ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 142 จ้างวานฆ่า

บทที่ 142 จ้างวานฆ่า

บทที่ 142 จ้างวานฆ่า

ตลอดทั้งวัน มู่น่อนน่อนไม่ได้พบกับมู่ลี่เหยียนที่ในบริษัทเลย

มู่น่อนน่อนถามเพื่อนร่วมงานที่ค่อนข้างสนิทสนมกับตนคนหนึ่งว่า“วันนี้ท่านประธานไม่ได้มาบริษัทเหรอ”

เพื่อนร่วมงานมองไปรอบๆ พูดอย่างลับๆล่อๆว่า“ได้ยินว่าท่านประธานเดินทางไปต่างประเทศแล้ว”

มู่น่อนน่อนได้ยินดังนั้น สีหน้านิ่งขรึม ช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ มู่ลี่เหยียนจู่ๆก็ไปต่างประเทศทำอะไรกัน

ทันใดนั้น เธอก็นึกถึงคำพูดที่เธอพูดกับมู่ลี่เหยียนเมื่อก่อนนี้

หรือว่า มู่ลี่เหยียนจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเชิญคุณปู่มู่กลับมา

คำพูดเหล่านั้นที่เธอพูดกับมู่ลี่เหยียน ถือได้ว่าเป็นการตัดเยื่อใยเด็ดขาด

แม้ในทางธุรกิจมู่ลี่เหยียนอาจจะไม่ได้เก่งอะไร แต่ถ้ามันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ เขาก็ยังจัดการได้อย่างเด็ดขาดชัดเจน

มู่น่อนน่อนคิดถึงเรื่องแม่ของเฉินถิงเซียวจนตกอยู่ในภวังค์

คดีลักพาตัวในตอนนั้น สุดท้ายถูกกำหนดให้เป็นการลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ แต่ในที่สุดเพราะสร้างความโกรธแค้นให้โจรลักพาตัว ดังนั้นจึงนำไปสู่การฆ่าตัวประกัน

แต่ว่า แม่ของเฉินถิงเซียวไม่ได้ถูกฆ่าตายธรรมดา แต่ถูกคนพวกนั้นข่มขืนจนตาย

ถ้าหากพวกมันต้องการแค่เงิน ตระกูลเฉินหากอยากจะช่วยแม่ของเฉินถิงเซียวจริง เช่นนั้นก็คงไม่ทำให้เรื่องบานปลายจนถึงขั้นนั้น

อย่างนั้น เรื่องนี้มีความเป็นไปได้สองอย่าง

หนึ่ง จุดประสงค์ของคนพวกนั้นตอนแรกอาจจะต้องการทำให้แม่ของเฉินถิงเซียวตาย

สอง มีคนในตระกูลเฉินไม่อยากช่วยแม่ของเฉินถิงเซียว ก็คืออยากให้เธอตาย!

ตอนนั้นคดีลักพาตัวนั้นเป็นที่โจษจันอย่างมาก บนหน้าหนังสือพิมพ์เขียนว่าต้องใช้เวลาค้นหาหลายวันจึงตามหาเฉินถิงเซียวและแม่ของเขาพบ แต่ถ้าโจรลักพาตัวแค่อยากได้เงิน ก็ควรเป็นฝ่ายติดต่อพวกเขาก่อน ไม่ใช่ว่าต้องใช้เวลาหลายวันจึงจะหาเจอ

รายละเอียดทั้งหมดและผลการพิจารณาคดี แทบไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้เลย

ปัญหาที่เธอนึกออก คนอื่นก็ต้องคิดออกได้แน่ เฉินถิงเซียวยิ่งต้องคิดได้

เวลาส่วนใหญ่ คนเราเจอเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง ต่อให้มีความเคลือบแคลงสงสัยและไม่เข้าใจก็แค่คิดๆแล้วก็ลืมไป ในเมื่อเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนเอง

แต่เฉินถิงเซียวไม่เหมือนกัน นั่นคือแม่แท้ๆของเขา อยู่ตรงหน้าเขา ถูกพวกผู้ชายกลุ่มหนึ่งข่มเหง……

เขาในช่วงหลายปีมานี้ ต้องมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความเคียดแค้นและโทษตัวเอง

ดังนั้น บนตัวของเขาจึงมีลมหายใจที่สิ้นหวังหดหู่

ดังนั้น เขาจึงไม่ยอมเปิดเผยใบหน้าต่อหน้าคนอื่น

ดังนั้น ครั้งนั้นที่เธอถูกผู้ชายสองคนนั้นจับตัวไปเรียกค่าไถ่ เฉินถิงเซียวไปช่วยเธอจึงได้ลงมืออย่างโหดเหี้ยมรุนแรงขนาดนั้น

เขาบีบให้คุณปู่มู่กลับประเทศมาตลอด อาจจะเป็นการพิสูจน์ได้ว่า คุณปู่มู่กับคดีลักพาตัวเรียกค่าไถ่ตอนนั้นมีความเกี่ยวข้องกัน

“แผละ!”

มู่น่อนน่อนตกใจจนเอกสารในมือตกลงที่พื้น จึงตั้งสติกลับมาได้

ดูเหมือนว่าเธอรู้แล้วว่าสิ่งที่เฉินถิงเซียวคิดจะทำคืออะไร

……

ตอนเที่ยง มู่น่อนน่อนโทรศัพท์หาเฉินถิงเซียว นัดเขามากินข้าวเที่ยงด้วยกัน

เฉินถิงเซียวกลับบอกปัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

กลายเป็นเฉินเจียฉินส่งข้อความหาเธอ“พี่น่อนน่อน กลางวันพี่กินอะไร”

“ยังไม่ได้กิน นายล่ะ”

เฉินเจียฉินส่งอีโมจิ“น่าเอ็นดู”มาให้เธอ“บังเอิญจัง ผมก็ยังไม่ได้กิน”

มู่น่อนน่อนกลั้นหัวเราะ แน่นอนว่าเธอดูออกว่าเจ้าตัวแสบนี่หมายความว่าอะไร

“ฉันไปหาร้านอาหารแล้วสั่งอาหารเอาไว้ รอนายนั่งรถมาก็พอดีกินได้เลย อีกเดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ไปให้นายนะ”

อาหารที่มู่น่อนน่อนสั่งเสร็จไปไม่นาน เฉินเจียฉินก็มาแล้ว

เขานั่งลงด้วยรอยยิ้มร่า หยิบตะเกียบขึ้นมากินไปหนึ่งคำ ก็ขมวดคิ้วพูดว่า“ไม่อร่อยเหมือนที่พี่น่อนน่อนทำ”

มู่น่อนน่อนถลึงตาใส่เขา“อย่ามาประจบหน่อยเลย”

ทั้งสองคนกินเสร็จแล้วก็ออกจากร้านด้วยกัน ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเฉินเจียฉินก็ส่งเสียงดังขึ้นมา

เขาหยุดฝีเท้าลง มองดูชื่อบนโทรศัพท์มือถือค่อยๆชะงัก“เถาปิง?”

“ผู้ชายคนที่เธอชกไปเมื่อวานนะเหรอ”มู่น่อนน่อนหันไปมองแวบหนึ่ง พอจะคุ้นกับชื่อนี้อยู่บ้างเล็กน้อย

เฉินเจียฉินพยักหน้า“ใช่ ไม่รู้ว่าจู่ๆเขาจะโทรมาหาผมทำอะไร!”

พอเขารับสาย ปลายสายก็คือเสียงต่อว่าด่าทออย่างถึงอกถึงใจของเถาปิง“เฉินเจียฉิน!เป็นแกรึเปล่าที่หาคนไปฆ่าพ่อของกู!”

“เถาปิงก็บ้าไปแล้วเหรอ!เมื่อวานฉันก็ไม่ได้ตีหัวนาย สมองนายเพี้ยนไปแล้วเหรอ” เฉินเจียฉินพอได้ยินน้ำเสียงแบบนั้นของเถาปิง น้ำเสียงเขาก็ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่

“ฉันจะทำให้เอาชีวิตมาแลกกับพ่อของฉัน!”เถาปิงพูดประโยคนี้จบ ก็“ติ๊ด”เสียงตัดสายโทรศัพท์

มู่น่อนน่อนก็ได้ยินเสียงของเถาปิง“เขาบอกว่าผมฆ่าพ่อของเขา”

“นี่ไม่ใช่คนบ้าเหรอ ผมกับพ่อเขามีความแค้นอะไรถึงต้องฆ่าพ่อเขา”เฉินเจียฉินเห็นชัดว่าไม่ได้เก็บเอาเรื่องนี้มาใส่ใจเลย

แต่ว่าทั้งสองคนยังเดินไปได้ไม่ไกล ด้านหน้าก็มีผู้ชายสองคนเดินมา

ผู้ชายทั้งสองรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาดุดัน

ตามสัญชาตญาณ มู่น่อนน่อนคิดว่าสองคนนี้อาจจะเป็น——ตำรวจ

เธอขวางหน้าเฉินเจียฉินเอาไว้โดยไม่พูดจาอะไร

เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด หลังจากที่ทั้งสองเดินเข้ามาใกล้ ก็หยิบบัตรแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมา“สวัสดีครับ พวกเราเป็นตำรวจกองอาชญากรรม พวกเราสงสัยว่าเฉินเจียฉินมีความเกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรม ขอความร่วมมือในการสืบสวนด้วยนะครับ”

สายตาของพวกเขาจ้องเขม็งไปที่เฉินเจียฉินตลอดเวลา

มู่น่อนน่อนได้ยินดังนั้น ก็หันไปมองเฉินเจียฉิน

เฉินเจียฉินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ

มู่น่อนน่อนกุมมือเขาเอาไว้“เขายังไม่บรรลุนิติภาวะ ยังเป็นเยาวชน จำเป็นต้องมีผู้ปกครองติดตามไปด้วยนะคะ”

หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจพูดว่า“ใช่เป็นแบบนี้ครับ”

……

มู่น่อนน่อนไปสถานีตำรวจเป็นเพื่อนเฉินเจียฉิน

ระหว่างทางเธอโทรหาเฉินถิงเซียว เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง

รอจนตอนนี้พวกเขามาถึงสถานีตำรวจ มู่น่อนน่อนก็มองเห็นสือเย่และกู้จือหยั่นอยู่ที่ประตูสถานีตำรวจแล้ว

กู้จือหยั่นพอเห็นพวกเขาลงมา ก็เดินไปด้วยความเกียจคร้าน“ตำรวจฉีไม่พบกันนานเลยนะครับ นับวันจะยิ่งมีความแมนขึ้นทุกทีนะครับ”

ตำรวจฉีก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจคนที่พูดกับพวกเขาก่อนหน้านี้คนนั้น อาจจะด้วยสาเหตุเพราะอายุที่มากขึ้นและทำงานกับอาชญากรมานาน ใบหน้าของเขาดูไปแล้วมีความเหี้ยมโหดดุร้าย และยังมีความชั่วร้ายแอบแฝงอยู่

เขามองเห็นกู้จือหยั่น กลับหัวเราะออกมา“จือหยั่นเหรอ คุณมาทำอะไร”

ที่แท้กู้จือหยั่นกับตำรวจฉีคนนี้ก็รู้จักกัน

กู้จือหยั่นก้าวมาด้านหน้า โอบหัวไหล่ขอตำรวจฉีอย่างสนิทกัน เชยคางขึ้นชี้ไปทางเฉินเจียฉิน“เด็กคนนั้น เป็นญาติห่างๆของผมเอง”

ตำรวจฉีหัวเราะออกมา“คุณเป็นญาติห่างๆกับตระกูลเฉินเหรอ”

แน่นอนว่าเขาไม่สามารถตบตาตำรวจได้

“คุณเอาประวัติเขาไปตรวจสอบอย่างละเอียดเร็วขนาดนี้แล้ว ก็คงมีแต่คุณที่กล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ รู้ว่าเป็นคนตระกูลเฉิน ก็ยังกล้าไปยุ่งกับเขา”

ตำรวจฉียิ้ม“ต่อให้เขาเป็นคนยิ่งใหญ่สูงส่งมาจากไหน แต่หากทำความผิดจริง ผมก็จับทั้งนั้น”

“อ๋อ อย่างนี้นี่เองเหรอ”กู้จือหยั่นส่งสายตาให้มู่น่อนน่อนวางใจ จากนั้นจึงพูดกับตำรวจฉีต่ออีกว่า“คุณก็คิดเสียว่าผมเป็นผู้ปกครองของเด็กคนนั้นแล้วกัน อีกเดี๋ยวผมอยากจะลองฟังด้วย”

“ไม่มีกฏข้อนี้”

“พี่ฉี”

“เอาเถอะ!”

……

ในห้องสอบปากคำ สีหน้าของตำรวจฉีจ้องไปที่เฉินเจียฉินอย่างดุดัน

“เถาปิงเป็นเพื่อนร่วมชั้นของคุณเหรอ”

“ครับ”

“พ่อของเขาถูกฆ่าตายตอนหกโมงเช้าวันนี้ ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีความแค้นกับใคร และคุณกับเถาปิงเคยมีเรื่องบาดหมางกัน พวกเราสงสัยว่าคุณจ้างวานฆ่า”

เฉินเจียฉินนึกถึงโทรศัพท์สายนั้นที่รับก่อนหน้านี้“พ่อของเถาปิงเหรอ”

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท