ตอนที่10 ใช้หล่อนเป็นกระดานโดดน้ำ
วันรุ่งขึ้น
มู่น่อนน่อนถูกเสียงเตือนของโทรศัพท์ปลุกขึ้นมา
เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดวางที่เฉยแล้ว ตอนที่ทุกๆคนรอบตัวต่างก็ใช้สมาร์ตโฟนที่ภายนอกสวยงามแล้วยังมีคุณสมบัติครบถ้วน หล่อนยังคงใช้โทรศัพท์เก่าแก่แบบที่ใช้โทรศัพท์และส่งข้อความได้อย่างเดียว
หยิบโทรศัพท์มา มองดูผู้ติดต่อบนหน้าจอ สมองของหล่อนตื่นขึ้นมาทันที
หล่อนสตั้นชั่วครู่ แล้วรับสาย”พ่อ”
เสียงมู่ลี่เหยียนเข้มงวดเช่นเคย”เมื่อวานเธอกลับบ้าน?ใครส่งเธอกลับไป?”
คนเป็นพ่อโทรหาลูกสาวที่เพิ่งแต่งงานไป กลับถามคำถามที่ไม่สำคัญอะไรเลย มู่น่อนน่อนรู้สึกผิดหวัง
ปกติ มู่ลี่เหยียนไม่ค่อยโทรหาเธอ จู่ๆเขาก็โทรมาถามแบบนี้ อดไม่ได้ที่จะให้มู่น่อนน่อนสงสัยเจตนาของเขา
แต่เธอก็พูดตามความจริง”เป็นลูกพี่ลูกน้องของเฉินถิงเซียว”
มู่ลี่เหยียนที่อยู่ฝั่งนั้นเงียบไปชั่วครู่ แล้วพูดว่า”มีเวลา พาพี่สาวเธอไปเวียนตระกูลเฉิน มีหนุ่มที่เหมาะสมก็แนะนำให้หล่อนสักหน่อย ให้หล่อนหาเพื่อนใหม่สักสองสามคน”
ความหมายของคำที่เขาพูด มู่น่อนน่อนเข้าใจแล้ว
เมื่อวานหลังจากที่เธอออกจากบ้านพักตากอากาศแล้วเฉินเจียฉินกับมู่หวั่นขีน่าจะเจอหน้ากัน
มู่หวั่นขีมีความเป็นไปได้ที่จะชอบเฉินเจียฉินแล้ว ดังนั้นอยากให้เธอชักนำให้พวกเขา”
ลูกคิดรางแก้วที่พวกเขาสองพ่อลูกวางไว้ดีจังเลย
จริงๆแล้วคือการหมั้นที่เฉินถิงเซียวกับมู่หวั่นขีหมั้นไว้ แต่สุดท้ายกลับเป็นเธอที่แต่งกับเฉินถิงเซียว
หลังจากนั้น พวกเขาก็จะใช้หล่อนเป็นกระดานโดดน้ำ ให้มู่หวั่นขีหาผู้ชายดีเด่นในตระกูลเฉินมาเป็นสามี
ทั้งเมืองเซี่ยงไฮ้ใครไม่รู้ ตระกูลเฉินนอกจากเฉินถิงเซียว ลูกพี่ลูกน้องพวกนั้นของเขาแต่ละคนเป็นคนเก่ง โดดเด่นมากมายในตามู่น่อนน่อนมีความเยาะเย้ยตนเอง มู่หวั่นขีคือลูกสาวแท้ๆของมู่ลี่เหยียน รึว่าเธอไม่ใช่เหรอ?
ทำไมถึงลำเอียงขนาดนี้ได้?
มู่น่อนน่อนทนความน้อยใจไว้ พยายามทำให้เสียงเสียบนิ่ง”ฉันก็อยากจะพาพี่สาวไปเวียนตระกูลเฉินนะ แต่ว่า จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เห็นเฉินถิงเซียวเลย”
มู่ลี่เหยียนได้ยิน ขนาดหน้าของหล่อนเฉินถิงเซียวก็ยังไม่เจอ โมโหขึ้นมาทันที
“ขนาดสามีก็ยังไม่เจอหน้า ใช้งานแค่นี้ก็ไม่ได้ เธอยังมีหน้ากลับบ้าน!”
มู่น่อนน่อนเสียใจ กลั้นน้ำตาไว้ น้ำเสียงไม่ต่างจากปกติ”เธอเอาพี่สาวส่งไปตระกูลเฉิน
ไม่แน่เฉินถิงเซียวก็ยอมเจอหล่อนแล้ว?ฉันเป็นของปลอม เขาจะเจอฉันทำไม?”
เฉินถิงเซียวที่ออกมาจากห้องอาบน้ำได้ยินหล่อนพูดประโยคนี้พอดี
หล่อนนั่งบนเตียง ผมที่ดำสนิทปิดถึงเอว นิ้วมือที่ถือโทรศัพท์ออกแรงมากเกินไปจนเห็นเส้นเลือดสีเขียวนูนขึ้น ในดวงตาใสเต็มไปด้วยน้ำตา กลับไม่ไหลออกมาอย่างเข้มแข็ง ร่างที่อ่อนแอดูแล้วน่าสงสาร
เฉินถิงเซียวหรี่ตาดำ สังเกตเห็นว่าเจ้าสาวคนนี้ยิ่งดูยิ่งสบายตาจริงๆ
ไม่รู้ว่าโทรศัพท์ฝั่งนั้นพูดอะไรอีก สีหน้ามู่น่อนน่อนขาวซีด ไม่ได้พูดอะไรและไม่ได้วางสาย
เฉินถิงเซียวเดินไปเลย แย่งโทรศัพท์ในมือหล่อนมา วางสายซะเลย
เหอะ คาดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้ยังใช้โทรศัพท์แบบนี้อยู่อีก
หลังจากนั้น เขาก้มหน้ามองมู่น่อนน่อน น้ำเสียงเย็นชาฟังไม่อารมณ์ไม่ออก”ไม่อยากฟัง ไม่ฟังก็ได้แล้ว”
มู่น่อนน่อนรีบเงยหน้าขึ้น ในตายังเก็บน้ำตาไว้ แต่รู้สึกข้างหน้าเบลอๆ มองหน้าเขาไม่ชัดเลย
แต่ที่น่าแปลกใจ หล่อนฟังคำพูดที่เขาพูดออกมามีความปลอบใจเล็กน้อย
แต่วินาทีต่อไป หล่อนเบิกตาโตกว้าง”ฉันอยู่บนเตียงได้ไง?”
หล่อนเอาเตียงให้ผู้ชายที่บาดเจ็บ เมื่อคืนหล่อนนอนอยู่บนโซฟานะ!”
“เธอละเมอปีนขึ้นไปเอง”เฉินถิงเซียวพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ก็เดินมาข้างเตียง นอนลงข้างๆหล่อน