The King of the Battlefield – ตอนที่ 249

ตอนที่ 249

ตอนที่ 249 ราชาปีศาจแห่งเถ้าสีเทา (จบ)

‘จากนี้ไปนี่คือเรื่องสำคัญ’

ในที่สุดเขาก็ก้าวข้ามอุปสรรคได้จากการเป็นพันธมิตรกับเกรโมรี่ แต่ทุกอย่างก็ยังต้องพึ่งการวางกลยุทธ์ที่ดี แม้เขาจะได้การยอมรับจากเหล่าปีศาจ แต่ก็ไม่แน่นักกับตัวตนเหนือธรรมชาติอื่นๆ

มูยองไม่มีเวลามากพอที่จะเข้าไปเจรจาทีละคน ฉะนั้นเขาจึงต้องสร้างความเชื่อใจกับคนจำนวนหนึ่ง แล้วให้คนจำนวนนั้นพาคนอื่นเข้ามา และมูยองก็คิดว่าเขาเจอคนแบบนั้นแล้ว

‘นั่นคือ ราชามังกรฮันซุง ‘
ถ้ามูยองทำให้ราชามังกรเชื่อใจได้ เขาจะสามารถดึงดูดตัวตนเหนือธรรมชาติอื่นๆเข้ามาได้โดยง่าย

จ้าวแห่งขุนเขา, ราชันย์มังกร, บุตรแห่งจันทรา!
ทุกคนล้วนมีพลังที่สามารถต่อต้านเหล่าปีศาจได้ ในสถานการณ์บางอย่างพวกเขาแข็งแกร่งเสียด้วยซ้ำ เพราะแม้แต่ปีศาจก็ไม่สามารถรุกล้ำอาณาเขตของพวกเขาได้ และเนื่องจากมูยองยังไม่เคยพบพวกเขา ราชามังกรฮันซุงน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะรู้จักตัวตนอื่นๆดี

‘เซราฟิน่ากับเพนดราก้อนต้องรู้วิธีตามหาฮันซุง’

มูยองยังไม่ลืมคนทั้งสอง เซราฟิน่าที่เป็นผู้พิพากษาของลัทธิซึ่งรู้จักกับฮันซุงตั้งแต่ตอนเด็กๆ ส่วนเพนดราก้อนก็เป็นอัศวินของเซราฟิน่าและยังเป็นลูกศิษย์ของฮันซุง ถ้าเป็นทั้งสองคนนี้ก็มั่นใจได้เลยว่าต้องรู้ที่อยู่ของฮันซุงแน่นอน

‘พาคนจากเมืองใหญ่ๆเช่นมูราลันกับคุนจามารวมกัน จากนั้นจัดเวทีประลองหาคนมีฝีมือ’

แม้ระดับประสบการณ์ของพวกเขาจะไม่ถูกใจมูยองนัก แต่ในสงครามทุกคนสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ แน่นอนว่าต้องมีการหลั่งเลือดจำนวนมาก แต่หากพวกเขาไม่สู้ทุกคนก็จะถูกสังหารอยู่ดี

นอกจากนี้ยิ่งมีการะดมคนมากยิ่งขึ้นเท่าไหร่ มูยองก็ยิ่งมีทางเลือกมากขึ้นสำหรับการใช้ประโยชน์ และโชคดีที่มีผู้ที่เหมาะสมสำหรับการทำหน้าที่ดังกล่าว

“เบซองมิน”
พอเรียกชื่อวงเวทก็ปรากฏขึ้นบนพื้นก่อนที่ซองมินจะก้าวออกมา

“ท่านเรียกข้าเหรอ?”

มูยองพูดเบาๆกับเบซองมิน

“เรียกเอนโรธเจ้าแห่งเหล็ก กับโซระเจ้าแห่งกุหลาบมา สั่งให้พวกเขาไปที่มูราลัน “

“จำเป็นต้องเรียกเอนโรธกับโซระด้วยเหรอ?”

ซองมินหมายความว่าเขาทำภารกิจนี้เพียงลำพังไม่ได้หรือ เพราะเบซองมินไม่เหมือนกับทาร์แคนที่ชอบพาคนไปเป็นกองทัพ

แค่มูราลันจริงๆเบซองมินคนเดียวก็จัดการได้ แต่มูยองต้องการความมั่นใจ

“ยังมีหลายอย่างให้นายทำ ดังนั้นนายจำเป็นต้องมีคนช่วย “

“ผมจะทำตามคำสั่งของนายท่าน”

หลังจากเจอฮันซุงและให้เขาระดมผู้คนในมูราลันเพื่อติดตามมูยอง เมืองเกรทซิตี้กับเมืองคุนจาก็จะระดมพลตามมูรารันไปด้วย และหากเมืองใหญ่ทั้งสามของมนุษยชาติทำเช่นนั้นทุกคนก็จะมารวมตัวกันเองในที่สุด

แน่นอนว่าทุกขั้นตอนจำเป็นต้องทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้การกระทำของมูยองหรือเบซองมินถูกเปิดเผย เพราะไม่ว่าด้วยเหตุผลใดมูยองก็เคยโจมตีพวกเขามาก่อน ถึงแม้มันจะเป็นการทำเพื่อยกระดับความตื่นตัว แต่เป็นการดีที่สุดที่จะไม่ให้ใครทราบเรื่องนี้ แค่ให้ทุกคนเห็นฮันซุงกับเกรโมรี่ก็เพียงพอแล้ว

มูยองต้องการจัดการทุกสิ่งในเงามืด และวางกับดักโดยไม่ทำให้ศัตรูรับรู้

“ศูนย์กลางการติดต่ออยู่ในอาณาเขตของฉัน นายต้องทำทุกอย่างให้เร็วที่สุด”

“กระผมจะทำสุดความสามารถ”

เมื่อเบซองมินเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ก็หมายความว่าทุกอย่างจะถูกจัดการด้วยพลังแห่งความตาย เนื่องจากกุญแจสำคัญอยู่ที่มูราลันกับฮันซุง ดังนั้นภารกิจของเขาจะบรรลุได้ก็ต่อเมื่อสังหารพระสันตะปาปา หรือไม่ก็ทำให้ฮันซุงกลายเป็นอันเดธ

มูยองไม่ได้สั่งอะไรเพิ่มเติมเพราะรู้จักความสามารถของเบซองมินดี นอกจากนั้นซองมินเองก็ยังเป็นผู้ที่ทำงานได้อย่างสุขุมรอบคอบกว่าคนอื่นอยู่แล้ว หากเบซองมินตัดสินใจเช่นไรก็ควรเคารพการตัดสินใจนั้นๆ

ส่วนการรวมกลุ่มของเผ่าผันธุ์ที่เหลือเช่น…โดเกบิ ไฟทาร์ เอลฟ์ และคนแคระนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่สิ่งเหล่านั้นจำเป็นต้องทำอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นเบซองมินคนเดียวจึงไม่เพียงพอ

‘ฮาล์ฟเอลฟ์จิน”

พอมาคิดๆดูเหมือนมูยองจะมีทุกสิ่งที่ต้องการอยู่แล้ว ถึงเขาจะเพิ่งมาคิดได้แต่หากมันสำเร็จจริงๆไม่ว่าจะเป็นบนสวรรค์หรือพื้นโลกก็จะได้พบกับเช้าวันใหม่ที่สวยงาม

….

หลังจากเสร็จสิ้นการรักษา เขาก็ออกไปจากวิหาร

ในเวลาเดียวกัน สายตาของปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนก็จับจ้องไปที่มูยอง

การปรากฏตัวของราชาปีศาจตนใหม่ ราชาปีศาจแห่งเถ้าสีเทา ภาพของคนๆนี้ที่บดขยี้เลราเจยังติดอยู่ในความทรงจำ

มูยองสำรวจบริเวณรอบๆ

“ดูเหมือนพวกมันจะไม่ชอบฉันเท่าไหร่”

แม้จะได้รับความยำเกรงแต่ก็ไม่ได้รับความเชื่อใจ ราชาปีศาจและปีศาจนับไม่ถ้วนกำลังรอคอยให้มูยองปรากฏตัว สายตาของพวกมันยังคงเต็มไปด้วยความสงสัย

“ราชาปีศาจแห่งเถ้าสีเทา! ข้าคือโอคูลัส ราชาปีศาจลำดับที่ 24 ของกองทัพ! ข้าขอท้าดวลกับเจ้า!”

จากภาพการต่อสู้กับเลราเจทำให้พวกมันรู้ว่าตนไม่อาจชนะ แต่เหล่าปีศาจทั้งหลายต้องการพิสูจน์ด้วยตนเองมากกว่า

มูยองยักไหล่และคิดว่าก่อนที่ศัตรูตัวจริงจะมาถึงเป็นการดีที่จะจัดการกับปัญหาใกล้ตัวก่อน

“ฉันออมมือไม่เป็นหรอกนะ”

ปัญหาดังกล่าวคือความจริง เพราะหลังจากได้รับทักษะทั้งหลายมา เขายังไม่มีโอกาสได้ลองควบคุมพลังตัวเองเลย

“หากพลังของเจ้าเป็นของจริง เรื่องนั้นก็ไม่สำคัญหรอก!”

มูยองพยักหน้า

ราชาปีศาจที่โผล่ออกมาท้าทายมูยองเป็นปีศาจที่ต้องการใกล้ชิดกับเกรโมรี่ที่สุด ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่มันออกมาต่อต้านมูยอง

พรึ่บ! มูยองสยายปีกกว้าง

“ฉันไม่อยากเสียเวลาไปกับปัญหาพวกนี้ โอคูลัสนอกจากนายแล้วยังมีใครอีกไหมที่ไม่พอใจฉัน?”

ไม่มีทางที่ใครจะอดทนได้อีก แววตาของพวกมันเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว

มูยองยกริมฝีขึ้นแล้วกระดิกนิ้วเรียก

“เข้ามาพร้อมกันทีเดียวเลย”

“เจ้าสารเลวนี่ช่างอวดดี!”

พวกมันไม่ปฏิเสธ เผ่าปีศาจเป็นที่รู้จักกันดีว่าไร้ซึ่งเกียรติอยู่แล้ว ปีศาจเกือบหนึ่งพันตนพร้อมกับราชาปีศาจทั้งห้าต่างดาหน้ากันไปหามูยอง

มูยองไม่แม้แต่คิดจะใช้ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยว เพราะนี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้ฝึกควบคุมพลัง

ฟูมมมม!

ในขณะที่มูยองปล่อยหมัดแรกออกไป พวกมันก็ต้องตระหนักถึงบางสิ่ง

ราชาปีศาจแห่งเถ้าสีเทา

เขาไม่ใช่ราชาปีศาจสามัญธรรมดา

ระดับของเขาไม่สามารถใช้บรรทัดฐานปกติมาวัดได้

The King of the Battlefield

The King of the Battlefield

ในตอนที่มนุษยชาติอยู่ในสภาวะที่ใกล้ล่มสลาย มูยองมือสังหารอันดับหนึ่งของ ‘ป่าแห่งความตาย’

กำลังนั่งคุกเขารอรับความตายเนื่องจากเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยากแก่การรักษา เขากวาดสายตามองไปรอบๆตัวซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยซากศพมากมาย เขาเคยทำงานอย่างหนักเพื่อคนพวกนี้

และในวันนี้เขาก็เป็นคนจบทุกอย่างด้วยมือของตนเอง แต่เมื่อมูยองลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าปาฏิหาริย์นั้นมีจริง ตัวเขายังไม่ตาย! นอกจากนี้มูยองยังพบว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับมายัง 40 ปีที่แล้ว

เขาเลือกที่จะเดินสู่หนทางใหม่ และต่อสู้กับเหล่าเทพปีศาจทั้ง 72 ตน….

Show more

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท