ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่131 ชีวิตนี้อย่าได้คิดจะหนีไปจากเงื้อมมือฉัน

บทที่131 ชีวิตนี้อย่าได้คิดจะหนีไปจากเงื้อมมือฉัน

บทที่131 ชีวิตนี้อย่าได้คิดจะหนีไปจากเงื้อมมือฉัน

สีหน้าของเฉินถิงเซียวเคร่งขรึมพอๆกับน้ำเสียง สายตาที่เขามองมู่น่อนน่อนเย็นชาจนไม่มีร่องรอยของอุณหภูมิ มีความเบื่อหน่ายที่หาได้ยากอยู่ในแววตา ราวกับอยากจะไล่ให้เธอไปไกลๆเสีย

หลังจากที่มู่น่อนน่อนได้รับสายจากกู้จือหยั่น และออกมาจากบ้านนั้น หัวใจก็เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว

ความรู้สึกกังวลและไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกนั้นโอบล้อมเธอเอาไว้ จนตอนที่ได้เห็นเฉินถิงเซียวตัวเป็นๆยืนอยู่ตรงหน้าและพูดกับเธอ เธอถึงได้โล่งใจลงมาบ้าง

“คุณคิดว่าฉันอยากเจอคุณหรือไง” มู่น่อนน่อนยิ้มเยาะ ไม่ยอมอ่อนข้อ

และแทบจะในทันที เฉินถิงเซียวก็ออกปากไล่เธอ “แล้วทำไมยังไม่ไปอีก ?”

มู่น่อนน่อนเม้มปาก ไม่พูดพร่ำอะไรอีก หันหลังเดินจากไปทันที

กู้จือหยั่นพูดว่าเฉินถิงเซียวกับเธอสนิทกันอะไรกัน สนิทกับผีสิ!

เฉินถิงเซียวเป็นราชาปีศาจที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าเธอไปติดค้างเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

มู่น่อนน่อนเดินไปถึงข้างประตู และหมุนลูกบิดประตู แต่กลับพบว่ามันไม่ยอมขยับ

เธอลองอีกหลายครั้ง แต่ประตูก็ยังไม่ขยับเหมือนเดิม

มีคนล็อกประตูจากด้านนอก!

คนที่โทรหาเธอคือกู้จือหยั่น ส่วนคนที่ปิดประตูหลังจากเธอเข้ามาแล้วก็คือกู้จือหยั่น

ส่วนเฉินถิงเซียวที่นอกจากสีหน้าย่ำแย่แล้ว ก็ดูไม่มีปัญหาอะไร เขายังจะไล่เธอไปด้วยซ้ำ

แล้วกู้จือหยั่นจะขังเธอไว้กับเฉินถิงเซียวทำไมกัน

ถึงกู้จือหยั่นจะไม่เอาไหนอย่างไร แต่อยู่ต่อหน้าเฉินถิงเซียวเขาก็ขี้ขลาดเหมือนกันกับเธอ

เธอหันกลับไปหาเฉินถิงเซียว ก็เห็นเขาหน้าบึ้งตึงนั่งอยู่ริมเตียง ใบหน้าที่ก่อนหน้านี้ยังขาวซีด ตอนนี้กลับเริ่มมีสีแดงขึ้นมาแล้ว

“กลับมาทำไมอีก ?”

น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวเย็นยะเยือก ดูเบื่อหน่ายจนถึงขีดสุด

แต่ว่า ยามที่เขามองเธอ ดวงตาคู่นั้นกลับตรงกันข้ามจากคำพูดที่แสนเย็นชาของเขา

ภายในนั้น มีทั้งการต่อสู้ อดกลั้น และความเร่าร้อน

มู่น่อนน่อนอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว เธอกำมือแน่น และพูดอย่างไม่แน่ใจว่า “คุณ……คุณถูกวางยามาหรือเปล่า ?”

ตอนที่เขาออกมาจากห้องน้ำเมื่อครู่นี้ บนตัวยังมีไอเย็นแผ่ออกมาอยู่เลย เห็นได้ชัดว่าเพิ่งอาบน้ำเย็น

ส่วนกู้จือหยั่นนั้นหลังจากที่เธอเข้ามาแล้ว ก็ล็อกประตูไว้

มู่น่อนน่อนไม่ใช่เด็กไม่เคยทานเนื้อหมูก็ต้องเคยเห็นหมูวิ่ง ไม่เคยมีความรักก็ยังเคยเขียนบทนิยาย……แน่นอนว่าก็ต้องคิดไปในแง่นั้นอยู่แล้ว

“ฉันให้โอกาสเธอครั้งสุดท้าย ออกไปเดี๋ยวนี้”

เฉินถิงเซียวไม่ได้ตอบคำถามเธอตรงๆ และก็ไม่ได้ปฏิเสธ นั่นก็แสดงว่า มู่น่อนน่อนเดาถูกแล้ว

สมองของมู่น่อนน่อนสับสนไปหมด เธอไม่น่าเชื่อคำพูดบ้าบอของกู้จือหยั่นมาตั้งแต่แรกแล้ว

คนที่ไม่ได้เรื่องก็มักจะทำแต่สิ่งที่ไม่ได้เรื่อง!

มู่น่อนน่อนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ประตูถูกปิดตายแล้ว”

เฉินถิงเซียวเองก็ดูเหมือนจะอึ้งไป คิดเพียงเล็กน้อย เขาก็รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของกู้จือหยั่น

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหากู้จือหยั่น แต่กู้จือหยั่นที่ทำเรื่องแบบนี้ลงไปก็แน่นอนว่าต้องไม่มีทางรับสายเขาอยู่แล้ว

ดังนั้นโทรศัพท์ที่โทรออกไปจึงไม่ติด เสียงสัญญาณอัตโนมัติดังขึ้น “ขออภัยค่ะ สายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”

ปัง!

เฉินถิงเซียวโยนโทรศัพท์ทิ้งในทันที เห็นได้ชัดว่าโมโหมาก

มู่น่อนน่อนยื่นมือไปจับโทรศัพท์ของตัวเอง แต่กลับพบว่าในกระเป๋านั้นว่างเปล่า เธอคงลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านไม่ได้พกออกมาด้วย

“ฉัน……ฉันไปข้างนอกแล้วกัน……”

ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่หอ้งเดียวกัน ยิ่งในสถานการณ์แบบเฉินถิงเซียวแล้ว

เธอพูดจบ ก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว

เธอนั่งอยู่บนโซฟา ทุกนาทีและวินาทีผ่านไปอย่างทุกข์ทรมาน

ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆดังออกมาจากในห้องนอน จนมู่น่อนน่อนอดนึกสงสัยในใจไม่ได้ เดินไปผลักประตูออกอย่างเงียบเชียบ แต่กลับได้ยินเสียงน้ำไหล ดังออกมาจากห้องน้ำ

เฉินถิงเซียวเข้าไปอาบน้ำเย็นอีกแล้วหรือ ?

ที่จริงเขาสามารถหาผู้หญิงที่ไหนก็ได้มาเพื่อปลดปล่อย……

แต่เขากลับไม่ทำ

ก่อนหน้านี้สายตาที่เขามองเธอราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งเป็น เธอเขาก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรเธอเลย เขายอมไปอาบเย็นเสียดีกว่า ที่จะยอมแตะต้องเธอ

คนฉลาดอย่างเฉินถิงเซียว ต้องดูออกอยู่แล้วว่าเธอไม่เต็มใจ ดังนั้นจึงไม่ได้ฝืนขืนใจเธอ

จู่ๆมู่น่อนน่อนก็คิดถึงประโยคนั้นตอนอยู่ในห้องหนังสือขึ้นมา “บางครั้งฉันก็คิด ว่ารักก็เป็นแค่ความโปรดปรานเล็กๆ ฉันคิดว่าฉันจะสามารถอยู่คนเดียวได้ตลอดชีวิต แต่ฉันก็ยังถูกชักจูงจนได้

แน่นอนว่าเฉินถิงเซียวเคยหลอกเธอ เขาเองก็มีเล่ห์เหลี่ยม มืดมนและแข็งกร้าว อยากควบคุมทุกอย่าง

แต่ว่า สิ่งเหล่านั้นก็ไม่สามารถลบสิ่งดีๆที่เขามีต่อเธอได้

ผู้หญิงมักจะถูกชักจูงได้อย่างง่ายดาย

เธอเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

มู่น่อนน่อนยกมือขึ้นมา ลังเลอยู่ครึ่งนาทีเต็มๆ จากนั้นก็รวบรวมความกล้าผลักประตูห้องน้ำแล้วเดินเข้าไป

ภายในห้องน้ำไม่ได้เปิดไฟ แต่ก็มีแสงไฟจากห้องนอนส่องเข้าไป เธอเห็นเงาของเฉินถิงเซียวได้อย่างชัดเจน

เขายืนหันหลังให้เธออยู่ใต้ฝักบัว ไม่ขยับเขยื้อน ราวกับร่างกายแข็งทื่อไปแล้ว

ครู่ใหญ่ เสียงแหบพร่าของเขาก็ดังขึ้น “มู่น่อนน่อน เธอกำลังจะทำอะไร ?”

“คุณคิดว่าในฐานะภรรยาของคุณ เดินเข้ามาในเวลาแบบนี้ ต้องการทำอะไรล่ะ ?”

มู่น่อนน่อนเดินไปทางเขาช้าๆ น้ำเสียงนุ่มนวลดังก้องอยู่ในห้องน้ำ ทำให้เผลอคิดไปไกลได้อย่างง่ายดาย

เธอเดินไปถึงด้านหลังของเฉินถิงเซียว น้ำจากฝักบัวกระเซ็นมาถึงตัวเธอ ทำเอาเธอสั่นสะท้าน

เฉินถิงเซียวราวกับฟื้นคืนสติในทันใด เลยปิดฝักบัว ดึงผ้าคลุมอาบน้ำมาคลุมตัวเธอ แล้วดึงมู่น่อนน่อนให้ออกมาด้านนอก

มู่น่อนน่อนเดินตามเขาออกไปด้วยใจเต้นระรัว

แต่ว่า……เขากลับผลักเธอออกไปนอกห้องนอน

มู่น่อนน่อนมองเขาอย่างตื่นตกใจ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเฉินถิงเซียวจะไม่แยแสได้ขนาดนี้

ก่อนหน้านี้เขายังอยากจะมีอะไรกับเธอขนาดนั้นแท้ๆ……

มู่น่อนน่อนกัดริมฝีปาก ยื่นมือออกไปกอดเขาเอาไว้ “เฉินถิงเซียว คุณจะไล่ฉันไปจริงๆเหรอ ?”

เธอรู้สึกได้ว่าร่างกายของชายหนุ่มกระตุกเล็กน้อยแล้วเริ่มเกร็งขึ้นมา ทั้งสองแนบชิดกันมาก เธอยังรู้สึกได้อีกว่าตรงส่วนนั้นของเขาเกิดปฏิกิริยาขึ้นมา

เขายังคงไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ไม่ได้ผลักเธอออก

มู่น่อนน่อนค่อนข้างสูญเสีย กัดริมฝีปาก จากนั้นก็จูบที่ซอกคอเขาเบาๆทีหนึ่ง “ประเคนให้ถึงที่แล้ว ก็ยังไม่เอาเหรอ ?”

พอเธอจูบเสร็จก็ถอยออกมา แต่กลับถูกเฉินถิงเซียวเป็นฝ่ายดึงเอวเธอเข้ามากอดทันที วินาทีต่อมา ริมฝีปากของเขาก็เบียดลงมา นำพาความเร่าร้อนมาด้วย เรากับจะกลืนเธอเข้าไปทั้งเป็น จูบอย่างรีบร้อนและหนักหน่วง

จูบไปจูบมา ทั้งสองคนก็ล้มลงไปบนเตียงพร้อมๆกัน

มู่น่อนน่อนถูกเขาจูบจนเคลิบเคลิ้ม แต่ในเวลานั้นเองเฉินถิงเซียวกลับยืนขึ้นมามองเธอ “มู่น่อนน่อน มองดูฉัน”

“อืม ?” มู่น่อนน่อนเงยหน้าที่แดงระเรื่อขึ้นมามองเขา ดวงตาแมวที่งดงามนั้นชุ่มชื้นพราวเสน่ห์

“จำคำที่ฉันเคยพูดได้ไหม ? ถ้าประทับตราของฉันเฉินถิงเซียวคนนี้แล้ว ทั้งชีวิตนี้ก็อย่าได้คิดจะหนีไปจากเงื้อมมือฉันได้อีกเลย”

บนหน้าผากของเฉินถิงเซียวมีเส้นเลือดปูดขึ้น ดวงตาแดงฉาน ทั่วทั้งร่างแข็งตึงราวกับสายสตริง ขณะพูดคำเหล่านั้นออกมา น้ำเสียงกลับดูสงบนิ่งมาก

มู่น่อนน่อนกะพริบตาปริบๆ แล้วพูดอย่างนุ่มนวลว่า “ไม่ใช่ว่าหนีไม่รอดอยู่แล้ว……” หรือ ?

คำพูดสุดท้ายที่ไม่ทันได้พูดนั้น ถูกจูบของเฉินถิงเซียวกลืนหายไปทันที

ความอดทนและการควบคุมตนเองทั้งหมดพังทลายลงหมดแล้วในขณะนี้ เฉินถิงเซียวถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของเธอออกอย่างรวดเร็ว แล้วไล่จากซอกคอของเธอต่ำลงไปเรื่อยๆ ระดมจูบอย่างอดทนและอดกลั้น

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท