ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 468 ถ้าเกินห้าวัน ก็รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเอง

บทที่ 468 ถ้าเกินห้าวัน ก็รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเอง

หลังจากที่มู่น่อนน่อนตัดสินใจว่าจะไปเยี่ยมเธอ เธอก็ซื้อตั๋วเครื่องบินและศึกษาเส้นทาง

ที่เสิ่นเหลียงอยู่ฝนเอาแต่ตก มู่น่อนน่อนเลยซื้อกระเป๋าเดินทางกันน้ำใบใหม่ จากนั้นก็ซื้อของกินทีเสิ่นเหลียงชอบเอาไว้เยอะๆ จากนั้นเธอก็ยังได้ซื้อพวกของใช้ในชีวิตประจำวันให้กับเธอด้วย

เมื่อลองมาคิดดูอย่างละเอียด เหมือนว่าที่ผ่านมาเสิ่นเหลียงจะเป็นคนที่ห่วงใยเธอมาโดยตลอด เธอก็ไม่เคยทำเรื่องอะไรเพื่อเสิ่นเหลียงเลย

พอมาคิดดูแบบนี้ เธอก็รู้สึกผิดอยู่บ้าง

มู่น่อนน่อนจองตั๋วเครื่องบินถัดจากวันนี้สองวัน

หลังจากที่จองเวลาออกเดินทางเรียบร้อยแล้ว มู่น่อนน่อนก็ตัดสินใจว่าจะบอกเรื่องนี้กับเฉินถิงเซียว ว่าเธอจะเดินทางไกล

ในคืนนั้น ตอนที่เฉินถิงเซียวมาทานอาหารเย็น มู่น่อนน่อนก็บอกเรื่องนี้กับเขา

หลังจากที่เฉินถิงเซียวได้ยิน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่ง “ที่ไหน?”

สถานที่ที่เสิ่นเหลียงกำลังถ่ายทำคือหมู่บ้านบนภูเขาเล็กๆ มู่น่อนน่อนบอกที่อยู่อย่างชัดเจน เฉินถิงเซียวก็ค้นหาสถานที่ในหัวสมอง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าสถานที่ตรงนั้นคือที่ไหน

“ก็คือหมู่บ้านเล็กๆ เนี่ยแหละ อยู่ไกลจากเมืองหู้หยางค่อนข้างเยอะ ก็เลยอาจจะเสียเวลาในการเดินทาง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะกลับมาตอนไหน”

ในขณะที่มู่น่อนน่อนพูด เธอก็ตักซุปให้เฉินถิงเซียวด้วย

เฉินถิงเซียวขมวดคิ้ว “มู่มู่ล่ะ? จะไม่สนใจแล้ว?”

“ก็ยังมีคุณอยู่นี่? คุณดูแลเธอเป็นอย่างดีเลย” มู่น่อนน่อนคิดแบบนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเฉินถิงเซียวในอดีต หรือเฉินถิงเซียวในปัจจุบัน ต่างก็ดูแลเฉินมู่ได้เป็นอย่างดี

ก็อาจจะเป็นเพราะว่า เธอไม่ได้ตั้งความหวังไว้กับเฉินถิงเซียวสูงนัก

เฉินถิงเซียววางตะเกียบลง ก่อนจะเงยหน้ามองเธอ ด้วยสายตาที่ลึกลับ “มู่น่อนน่อน คุณไม่เป็นกังวลเลยหรอ?”

มู่น่อนน่อนชะงักไป “กังวลเรื่องอะไร?”

“ตอนนี้ผมยังหรือฟื้นความทรงจำไม่ได้เลย มู่มู่อยู่ที่บ้านผม ส่วนคุณก็จะทิ้งพวกเราแล้วก็ไปในสถานที่ห่างไกล คุณคิดว่าผมจะไม่ไปมีผู้หญิงคนอื่นจริงๆใช่ไหม หรือคิดว่าจะสามารถแย่งสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเฉินมู่กับผมได้?”

น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวเย็นชา อารมณ์ของเขาก็ยากที่จะอธิบาย

มู่น่อนน่อนนิ่งไปครู่หนึ่ง

เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่เธอก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เฉินถิงเซียวพูดมันหมายความว่าอะไร

เธอเงยหน้ามองตรงไปที่เขา “คุณช่วยพูดให้ชัดเจนหน่อยได้ไหม”

“ผมพูดได้ชัดเจนแล้ว”

น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวฟังดูเหมือนจะโกรธ แต่ว่าสีหน้าของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนไป ที่สำคัญเขาก็ไม่ได้วางตะเกียบและเดินจากไปทันที

แต่ว่าหลังจากที่เขาพูดจบเขาก็เริ่มทานข้าวยังช้าๆ

เขาก้มหน้าทานข้าว เมื่อมองทางมุมที่มู่น่อนน่อนอยู่ สามารถมองเห็นได้เพียงแค่หน้าผากและคิ้วที่ขมวดของเขา

มู่น่อนน่อนลองถามออกไป “คุณไม่อยากให้ฉันไปเหรอ?”

เฉินถิงเซียวไม่ได้สนใจเธอ

มู่น่อนน่อนขมวดคิ้ว “คุณไม่พูดอะไรเลย แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าคุณต้องการจะสื่อว่าอะไร?”

เฉินถิงเซียววางตะเกียบลง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก

มู่น่อนน่อนก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เผื่อไปห้ามเขาไว้ “คุณคิดว่าฉันไม่ควรจะไปเสียเวลาบนตัวคนอื่นและเรื่องอื่นๆ ใช่ไหม?”

คิ้วของเฉินถิงเซียวกระตุก แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

มู่น่อนน่อนคิดว่าตัวเองเดาความคิดของเฉินถิงเซียวถูกต้องแล้ว

“เฉินถิงเซียว ฉันจะบอกคุณก็ได้ ว่าฉันเป็นห่วงคุณมาก แต่ก็เป็นห่วงมู่มู่มากๆ เช่นกัน ในใจของฉันพวกคุณสำคัญมากกว่าใคร แต่เสี่ยวเหลียงก็สำคัญกับฉันมากเหมือนกัน นอกจากคนรักกับลูกแล้ว ก็ยังมีเพื่อนและการทำงาน ฉันไม่สามารถจะหมุนรอบตัวคุณเพียงคนเดียวได้หรอกนะ”

ตลอดที่ผ่านมา เธอไม่เคยเห็นว่าเฉินถิงเซียวเป็นทั้งหมดชีวิตของเธอ

ตรงจุดนี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับประสบการณ์การเติบโตของเธอ

เมื่อเฉินถิงเซียวได้ยิน เขาไม่แม้แต่จะมองเธอเลย เขาตอบอย่างเย็นชาว่า “แล้วแต่”

จากนั้น เฉินถิงเซียวก็สะบัดมือเธอออกและเดินจากไป

ปัง!

ประตูห้องโดนผลักอย่างแรง

ในห้องที่เงียบสงบ เหลือเพียงแค่มู่น่อนน่อนคนเดียว

เธอกลับไปนั่งตรงโต๊ะอาหาร ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาทานข้าวต่อ แต่เธอก็รู้สึกไม่หิวเลย เธอก็เลยวางตะเกียบลง จากนั้นเธอก็ตกอยู่ภวังค์ของความคิด

หลังจากที่เฉินถิงเซียวออกไปจากบ้านมู่น่อนน่อน เขาก็เดินไปที่ลิฟต์ด้วยใบหน้าที่เย็นชา

ผู้หญิงคนนั้นจริงๆเลย…

ตอนแรกก็ทำท่าทีเหมือนขยันขันแข็ง แต่ช่วงนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใส่ใจเขาเลย

ตอนนี้ก็ยิ่งไปกว่านั้นอีก เธอยังจะทิ้งเขาและมู่มู่ไว้ ส่วนตัวเองก็หนีไปที่อื่น

ตอนที่ประตูลิฟต์เปิด เฉินถิงเซียวก็นึกถึงคำพูดที่มู่น่อนน่อนพูดเมื่อครู่นี้

ฉันไม่จะสามารถหมุนรอบตัวคุณเพียงแค่คนเดียว

มีผู้หญิงมากมายที่อยากจะหมุนรอบตัวเขาแต่พวกเธอก็ไม่มีโอกาส แต่มู่น่อนน่อนสิ เธอพูดออกมาได้เต็มปากเต็มคำ ก็แสดงว่าเธอก็ไม่ได้เห็นความสำคัญของเขามากขนาดนั้น

เฉินถิงเซียวยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ เขาเดินกลับไปที่หน้าประตูห้องมู่น่อนน่อนอีกครั้ง ก่อนจะยื่นมือไปเคาะประตู “ตึกตึก”

มู่น่อนน่อนได้ยินว่ามีคนมาเคาะประตูข้างนอก เธอก็เลยรีบลุกขึ้นเดินไปตรงประตู

คงไม่ใช่เฉินถิงเซียวที่กลับมาอีกครั้งใช่ไหม?

เธอมองในตาแมวประตู เธอพบว่าเป็นเฉินถิงเซียวที่ไปแล้วกลับมาจริงๆ

นิสัยของเฉินถิงเซียวเธอรู้ดี เขาไม่ใช่คนที่จะยอมก้มหัวอย่างง่ายดาย ที่สำคัญยิ่งเป็นเฉินถิงเซียวในตอนนี้ก็ยิ่งยาก

มู่น่อนน่อนคิดแบบนี้ สุดท้ายเธอก็เปิดประตูอยู่ดี

เธอยืนอยู่ขอบประตู เธอไม่ได้พูดอะไร เธอรอให้เฉินถิงเซียวเป็นคนพูดก่อน

ทั้งสองคนยืนจ้องหน้าตรงหน้าประตูแบบนี้ ก่อนที่เฉินถิงเซียวจะพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ไปนานแค่ไหน? ผมต้องการทราบคำตอบที่ชัดเจน”

มู่น่อนน่อนคิด ก่อนจะพูดว่า “สิบวัน”

สถานที่ที่เสิ่นเหลียงถ่ายทำอยู่ห่าไกลมาก เมื่อเธอนั่งเครื่องบินไปถึง เธอก็ต้องนั่งรถไฟและรถยนต์ต่อไปอีก ซึ่งก็ต้องใช้เวลาหลายวันในการเดินทางบนท้องถนน น่าจะใช้ประมาณสี่ถึงห้าวัน

เธอตั้งใจจะไปเยี่ยมเธอ ดังนั้นเธอไม่สามารถจะนอนเพียงคืนเดียวแล้วกลับมา

เฉินถิงเซียวไม่คิดอะไรทั้งนั้น เขาพูดออกมาโดยตรง “นานไป”

มู่น่อนน่อนชะงักไป ก่อนจะอธิบายว่า “แค่เดินทางก็ต้องใช้เวลาสี่ถึงห้าวันแล้ว ไปสิบวันก็ไม่ถือว่านานนะ”

เฉินถิงเซียวจ้องไปที่เธอด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ “มากที่สุดห้าวัน”

มู่น่อนน่อน “…” ห้าวันมันก็มีเวลาให้เธอได้เจอหน้ากับเสิ่นเหลียงแค่วันเดียวเท่านั้น

เสิ่นเหลียงอยู่ในวงการมานานขนาดนี้ เธอก็ไม่เคยจะไปเยี่ยมเธอในที่ทำงานเลย

เฉินถิงเซียวไม่ให้มู่น่อนน่อนมีโอกาสได้เถียงอะไรทั้งนั้น สีหน้าของเขาเหมือนกำลังข่มขู่เธอ “ตามนี้แหละ ถ้าเกินห้าวัน ก็รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเอง”

“เฉินถิงเซียว!”

มู่น่อนน่อนทำได้แค่เรียกชื่อเขาออกมา เขาไม่ให้โอกาสเธอในการพูดเลย เขาเดินจากไปทันที

ครั้งนี้ เฉินถิงเซียวไปจริงๆ

ถ้าเกินห้าวัน ก็รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเอง

มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าคำขอของเฉินถิงเซียวมันฟังดูไร้สาระมากๆ

เขาทำเหมือนเป็นพวกเผด็จการเลย เธอก็บอกเขาไปแล้วว่าต้องเสียเวลาในการเดินทางประมาณสี่ถึงห้าวัน แต่สุดท้ายเขาก็ให้เวลาเธอเพียงแค่ห้าวัน

มู่น่อนน่อนก็ไม่สามารถจะพูดกับเขาด้วยเหตุผลเพราะเขาไม่ยอมฟัง

เขาไม่เคยฟังคำพูดของเธอ ส่วนเธอก็จะต้องเอาคำข่มขู่ของเขาเก็บเอาไว้ในใจเหรอ?

มู่น่อนน่อนตัดสินใจ ครั้งนี้เธอจะไม่ให้เฉินถิงเซียวมามีผลกระทบต่อตัวเธอ

……

วันก่อนออกเดินทาง มู่น่อนน่อนก็ไปที่บ้านของเฉินถิงเซียวเพื่อไปเยี่ยมมู่มู่

วันนั้นเป็นวันเสาร์พอดี

เมื่อมู่น่อนน่อนเข้าไป เขาได้ถามคนรับใช้ คนรับใช้บอกว่าเฉินถิงเซียวอยู่ในห้องหนังสือ

มู่น่อนน่อนอยู่ในบ้านของเฉินถิงเซียวตลอดครึ่งบ่าย แล้วเธอก็ไม่เห็นเฉินถิงเซียวเดินออกมาจากห้องหนังสือเลย ถ้าเขาต้องการอะไรเขาก็จะโทรศัพท์ไปหาคนรับใช้บอกให้เอาขึ้นไปให้

มู่น่อนน่อนรู้ ว่าเฉินถิงเซียวกำลังโกรธเธออยู่ เขาก็เลยไม่อยากจะเจอหน้าเธอเลย

ก่อนจะจากไป เธอก็ยังคงขึ้นไปข้างบนเพื่อเคาะประตูห้องหนังสือของเฉินถิงเซียว

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท