ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 360 ดูแล้วชีวิตรักของเขานั้นจะชุ่มฉ่ำเสียจริง

บทที่ 360 ดูแล้วชีวิตรักของเขานั้นจะชุ่มฉ่ำเสียจริง

แต่ความรู้สึกอึดอัดแบบนั้น มาอย่างรวดเร็วแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็ว

มู่น่อนน่อนหันหน้าไปมองนอกหน้าต่างรถนั้น รถยนต์สีดำที่อยู่ข้างๆคันนั้นได้ขับออกไปไกลแล้ว

เลขทะเบียนรถยนต์คันนั้นค่อนข้างพิเศษ คิดว่าเจ้าของรถยนต์คันนั้นคงจะรวยน่าดู

เธอคิดถึงชายหนุ่มที่เห็นแวบๆเมื่อสักครู่ และก็อดนึกถึงสิ่งที่ชายหนุ่มคนนั้นพูดไม่ได้

——เฉินมู่ ในสายตาของหนูที่บอกว่าสวยทำให้พ่อสงสัยว่าหนูเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อหรือเปล่า

ตอนนี้เธอดูน่าเกลียดมากเลยเหรอ

อีกอย่าง มีพ่อที่ไหนกันที่พูดกับลูกสาวตัวเองแบบนั้น

ดูแล้วคงเป็นผู้ชายที่เคร่งขรึมและเย็นชา คำพูดคำจารุนแรงขนาดนั้น ไม่รู้ว่าลูกสาวแบบไหนกันที่จะสามารถอดทนกับคนอย่างเขาได้

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ มู่น่อนน่อนก็หันหน้าไปมองลี่จิ่วเชียนที่กำลังจดจ่อกับการขับรถ

เมื่อเปรียบเทียบกันแบบนี้แล้ว ลี่จิ่วเชียนถือว่าเป็นผู้ชายที่ไม่เลวเลยทีเดียว

คนที่มีรักและภักดี แถมยังนิสัยดีอีกต่างหาก

“มองผมทำไม” หางตาลี่จิ่วเชียนเหลือบเห็นมู่น่อนน่อนกำลังจ้องมองเขา

มู่น่อนน่อนยิ้มแล้วกล่าว:“รู้สึกว่าคุณดีมาก”

ลี่จิ่วเชียนที่ดูเหมือนจะคิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดคำแบบนี้ได้ แววตาจึงเป็นประกาย:“เหรอ”

……

รถยนต์ได้ขับเข้าไปสู่ชุมชนหนึ่งที่มีบรรยากาศสวยงาม

“คุณลงจากรถแล้วไปรอผมก่อน ผมจอดรถเสร็จแล้วจะตามมา” ลี่จิ่วเชียนพลางพูดพลางโน้มตัวไปช่วยมู่น่อนน่อนปลดล็อกเข็มขัดนิรภัย

มู่น่อนน่อนยื่นมือออกมาบังเขาอย่างอัตโนมัติ แล้วทำท่าป้องกันตัว :“เดี๋ยวฉันทำเอง”

มือที่ลี่จิ่วเชียนยื่นออกมาจึงได้ค้างชะงักอยู่กลางอากาศ

สักพักเขาพยักหน้าขึ้น:“ครับ”

มู่น่อนน่อนรู้สึกอึดอัด รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วลงจากรถ

เธอยืนอยู่ข้างทาง มองดูลี่จิ่วเชียนนำรถไปจอด คิ้วที่เรียวสวยขมวดขึ้น

ก่อนหน้านี้เธอแค่รู้สึกว่าความสัมพันธ์เมื่อก่อนของตัวเองกับลี่จิ่วเชียนนั้นอาจแค่ไม่ได้ลึกซึ้ง แต่ว่าเมื่อสักครู่ที่ลี่จิ่วเชียนต้องการจะช่วยเธอปลดเข็มขัดนิรภัยนั้น หัวใจของเธอกลับเกิดความรู้สึกต่อต้าน

แล้วก็ทำท่าป้องกันตัวอย่างอัตโนมัติ

บางครั้ง ร่างกายคนเราตอบสนองได้เร็วกว่าและตรงไปตรงมากว่าสมองจริง ๆ

“กำลังคิดอะไรอยู่”

เสียงของลี่จิ่วเชียนได้ดึงความคิดของมู่น่อนน่อนกลับมา

เธอรีบเงยหน้าขึ้น ถึงได้พบว่าลี่จิ่วเชียนได้จอดรถเสร็จแล้วก็เดินเข้ามาแล้ว

“ไม่ได้คิดอะไร แค่รู้สึกแดดร้อนนิดหน่อย” มู่น่อนน่อนเอื้อมมือมาบังหน้าผาก

อากาศตอนนี้ไม่ถือว่าร้อนมาก แต่ว่าก็ไม่ได้เย็นสดชื่น

ลี่จิ่วเชียนไม่ได้สงสัยอะไร แล้วพาเธอมุ่งเดินเข้าไปที่ตึกอาคาร

ในชุมชนมีความเขียวชอุ่มขจี อาคารของตึกก็ไม่สูงมาก ประมาณเจ็ดแปดชั้นเท่านั้น การก่อสร้างของอาคารก็ไม่ได้ติดกัน ทำให้เห็นได้ชัดว่าชุมชนมีความสงบและดูกว้างขวาง

ลี่จิ่วเชียนที่อยู่ด้านหน้าทำการเปิดประตู จากนั้นก็ยืนไปด้านข้าง:“เชิญครับ”

ด้านในเป็นห้องดูเพล็กซ์ สว่าง กว้างขวาง การตกแต่งก็ดูอบอุ่นมาก แต่นอกจากเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นแล้ว ก็ไม่มีการตกแต่งอย่างอื่นแต่อย่างใด ดูแล้วรู้สึกวังเวง

มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป พบว่าของด้านในทั้งหมดนั้นยังใหม่เอี่ยม กลิ่นอายของชีวิตนั้นจืดชืด

ลี่จิ่วเชียนก้าวเดินตามเธอ และรักษาระยะห่างกับเธอหนึ่งก้าว:“รู้สึกว่าห้องเป็นไง”

ระยะห่างหนึ่งก้าว ไม่ทำให้ดูห่างเหิน และก็ไม่ทำให้ดูใกล้ชิดเกินไป

มู่น่อนน่อนพยักหน้าแล้วกล่าวถาม :“คุณไม่ได้พักอยู่ที่นี่เหรอ”

“เปล่าครับ” ลี่จิ่วเชียนเดินมาที่หน้าผนังกระจกใส มองพันธุ์พืชด้านนอกที่เขียวขจี น้ำเสียงก็เปลี่ยนกระฉับกระเฉงขึ้น: “บรรยากาศที่นี่ดีมาก เหมาะกับการพักรักษาสำหรับคุณ”

มู่น่อนน่อนซาบซึ้งในใจ:“ขอบคุณนะ”

ลี่จิ่วเชียนยิ้มแต่ไม่พูดใด ๆ และเดินไปที่ด้านหน้าทีวี หยิบรีโมทชี้ไปทางทีวี :“รู้ไหมว่านี่คืออะไร”

มู่น่อนน่อนสีหน้าชะงักเล็กน้อย:“……ทีวี”

ถึงแม้ว่าเธอจะลืมเรื่องราวในอดีต แต่ก็ไม่ถึงขั้นลืมความรู้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน……

ใบหน้าของลี่จิ่วเชียนยิ้มลึกขึ้น:“แค่หยอกเล่นนิดหน่อย อย่าโกรธนะ”

เขาเปิดทีวีขึ้นมา แล้วก็ทำการเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ

และเปิดไปเจอช่องข่าวเศรษฐกิจ

“ช่วงเช้าวันนี้ เฉินถิงเซียวประธานแห่งบริษัทเฉินซื่อ……”

ลี่จิ่วเชียนทำท่าจะเปลี่ยนช่อง ได้หยุดชะงักขึ้น

เขาหันหน้าไปมองมู่น่อนน่อน เห็นเธอกำลังมองหน้าจอทีวีด้วยความตกใจ

หน้าจอทีวีในเวลานี้ปรากฏภาพของเฉินถิงเซียวที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเชิงพาณิชย์ สวมด้วยชุดสูทสีดำทั้งตัว ใบหน้าท่าทางสุขุมมั่นใจ และเปล่งประกายรัศมีของความเป็นราชา

เมื่อเห็นมู่น่อนน่อนดูอย่างตั้งใจ ลี่จิ่วเชียนราวกับว่ากลัวเป็นการรบกวนเธอก็ไม่ปาน จึงเคลื่อนไหวอย่างเบาๆ วางรีโมทลงไปที่ตู้ แล้วกล่าวสีหน้าที่เป็นธรรมชาติ:“เป็นอะไรไป”

“ฉันเคยเห็นเขา เมื่อสักครู่ตอนที่นั่งรถกลับมา ตอนที่ติดสี่แยกไฟแดง รถของเขาคือรถที่อยู่ข้างๆพวกเราคันนั้น” มู่น่อนน่อนนึกถึงคู่แววตาในเวลานั้น ยังคงเกิดความหวาดกลัว

แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองหน้าจอทีวี

และก็อยากจะมองดูเขานาน ๆ อย่างไม่ทราบสาเหตุ

ตัวจริงของเขาดูดีกว่าในทีวี

“เหรอ” ลี่จิ่วเชียนน้ำเสียงดูเฉยเมย

กล้องที่จับภาพในข่าวได้เบนไปถ่ายคนอื่นแล้ว

“เขายังมีลูกสาวหนึ่งคน หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูมาก!” มู่น่อนน่อนนึกถึงเด็กน้อยที่ชี้มาทางเธอแล้วเรียกขึ้น “พี่สาวคนสวย” ทำให้หัวใจอ่อนโยน และก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

ชายหนุ่มที่ชื่อเฉินถิงเซียวเหมือนจะเรียกเธอว่า“มู่มู่” ก็ไม่รู้ว่าชื่อมู่นั้นเป็นมู่คำไหนกัน!

เป็นพ่อประสาอะไร ชื่อนี้ตั้งมักง่ายเกินไป

“พักนี้มีสื่อเปิดเผยว่าเฉินถิงเซียวมีลูกสาวที่อายุสามขวบจริง แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน” ลี่จิ่วเชียนพลางพูดพลางสังเกตปฏิกิริยาของมู่น่อนน่อน

แต่ว่าใบหน้าของมู่น่อนน่อน นอกจากความสงสัยและความประหลาดใจแล้ว ก็ไม่มีปฏิกิริยาอื่น

หรือจะลืมทุกอย่างแล้วจริง ๆ แม้แต่นิดเดียวก็จำไม่ได้เลยหรือ

“ทำไมถึงถูกสื่อให้ความสนใจล่ะ ทางบ้านของพวกเขาทำอะไรเหรอ” ข่าวสั้นเมื่อสักครู่ ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดมากมายอย่างใด

ลี่จิ่วเชียนซ่อนอารมณ์ไว้แล้วกล่าวขึ้น:“ตระกูลเฉินเป็นตระกูลที่ร่ำรวยระดับต้นๆ ทรัพย์สินเทียบกับประเทศได้เลย ”

มู่น่อนน่อนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “รวยขนาดนี้เลยเหรอ”

“ใช่สิ” ลี่จิ่วเชียนเหมือนจะเจออะไรสนุกๆ จึงพูดเรื่องที่เกี่ยวกับตระกูลเฉินและเฉินถิงเซียวให้มู่น่อนน่อนฟังต่อ

มู่น่อนน่อนฟังอย่างตั้งใจ

ตั้งแต่ต้นจนจบ นอกจากใบหน้าที่ประหลาดใจและอยากรู้อยากเห็นแล้ว ก็ดูไม่ออกถึงอารมณ์อื่น ๆ แต่อย่างใด

เมื่อก่อนเขาเคยแต่ได้ยินว่า คนที่สมองถูกกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ จะทำให้ความจำเสื่อมได้ คิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแบบนี้จริง ๆ

“คุณบอกว่าเขามีคู่หมั้น ยังไม่แต่งงาน แต่ว่าเขามีลูกสาวหนึ่งคนนะ ฉันได้ยินเขายอมรับเองกับหู!” มู่น่อนน่อนส่ายหน้า น้ำเสียงรังเกียจเล็กน้อย:“ดูแล้วชีวิตรักของเขานั้นจะชุ่มฉ่ำเสียจริง”

ลี่จิ่วเชียนยื่นมือมาแตะที่ริมฝีปาก กระแอมเสียงในลำคอแล้วกลั้นยิ้ม จากนั้นแสร้งทำเป็นกล่าวอย่างจริงจัง :“เรื่องที่เขามีลูกสาวจะพูดไปเรื่อยไม่ได้……”

“ฉันรู้ คนแบบเฉินถิงเซียวเนี่ย มีเงินมีอำนาจ ไม่อยากให้คนอื่นไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของเขา ฉันไม่นำเรื่องของเขาไปพูดหรอก อีกอย่างนอกจากคุณแล้ว ฉันจะพูดกับใครได้อีก……”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ มู่น่อนน่อนรู้สึกหดหู่เล็กน้อย

นอกจากลี่จิ่วเชียน เธอก็ไม่รู้จักใครคนอื่นอีก

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท