สีหน้าของเฉินจิ่งหยุ้นเปลี่ยนขึ้นกะทันหัน และร้องเรียกด้วยความตกใจ:“พ่อ พ่อจริง ๆ เหรอคะ” เธอพูดจบก็เงยหน้าขึ้นมองเฉินถิงเซียว:“ถิงเซียว พ่อโทรมา”
“เหรอ” เฉินถิงเซียวเดินเข้ามา นั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงหน้าเธอ
เฉินจิ่งหยุ้นคิดว่าเฉินถิงเซียวอยากฟังเสียงสนทนาของเฉินชิงเฟิง จึงเปิดลำโพงขึ้น
เสียงของเฉินชิงเฟิงดังลอยมาจากโทรศัพท์ น้ำเสียงลนลาน:“จิ่งหยุ้น พ่อถูกลักพาตัว พวกเขาต้องการสามร้อยล้าน พวกเขาได้สามร้อยล้านพ่อก็จะถูกปล่อยตัว……ลูกช่วยพ่อรวบรวมเงิน……”
เฉินชิงเฟิงพูดยังไม่ทันจบ โทรศัพท์ก็ถูกคนแย่งไป น้ำเสียงคนที่แย่งมาพูดนั้นแปลกและแหบแห้ง เห็นได้ชัดว่าโจรลักพาตัวนั้นได้ใช้เครื่องดัดเสียง:“ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง หากไม่เห็นสามร้อยล้าน ก็รอมาเก็บศพเขาได้เลย! จำไว้ ห้ามแจ้งความเด็ดขาด”
เฉินจิ่งหยุ้นรีบกล่าวขึ้นทันใด:“ได้ๆ สามร้อยล้าน ฉันรู้แล้ว ฉันจะรีบหาสามร้อยล้านมาให้ได้ คุณอย่า……ตู๊ด ๆ ๆ”
เธอยังไม่ทันพูดจบ โทรศัพท์ก็ถูกวางสายไปแล้ว
“คุณพ่อถูกลักพาตัวไปจริงเหรอ ถ้าหากพี่ไม่ใช่บังเอิญกลับมา ไม่ใช่บังเอิญรับสายโทรศัพท์จากโจรลักพา นายไม่คิดที่จะบอกกับพี่ใช่ไหม และก็ไม่คิดที่จะไปช่วยคุณพ่อด้วยใช่ไหม”
น้ำเสียงของเฉินจิ่งหยุ้นเดือดดาล :“เฉินถิงเซียว ทำไมนายถึงเลือดเย็นอย่างนี้ ไม่ว่านายกับพ่อจะมีความแค้นกันมากแค่ไหน ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพ่อบังเกิดเกล้าของพวกเรานะ!”
สำหรับคำตำหนิติโทษของเฉินจิ่งหยุ้น สีหน้าการแสดงออกของเฉินถิงเซียวก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
แววตาของเขาจ้องมาทางเฉินจิ่งหยุ้น แต่คำพูดนั้นกลับพูดกับสือเย่:“ได้ยินหรือยัง เธอต้องการสามร้อยล้านเพื่อไปช่วยคุณพ่อของเธอ ยังไม่รีบไปจัดการอีก”
“ครับ” สือเย่ตอบรับคำแล้วก็ออกไป
“ถิงเซียว นาย……เมื่อกี้พี่แค่เป็นห่วงคุณพ่อมากเกินไป” เฉินจิ่งหยุ้นคิดไม่ถึงว่าเฉินถิงเซียวจะให้เธอสามร้อยล้านอย่างง่ายดาย
เฉินถิงเซียวทำเพียงยกริมฝีปากอย่างมีเลศนัย และไม่ได้พูดอะไร
เวลานี้เฉินเจียฉินที่สะพายกระเป๋านักเรียนเดินเข้ามาจากด้านนอก
เฉินเจียฉินเทอมนี้เรียนอยู่ในโรงเรียนประจำ เป็นโรงเรียนทหาร เป็นโรงเรียนที่เข้มงวดกวดขันมาก อยู่ในโรงเรียนเขาต้องมอบโทรศัพท์ให้กับผู้ดูแล จนกระทั่งวันนี้ที่ปิดเทอม เขาถึงได้เห็นข่าว
“พี่ถิงเซียว พี่จิ่งหยุ้น!”
เฉินเจียฉินเดินเข้าประตูมา ก็เห็นเฉินจิ่งหยุ้นกับเฉินถิงเซียว:“ผมเห็นข่าวว่าคุณลุงถูกลักพาตัวไป และพี่ยังหาตัวพี่ชิงหนิงเจอด้วย!”
เฉินจิ่งหยุ้นได้ยินเฉินเจียฉินพูดถึง “ชิงหนิง” จึงหันหน้าไปถามเฉินถิงเซียว:“ชิงหนิงคือใคร”
เฉินถิงเซียวลุกยืนขึ้นแล้วมองเฉินเจียฉินด้วยสีหน้าที่จริงจัง:“นายมากับพี่ พี่มีเรื่องต้องการจะคุยกับนาย”
“พี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ” ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวมู่น่อนน่อนบ่อย ๆ ดังนั้นในจิตใต้สำนึกของเฉินเจียฉิน เขาคิดว่าข่าวส่วนใหญ่นั้นเป็นข่าวปลอม
เฉินถิงเซียวยื่นผลการวินิจฉัยโรคของเฉินเหลียนให้กับเฉินเจียฉิน:“ดูนี่ก่อน”
เฉินเจียฉินรับไปดู เห็นข้างบนนั้นเขียนชื่อ“เฉินเหลียน”ไว้ ตะลึงอยู่ชั่วครู่แล้วถึงได้อ่านต่อ
เมื่อดูถึงหน้าหลัง ๆ แล้ว เขาก็ถึงกับผงะและเงียบลงไป
เฉินถิงเซียวก็ไม่ได้พูดปลอบใจเขาแต่อย่างใด เพียงแค่ใช้น้ำเสียงที่สุขุมเยือกเย็นบอกกล่าวกับเขา:“คุณป้ารักคุณลุงมาก ๆ ช่วงนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดี จนกระทั่งมีคนรับใช้เห็นเธอไปชนกระแทกกำแพงเพื่อฆ่าตัวตาย พวกเราถึงได้ตระหนักถึงความรุนแรงของเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงได้จัดคนส่งเธอไปที่โรงพยาบาล”
เฉินเจียฉินเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ :“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”
เฉินถิงเซียวสังเกตเห็นหมัดที่กำแน่นของเฉินเจียฉิน
ใบหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง :“อารมณ์ของเธอแปรปรวน พี่ได้ให้คนส่งไปที่โรงพยาบาลแล้ว ที่นั่นมีคุณหมอที่เชี่ยวชาญ พี่เชื่อว่าจะสามารถรักษาเธอได้อย่างแน่นอน หากมีเวลาว่างก็สามารถไปเยี่ยมดูเธอได้”
เป็นเรื่องยากสำหรับเฉินถิงเซียวที่จะอดทนพูดจามากมายแบบนี้กับคนอื่นที่นอกเหนือจากมู่น่อนน่อน
เฉินเจียฉินสำหรับเขาแล้ว ต่างจากสมาชิกคนอื่นในตระกูลเฉิน
ก็เหมือนกับที่คุณท่านเฉินได้กล่าวเอาไว้ เฉินเจียฉินเป็นเด็กที่ใสซื่อ เฉินถิงเซียวเฝ้าดูการเจริญเติบโตของเขา สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะบอกความจริงเหล่านั้นให้กับเขาทราบ
ส่วนเรื่องราวของเฉินเหลียนกับเฉินชิงเฟิง
การเสียชีวิตของซือหมิงหวน
ความจริงที่โหดร้ายเหล่านี้ ก็ให้มันเป็นความลับ
เฉินเจียฉินปาดน้ำตา:“พี่ ขอบคุณครับ เรื่องของคุณลุง……”
เฉินถิงเซียวขัดจังหวะเขา :“นั่นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่”
เฉินถิงเซียวจัดคนส่งเฉินเจียฉินไปเยี่ยมเฉินเหลียน แล้วก็ส่งเขากลับไปที่โรงเรียน
ช่วงนี้ตระกูลเฉินมีเรื่องมากมาย เฉินเจียฉินอยู่ที่โรงเรียนจะเป็นการดีที่สุด
เมื่อจัดการเรื่องเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว เฉินถิงเซียวก็นั่งอยู่ในห้องหนังสือสักพักก่อนจะออกไป
มองลงจากชั้นสอง ยังคงเห็นเฉินจิ่งหยุ้นนั่งเฝ้าโทรศัพท์อยู่ที่ชั้นหนึ่ง
เฉินถิงเซียวหันหลังกลับเข้าไปในห้อง และก็เป็นไปอย่างที่คิด มู่น่อนน่อนนั่งเอียงข้างพิงอยู่ที่หัวเตียงอย่างเหม่อลอย
เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู มู่น่อนน่อนถึงได้เงยหน้าขึ้น :“กลับมาแล้วเหรอ”
ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์สั้นๆ มู่น่อนน่อนซูบผอมลงไปมาก คางของเธอแหลมขึ้น ใบหน้าซีดเผือด
เฉินถิงเซียวยื่นมือแล้วใช้นิ้วเชยคางของเธอขึ้น ไม่กล้าใช้แรงเยอะ กล่าวด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง :“หากคุณผอมแบบนี้ต่อไป ผมก็จะไม่พาคุณไปด้วยแล้ว”
“เฉินถิงเซียว……” สีหน้ามู่น่อนน่อนเปลี่ยนเล็กน้อย ดึงมือของเขาไว้
เฉินถิงเซียวกลับพูดถึงเรื่องอื่นขึ้น :“เสี่ยวฉินกลับมาที่บ้าน”
มู่น่อนน่อนสีหน้าชะงัก:“คุณ……”
เหมือนกับรู้ว่ามู่น่อนน่อนจะถามอะไร เฉินถิงเซียวจึงกล่าวขึ้น :“ผมไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น”
มู่น่อนน่อนพยักหน้า
เธอครุ่นคิด เฉินถิงเซียวกับซือเฉิงหยู้ถูกกำหนดให้เป็นคนละประเภทกัน
หลังจากที่ซือเฉิงหยู้รู้ภูมิหลังของตัวเอง จึงคิดแต่จะหาวิธีดึงคนอื่นให้ตกนรกทุกข์ทรมานไปพร้อมกัน ส่วนเฉินถิงเซียวกลับทำใจไม่ได้ที่จะให้เฉินเจียฉินรับรู้ความจริงเหล่านั้น
ไม่ได้เกิดมาเป็นคนประเภทเดียวกัน ดังนั้นไม่ว่าซือเฉิงหยู้จะใช้วิธีแบบไหน ก็ไม่สามารถทำให้เฉินถิงเซียวกลายเป็นคนประเภทเดียวกันกับเขาได้
……
สือเย่ช่วยเฉินจิ่งหยุ้นรวบรวมเงินจนครบสามร้อยล้าน
ระหว่างนั้น โจรลักพาตัวได้โทรศัพท์มาหา บอกว่าอยากได้เป็นเงินสดส่วนหนึ่ง ทองคำแท่งอีกส่วนหนึ่ง……
เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไร และรับสั่งให้สือเย่ไปทำตาม
โจรลักพาตัวได้โทรกลับมาอีกครั้ง เฉินจิ่งหยุ้นถูกพวกเขาบีบจนหมดความอดทน:“ครั้งนี้พอใจหรือยัง พวกเราได้เตรียมของตามที่พวกคุณต้องการไว้แล้ว”
แต่ดูเหมือนโจรลักพาตัวจะรู้สึกสนุกก็ไม่ปาน :“เอาอย่างนี้แล้วกัน เพิ่มเงินสดอีกห้าสิบล้าน ผมจะปล่อยตาแก่นั่น!”
เฉินจิ่งหยุ้นคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายนั้นจะเพิ่มจำนวนเงินอย่างกะทันหัน จึงพยายามที่จะเจรจาต่อรองกับพวกเขา:“พวกเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ……”
แต่ว่าโจรลักพาตัวกลับไม่ยอม:“ก่อนตะวันตกดิน หากไม่เจอเงิน ผมจะให้คนส่งแขนของเขาข้างหนึ่งไปให้พวกคุณ”
โจรลักพาตัววางสายลง เฉินจิ่งหยุ้นวิ่งไปที่ด้านหน้าของเฉินถิงเซียวแล้วกล่าวขึ้น :“ถิงเซียว ตอนนี้จะทำอย่างไรดี”
เฉินถิงเซียวกล่าวเบาๆ:“กระเพาะของพวกเขามีแต่จะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้จักพอหรอก แจ้งความเถอะ”
เฉินจิ่งหยุ้นก็รู้สึกว่าคำพูดของเฉินถิงเซียวมีเหตุผล โจรลักพาตัวมั่นใจว่าพวกเขาจะไม่กล้าแจ้งความ ถึงได้เอาแต่เรียกร้องต่อรอง
แต่ว่า พวกเขาที่เพิ่งจะแจ้งความไป ยังไม่ทันตะวันตกดิน ก็ได้รับแขนข้างหนึ่งของเฉินชิงเฟิง
เฉินจิ่งหยุ้นตกใจจนเป็นลมหมดสติไป
โจรลักพาตัวจึงได้โทรมาในเวลานี้
โทรศัพท์จากฝั่งนั้นมีเสียงที่หวาดกลัวของเฉินชิงเฟิงดังขึ้น :“ถิงเซียว พวกเขาต้องการเงินสดแค่ห้าสิบล้านเท่านั้น ช่วยๆพ่อเถอะนะ พ่อยังไม่อยากตาย!”