The King of the Battlefield – ตอนที่ 212

ตอนที่ 212

บทที่ 212: ราชาปีศาจเหล็กเอนโรธ (1)

โชคดีที่สกายลอร์ดเพิ่งเสร็จสิ้นการลอกคราบ งูที่ผ่านกระบวนการดังกล่าวมักจะอ่อนแอเสมอ

ในความเป็นจริงสกายลอร์ดเคลื่อนไหวของช้ากว่าที่คาดไว้ แต่ด้วยความที่มีขนาดใหญ่โตมันจึงยังแข็งแกร่ง ยังไงก็ตามบาลตันเลือกเวลาได้อย่างเหมาะสม เขาใช้กลุยุทธ์โจมตีและล่าถอยซ้ำๆ ดูเหมือนว่าบาลตันจะรอให้มันลอกคราบอยู่แล้วตั้งแต่แรก

“ …นี่เป็นสถานการณ์ที่ดีสำหรับเรา เราต้องรีบไปก่อนที่สกายลอร์ดจะจัดการศัตรูพวกนั้นเสร็จ ”

อาซูลพูดด้วยความตื่นเต้น ดูเหมือนเขาจะกลัวสกายลอร์ดโดยสัญชาตญาณ ถ้าราชาปีศาจยังมีอาการแบบนี้นั่นก็หมายความว่าพลังของสกายลอร์ดนั้นยิ่งใหญ่

“มูยอง”

ซองมินเรียกเขา มีเพียงเหตุผลเดียวที่เรียกมูยอง เขาต้องถามถามว่าควรไปช่วยบาลตันกันดีไหม

“เจ้ากำลังทำอะไร? อย่าคิดอะไรโง่ๆ แม้ว่าสกายลอร์ดจะอ่อนแอลงก็ไม่ได้หมายความว่าจะเอาชนะมันได้!”

การโจมตีของสกายลอร์ดนั้นเรียบง่าย มันใช้ร่างใหญ่โตเพื่อกลืนกินทุกอย่างด้านหน้า บาลตันทำได้ดีสำหรับการโจมตีในเวลาที่เหมาะสม แต่ก็รู้สึกว่าพวกเขาถึงขีดจำกัดแล้ว และตอนนี้เริ่มมีการบาดเจ็บล้มตายเกิดขึ้น

ในขณะที่สกายลอร์ดฟาดหางออกโจมตีพายุทรายก็เริ่มพัดไปทุกทิศทาง

“ ซองมินพาทุกคนเดินทางไปต่อ”

“ ผมจะไปช่วยอีกคน”

“ ไม่ต้อง จะดีกว่าถ้าฉันไปเพียงลำพัง”

มูยองกางปีก

สำหรับสกายลอร์ด…มูยูองไม่ได้คิดที่จะเสี่ยงชีวิตในการต่อสู้กับมัน เขาแค่อยากจะซื้อเวลาเท่านั้น

มีหลายสิ่งที่เขาต้องการถามบาลตัน แต่ก่อนอื่นต้องให้เขามีชีวิตรอดก่อน นอกจากนี้เขายังสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับพลังของสกายลอร์ดที่สามารถหยุดได้แม้แต่เดียโบล

เมื่อรู้ว่าพลังของมันลดลงอย่างมากหลังจากลอกคราบ ดังนั้นนี้เป็นโอกาสดีที่จะตรวจสอบว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน

“งี่เง่าจริง…!”

อาซูลทำหน้าคิดหนัก อย่างไรก็ตามเขาเป็นพ่อค้าที่เคร่งครัด เขาไม่มีความคิดที่จะช่วยเหลือมูยองอย่างใด เขาจะเคลื่อนไหวตามสัญญาในการแลกเปลี่ยนเท่านั้น

มูยองบินขึ้นไปในอากาศ

วูม!

เขาหยิบความโกรธเกรี้ยวออกมาและร่ายเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไว้บนมัน เมื่อพลังแห่งการสาปแช่งและเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์รวมเข้าด้วยกันแล้วเขาก็ฟันเข้าใส่สกายลอร์ดอย่างรวดเร็ว

ตูม! เกิดการระเบิดครั้งใหญ่

ร่างของสกายลอร์ดเอนไหวเล็กน้อย แต่นั่นไม่สามารถทำให้มันกรีดร้องออกมาสักแอะด้วยซ้ำนอกจากมีรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อย

‘ความต้านทานไฟสูง มันเป็นสิ่งที่เตรียมไว้เผชิญหน้ากับเดียโบล’

ประการแรกเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถสร้างความเสียหายไดๆได้ มีเพียงคำสาปที่ยังพอมีผล แต่ทว่าพลังแห่งการสาปแช่งก็อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว

อาจเป็นเวทต้านทานที่ถูกสร้างไว้โดยเทพปีศาจ แม้ว่าคำสาปจากความโกรธเกรี้ยวจะรุนแรงมากเพียงใดก็ส่งผลกระทบกับมันได้แค่นี้

อย่างไรก็ตาม มูยองมีความสามารถมากมายนอกเหนือจากพลังทั้งสอง

ในขณะที่สยายปีกของกาเบรียล ขนจำนวน 7,777 เส้นก็ลอยค้างอยู่กลางอากาศ

บูมบูมบูม..!!

เกิดการระเบิดจำนวนนับไม่ถ้วน แต่คราวนี้มันเป็นการระเบิดของพลังเทวะ

ก๊าซ!

เป็นครั้งแรกที่สกายลอร์ดส่งเสียงกรีดร้องออกมา

มันได้ผล ในขณะที่สกายลอร์ดเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียบง่าย มันจึงหันความสนใจไปที่มูยองแทน

‘มันไม่มีความต้านทานต่อพลังเทวะ’

อย่างน้อยมันก็ไม่ได้รับการป้องกันจากพลังศักดิ์สิทธิ์อันบริสุทธิ์ใดๆ ถ้าเทพปีศาจผู้สร้างยังพ่ายแพ้ต่อพลังเทวะ แล้วสกายลอร์ดจะมีพลังเช่นนั้นได้อย่างไร

มูยองมองลงไปที่ดาบของตัวเอง เสียดายที่เขาไม่สามารถเสริมพลังศักดิ์สิทธิ์ให้กับความโกรธเกรี้ยวได้มากนัก

วิ้ง!

มูยองสัมผัสหน้าอกตำแหน่งเดียวกับหัวใจของเขาและรู้สึกได้ถึงบางสิ่ง

มันเป็นหอก

หอกสังหารเทพ…อาวุธของกาเบรียล

หอกของกาเบรียลเป็นตัวลบล้างความชั่วร้ายทั้งหมดในวิญญาณของมูยอง คอยหยุดเขาไม่ให้ตกอยู่ในความเสื่อมทราม และเป็นเครื่องมือสำหรับควบคุมลูซิเฟอร์

ไอเทมชิ้นนี้ถือได้ว่าเป็นของ ‘ระดับสูง’ กว่าเปลวเพลิงของเดียโบลซะอีก เรียกได้ว่าเป็นสมบัติในหมู่สมบัติกันเลยทีเดียว

สกายลอร์ดจะสามารถรับการโจมตีจากหอกที่มีพลังเช่นนี้ได้หรือไม่? และนี่เป็นครั้งแรกที่มูยองใช้หอกเล่มนี้ต่อสู้

วาบ!

ท่ามกลางความเจิดจ้า มีแสงเปล่งประกายออกมาจากหน้าอกของมูยอง เป็นแสงที่สว่างมากเสียจนทำให้ดินแดนเทพปีศาจที่มืดมิดดูชัดเจนขึ้น

หลังจากมองดูแสงสว่างที่สว่างไสว อาซูลก็รู้สึกเจ็บปวดเหมือนร่างกายถูกแผดเผา นานแล้วที่เขาเคยรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ และหลังจากเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยความเจ็บแปลบ เขาก็เห็น ‘ชาย’ ที่มีปีกขนาดใหญ่ทั้งหกลอยอยู่กลางอากาศ

ชื่อของชายผู้นี้คือ มูยอง?

‘นี่เขายังเป็นราชาปีศาจอยู่ใช่ไหม?’

อาซูลได้กลิ่นความชั่วร้ายรุนแรงจากมูยองตั้งแต่พบกันครั้งแรก ถึงมูยองจะดูมีนิสัยไม่เหมือนราชาปีศาจทั่วไป แต่ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องราชาปีศาจผู้ใดสามารถใช้พลังเทวะเหมือนมูยองมาก่อน

‘เขาไม่ใช่เทวทูต นั่นเป็นไปไม่ได้’

ไม่มีทูตสวรรค์ในนรก นี่ไม่ใช่ความจริงที่มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่รู้ ปีศาจก็รู้ความจริงข้อนี้เช่นเดียวกัน

ที่นี่คืออันเดอร์เวิล์ดสถานที่ที่เป็นแหล่งกำเนิดความชั่วร้ายทั้งปวง ถ้าเช่นนั้นพลังอันศักดิ์สิทธิ์ที่รู้สึกได้จากเขาคืออะไร?

มันดูไม่เหมือนพลังเทวะที่นักบวชของมนุษย์ หรือเผ่าพันธุ์ใดๆใช้ นอกจากนั้น…ความรู้สึกของมันราวกับมาจากแหล่งพลังงานต้นกำเนิด

ด้วยสิ่งนี้อาซูลสามารถเห็นสกายลอร์ดได้รับความเสียหายเป็นครั้งแรก

ก๊าซ!!!!

พื้นดินสั่นสะเทือนราวกับโลกจะล่มสลายเมื่อใดก็ตามที่ร่างกายอันใหญ่โตของสกายลอร์ดบิดส่ายไปมาด้วยความเจ็บปวด มิหนำซ้ำอากาศรอบๆยังกรรโชกแรงจนกลายเป็นพายุทรายขนาดใหญ่

เป็นครั้งแรกจริงๆที่อาซูลเจอสิ่งที่น่าสนใจระหว่างการค้าขาย นี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อย่างไรก็ตาม … มันดูแแปลกๆ

ด้วยเหตุผลบางอย่างราวกับมูยองยังไม่คุ้นเคยกับพลังของตัวเอง

“ หากเจ้าไม่อยากตายก็ตามข้ามา เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นข้าไม่ช่วยเจ้าหรอกนะ ”

อาซูลพูดกับซองมิน

แน่นอนว่าซองมินดูแข็งแกร่งอย่างมากในฐานะเอลเดอร์ลิช แต่นั่นใช้ไม่ได้กับสกายลอร์ด

ด้วยกองทัพในปัจจุบันถ้าคู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่สกายลอร์ด เบซองมินคงจะมีบทบาทในการต่อสู้อยู่บ้าง อย่างไรก็ตามสถานการณ์แตกต่างกันจากที่กล่าวมา

“เข้าใจแล้ว”

ซองมินรู้เรื่องนี้ดี

เห็นได้ชัดว่าเขาแข็งแกร่งขึ้น เขาเติบโตขึ้นมากจนไม่สามารถเทียบได้กับตัวตนในอดีตของตัวเอง อย่างไรก็ตามมูยองยังคงนำหน้าซองมินไปสองสามก้าว และดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถปิดช่องว่างนี้ได้อย่างง่ายดาย

***

ในฐานะผู้บัญชาการ บาลตันมีความสามารถที่โดดเด่น เขาสังเกตสิ่งต่างๆและอ่านสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม

หลังจากที่เห็นการโจมตีของมูยอง เขาก็เริ่มสั่งถอย

แทนที่จะตื่นเต้นกับการพบเจอ ตอนนี้เป็นเวลาที่พวกเขาจะถอยกลับมากกว่า

– ถอนกำลัง!

บาลตันและกำลังทหารที่ถืออาวุธจากฝีมือคนแคระเริ่มออกจากสนามรบ

ชิ้ง! ตูม!

ขณะที่พวกเขาถอยห่างออกจากสนามรบเสียงระเบิดครึกโครมก็ดังขึ้น

การต่อสู้ระหว่างเทพเจ้าก็คงจะทำนองนี้ใช่ไหม?

‘ถ้าตาของเราไม่ได้ฝาดไปหล่ะก็… ‘

อย่างไรก็ตามบาลตันอดไม่ได้ที่จะตื่นตัว ในช่วงเวลาที่เขาเห็นมูยอง เขาก็รู้สึกเหมือนการเชื่อมต่อที่หายไปกลับมาแล้ว

“ นั่น…ลอร์ดของพวกเราใช่หรือไม่?”

เอลฟ์คนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาและถาม

แม้ว่าจะมีบางสิ่งเปลี่ยนไป แต่บุคคลที่เขาเห็นในตอนนี้เป็นเจ้าของอาณาเขตที่ชื่อมูยองแน่นอน

ดูเหมือนว่าบาลตันไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแบบนี้

“ ลอร์ดของพวกเรายังมีชีวิตอยู่”

“ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นเราต้องสามารถยุติสงครามนี้ได้แน่”

“ ในที่สุด ในที่สุดเขาก็กลับมา!”

ทหารทั้งหมดของเขาต่างรู้สึกยินดี

อย่างไรก็ตามบาลตันยังคงมีสีหน้าเศร้าสร้อย ถ้ามูยองยังมีชีวิตอยู่ทำไมถึงขาดการติดต่อไปถึงสองปี? ทำไมเขาถึงออกจากอาณาเขตและหายตัวไป … ?

เนื่องจากตำแหน่งที่ว่างดังกล่าวทำให้อาณาเขตของเขาต้องพบกับความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะเติบโตขึ้น แต่การขาดมูยองไปก็ยังทำให้ทุกคนรู้สึกเจ็บปวดอยู่ดี

ตูม!

เสียงระเบิดดังออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นมันก็เงียบสงบลง และเพียงไม่กี่วินาทีหลังจากเสียงสุดท้ายดังขึ้นเท่านั้น?

“ ไม่ได้เจอกันสักพักแล้วสินะ”

มูยองปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับปีกที่สยายกว้าง

“ ท่านลอร์ด”

บาลตันคุกเข่าลง

ถึงแม้ว่าบาลตันจะเสียใจจากการหายไปของมูยอง แต่เขาก็ยังเป็นผู้พิทักษ์อาณาเขตเหมือนเดิม และนายของเขาก็ยังคงเป็นมูยองเหมือนเดิม

เมื่อบาลตันคุกเข่า ทุกคนรอบตัวก็ทำเช่นกัน

“ มีหลายสิ่งที่ฉันอยากถามนาย แต่…ก่อนอื่นเปลี่ยนที่คุยกันก่อนเถอะ เพราะเดี๋ยวสกายลอร์ดจะตื่นขึ้นอีก “

จากน้ำเสียงของมูยอง,บาลตันสามารถสังเกตได้ว่าเขาต้องการออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด นั่นหมายความว่าสกายลอร์ดเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวจริงๆ

บาลตันพยักหน้า

มูยองเกาหัวเล็กน้อยก่อนจะบินไป

***

ประสิทธิภาพของหอกกาเบรียลนั้นน่าทึ่งมาก

มันแข็งแกร่งกว่าสิ่งอื่นใด

แต่มูยองไม่คุ้นเคยกับการใช้พลังของกาเบรียล มันดูดพละกำลังของมูยองไปมากและต้องใช้เวลาในการกู้คืน ความรู้สึกที่ได้แตกต่างจากตอนใช้การเร่งความเร็วด้วย ‘เขา’ อยู่มากโข

‘ฉันต้องงดใช้มันไปก่อน’

เขาสามารถทำให้สกายลอร์ดไร้สติได้ครู่หนึ่ง และอย่างที่คาดไว้เขาสามารถสร้างความเสียหายได้มากเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็เพราะผิวหนังของมันอ่อนแอกว่าปกติด้วย อย่างไรก็ตามหากมูยองยังสู้ต่อไปเขาจะตกอยู่ในอันตราย

เหตุการณ์นี้ทำให้เข้าใจว่าทำไมเดียโบลถึงไม่สามารถข้ามชายแดนได้ และทำไมแม้แต่เทพปีศาจผู้สร้างมันขึ้นยังต้องหลีกเลี่ยงมัน

คิดได้ดังนั้นมูยองจึงต้องถอย และค่อยกลับมาคิดบัญชีกับมันทีหลัง นอกจากนี้ในระหว่างการต่อสู้ เขาประสบความสำเร็จในการเก็บตัวอย่างผิวหนังและเนื้อของมันมาแล้ว

‘ถ้าฉันนำมันไปศึกษาน่าจะได้ผลลัพธ์บางอย่าง’

มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจ

ผิวหนังและเนื้อหนังที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน พวกมันแตกต่างจากอวัยวะของสิ่งมีชีวิตปกติมากๆ

ถ้าเขาทำการศึกษาและได้ผลลัพธ์ที่ดี เขาจะสามารถใช้มันเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเหล่าอันเดธ หรือบางทีมันอาจทำให้เขาได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทพปีศาจ

หลังจากที่เขาเก็บตัวอย่างพวกนั้นมาได้จึงมอบให้บาลตัน จากนั้นก็นำกองทัพกลับไปยังอาณาเขตของตน

อาซูลจากไปอย่างรวดเร็วหลังจากถึงอาณาเขตของมูยอง เขากล่าวทิ้งท้ายเพียงว่า“ เมื่อใดก็ตามที่เจ้าต้องการข้าก็บอกเจ้าลิชนี่ไว้” ดูเหมือนเขาจะรีบร้อนหลังจากรู้สึกไม่มั่นคงในบางอย่าง มันดูราวกับว่าเขาได้มาเหยียบในสถานที่ที่ไม่ควรเข้ามา

แม้มูยองคิดว่ามันแปลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดมาก

“ อาณาเขตขยายใหญ่ขึ้นมาก”

“ เมื่อเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมาน่าจะมีขนาดใหญ่กว่าประมาณ 3 เท่า จำนวนประชากรก็เพิ่มขึ้นเหมือนกัน”

มูยองเดินไปตามถนนสายหลักที่นำไปสู่ปราสาท ในขณะที่ด้านหลังยังมีกองทัพเดินติดตาม

มีหลายคนในพื้นที่ที่มองมูยอง

“ ฉันคิดว่ามีเด็กมากขึ้นนะ?”

“ เกิดสงครามขึ้น แม้แต่ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงสงคราม ผู้ใหญ่จำนวนมากเสียชีวิตไปหมดแล้ว แน่นอนว่าคนที่รอดต่างแข็งแกร่งขึ้นมาก”

“ นี่อาณาเขตอยู่ในช่วงสงครามเหรอ? ฝ่ายตรงข้ามคือใคร?”

บาลตันยืนนิ่งอยู่หน้าปราสาทครู่หนึ่ง

ปราสาทของลอร์ดนั้นใหญ่โต และกระทั่งใหญ่โตกว่าเมื่อก่อน

สถานที่สะอาดสะอ้านเพราะพวกเขาดูแลอย่างต่อเนื่อง

บาลตันพูดอย่างจริงจัง

“ เรากำลังทำสงครามกับราชาปีศาจเหล็ก, เอนโรธ ”

ราชาปีศาจแห่งเหล็ก เอนโรธ!

ช่วยไม่ได้ที่มูยองจะต้องตอบสนองต่อชื่อดังกล่าว

มี 3 ระดับในการจำแนกราชาปีศาจที่เก่งที่สุด

-เจ็ดขุนเขา

-หกลอร์ด

-ห้าดวงดาว

ทั้งหมด 18 ตัวตน

ยิ่งจำนวนน้อยก็ยิ่งแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้าคนสุดท้ายที่เป็นเหมือน ‘กำแพง’สูงตระหง่าน

จ้าวแห่งราชาปีศาจ ที่อยู่ใต้การปกครองของเทพปีศาจ

และถ้ามันคือราชาปีศาจแห่งเหล็ก เอนโรธ…

‘มันก็คือหนึ่งในห้าดวงดาว’

ผู้ที่เป็นหนึ่งในราชาปีศาจที่ทรงพลังที่สุด!

มูยองเข้าใจแล้วว่าทำไมอาซูลจึงดูรีบร้อนนัก

The King of the Battlefield

The King of the Battlefield

ในตอนที่มนุษยชาติอยู่ในสภาวะที่ใกล้ล่มสลาย มูยองมือสังหารอันดับหนึ่งของ ‘ป่าแห่งความตาย’

กำลังนั่งคุกเขารอรับความตายเนื่องจากเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยากแก่การรักษา เขากวาดสายตามองไปรอบๆตัวซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยซากศพมากมาย เขาเคยทำงานอย่างหนักเพื่อคนพวกนี้

และในวันนี้เขาก็เป็นคนจบทุกอย่างด้วยมือของตนเอง แต่เมื่อมูยองลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าปาฏิหาริย์นั้นมีจริง ตัวเขายังไม่ตาย! นอกจากนี้มูยองยังพบว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับมายัง 40 ปีที่แล้ว

เขาเลือกที่จะเดินสู่หนทางใหม่ และต่อสู้กับเหล่าเทพปีศาจทั้ง 72 ตน….

Show more

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท