณเข้าใจผิดแล้ว! ผมไม่รู้ว่าเป็นรถของคุณ!”
ร่างกายของเกากัวเฟิงสั่นสะท้ายหลั่งเหงื่อเต็มหลัง
เขารู้ดีว่าคนเบื้องหน้าเขาผู้นี้เป็นใคร! ครั้งล่าสุดที่ได้พบหลินเจิ้งกั๋ว แม้ว่าหลินเจิ้งกั๋วจะไม่ได้บอกเขาทั้งหมดแต่แค่นั้นก็ทำให้เขารู้แล้วว่าคนคนนี้ทรงพลังแค่ไหน ไม่ต้องผู้ถึงตัวเขาเลย แม้ว่าคนที่มีตำแหน่งใหญ่โตกว่าเขาหากมายืนต่อหน้าชายผู้นี้ก็ยังคงต้องสุภาพกับเขา
ตอนนี้แม้แต่ซูเทีนยเฉินก็ประหลาดใจที่ผู้กำกับเกากั๋วเฟิงเรียกเด็กคนนั้นว่า “คุณ”
หัวหน้าจางก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน ตอนนี้เขาทราบแล้วว่าตัวตนของเจ้าของรถคันนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่นอน โชคดีที่เขาไม่ได้ทำอะไรเกินเลยลงไป ไม่งั้นแล้วเขาไม่รู้เลยว่าจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ต่อหน้าคนๆนี้ขนาดผู้กำกับเกายังนอบน้อมขนานนี้!