ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 251 คุณยืนยันได้ไหมว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ

บทที่ 251 คุณยืนยันได้ไหมว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ

เสียงของคนรับใช้ทำให้คนอื่นกรูกันเข้ามา

มู่น่อนน่อนตกตะลึงมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า จ้องมองทุกคนที่ล้อมรอบอยู่ข้างกายคุณท่านเฉิน จากนั้นมู่น่อนน่อนถึงได้ยกเท้าวิ่งลงมาด้านล่าง

เฉินเหลียนเองก็เดินตามเสียงเข้ามา : “พ่อ! พ่อเป็นอะไรคะ พ่อ”

เธอวิ่งลงมาตามบันไดได้เพียงสองขั้น ก็เห็นเฉินถิงเซียวกับเฉินชิงเฟิงเดินมุ่งมาทางนี้อย่างรีบร้อน

เฉินถิงเซียวเงยหน้ามองมาทางเธอแวบหนึ่ง ราวกับมีกระแสจิตก็ไม่ปาน

เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็มองเธอเพียงเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร

แววตานี้ช่างเย็นชามาก

มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป คุกเข่านั่งลงกับพื้นแล้วตะโกนเรียก : “คุณปู่”

คุณท่านเฉินตกลงมาจากบันไดที่สูงขนาดนั้น เลือดไหลออกมามากมาย บวกกับที่อายุมาก จึงไม่มีใครกล้าที่จะแตะต้องตัวเขา

คุณท่านเฉินหมดสติ ไม่มีการตอบสนองใด ๆ

ไม่ช้าแพทย์ประจำตระกูลก็มาถึง จัดการกับคุณท่านเฉินอยู่ครู่หนึ่ง ก็นำขึ้นรถส่งไปยังโรงพยาบาล

ทุกคนได้ตามไปที่โรงพยาบาลด้วย

ก่อนไป เฉินชิงเฟิงหันมามองคนรับใช้คนแรกที่เป็นคนพบคุณท่านเฉินตกลงมา :“พวกเธอก็ตามมาด้วย”

โชคดีที่มีโรงพยาบาลเอกชนสังกัดบริษัทเฉินซื่อ สามารถทำการผ่าตัดให้กับคุณท่านเฉินได้ในทันที

“วินิจฉัยเบื้องต้นคือมีอาการเลือดออกในสมอง มีการแตกหักของกระดูกหลายจุดในร่างกาย สถานการณ์ไม่สู้ดี ตอนนี้ต้องรีบทำการผ่าตัดด่วน”

คำพูดของแพทย์ทำให้ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนฉับพลัน บรรยากาศหยุดนิ่ง

ประตูห้องผ่าตัดถูกปิดลง ทุกคนต่างรออยู่ด้านนนอก

มู่น่อนน่อนมองเฉินถิงเซียวที่อยู่ข้างๆแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าที่เยือกเย็นของเขา เธอจึงเอื้อมมือออกไปกุมมือของเขา

แต่เฉินถิงเซียวกลับไม่ได้กุมมือเธอกลับเหมือนอย่างทุกครั้ง และก็ไม่ได้หันมามองเธอ

เวลานี้ ระเบียงทางเดินที่เงียบสงัดมีเสียงของเฉินชิงเฟิงดังขึ้น

“ใครเป็นคนแรกที่พบคุณท่านเฉิน” มีความเคร่งขรึมในน้ำเสียงของเขา

มู่น่อนน่อนได้ยินเสียงจึงหันไป

“ดิฉันค่ะ” เป็นเสียงตอบของคนรับใช้คนหนึ่งที่ได้ตามมาด้วย

คนรับใช้คนนั้นดูเหมือนว่าจะกลัวเฉินชิงเฟิงโยนความผิดเรื่องนี้มาให้เธอ สีหน้าของเธอจึงดูแย่มาก น้ำเสียงก็ซ่อนด้วยความตื่นตระหนกกลัว

ดูเหมือนว่าเธอนึกอะไรบางอย่างขึ้น จึงยื่นมือชี้ไปที่มู่น่อนน่อน : “ดิฉันได้ยินเสียงของคุณหญิงน้อยจึงได้เข้าไป ตอนที่ไปถึงก็เห็นคุณท่านนั้นตกลงมาแล้วค่ะ……”

เฉินชิงเฟิงได้ยินดังนั้นจึงหันหน้าไปทางมู่น่อนน่อน : “น่อนน่อน ไหนเธอบอกมาสิว่าเกิดอะไรขึ้น”

เมื่อคำพูดของเขาออกมาจากปาก ทุกสายตาต่างหันมองมาทางมู่น่อนน่อน

มู่น่อนน่อนเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีข้างในจิตใจ

พวกเขาคิดว่าเธอเป็นคนผลักคุณท่านเฉินตกลงมาจากบันไดเหรอ

มู่น่อนน่อนทำจิตใจให้นิ่งแล้วกล่าว : “ก่อนหน้านี้มีคนรับใช้มาเรียกหนู บอกว่าคุณปู่เรียกให้ไปหา เมื่อหนูไปถึงก็พบว่าในห้องไม่มีคน หนูได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่หน้าบันได เมื่อเดินเข้าไป คุณปู่ท่านก็……ตกลงไปแล้ว”

เฉินชิงเฟิงได้ยินดังนั้น จึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม : “เป็นคนรับใช้คนไหนที่มาเรียก”

มู่น่อนน่อนส่ายหน้า : “หนูไม่รู้ค่ะ ตอนนั้นคนรับใช้คนนั้นเรียกหนูจากนอกห้อง”

เฉินชิงเฟิงได้ยินดังนั้นจึงขมวดคิ้วขึ้น มองมู่น่อนน่อนแล้วเตรียมจะพูดอะไรบางอย่าง เฉินถิงเซียวที่อยู่ข้างๆจึงได้เดินมาบังอยู่ตรงด้านหน้าของมู่น่อนน่อน แล้วกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชา : “นี่คุณพ่อสงสัยว่ามู่น่อนน่อนเป็นคนผลักคุณปู่เหรอ”

เฉินชิงเฟิงเงยหน้าจ้องตากับเฉินถิงเซียว : “เกิดเรื่องที่บ้านกับคุณปู่แน่นอนว่าจะต้องทำการสอบถามคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด”

เฉินถิงเซียวยิ้มเยาะอย่างไม่พอใจ : “ทุกคนต่างก็ดูออกว่าคุณปู่นั้นชอบมู่น่อนน่อนมาก แล้วเธอจะมีเหตุผลอะไรที่ไปทำแบบนี้กับคุณปู่”

“แน่นอนว่าเธอย่อมมีเหตุผลที่จะทำแบบนี้!”

เสียงเฉินอินหย่าดังขึ้นในบัดดล

ทุกคนหันไปมอง ก็เห็นเฉินอินหย่ากับซือเฉิงหยู้และพรรคพวกเดินเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว

พวกเขาเพิ่งจะรู้ข่าวทีหลังว่าคุณปู่ตกลงมาจากบันได จึงได้รีบเร่งเดินทางมา

เฉินชิงเฟิงดุว่าเฉินอินหย่าด้วยน้ำเสียงรุนแรง : “อินหย่า รู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไร”

“แน่นอน ฉันรู้ตัวดีว่ากำลังพูดอะไรอยู่!”

เฉินอินหย่าพลางพูดพลางหันหน้าไปมองทางมู่น่อนน่อน ยกริมฝีปากยิ้มขึ้นอย่างดูแคลน : “มู่น่อนน่อน เธอเคียดแค้นเรื่องที่คุณปู่ส่งผู้หญิงไปที่คฤหาสน์ของพี่สาม ดังนั้นจึงได้ลงมือกับคุณปู่อย่างโหดร้าย ถูกไหม”

มู่น่อนน่อนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย มองเฉินอินหย่าอย่างไม่เชื่อสายตา : “ฉันเปล่า”

“เปล่าเหรอ” ยิ้มมุมปากเฉินอินหย่าลึกมากยิ่งขึ้น: “สองวันมานี้ ในตระกูลเฉินก็เธอคนเดียวที่แซ่อื่น นอกจากเธอแล้วยังจะมีใครได้อีก ยังมีใครที่จะใจร้ายพอลงมือกับคนแก่ได้อีก เธอบอกเธอเปล่า พี่สามเชื่อเธอไหม”

มู่น่อนน่อนได้ยินดังนั้น หัวใจบีบรัดแน่น

ตามความรู้สึก เธอรู้สึกว่าเฉินถิงเซียวนั้นต้องเชื่อเธอ

แต่ว่านั่นก็เป็นเพียงความรู้สึกเท่านั้น

เธอจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเฉินถิงเซียว

เฉินถิงเซียวค่อยๆดึงมือตัวเองออกจากมือของเธอ ดวงตาดำดุจหมึกจ้องมองเธออย่างเคร่งขรึม : “คุณเคียดแค้นคุณปู่ด้วยเรื่องนั้นจริงเหรอ”

สมองของมู่น่อนน่อนดัง“ตุ้บ”ขึ้น

นี่เฉินถิงเซียวกำลังสงสัยเธอใช่ไหม

เขาไม่เพียงแต่ไม่พูดตรง ๆ ว่าเชื่อเธอ กลับยังตั้งคำถามสงสัยเช่นนี้กับเธอ

มู่น่อนน่อนรู้สึกมีความเย็นวาบผ่านเข้ามาจากฝ่าเท้า จากนั้นกระจายไปทั่วแขนขาของเธอ

เธอยังคงส่ายหน้าปฏิเสธเหมือนก่อนหน้านี้ : “ฉันเปล่า”

เฉินถิงเซียวมองเธอเพียงครู่เดียวแล้วก็เบนสายตาไป จากนั้นถามต่อขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “คุณยืนยันได้ไหมว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ตอนนั้นข้างกายคุณยังมีคนอื่นอยู่หรือเปล่า”

มู่น่อนน่อนถอยหลังออกไปครึ่งก้าว มองเฉินถิงเซียวด้วยแววตาไม่คุ้นเคย : “เฉินถิงเซียว คุณหมายความว่าอย่างไร ตอนนี้คุณเชื่อว่าฉันคือคนต้องสงสัยที่ทำร้ายคุณปู่ ดังนั้นจึงเริ่มสอบปากคำฉันแล้วใช่ไหม”

ในน้ำเสียงของเฉินถิงเซียวฟังไม่ออกถึงอารมณ์ใด ๆ : “ตอบคำถามผมมา”

เสียงคำสุดท้ายของเขายังไม่ทันจาง มู่น่อนน่อนก็ตะโกนขึ้น : “ฉันไม่ตอบ!”

“ฉันไม่ได้ทำร้ายคุณปู่ ทำไมฉันจะต้องยอมรับการสอบปากคำจากคุณ!”

ถ้าหากเวลานี้คนที่ถามคำถามเหล่านีคือเฉินชิงเฟิง มู่น่อนน่อนก็คงจะไม่ต่อต้านขนาดนี้

เธอคิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาแรกของเฉินถิงเซียวคือการสงสัยเธอ

เฉินชิงเฟิงได้ยืนออกมา เขาตบเข้าที่ไหล่ของเฉินถิงเซียว : “มีอะไรค่อยๆพูด น่อนน่อนยังตั้งท้องอยู่ ตอนนี้คุณปู่ยังอยู่ในห้องผ่าตัด เรื่องราวยังไม่มีข้อสรุป ทุกคนต่างก็น่าสงสัยทั้งนั้น แต่ว่าน่อนน่อนเป็นเมียแก แกไม่ควรจะสงสัยเธออย่างนี้”

คำพูดของเฉินชิงเฟิง ฟังแล้วเหมือนจะมีเหตุผล แต่เมื่อทบทวนสองรอบก็รู้สึกผิดปกติ

เมื่อสักครู่ เห็นได้ชัดว่าเฉินชิงเฟิงเป็นคนแรกที่ถามว่าใครเป็นคนแรกที่เจอคุณปู่ ตอนนี้กลับมาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย บอกว่าเรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุป……

เฉินอินหย่าได้ยินคำพูดของเฉินชิงเฟิง ใบหน้าจึงบังเกิดความไม่พอใจ : “คุณลุงคะ เรื่องของคุณปู่นี้จะต้องหนีไม่พ้นผู้หญิงคนนี้อย่างแน่นอน!”

“อินหย่า อย่าโวยวาย คุณปู่ยังอยู่ในห้องผ่าตัด รอท่านทำการผ่าตัดเสร็จแล้ว พวกเราค่อยมาจัดการเรื่องนี้ แต่……”

เฉินชิงเฟิงพูดมาถึงตรงนี้ก็หยุดชะงักขึ้น กวาดสายตาไปยังผู้คนที่อยู่ตรงนี้ สุดท้ายไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าของมู่น่อนน่อน : “ ห้ามทุกคนออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผม”

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท