ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 400 เผอิญ ผมไม่ใช่คนปกติ

บทที่ 400 เผอิญ ผมไม่ใช่คนปกติ

เฉินถิงเซียวไม่ได้ตอบกลับมู่น่อนน่อนแต่อย่างใด สีหน้าของเขาดูเจ็บปวดต่างจากปกติ เขาเพียงแค่รั้งมือของมู่น่อนน่อนเอาไว้

ดูเหมือนที่ทำแบบนี้มันช่วยลดความเจ็บปวดในตัวเขาลงไปได้

มู่น่อนน่อนเห็นดังนั้นก็ลองเรียกหยั่งเชิงเขาไปว่า: ” เฉินถิงเซียว? ”

เมื่อกี้ก่อนที่เธอออกไป เฉินถิงเซียวก็ยังดูปกติดีอยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?

เฉินถิงเซียวก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม ลมหายใจหนักหน่วงขึ้น เหมือนพยายามกดความเจ็บปวดรวดร้าวไว้จนถึงที่สุด

” คุณปล่อยฉันก่อนสิ ฉันต้องไปเรียกคนมาพาคุณไปโรงพยาบาลนะ! ” มู่น่อนน่อนไม่ได้แกะมือออกจากเฉินถิงเซียว แต่มันกลับทำให้เธอเหงื่อแตกไปตามๆ กัน

สีหน้าที่ขาวซีดของเฉินถิงเซียว มันช่างดูเปราะบางและอ่อนแอ และไม่รู้ว่าเขาเอาเรี่ยวแรงจากไหนมาบีบมือเธอ

มู่น่อนน่อนไม่ละความพยายามที่จะใช้มืออีกข้างตีเรียกสติของเขา: ” เฮ้? เฉินถิงเซียว? ”

ไม่นึกเลยว่า เฉินถิงเซียวจะยื่นมืออีกข้าง และล็อกมือเธอไว้เหมือนอีกข้างหนึ่ง

เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา และพูดด้วยเสียงเบามากๆ ออกมาสามคำ: ” หนวกหูเกินไปแล้ว…. ”

มู่น่อนน่อนถลึงตาใส่เขาด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

มือทั้งสองข้างของเธอถูกเฉินถิงเซียวยึดเอาไว้ ครึ่งตัวของเขากดอยู่บนขาของเธอ มันทำให้เธอไม่สามารถดึงตัวออกมาได้โดยสิ้นเชิง

โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอามาด้วย แถมข้างนอกยังไม่มีคนใช้ผ่านมาอีกต่างหาก

ตั้งแต่ที่เข้ามาอยู่วันนี้ เธอก็ไม่เคยเห็นคนใช้ขึ้นมาชั้นสองเลย ถ้าเธอเดาไม่ผิด เฉินถิงเซียวคงมีขอบเขตความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง โดยปกติก็เลยไม่อนุญาตให้คนใช้ขึ้นมาชั้นบน

เพราะไม่อย่างนั้น เมื่อกี้เธอก็คงไม่กลับขึ้นมาเก็บจานชามของเขาหรอก

มู่น่อนน่อนรีบหันไปที่ประตูแล้วตะโกนว่า: ” มีใครอยู่ไหม? เฉินถิงเซียวเป็นลมล้มลง! คุณชายของพวกคุณเป็นลมใดสติไปแล้ว! ”

ตอนที่เธอเพิ่งเข้ามา เมื่อเห็นสภาพของเฉินถิงเซียวเป็นแบบนั้นแล้ว จึงไม่ทันได้ปิดประตู

คนใช้ที่อยู่ชั้นล่างควรจะได้ยินเสียงของเธอสิ?

มู่น่อนน่อนไม่รอให้คนใช้ขึ้นมา เธอรอจนกระทั่งเฉินถิงเซียวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวและชัดเจนว่า: ” ถ้าคุณยังเสียงดังอีก ผมจะโยนคุณออกไปข้างนอก ”

มู่น่อนน่อนก้มหน้า แล้วยกมือทั้งสองข้างที่ถูกกุมไว้แน่น พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์: ” ตามนั้น คุณต้องปล่อยฉันก่อน ”

วินาทีต่อมา เฉินถิงเซียวก็ปล่อยมือของเธอ

เมื่อมือของมู่น่อนน่อนเป็นอิสระแล้ว แถมยังถูกร่างของมู่น่อนน่อนขาไว้อีก มันทำให้ขาของเธอชาเป็นอย่างมาก

เธอพยายามลุก แต่ก็ลุกไม่ขึ้น จึงทำได้แค่นั่งกับพื้นแล้วยืดขาออกมาช้าๆ เพื่อรอให้ขาหายชาจึงจะลุกขึ้นมาได้

เฉินถิงเซียวอาการเริ่มดีกว่าเธอมากแล้ว

หลังจากที่เขาปล่อยเธอแล้ว ก็เอามือยันพื้นแล้วลุกขึ้นมา จากนั้นก็กลับไปทำหน้าที่ดูเย็นชาและดุดันเหมือนปกติอย่างรวดเร็ว แต่บนหน้าผากก็ยังมีเม็ดเหงื่อที่ยังไม่แห้งดี แต่เขากลับดูไม่รู้สึกรู้สาอะไร

เขามองมู่น่อนน่อนจากข้างบน: ” คุณออกไปได้แล้ว ”

มู่น่อนน่อนเม้มปาก นิ่วหน้ามองเขา: ” คุณชายเฉิน ถ้าเป็นคนปกติ ตอนนี้อย่างน้อยควรจะต้องพูดขอบคุณฉันนะคะ ”

เฉินถิงเซียวฉีกยิ้ม แต่ในดวงตาไม่เห็นรอยยิ้มใดๆ ขอกลับตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูเย็นชา: ” เผอิญ ผมไม่ใช่คนปกติ ”

มู่น่อนน่อนหมดคำจะพูด

ยิ่งอยู่ก็ยิ่งไม่เข้าใจ ว่าตอนนั้นเธออยู่กับผู้ชายแบบนี้ไปได้ยังไงกัน

จะดูยังไงก็เป็นคนที่ไม่มีมารยาท แถมยังเป็นคนที่เย่อหยิ่งอวดดีอีก!

มู่น่อนน่อนไม่ขี้เกียจจะใช้คำพูดให้สิ้นเปลืองกับเขาไปมากกว่านี้ เธอลุกขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เพราะขาก็ยังชาอยู่ เอาจริงเอามือยันหัวเข่าเอาไว้เพื่อให้มันอุ่นขึ้นนิดหน่อย

เพียงเสี้ยววิ จู่ๆ เธอก็ถูกใครบางคนอุ้มจนตัวลอยขึ้นไปกลางอากาศ

มู่น่อนน่อนยังไม่ทันได้เตรียมตัวที่ถูกเขาอุ้มขึ้นมา มันฉุกละหุกจนทำให้เธอต้องกรีดร้อง เมื่อตั้งตัวได้จึงเอามือโอบไปที่คอของเฉินถิงเซียว

เธอถลึงตาค้อนเฉินถิงเซียว เฉินถิงเซียวกวาดสายตามองเธอ ก็สบถลมหายใจผ่านจมูก สายตาดูมีเลศนัย เหมือนเด็กน้อยที่มีแผนร้ายในหัว

ทำตัวเป็นเด็กอีกแล้ว!

มู่น่อนน่อนเกร็งตัวแล้วตะเบ็งเสียง: ” หญิงชายไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน คุณปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลย ”

” เคยมีลูกด้วยกันแล้วต้องคนนึง ยังจะมาพูดว่าหญิงชายไม่ควรลงเนื้อต้องตัวกันกับผมอีกเหรอ? ” เฉินถิงเซียวอุ้มเธอเดินออกไปข้างนอก น้ำเสียงที่ใช้ดูขอไปที แต่มีความจริงใจอยู่ในนั้น

มู่น่อนน่อนรู้สึกโมโห เธอไม่นึกว่าเฉินถิงเซียวจะทำตัวหน้าไม่อายแบบนี้

ขณะที่เฉินถิงเซียวกำลังอุ้มเธอออกไปข้างนอก

ยังไม่ทันที่เขาจะได้ยกเท้าเพื่อปิดประตู ก็เห็นเฉินมู่อุ้มโมเดลตุ๊กตาเสือน้อยจากชั้นล่างขึ้นมาชั้นบนด้วยความเริงร่า

เฉินมู่ยืนอยู่ตรงหัวบันได ” ฟู่วๆๆ ” หายใจด้วยความหอบ ดวงตากลมโตนั้นเห็นว่าร่างของเฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนหมุนไปหมุนมา

จากนั้นเด็กน้อยจึงวิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจ: ” หนูก็อยากให้อุ้มด้วย ”

มู่น่อนน่อนหน้าแดง แล้วกระซิบไปที่ข้างหูของเฉินถิงเซียวว่า: ” ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ ”

กลิ่นหอมรัญจวนของหญิงสาวลอยออกมาจากข้างใบหู ให้ความรู้สึกเหมือนหนอนแมลงตัวน้อยที่ไต่ขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ มันทำให้ทั้งตัวของเขาของอ่อนปวกเปียกขึ้นชั่วขณะ

หลังจากนั้น แขนของเขาข้างหนึ่งที่ใช้อุ้มมู่น่อนน่อนก็ควบคุมไม่อยู่ จึงทำให้ตัวของมู่น่อนน่อนไหลร่วงลงมา

แต่โชคดีที่มู่น่อนน่อนรู้ตัวทัน จึงใช้แขนคล้องคอของเขาเอาไว้ เฉินถิงเซียวที่เห็นว่าตัวเธออะไรลงไป ก็ใช้แขนรั้งเอวเธอเพื่อให้ล้มลงไปที่พื้น

ท่าทางของพวกเขาทั้งสองดูใกล้ชิดกันมาก มู่น่อนน่อนใช้มือโอบคอเขา และเฉินถิงเซียวก็ใช้แขนข้างหนึ่งรั้งเอวเธอเช่นกัน เท้าของเธอยกขึ้นกลางอากาศไม่ได้แตะพื้น

มู่น่อนน่อนไม่รู้ว่าในตอนนี้ รบกวนจากผู้ชมเขาที่มีแรงแขนจนน่าทึ่ง หรือควรจะชกผู้ชายที่ทำตัวเป็นเด็กไม่มีเหตุผลอย่างเขาซักหมัดดี

จะ

ให้ชมเขาก็พูดไม่ออก แต่จะให้ต่อยเขาเธอก็ทำได้แค่คิด

จริงๆ แล้วเธอก็ไม่กล้าลงไม้ลงมือกับเฉินถิงเซียวเสียด้วยสิ

” คนที่บอกว่าหญิงชายไม่ควรแต่เนื้อต้องตัวกันก็คือคุณมู่ แต่ตอนนี้คนที่โอบผมไม่ยอมปล่อยก็คือคุณมู่คนเดิมนะครับ ”

เฉินถิงเซียวพูดไปก็เหลือบตามองมู่น่อนน่อน ทั้งสองมองหน้ากัน: ” คุณมู่ช่างเป็นผู้หญิงที่ประหลาดเสียจริง ”

มู่น่อนน่อนกัดฟันกรอด จากนั้นก็ปล่อยมือจากของเขา แล้วผลักเขาออก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยกขาแล้วเหยียบเข้าที่เท้าเขาแรงๆ หนึ่งที ก่อนจะพูดเสียงเย็น: ” ถ้างั้นคุณก็จำไว้ให้ดี ว่ายังมายั่วโมโหผู้หญิงประหลาดอย่างฉัน ”

เธอจงใจย้ำคำว่า” ประหลาด ” อย่างชัดเจน

เรื่องทั้งหมด เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่สิบวินาที มู่น่อนน่อนก็หันตัวเตรียมที่จะไป เฉินมู่ก็วิ่งมาจากปากบันไดมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขาพอดี เด็กน้อยก็เลยไม่ทันได้สังเกตว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น

ถึงแม้เฉินมู่จะสังเกตเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ได้ แต่เด็กน้อยก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันคืออะไร

เฉินมู่เอ่ยเรียกเสียงหวาน: ” อามู่ ”

ทั้งที่เห็นว่าเด็กน้อยถอดแบบออกมาจากเฉินถิงเซียวชัดๆ แต่ดูยังไงเฉินมู่ก็ยังดูเหมือนทูตสวรรค์ตัวน้อยอยู่ดี

มู่น่อนน่อนก้มตัวลงไปจุ๊บแก้มของเฉินมู่ ” มู่มู่เด็กดี ”

จากนั้นก็รีบออกจาก ” จุดเกิดเหตุ ” อย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นว่ามู่น่อนน่อนไปแล้ว เฉินมู่จะเดินตามเธอไป แต่ก็นึกในสิ่งที่ตัวเองต้องการตอนแรกได้

เด็กน้อยเขย่งเท้า พร้อมชูมือขึ้นให้เฉินถิงเซียวอุ้ม: ” พ่อค้าอุ้มหนูหน่อย อุ้มเหมือนอามู่เมื่อกี้…. ”

เฉินถิงเซียวยืนกอดอก แล้วถามเด็กน้อย: ” อามู่หรือคุณแม่? ”

เฉินมู่ตอบทันควัน: ” อามู่ ”

เฉินถิงเซียวพูดเสียงเรียบ ” งั้นไม่อุ้ม ”

เฉินมู่ย่นจมูก พร้อมเปลี่ยนคำเรียก: ” คุณแม่ “

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท