บทที่ 277 สงครามเทพปีศาจ (4 Part 2)
คิมแทฮวานเลิกนับว่าเขากำจัดศัตรูไปเท่าไหร่ตั้งแต่ตัวที่ 100 แล้ว
ตอนนี้เขารู้สึกปากแห้งคอแห้ง และคิดว่าตัวเองคงจะเสร็จศัตรูในไม่ช้า
ลาอุมในร่างแรกยักษ์กำลังพุ่งเข้าใส่คิมแทฮวาน
‘มันยากที่จะหลีกเลี่ยง’
เหมือนกับภาพสโลว์โมชั่น และโดยสัญชาตญาณเขาก็รู้สึกถึงความตายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คิมแทฮวานได้แต่ยิ้มรับไว้เท่านั้น
‘ฉันอยากเจอเขาอีกครั้ง….’
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ในอารามสีคราม
ความสัมพันธ์ของเขายังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำของแทฮวาน
ถ้าได้พบพวกเขาอีกครั้ง แทฮวานจะคุยโวว่าเขาเปลี่ยนไปมากขนาดไหน และเขาต้องพยายามเท่าไหร่กว่าจะได้เป็นรองหัวหน้ากิลด์ได้
หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปตั้งแต่แทฮวานได้เป็นรองหัวหน้ากิลด์ เขาขับไล่คนทุจริตออกไป และสนับสนุนการรับสมัครสมาชิกที่มีศักยภาพ ภาพลักษณ์ของเกรทซิตี้ดีขึ้นมากก็เพราะเขา
เขายืนหยัดต่อสู้กับสิ่งเลวร้ายต่างๆตามที่สัญญาไว้กับมูยอง
คิมแทฮวานได้เดินไปตามทางของตัวเอง
มูยองพูดถูกแทฮวานคือฮีโร่ และเขายังเป็นผู้สนับสนุนที่ซ่อนอยู่ของมูยอง
ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง !!
ลาอุมพุ่งเข้าหาเขาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในขณะที่แทฮวานจับดาบด้วยแรงเฮือกสุดท้าย
‘ฉันจะต้องไม่ตายที่นี่’
เขาต้องการเห็นการต่อสู้ตั้งแต่ต้นจนจบ คงไม่ยุติธรรมสำหรับตัวเองเท่าที่หากจะต้องจบลงด้วยการยอมแพ้ ยังไงก็ตาม.. พอลาอุมเข้ามาใกล้แทฮวานจนถึงที่สุดมันก็หยุดลง
ลาอุมหยุดและเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า เป็นขณะเดียวกันกับดวงอาทิตย์ถูกบดบังแสง
พอความมืดมิดปรากฏ ‘ดวงจันทร์’ ก็ลอยเด่นขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆ…?”
“ ดวงอาทิตย์…หายไป…”
“ นั่นมัน..อะไร?”
ในขณะที่ทุกคนกำลังเอะอะวุ่นวาย สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่โตก็โผล่ออกมาจากความมืด
รูปร่างของมันไม่ต่างกับมังกรแต่ขนาดนั้นเทียบไม่ได้กับมังกรทั่วไป
พวกมันบินว่อนเต็มท้องฟ้า
“เขากำลังมา”
ฮันซองยิ้มและใช้มือเช็ดเลือดที่เปื้อนริมฝีปากตัวเอง
ราชาแห่งมังกร ในที่สุดเขาก็ปรากฏตัวขึ้น ทว่าเขาไม่ได้มาเพียงลำพัง
นั่นมันเด็กคนหนึ่งไม่ใช่หรือ?
ข้างๆเขามีเด็กคนหนึ่งที่มองไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชายอยู่ด้วย จากดวงตาและผมสีฟ้าครามแววตาที่มองไปยังเบื้องหน้าดูเยือกเย็นไร้อารมณ์ ทำให้ผู้ที่จ้องมองรู้สึกขนลุกได้อย่างไร้เหตุผล
“ บุตรแห่งดวงจันทร์ก็มาด้วย….”
ฮันซองนั่งคุกเข่าท่ามกลางสมรภูมิรบ
บุตรแห่งดวงจันทร์ หนึ่งในสี่ตัวตนเหนือธรรมชาติที่ปกครองโลก!
ขุมพลังที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อนและถูกปกคลุมด้วยความลับ
ทว่าตอนนี้เขากลับปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับราชาแห่งมังกร
นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด
มังกรจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังบินตามหลังราชามังกร และวิญญาณมากมายที่ล่องลอยตามบุตรแห่งดวงจันทร์! พวกเขาโจมตีลาอุมและลูกสมุนของมัน
“ อ๊ากกกก! เจ้าคิดว่าข้าจะพ่ายแพ้งั้นรึ!”
ลาอุมร้องเสียงหลง
ยังไงก็ตามด้วยการปรากฏของพวกเขา ผลลัพธ์บนสนามรบจึงเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
ลาอุมซึ่งอ่อนแอลงเนื่องจากเงื่อนไขการดับสูญไม่สามารถต่อสู้กับศัตรูทั้งหมดได้
กองกำลังพันธมิตรของเหล่ามนุษย์ตกตะลึงชั่วขณะ
“ นั่นอะไรน่ะ? พวกเขาเป็นพวกเดียวกับเราใช่ไหม”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ฮันซุงรีบตรงไปหาเหล่ามังกรทันที เขาเก็บอาวุธและพูดขึ้นด้วยความเคารพ
“ ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ท่านตัดสินใจมา และขอบคุณท่านเช่นกันบุตรแห่งดวงจันทร์”
ราชาแห่งมังกรไม่ตอบ ตรงกันข้ามกับบุตรแห่งดวงจันทร์ที่กำลังเปิดปากพูด
“ มูยองอยู่ไหน”
“เอ่อครับ? เขาไม่ได้อยู่ที่นี่”
“ เราต้องพบเขาโดยด่วน ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะสายเกินไปหากเขาได้พบกับโซโลมอน”
ฮันซองเอียงศีรษะ
บุตรแห่งดวงจันทร์น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ซึ้งอารมณ์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะกังวล
“ ท่านช่วยบอกเหตุผลได้ไหม”
“ เทวทูตของซาโลมอนที่ถูกบาอัลขโมยไป…. อยู่ในตัวมูยอง”
“เทวทูต…?”
เด็กนั่นหลับตาแล้วพูดต่อว่า
“ หากโซโลมอนฟื้นคืนเทวะทูตตนนั้น เขาจะได้ทุกสิ่งที่ต้องการจากนั้นโลกใบนี้จะต้องจบลง ”
* * *
โซโลมอนเอียงศีรษะ
นี่เป็นเพราะมีสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขา มันดึงดูดเสียจนเขาต้องถ่อร่างมาถึงที่นี่เพื่อค้นหาว่ามันคือสิ่งใด
“แปลกมาก”
ทั้งอามอนและเกรโมรีแทบไม่มีอะไรสามารถดึงดูดความสนใจของเขา
แต่ชายที่มีปีกผู้นั้นกลับน่าสนใจ
โซโลมอนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ดวงดาวมีการเคลื่อนไหว ดวงดาวกำลังเคลื่อนตัวโดยมีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง
‘ดาวแห่งการนำทาง’
พอมาลองย้อนคิด คิงสเลเยอร์ก็มองดูดวงดาวเช่นกัน
คิงสเลเยอร์ผู้ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ พอเห็นดวงดาวกลับทำราวกับว่าเขารู้สึกมีความหวัง
ทำไม? ทำไมเขาถึงเป็นเช่นนั้น?
‘เป็นเขา’
โซโลมอนแน่ใจ
ความหวังของคิงสเลเยอร์อยู่ที่ชายมีปีกคนนั้น
แต่มันก็น่าผิดหวัง ความแข็งแกร่งที่โซโลมอนรู้สึกได้จากชายคนนี้มันเหมือนกับเป็นแค่ราชาปีศาจระดับสูง และเขายังไม่สามารถเข้าถึงโซโลมอนได้
นอกจากนั้นโซโลมอนยังรู้สึกถึงพลังงานที่แตกต่างกันมากมาย
โซโลมอนยังไม่เคยพบใครที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายเช่นนั้น
‘น่าสงสารจริงๆคิงสเลเยอร์ ความหวังที่เจ้าเห็นและเชื่อมั่นคือชายคนนี้งั้นหรือ’
แล้วคิงสเลเยอร์จะรู้สึกอย่างไรหากความหวังนั้นสูญสิ้นไป?
โซโลมอนลองเอื้อมมือออก
ถ้าเขาใช้อำนาจที่สมบูรณ์แบบในโลกนี้ เขาจะสามารถกำจัดมูยองได้เลยทันที
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่การแทรกแซงมากเกินความจำเป็นไม่สามารถทำได้
เขามีทั้งความเป็นเทพเจ้า และถือครองดวงดาว นั่นหมายความว่าเขาได้รับการยอมรับในโลกใบนี้ ดังนั้นโซโลมอนจึงยังไม่สามารถจัดการกับเขาได้
ถึงจะส่งเดียโบลออกไปได้ แต่เขาไม่ต้องการปรากฏตัวในสนามรบนี้
นับเป็นโชคของดวงดาวแห่งการนำทาง
‘หืม?’
จากนั้นโซโลมอนก็มองเขาอีกครั้ง
เขาเกือบจะพลาดบางอย่างไปซะแล้ว แต่ไม่ว่าเขาจะมองยังไงมันก็แปลก
นั่นคือพลังแห่งความโกลาหล มนุษย์สามารถจัดการมันได้ด้วยหรือ?
นอกจากนี้การไหลเวลาของมนุษย์ผู้นี้ยังมีความแตกต่างกันมาก
“เส้นศูนย์กลางของเวลาทำงานต่างกัน”
โซโลมอนสามารถควบคุมเวลาในอดีตได้ แน่นอนมันหมายความว่าเขาสามารถรับรู้ถึง ‘ความแตกต่างของเวลา’ ได้เช่นกัน
จากนั้นดวงตาของโซโลมอนก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท นี่คือพลังที่ทำให้โซโลมอนมองเห็นวิญญาณได้
และเขาก็ค้นพบ
“ อา!”
ตัวของโซโลมอนสั่นไหวราวกับพบสิ่งสำคัญที่ห่างหาย
มันเป็นวิญญาณที่ถูกบาอัลพรากไป และเขาไม่รู้มันอยู่ที่ไหน
‘อัลพอลลิน่า ทูตสวรรค์ของข้า!’
เทวทูตที่ช่วยโซโลมอนจัดการเรื่องเวลาเธออยู่กับมูยอง
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันชัดเจนมาก
หากได้เทวทูตตนนี้กลับมาเขาก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งเดียโบลอีกต่อไป เขาสามารถทำให้โลกนี้กลายเป็นกองขี้เถ้าได้เลยในมันที
คิงสเลเยอร์
นั่นคือสิ่งที่เจ้าเห็นใช่หรือไม่?
โซโลมอนรู้สึกทึ่ง และไม่นานเขาก็ยิ้มและอ้าปาก
“ ข้าจะต้องเอามันกลับคืนมา”