The King of the Battlefield – ตอนที่ 220

ตอนที่ 220

บทที่ 220:ลางแห่งการทำลายล้าง (2)

‘นี่เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง’

หัวใจของรูสเวลต์ราชาปีศาจผู้สร้างความหวาดหวั่น และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในฐานะจอมพิฆาตที่โหดเหี้ยมที่สุดกำลังตกใจ

‘เจ้านั้นตายแล้ว’

ชาร์ซาซ่าเป็นราชาปีศาจที่ได้รับความโปรดปรานจากเอนโรธ เพราะแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาราชาปีศาจทั้งสามตน

แต่มันเสียชีวิตไปแล้วอย่างแน่นอน นี่คือความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ สิ่งที่เอนโรธบอกเองคงไม่ต้องมีข้อสงสัยใดๆ

ถ้างั้น ‘ร่าง’ ที่อยู่ตรงหน้าพวกมันคืออะไร?

‘มีผู้ใช้ประโยชน์จากร่างของมัน’

รูสเวลต์พยายามมองหาพิรุธจากชาร์ซาซ่าอย่างยิ่ง

ด้วยความแข็งแกร่งของชาร์ซาซ่า หากสู้กันมันคงจะมีโอกาสแพ้ถึง 60%

แต่ถ้านี่เป็นเพียงร่างที่เป็นดั่งภาชนะเปลือยเปล่าล่ะ?

หมายความว่ามันคือกับดักของศัตรูใช่ไหม?

‘หลังจากสังหารชาร์ซาซ่าแล้วพวกมันคงทำอะไรบางอย่างกับศพ… ‘

ในที่สุดรูสเวลต์ก็มั่นใจว่านี่เป็นแผนการบางอย่างของศัตรู ทว่ายังคงไม่รู้แน่ชัดว่าทำไมศัตรูถึงได้วางกับดักให้พวกมันเห็นชัดเจนเช่นนี้

“ท่านรูสเวลต์! นั่นคือชาร์ซาซ่า!”

“ ยังมีชีวิตอยู่เหรอ?”

เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาต่างสับสน ปีศาจทุกตนรู้ว่าชาร์ซาซ่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่ารูสเวลต์เสียอีกจึงอดใจไม่ได้ที่จะเกิดคำถาม

“ นั่นต้องเป็นบางสิ่งที่ยึดร่างของชาร์ซาซ่าไว้ ค้นหาบริเวณโดยรอบ! ข้าต้องหาว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”

ถูกต้อง! ขั้นแรกต้องค้นหาผู้ที่วางกับดักก่อน

บางทีมันอาจเป็นคนที่สังหารชาร์ซาซ่าก็ได้

รูสเวลต์ไม่เชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นฝีมือของมนุษย์

มนุษย์จะสังหารชาร์ซาซ่าได้อย่างไร?

‘นี่ไม่ใช่เรื่องตลกเสียหน่อย’

ถึงคำทำนายของเอนโรธจะค่อนข้างแน่นอน แต่มันก็ไม่ได้บอกรายละเอียดของทุกสิ่ง

รูสเวลต์คิดว่าต้องมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังมนุษย์ผู้นั้น

ใครกันที่อยู่เบื้องหลัง? เป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหน?

‘มังกรหรือว่าตัวตนเหนือธรรมชาติ?’

เทพปีศาจเดียโบล และสมุนของมันย่อมไม่สามารถผ่านสกายลอร์ดได้ นอกนั้นในบรรดามนุษย์ก็มีเพียงไม่กี่คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนเทพปีศาจและสามารถยุ่งเกี่ยวกับปีศาจ…

‘หรือว่าเป็นราชันย์มังกร!’

ตัวตนระดับเหนือธรรมชาติทั้งสี่อยู่ในดินแดนภาคเหนือ, ใต้, ตะวันออก และตะวันตก

ท่ามกลางตัวตนเหล่านั้น ราชันย์มังกรตั้งรกรากอยู่ในสวนลอยฟ้าทางด้านตะวันตก

มีข่าวลือว่าเขาซึ่งเป็นศัตรูกับปีศาจจะเข้าทำพันธะสัญญากับมนุษย์ที่มีทักษะดีพอ

‘ผู้ที่สังหารซาซ่าเป็นมนุษย์’

นั่นคือความคิดที่รูสเวลต์มีต่อเรื่องนี้

มนุษย์ผู้ที่ทำสัญญากับราชันย์มังกรสามารถควบคุมมังกรสองตัวได้ รูสเวลต์ก็รู้จักมนุษย์เช่นนี้คนหนึ่งเนื่องจากมันได้สังหารราชาปีศาจไปสองสามตนแล้ว

การที่มีคนฆ่าชาร์ซาซ่าอย่างโจ่งแจ้ง นั่นหมายความว่าคนๆผู้นั้นไม่ได้เกรงกลัวเอนโรธ หากเป็น ‘มนุษย์’ ที่มีราชันย์มังกรอยู่เบื้องหลังก็มีความเป็นไปได้เล็กน้อยที่จะสังหารชาร์ซาซ่าได้

อย่างไรก็ตามรูสเวลต์ไม่เหมือนชาร์ซาซ่า

เมื่อเทียบกับผู้ที่มีสติวิปลาสเช่นซาซ่า รูสเวลต์มีพลังและความบ้าน้อยกว่า ทว่าความสามารถของรูสเวลต์ในการควบคุมกองทัพนั้นเป็นหนึ่งในบรรดาราชาปีศาจ

“ ห้ามเข้าใกล้ร่างนั้น ชัดเจนว่าต้องมีบางคนซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆนี้ รีบทำการค้นหา”

เหล่าปีศาจใช้เวทมนตร์ค้นหาทุกชนิดเพื่อตรวจสอบพื้นที่บริเวณรอบๆชาร์ซาซ่า และทั้งหมดนี้ชาร์ซาซ่าไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว

รูสเวลต์ยังกระจายกองกำลังออกไปค้นหาอีกจำนวนมาก แม้ว่าจะเป็นแค่ร่างแต่มันก็เป็นถึง ‘กับดัก’ ที่สร้างจากชาร์ซาซ่า ดังนั้นพวกมันจึงต้องระมัดระวังเอาไว้ให้มาก

‘ทำไมมันไม่เคลื่อนไหวอะไรบ้างเลย’

ดวงอาทิตย์เริ่มลอยต่ำลงไปเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามชาร์ซาซ่ายังคงไม่เคลื่อนไหว

ทำไม? เป็นกับดับประเภทไหนกันนะ?

ไม่พบพลังเวทใดๆซ่อนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง และมันเองก็ไม่รู้สึกถึงพลังเวทย์มนตร์อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

พวกมันคาดเดาอะไรไม่ออกเลย

เวลาที่เริ่มล่วงเลยไปคือปัญหา รูสเวลต์อดไม่ได้ที่จะรีบร้อน

“ กองกำลังของเฟรด้าใกล้จะมาถึงที่นี่แล้ว “

ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งของมันพูด

เฟรด้าเป็นราชาปีศาจผู้แข็งแกร่งเช่นเดียวกับรูสเวลต์

พวกมันกำลังแข่งขันกันเพื่อให้ได้มาซึ่งความโปรดปรานจากเอนโรธ

เฟรด้าเป็นคนใจร้อน หากมันมาถึงสถานที่นี้มันจะต้องพุ่งเข้าหาชาร์ซาซ่าทันที

‘มีสองทางเลือก เข้าไปดูให้รู้แล้วรู้รอด หรือว่าจะเดินผ่านมันไป ‘

เหตุการณ์ไม่สามารถล่าช้าได้อีกต่อไป

มันต้องเลือกและยอมรับผลที่จะตามมา

รูสเวลต์ถือดาบที่สร้างจากงามอนสเตอร์แล้วชูขึ้น

“ ล้อมมันไว้”

ถ้าเฟรด้ามาถึงที่นี่ทุกอย่างจะสายเกินไป

การจัดการร่างของชาร์ซาซ่าและนำมันกลับไปล้วนเป็น ‘ผลงาน’

นี่เป็นโอกาสที่ดีในการรับคะแนนความโปรดปรานจากเอนโรธ

มันไม่ปล่อยโอกาสแบบนี้ให้กับเฟรด้าแน่

‘เราตรวจสอบพื้นที่แถบนี้ทั้งหมดหลายครั้งแล้ว’

ไม่พบอะไรผิดปกติในการตรวจสอบ

มีเพียงแค่ร่างของชาร์ซาซ่า!

ตามคำสั่งของรูสเวลต์ ปีศาจ 20,000 ตนเข้าล้อมชาร์ซาซ่าอย่างแน่นหนาโดยไม่มีช่องว่าง

“ ร่ายคำสาปแห่งความเสื่อมโทรมลงบนร่างของมัน!”

แน่นอนว่ามันย่อมไม่เข้าโจมตีโดยตรง

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดในขณะที่เกิดความเสียหายน้อยที่สุด มันจึงต้องรอบคอบ

ปีศาจหน่วยเวทมนตร์จำนวน 500 ตนขยับมาที่ด้านหน้าตามคำสั่งของรูสเวลต์

แม้กระทั่งราชาปีศาจก็ไม่สามารถป้องกันคำสาปจากปีศาจระดับสูง 500 ตนได้

ตึง!ตึง!ตึง!

พอหน่วยเวทโบกไม้เท้าร่ายคาถา เสียงที่คล้ายกับการตีกลองก็ดังขึ้น

จากนั้นมือสีดำก็โผล่ออกมาจากเหล่าปีศาจก่อนจะเข้าโอบล้อมชาร์ซาซ่าเอาไว้

มือสีดำแต่ละข้างล้วนเป็นตัวแทนของพลังแห่งการเสื่อมโทรม มือที่จะมอบความสิ้นหวังให้แก่ทุกสิ่งที่พวกมันสัมผัส และคุณไม่ไม่มีวันป้องกันการสัมผัสจากพวกมันได้

‘นั่นเป็นแค่ร่างที่ไร้วิญญาณจริงๆหรือ?’

มันง่ายเกินไปหรือไม่ ทว่าตอนนี้มันกลับสัมผัสได้ว่าคำสาบที่ร่ายออกไปเริ่มอ่อนแอลง

“ เปิดใช้งานบาเรียชนวนไฟฟ้า ”

เมื่อไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ชาร์ซาซ่าเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้สายฟ้า ดังนั้นหากพวกมันป้องกันตรงนี้ได้ย่อมไม่มีอะไรให้ต้องกังวล

บาเรียที่เกิดจากดินขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้น ด้วยพลังป้องกันของบาเรียชนิดนี้ แม้ว่าร่างของซาซ่าจะระเบิดออกความรุนแรงจะเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

‘นี่ข้ากังวลไปเองหรือนี่?’

ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ

ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแค่ร่างเปล่าจริงๆ

นี่คือความรอบคอบที่สุดแล้ว หากยังมัวพะวงจนเสียเวลามากกว่านี้สิ่งที่ได้อาจจะไม่คุ้มเสีย

รูสเวลต์ถืออาวุธเดินไปอยู่เบื้องหน้าชาร์ซาซ่า

ทว่าหลังจากนั้นชาร์ซาซ่ากลับเงยหน้าขึ้น! นี่เป็นครั้งแรกที่มันแสดงปฏิกิริยา!

“ หลังจากถูกมนุษย์สังหารแม้กระทั่งตายก็ยังทำไม่ได้งั้นรึ?”

ดาบของรูสเวลต์เริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว

แรงหมุนที่ทำให้อากาศสั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง ทักษะอย่างหนึ่งของรูสเวลต์คือดาบที่สามารถแยกชิ้นส่วนทุกอย่างที่มันสัมผัสได้

“ ถึงกระนั้นเจ้าก็เคยเป็นราชาปีศาจ เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้า ข้าจะแยกชิ้นส่วนเจ้าอย่างประณีตที่สุด”

คว้าง!

มันเป็นดาบที่หมุนเร็ว 300,000 รอบต่อหนึ่งวินาที

ดาบที่หมุนเร็วจนเหลือเพียงแต่ภาพติดตา

จากนั้นรูสเวลต์ก็พุ่งเข้าหาชาร์ซาซ่าอย่างฉับพลัน

ซวก!

ดาบของรูสเวลต์แทงทะลุผ่านหัวใจของชาร์ซาซ่า

‘แทงโดนแล้ว’

เมื่อได้สัมผัสกับคมดาบนั้นก็เท่ากับจุดจบ

ชาร์ซาซ่ากำลังจะกลายเป็นเศษเนื้อแหลกเหลว…

แต่ในจังหวะนั้นเอง

โลกที่มันมองเห็นเบื้องหน้าก็บิดเบี้ยว และเปลี่ยนไป

‘เรียลลิตี้มาเบิ้ล!’

“…หืม!

รูสเวลต์ถึงกับขมวดคิ้ว

สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไรในเมื่อชาร์ซาซ่าไม่มีพลังของเรียลลิตี้มาเบิ้ล?

โลกที่ปรากฎหลังจากนั้นคือภาพของป่าอันกว้างใหญ่

สถานที่ที่ไม่มีสิ่งใดอาศัยอยู่นอกจากความรกร้างที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ

ในสถานที่เช่นนี้ทักษะดั้งเดิมของพวกเขาจะถูกขยายเพิ่มจนถึงขีดสุด

เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!

ทั้งร่างของชาร์ซาซ่ากลายเป็นพายุสายฟ้า นั้นทำให้การโจมตีของรูสเวลต์ไร้ผล

อย่างไรก็ตามร่างของรูสเวลต์กำลังขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

จะบอกว่ามันเป็นรูปร่างของช้างก็ได้แต่ก็มีขนาดใหญ่กว่านั้นมาก

‘เรียลลิตี้มาเบิ้ลนี่เสริมความแข็งแกร่งให้กับลักษณะตามธรรมชาติของแต่ละคน!’

มันเป็นมิติที่ไม่เหมือนใคร อย่างไรก็ตามสิ่งที่แน่นอนคือรูสเวลต์โดดเดี่ยวในสถานที่แห่งนี้

เพราะแกนหลักของพลังดังกล่าวถูกควบคุมโดยชาร์ซาซ่า เว้นแต่รูสเวลต์จะสังหารซาซ่ามันถึงจะสามารถหนีจากที่นี่ได้

แซ่ด!

ชาร์ซาซ่าเริ่มเคลื่อนไหว

“ เจ้าต้องการเช่นนี้ตั้งแต่แรกสินะ!”

รูสเวลต์ตะโกนออกไป

มันพยายามมองดูพื้นที่โดยรอบ

อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เตรียมตัวสำหรับเรียลลิตี้มาเบิ้ล เพราะนี่ไม่ใช่ทักษะของชาร์ซาซ่าตั้งแต่แรก และมันไม่คิดว่าจะมีไอเท็มใดที่สามารถเปิดใช้งานเรียลลิตี้มาเบิ้ลได้

‘บัดซบที่สุด ถ้าข้าไม่ลงมือด้วยตนเองคงไม่ติดกับศัตรูเช่นนี้ !’

รูสเวลต์ก้าวถอยหลังเล็กน้อย

ถ้ารูสเวลต์ไม่พยายามจัดการกับชาร์ซาซ่าด้วยตัวเอง มันก็คงไม่ตกหลุมพราง

อย่างไรก็ตามปีศาจทุกตนต่างรู้ว่ารูสเวลต์นั้นรักเกียรติศักดิ์ศรี และนั่นคือสิ่งที่ทำให้มันตกอยู่ในกับดักของศัตรู

‘ฝ่ายตรงข้ามต้องรู้จักข้า’

จากแผนการของศัตรูทำให้มันอดไม่ได้ที่จะคิดแบบนี้

รูสเวลต์ลอยตัวขึ้น

ใช่ถึงมันจะตกหลุมพราง แต่มันก็ไม่สามารถยอมแพ้ได้เพียงเพราะถูกหลอก

“ เจ้าคิดว่ามิติแบบนี้จะขวางข้าได้งั้นหรือ?!”

* * *

ซองมินพยักหน้า

ตามคำแนะนำของมูยอง รวมถึงการตัดสินใจของเขาเองทำให้สามารถขังรูสเวลต์ได้สำเร็จ

และตอนนี้ไม่จำเป็นต้องรออะไรอีกแล้ว

“กอเดียมัส”

ซองมินชูคฑาขึ้น

ซองมินมีทักษะเกี่ยวกับประตูที่สามารถเปิดได้สามบาน โดยที่ประตูทั้งสามจะมีสัตว์วิเศษที่แข็งแกร่งหลับไหลอยู่ข้างใน

ตอนนี้ซองมินเปิดประตูบานที่สาม

แกร๊ก!

ซว๊าก!

ตรึม!

มอนสเตอร์ขนาดมหึมาฉีกอากาศก่อนจะปรากฏตัวออกมา

สิ่งมีชีวิตที่สูงเสียดฟ้า และมีถึงเก้าหัว …

ราชันย์มอนสเตอร์ ไฮดร้า!

ซองมินลอยตัวขึ้นไปขี่อยู่บนหลังของมัน

จากนั้นก็สั่งเหล่าวิญญาณและอันเดธรอบๆ

“ โจมตีรูสเวลต์”

รูสเวลต์ถูกขังอยู่ในมิติเฉพาะ และนั่นทำให้มันแยกออกจากผู้ใต้บังคับบัญชาของตน

ซองมินพูดกับตัวเองอย่างเงียบๆ

“ เพื่อชัยชนะของเขา”

* * *

ในขณะเดียวกันทาร์แคนกำลังยกพลไปโจมตีเฟรด้าพร้อมกับเหล่าไฟทาร์ของโอการ์ และโดเกบิ

เฟรด้าราชาปีศาจผู้มีอารมณ์แปรปรวน

ทาร์แคนไม่รู้จักมัน แต่มูยองรู้จัก

ถึงแม้ว่ามูยองจะไม่รู้อะไรมากขนาดนั้นแต่เขาก็รู้ว่ามันเป็นอย่างไร

และเหมือนที่มูยองคาดไว้ เขาสามารถสังเกตเห็นเฟรด้าพร้อมลูกสมุนกำลังตรงดิ่งมาที่นี่จากระยะไกล

“ หากเปิดร้านดูดวง เขาจะต้องประสบความสำเร็จมากแน่ๆ”

ทาร์แคนพูดถึงมูยองนิดหน่อย

อย่างไรก็ตามเนื่องจากคู่ต่อสู้ปรากฏตัวขึ้นแล้วจึงไม่มีเวลาว่างให้คิดอะไรอีก

ทาร์แคนหันร่างกลับไปด้านหลัง

“ เฟรด้าเป็นของข้า พวกเจ้าไปนอนรอได้เลย”

ทาร์แคนมั่นใจมาก

โอกาสที่จะได้สู้เช่นนี้ไม่ได้มีบ่อยนัก

การที่ฝ่ายตรงข้ามเป็นราชาปีศาจ ความกระหายของเขาคงได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี

“ ฝ่ายตรงข้ามคือราชาปีศาจ มันจะไม่หนักมือไปหน่อยหรือ? ทำไมเราไม่ทำตามแผนของมูยองล่ะ?”

โอการ์พูด

แน่นอนว่าทาร์แคนแข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังไม่แข็งแกร่งเท่าระดับของราชาปีศาจ

ดังนั้นมูยองจึงต้องการให้ทาร์แคนทำงานร่วมกับโอการ์เพื่อหยุดเฟรด้าแต่ทาร์แคนกลับยืนกรานที่จะต่อสู้คนเดียว

“ ข้าไม่อยากแบ่งปันโอกาสทองเช่นนี้ให้ใคร นอกจากนี้ข้ายังมีไพ่ลับอยู่ แม้คู่ต่อสู้จะเป็นมูยองข้าก็มั่นใจในการสู้กับเขา!”

โอการ์ก้าวไปด้านหลัง

เขาไม่สามารถโต้เถียงอะไรไปมากกว่านั้นเมื่ออีกฝ่ายอยากจะสู้

หากเป็นความดื้อดึงของทาร์แคน ดูเหมือนว่าไม่มีทางอื่นที่จะจัดการกับสถานการณ์นอกเหนือจากรอดูและเข้าไปช่วยเหลือในตอนจบ

เมื่อพวกเขาตัดสินใจกันเสร็จก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่ศัตรูเห็นกองกำลังทหารที่อยู่ที่นี่พอดี

“คิฮี่ฮี่ฮี่! เหยื่อแบบไหนกันนะที่มารอข้าอยู่ที่นี่!?”

ในขณะที่มันสยายปีกขนาดใหญ่ทั้งสาม ปีศาจรูปร่างผอมเพรียวผู้ที่ทำให้คนพบเห็นต้องเข้าใจผิดว่าเป็นชายหรือหญิงก็ลอยตัวเด่นขึ้น

“ ข้าไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้ต่อสู้ขณะขี่มังกรกระดูก”

โอการ์พูดขณะที่อยู่บนมังกรกระดูก

และในขณะนี้ทาร์แคนก็บุกเข้าไปโจมตีเฟรด้าแล้ว

‘เราชนะแน่นอน’

โอการ์ยกกระบองขนาดใหญ่ขึ้นพาดไหล่

* * *

ศึกครั้งนี้รูสเวลต์เป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด

เฟรด้าเป็นราชาปีศาจที่อารมณ์ร้อน การสู้กับมันจึงค่อนข้างเดาทางง่าย

ในทางกลับกันรูสเวลต์เป็นคนใจเย็น มันรู้วิธีอ่านเกมการต่อสู้

สำหรับสงครามของเอนโรธ ปีศาจที่ทำให้มันนำหน้าผู้อื่นได้ก็เป็นรูสเวลต์เช่นกัน

เหตุผลที่พวกเขาใช้ชาร์ซาซ่าเป็นเหยื่อล่อรูสเวลต์ก็เป็นเพราะเหตุผลนี้

‘แค่ทำให้รูสเวลต์ทำอะไรไม่ได้นั่นก็เพียงพอแล้ว’

มูยองมาถึงอาณาเขตของตัวเองโดยนำ ‘เรือโนอา’ ที่โอการ์เรียกว่าจ้าวแห่งหนองน้ำมาด้วย

เรือโนอามีกลไกการป้องกันตัวที่แข็งแกร่ง ด้วยสิ่งนี้การปกป้องอาณาเขตของเขาจะง่ายขึ้นมาก

มูยองไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ของทั้งสอง แต่เลือกปกป้องอาณาเขตของตนแทน

เอนโรธกำลังจับตามองการต่อสู้ของรูสเวลต์และเฟรด้าอยู่

มูยองไม่ต้องการเปิดเผยพลังการต่อสู้ทั้งหมดของตัวเอง

พลังของเขาจะถูกใช้ตอนเผชิญหน้ากับเอนโรธจริงๆเท่านั้น

“ ท่านลอร์ด การ์มูสกลับมาแล้ว”

การ์มูสผู้ซึ่งได้รับคำสั่งให้นำหัตถ์เทพเจ้าบาร์ทัสมาที่อาณาเขตกลับมาแล้ว

มูยองพยักหน้า

“ลุกขึ้น”

หลังจากประตูถูกเปิดออกในไม่ช้าคนแคระที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราก็เดินเข้ามา

“ บาร์ทัสล่ะ?”

“ น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถมากับข้าได้”

“ เป็นอย่างนั้นเหรอ?”

มูยองขมวดคิ้ว

หัตถ์เทพเจ้าบาร์ทัสเป็นคนที่มูยองต้องการให้เขาสร้างชุดเซ็ตอุปกรณ์ราชันอมตะส่วนที่เหลือให้

และราวกับว่าการ์มูสสามารถอ่านความผิดหวังของมูยองได้, เขายิ้มก่อนจะเอ่ยขึ้น

“ ถึงเขาจะมาไม่ได้ แต่อุปกรณ์เหล่านี้ก็ถูกสร้างขึ้นแล้ว”

คลืน! คลืน!

ด้วยเสียงที่ดังฟังชัด คนแคระสองสามคนก็เข้ามาพร้อมกับกล่องขนาดใหญ่

The King of the Battlefield

The King of the Battlefield

ในตอนที่มนุษยชาติอยู่ในสภาวะที่ใกล้ล่มสลาย มูยองมือสังหารอันดับหนึ่งของ ‘ป่าแห่งความตาย’

กำลังนั่งคุกเขารอรับความตายเนื่องจากเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยากแก่การรักษา เขากวาดสายตามองไปรอบๆตัวซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยซากศพมากมาย เขาเคยทำงานอย่างหนักเพื่อคนพวกนี้

และในวันนี้เขาก็เป็นคนจบทุกอย่างด้วยมือของตนเอง แต่เมื่อมูยองลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าปาฏิหาริย์นั้นมีจริง ตัวเขายังไม่ตาย! นอกจากนี้มูยองยังพบว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับมายัง 40 ปีที่แล้ว

เขาเลือกที่จะเดินสู่หนทางใหม่ และต่อสู้กับเหล่าเทพปีศาจทั้ง 72 ตน….

Show more

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท