The King of the Battlefield – ตอนที่ 255

ตอนที่ 255

บทที่ 255: ตัวตนเหนือธรรมชาติ (3.2)

นี่คือการประชุมสำหรับเทพปีศาจที่เกรโมรี่ไว้ใจเท่านั้น แต่มูยองได้เข้าร่วมเป็นกรณีพิเศษเนื่องจากเป็นผู้วางแผนทุกอย่าง

ปีศาจทุกตนล้วนเคยผ่านสงครามมาแล้วทั้งสิ้น มูยองซ่อนพลังเอาไว้แล้วลอบสังเกตพวกมัน เพราะไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งปีศาจในนี้อาจจะกลายเป็นศัตรูกันก็ได้ นอกจากนั้นยังถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะศึกษาเกี่ยวกับเทพปีศาจอีกด้วย

ระหว่างเรียนรู้จากความฝันของดันดาเลี่ยนกับเรียนรู้โดยตรงด้วยตนเองย่อมต่างกัน นอกจากนั้นพลังของสี่เทพปีศาจก็ไม่ใช่ธรรมดา หากวัดด้วยระดับพลังเทวะแล้วทุกตนล้วนมีพลังเทียบเท่าเลราเจ

‘บุคคลเหล่านี้ละเลยช่วงเวลาแห่งความท้าทายที่เกรโมรี่ได้เผชิญ’

ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ปีศาจจะระดมพล อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้ช่วยเกรโมรี่จากการคุกคามของเลราเจเลยแม้แต่นิดเดียว พวกเขาแค่รวมตัวกันหลังจากมีข่าวเรื่องการดับสูญของเฮอเรสและเลราเจแล้วเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่คิดว่าเกรโกรี่ย่อมไม่สามารถต้านทานได้ บางทีอาจเป็นไปได้ว่าพวกเขากำลังเฝ้าสังเกตกองกำลังฝ่ายพันธมิตร และรอคอยเวลาที่เหมาะสม

‘พอรู้สึกว่าลมกำลังเปลี่ยนทิศเทพปีศาจก็รีบรวมกลุ่มกัน’ พวกเขาระดมพลอย่างรวดเร็วภายในเวลา 10 วันเท่านั้น หรือมองอีกแบบหนึ่งคือพวกเขาอาจไม่ได้เชื่อข่าวนี้อย่างสมบูรณ์

ยังไงก็ตามเกรโมรี่คาดเดาทุกอย่างไว้แล้ว เธอไม่ได้คาดหวังความช่วยเหลืออะไรจากพวกเขาตั้งแต่แรก

ตอนนี้พวกมันคิดว่าเกรโมรี่ต้องมีบางสิ่งที่ซ่อนไว้ บางสิ่งที่สามารถเอาชนะเลราเจกับเฮอเรสได้

อย่างไรก็ตามพวกมันก็ต้องตกใจเสียก่อน เมื่อเกรโมรี่พูดถึงโซโลมอน

มูรุมูรุ ปีศาจร่างผอมผู้ที่สวมเดรชสีดำเป็นประกายพูดขึ้น

“โซโลมอน…มันปรากฏตัวที่โลกปีศาจแห่งนี้จริงๆเหรอ?”

เงียบไปพักหนึ่งก่อนที่เกรโมรี่จะตอบ

“เขาเป็นผู้สังหารเฮอเรสกับเลราเจ หรือถ้าจะพูดให้ถูกคือเขากับเดียโบลเป็นผู้สังหาร”

พวกมันย่อมมีหูมีตาที่จะรู้ว่าเดียโบลปรากฎตัวออกมาแล้ว และสังหารเฮอเรสด้วยเปลวเพลิง แต่พวกมันไม่รู้เลยว่าโซโลมอนเองก็เกี่ยวข้องด้วย

“ถ้างั้นเกรโมรี่ ทำไมเจ้าถึงยังปลอดภัยดีอยู่?”

“ข้ากับเขาได้ทำข้อตกลงกัน”

“ข้อตกลง!”

“เจ้าทำข้อตกลงกับไอ้วายร้ายนั่น น่าผิดหวังจริง “

“มันต้องการให้เราดับสูญใช่ไหม?”

เทพปีศาจทั้งสี่ประท้วง ถึงแม้ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่วางแผน แต่ความเกลียดชังที่พวกมันมีต่อโซโลมอนนั้นเกิดความคาดหมายของมูยอง

เกรโมรี่ตอบอย่างใจเย็น

“โซโลมอนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยตรง เขาจึงควบคุมเดียโบลแทน บางทีพลังจากเลเมเกทัลได้สร้างข้อจำกัดให้แก่เขา”

ทุกคนเงียบและฟังเกรโมรี่อย่างตั้งใจ

ธุรกิจก็คือธุรกิจ และเรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว มันทำให้พวกเขาอารมณ์เสียมาก แต่พวกเขายังคงสงสัยเกี่ยวกับเรื่องจริง

“เป้าหมายสูงสุดของเขาคือการกำจัดบาอัล เขาบอกว่าหากลงโทษผู้ที่ขโมยหนังสือเลเมเกทัลได้ เขาก็จะจากไปทันที”

“พูดง่ายๆคือ…”

“เขาจะโจมตีเฉพาะฝ่ายพันธมิตรเท่านั้น”

ผู้ที่ติดตามบาอัลคือฝ่ายพันธมิตร ส่วนผู้ติดตามเกรโมรี่คือฝ่ายที่ต่อต้านบาอัล โดยปกติแล้วมีเหตุผลไม่มากนักที่จะคัดค้านการกำจัดบาอัล

มูรุมูรุถามอีกครั้ง

“ถ้างั้นเขาก็หวังให้เราเข้าร่วม หลังจากกำจัดเฮอเรสกับเลราเจไปแล้ว?”

“ถูกต้อง”

“แล้วหลังจากนั้นล่ะ? จากเรื่องราวก่อนหน้าข้าไม่คิดว่าเขาจะจากไปง่ายๆหรอกนะ “

เรื่องราวก่อนหน้า หมายถึงลบล้างมนุษยชาติออกจากผืนโลก

เกรโมรี่หลับตาลงระยะเวลาสั้นๆ

“เขามีเงื่อนไขว่าจะไม่ทำลายโลกปีศาจ แต่ก็จะไม่เพิ่มจำนวนประชากรปีศาจด้วยเช่นกัน”

“….”

ทุกคนนิ่งอึ้ง

นี่เป็นครั้งแรกที่มูยองได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเขายังแทบไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องโกหก

‘แม้ฉันจะไม่ได้เป็นคนเสนอ แต่แผนดังกล่าวก็กระตุ้นให้เกิดการต่อต้านฝ่ายพันธมิตร’

ดูเหมือนเกรโมรี่จะมีแผนเหมือนมูยอง หากมูยองไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยเธอยังจะพูดเหมือนเดิมหรือไม่?

ทั้งหมดที่มูยองทำคือ ‘รวบรวมทุกเผ่าพันธุ์เข้าด้วยกัน’ แน่นอนว่ามันซับซ้อนมาก เขาต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เขาคิดว่าเกรโมรี่ต้องรู้อะไรมากกว่านี้แน่ และถ้าเขาถูกเกรโมรี่ทำให้ไขว้เขว เขาจะสูญเสียความเป็นผู้นำไป

ความฉลาดคือพลังของมูยอง ยังไงก็ตามตอนนี้เขาคิดอะไรไม่ออก

‘ด้วยการดูดซับพลังจากเทพปีศาจทำให้ความทรงจำของดันดาเลี่ยนสมบูรณ์ขึ้นทีละนิด ‘

เขารู้สึกว่าหากได้กำจัดเทพปีศาจอีกสักตัวสองตัวแล้วดูดซับพลังของมันมาทุกอย่างก็จะสมบูรณ์

‘พวกมันจะรับคำพูดของเกรโมรี่ได้หรือเปล่า’

จู่ๆมูยองก็สนใจทางเลือกของพวกมัน

มันคงน่าผิดหวังมากหากสิ่งที่เกรโมรี่พูดเป็นความจริงในสถานการณ์ปกติ

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่แย่เท่าไหร่”

“หากข้อตกลงสามารถไว้วางใจได้ข้าก็ไม่ปฏิเสธ…”

ผลลัพธ์ตรงกันข้าม

มูยองงงอย่างช่วยไม่ได้ แม้จะเป็นข้อตกลงที่แย่มากแต่พวกเขากลับยอมรับได้

ถึงจะมีศัตรูร่วมกันก็ตามแต่ความหวาดกลัวต่อโซโลมอนกลับละเหยหายไป หรือบางทีความทรงจำตอนยังเป็นมนุษย์ที่มองปีศาจเป็นศัตรูยังไม่ถูกลบทิ้ง

ไม่เหมือนฝ่ายพันธมิตร หลักการของฝ่ายปฏิปักษ์ไม่ได้ให้ความสำคัญว่าตัวเองจะยังคงอยู่ในโลกปีศาจหรือไม่

“มีตัวตนที่เขาไว้วางใจอยู่ที่นี่”

เกรโมรี่หันไปให้ความสนใจกับด้านๆหนึ่ง และที่ปลายทางด้านนั้นมีมูยองยืนอยู่

“เขาคือมูยอง ราชาปีศาจแห่งเถ้าสีเทา”

เทพปีศาจทุกตนต่างจับจ้องไปที่มูยองทันที

นี่ไม่ได้อยู่ในแผนที่คุยกันไว้

เหอะๆ! มูยองสบถอยู่ภายในและในเวลาเดียวกันเขาก็เข้าใจ

นี่คือการทดสอบของเกรโมรี่และโซ่ที่จะผูกมัดเขาไว้

‘เกรโมรี่ไม่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของฉันคนเดียวสินะ’

The King of the Battlefield

The King of the Battlefield

ในตอนที่มนุษยชาติอยู่ในสภาวะที่ใกล้ล่มสลาย มูยองมือสังหารอันดับหนึ่งของ ‘ป่าแห่งความตาย’

กำลังนั่งคุกเขารอรับความตายเนื่องจากเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยากแก่การรักษา เขากวาดสายตามองไปรอบๆตัวซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยซากศพมากมาย เขาเคยทำงานอย่างหนักเพื่อคนพวกนี้

และในวันนี้เขาก็เป็นคนจบทุกอย่างด้วยมือของตนเอง แต่เมื่อมูยองลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าปาฏิหาริย์นั้นมีจริง ตัวเขายังไม่ตาย! นอกจากนี้มูยองยังพบว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับมายัง 40 ปีที่แล้ว

เขาเลือกที่จะเดินสู่หนทางใหม่ และต่อสู้กับเหล่าเทพปีศาจทั้ง 72 ตน….

Show more

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท