ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 403 สิทธิ์ในการเลี้ยงดูเฉินมู่

บทที่ 403 สิทธิ์ในการเลี้ยงดูเฉินมู่

มู่น่อนน่อนระมัดระวังเฉินมู่ไปด้วย แล้วก็บีบยาสีฟันเพื่อให้ตัวเองแปรงฟันไปด้วย

เฉินมู่แปรงฟันคุดเดียว แล้วก็ใช้น้ำนิดหนึ่งพร้อมกับแปรงต่อ และก็บ้วนทิ้ง

เด็กน้อยยืนอยู่บนเก้าอี้ แล้วก็ยืนแปรงฟันอยู่หน้ากระจก มู่น่อนน่อนที่มองดูอยู่นั้นใจอ่อนยวบจนกลายเป็นแอ่งน้ำ

เป็นเด็กดีจริงๆ

พอคิดในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่เฉินมู่เป็นเด็กดีขนาดนี้ ก็เป็นความดีความชอบของเฉินถิงเซียว

มู่น่อนน่อนอดไม่ได้ที่จะฟุ้งซ่าน

สำหรับตัวของเฉินมู่ เฉินถิงเซียวทุ่มเทมากกว่าเธอเยอะ

ถ้าเกิดว่าเฉินถิงเซียวเป็นคนเผด็จการและหยิ่งผยองมากกว่านี้ เขาก็คงไม่ให้เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เพียงเพราะว่าเฉินมู่ชอบเธอหรอก

เขาสามารถไม่ต้องสนใจเธอก็ได้ และไม่ต้องให้โอกาสเธอก็ได้

“แม่ แม่ต้องบ้วนออกด้วยนะ แบบนี้ไง……”

เสียงของเฉินมู่ดึงความคิดถ้ากลับมา

เธอก้มหน้าลง แล้วก็เห็นเฉินมู่อมน้ำไว้ในป่า แล้วก็บ้วนออกมา

หลังจากนั้น เฉินมู่ก็ทำตาโตและก็ถามเธออย่างจริงจัง “บ้วนแบบนี้ค่ะ แม่ทำเป็นไหม?”

มู่น่อนน่อนพยักหน้าอย่างให้ความร่วมมือ “ เป็นสิ”

“ถ้าอย่างนั้นบ้วนออกมาเลย”เหมือนกับว่าเฉินมู่ไม่เชื่อคำพูดของเธอ เอาแต่จ้องเธอไม่หยุด

มู่น่อนน่อนก็เลยจำเป็นต้องให้ความร่วมมือกับเธอ ล้างปากตามวิธีที่เธอบอกเมื่อกี้นี้

หลังจากนั้นเฉินมู่ก็ตบแขนของเธอเบาๆ “เยี่ยมมากค่ะ”

“……” มู่น่อนน่อนตะลึงไป หลังจากนั้น เธอก็ทำท่าทางดีใจ “จริงเหรอ? มู่มู่ยังเยี่ยมกว่าฉันอีก!”

เฉินมู่ถูกชมจะรู้สึกเก้อเขิน ก็หัวเราะออกมา 2 ครั้ง แล้วก็กระโดดลงจากเก้าอี้ ออกไปจัดการกับกิ๊บตัวเล็กๆ ของเธอต่อ

มู่น่อนน่อนก็แปรงฟันและล้างหน้าเสร็จด้วยความรวดเร็ว แล้วก็ออกไปมัดผมให้เฉินมู่

เฉินมู่มีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการมัดผมของเธอมาก

มู่น่อนน่อนถามเธอ “หนูอยากมัดผมแบบไหนเหรอ?”

“ถักเปีย……ทรงเจ้าหญิง……ตรงนี้ยาวๆ ตรงนี้ต้องเป็นแบบนี้……”

เฉินมู่พูดไปด้วย พร้อมกับยื่นมืออ้วนๆ ของเธอมาทำนู่นทำนี่ที่หัวของเธอ

สุดท้าย มู่น่อนน่อนก็ไม่เข้าใจว่าเธออยากจะได้ทรงผมแบบไหนกันแน่

ในตอนท้าย เฉินมู่ก็ถามเธอด้วยน้ำเสียงที่สุขุม “แม่รู้หรือยังคะว่าหนูอยากได้ทรงผมแบบไหน?”

มู่น่อนน่อนตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “รู้สิ”

ผมขอเฉินมู่ทั้งดำและลื่น มีหน้าม้า ส่วนผมด้านหลังก็ยาวพอดีไหล่

มู่น่อนน่อนถักเปียเส้นเล็กๆ 2 เส้นไว้บนหัวแล้วปล่อยให้ห้อยลงมา ผมอีกครึ่งหนึ่งก็ปล่อยไว้ด้านหลัง

พอมัดผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ให้เฉินมู่เลือกกิ๊ฟมา 2 ตัว แล้วก็ติดเอาไว้ด้านบนของเปีย

พอติดกิ๊บเสร็จเรียบร้อยแล้ว มู่น่อนน่อนก็หวีผมให้กับเธอพร้อมกับพูดว่า “เรียบร้อยแล้ว!”

เฉินมู่ที่นั่งเรียบร้อยไม่ได้ขยับเลย พอได้ยินเธอพูดแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบผมของตัวเอง “สวยหรือยังคะ?”

“หนูดูเองสิ”มู่น่อนน่อนตอบ แล้วก็อุ้มมู่มู่ไปยังหน้ากระจก

เฉินมู่มองดูกระจก ยื่นมือไปลูบที่เปียของตัวเอง แล้วก็รูปไปที่กิ๊บติดผม หลังจากนั้นก็อุทานออกมาอย่างเกินจริง “สวยค่ะ!”

มู่น่อนน่อนช่วยเธอตัดใจอีกหน่อย “มู่มู่ของพวกเราสวยที่สุดเลย”

เฉินมู่หันหน้ากลับมามองเธออย่างเขินอาย แล้วก็พูดเบาว่า “แม่ก็สวยเหมือนกัน”

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เฉินมู่จะเอาแต่เรียกเธอว่า “พี่สาวสุดสวย” แต่ว่าครั้งนี้ มู่น่อนน่อนกลับฟังแล้วรู้สึกมีความสุขที่สุดและซาบซึ้งใจมากที่สุด

สิ่งที่ตามมาก็คือความเศร้าเล็กน้อย

เธอไม่สามารถอยู่กับเฉินถิงเซียวได้ตลอดไป ถ้าถึงเวลาที่ต้องแย่งสิทธิ์ในการดูแลเฉินมู่เมื่อไหร่ เธอต้องไม่ชนะเฉินถิงเซียวอย่างแน่นอน

เฉินถิงเซียวก็ไม่มีทางเฉินมู่ให้กับเธอ

มู่น่อนน่อนเก็บอารมณ์ของตัวเอง แล้วก็จูงมือเฉินมู่เดินออกมาจากห้อง “พวกเราลงไปกินข้าวเช้ากันเถอะ”

……

ในห้องอาหาร เฉินถิงเซียวนั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว

คนรับใช้ที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่างก็เงียบ และบรรยากาศในห้องอาหารก็เย็นยะเยือกเช่นกัน

เฉินมู่นั้นความรู้สึกว่องไวมาก พอเข้ามาแล้วก็มีท่าทีหวาดกลัว เอาแต่ยืนติดอยู่กับมู่น่อนน่อน

เฉินถิงเซียวนั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะอาหาร ท่าทางเหมือนกับว่าคนอื่นติดหนี้เขายังไงอย่างนั้น

มู่น่อนน่อนกะซิบพูดกับเฉินมู่ว่า “เข้าไปเรียกพ่อเร็ว แล้วก็ปีนโต๊ะขึ้นไปจุ๊บเค้า พูดว่ารักเขาด้วย”

เฉินมู่ได้ยินดังนั้น ก็ส่ายหัวเป็นเจ้าเข้าในทันที

มู่น่อนน่อนนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ ที่เสิ่นเหลียงบอกทางโทรศัพท์ว่าเฉินถิงเซียวเป็นคนน่ากลัว

ดูท่าทางเฉินมู่ก็คงจะกลัวเขาไม่น้อยเลย

มู่น่อนน่อนให้กำลังใจเธอ “ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าเกิดว่าเขากล้าดุหนู เดี๋ยวแม่จะช่วยสั่งสอนเขาให้เอง”

เฉินมู่เหมือนจะเข้าใจคำว่า “สั่งสอน”เธอขยับเข้าไปใกล้เฉินถิงเซียวสองก้าวเหมือนจะเชื่อแต่ก็ไม่เชื่อ แล้วก็หันหน้ากลับมามู่น่อนน่อนอีกครั้งหนึ่ง

มู่น่อนน่อนมอบรอยยิ้มที่ให้กำลังใจให้กับเธอ

รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินมู่กว้างขึ้นเล็กน้อย เธอเดินก้าวเล็กๆ เข้าไปหาเฉินถิงเซียว หันหน้าไปมองใบหน้าของเฉินถิงเซียว แล้วก็ลองเรียกเขาเบาๆ “พ่อคะ”

เฉินถิงเซียวเหลือบมองเธอ สายตาจ้องไปที่เปียบนหัวของเธอ แล้วก็ตอบด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า “อืม”

หลังจากนั้น เขาก็เริ่มทานอาหารเช้า

มู่น่อนน่อนถึงได้เพิ่งสังเกตเห็นว่า เฉินถิงเซียวยังไม่ได้แต่อาหารเช้าเลยแม้แต่นิดเดียว

หรือว่านี่เฉินถิงเซียวกำลังรอให้เธอกลับเฉินมู่ลงมาอยู่เหรอ?

ในใจของมู่น่อนน่อนเต็มไปด้วยความสงสัย แล้วก็นั่งลงที่หน้าโต๊ะอาหาร

เฉินมู่เป็นเด็กที่เชื่อฟัง เธอจำในสิ่งที่มู่น่อนน่อนบอกให้ทำได้

เธอเห็นว่าเฉินถิงเซียวไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไหร่ ก็เลยพยายามปีนขึ้นไปบนตัวของเฉินถิงเซียว

เธอปีนขึ้นไปนั่งบนตักของเฉินถิงเซียว แล้วก็กับเสื้อผ้าเขาเพื่อปีนขึ้นไปแล้วก็ “จุ๊บ” ลงบนแก้มของเขา “พ่อคะ หนูรักพ่อค่ะ”

พอพูดจบ เธอก็จ้องหน้าเฉินถิงเซียวด้วยความอยากรู้อยากเห็น เหมือนกับว่าเราปฏิกิริยาของเขาอยู่

มู่น่อนน่อนก็มองดูสิ่งมหัศจรรย์จากด้านข้างเหมือนกัน

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเมื่อก่อนเธอกับเฉินถิงเซียวอยู่ด้วยกันแบบไหน แต่สำหรับตอนนี้แล้ว ในสิ่งที่เธอรู้ มีเพียงแค่เฉินมู่เท่านั้นที่กล้าอวดดีต่อหน้าเฉินถิงเซียว

ตอนที่เฉินมู่ปีนขึ้นมาบนตัวของเฉินถิงเซียวนั้น เพราะเขากลัวว่าเธอจะล้มลงไป ก็เลยวางมีดกับส้อมลง แล้วก็เอาแขนโอบรอบตัวเล็กๆ ของเฉินมู่เอาไว้

แล้วพอได้ยินเฉินมู่พูดว่า “พ่อคะ หนูรักพ่อ”เขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเป็นพิเศษ

เขายื่นมือไปอุ้มเฉินมู่แล้ววางไว้ที่เก้าอี้ข้างๆ เขา ชี้ไปที่จานอาหารสีชมพูของเธอ พร้อมกับพูดด้วยเสียงที่ทุนต่ำ “กินให้หมด”

เฉินมู่เอ็งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่ทำไปเมื่อกี้ได้ผลหรือเปล่า แต่เหมือนกับว่าพ่อไม่ได้โกรธแล้ว

เธอพยักหน้าอย่างมีความสุขมาก:“อืม!”

มู่น่อนน่อนมองเห็นอย่างชัดเจนว่า ที่จริงแล้วเฉินถิงเซียวไม่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบกับสิ่งที่เฉินมู่ “สารภาพรัก” มากเท่าไหร่นัก

แต่ว่ามันมองออกได้ไม่ยากเลยว่า เฉินถิงเซียวนั้นรักและโอ๋เฉินมู่มากๆ

และในตอนนี้เอง จู่ๆ เฉินถิงเซียวก็เงยหน้าขึ้นมองมู่น่อนน่อน ดวงตาของเขามองตั้งแต่จานอาหารตรงหน้าของเธอไล่ไปจนถึงใบหน้าของเธอ น้ำเสียงทุ้มต่ำจนฟังไม่ออกว่าเขากำลังรู้สึกอะไรอยู่ “คุณก็ต้องกินให้หมดเหมือนกัน”

“ฉันเหรอ?”มู่น่อนน่อนชี้นิ้วมาที่ตัวเอง สีหน้าเธอดูไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่นัก

เมื่อกี้เฉินถิงเซียวเพิ่งพูดกับเฉินมู่จบ แล้วก็หันมาพูดกับเธออย่างนั้นเหรอ?

เฉินมู่เป็นเด็กน้อยอายุ 3 ขวบ แต่ว่าเธออายุ 26 แล้วนะ……

เฉินถิงเซียวแค่ตอบว่า “อืม” อย่างเรียบง่าย แล้วก็หันไปพับแขนเสื้อให้กับเฉินมู่พร้อมกับพูดว่า “ใช้ส้อมไม่ง่ายเท่าไหร่ จะใช้มือก็ได้นะ”

เฉินมู่ได้ยินดังนั้น ก็รีบเอามือหยิบผลไม้ชิ้นเล็กๆ แล้วฟ้าใส่ปากในทันที หลังจากนั้นก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ แล้วก็พยักหน้าให้กับมู่น่อนน่อนพร้อมกับพูดว่า “แม่ก็ต้องกินให้หมด มู่มู่เองก็กินหมดเหมือนกัน”

มู่น่อนน่อน:“……”

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท