ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 588 ลูบจับไปมาที่บนตัวเขา

บทที่ 588 ลูบจับไปมาที่บนตัวเขา

ตำแหน่งที่แสงไฟนั้นอยู่คือมุมซ้ายล่างของหน้าต่าง แสงสว่างอันน้อยนิดริบหรี่มาก แต่เฉินมู่กลับมองเห็นอย่างชัดเจน

“เอ๊ะ?”

เฉินมู่ประหลาดใจจนเขย่งเท้าเอียงศีรษะไปดู

จู่ๆ มีมือข้างนึงโผล่มาจากมุมซ้ายล่างของหน้าต่าง

วัยของเฉินมู่อยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่าง ไม่เพียงไม่รู้สึกกลัว กลับกันยังได้จ้องมองมือนั้นอย่างอยากรู้อยากเห็นสุดๆ

มุมซ้ายล่างได้ยื่นมือออกมาข้างนึงก่อน ตามมาด้วยแขน จากนั้นคือศีรษะและไหล่กว้าง……

ตอนที่คนๆนั้นเผยใบหน้าออกมา พริบตาเดียวดวงตาของเฉินมู่ก็เปล่งประกายขึ้นมา เห็นเธอกำลังจะดีใจจนกรี๊ดออกมา คนที่อยู่นอกหน้าต่างให้ทำท่าให้เธออย่าส่งเสียง

เฉินมู่ไม่ส่งเสียงอย่างเชื่อฟังมาก มือสองข้างกำเป็นหมัด ชูมืออยู่ที่ตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก พร้อมเรียกด้วยเสียงที่เบามาก:“คุณพ่อ”

หน้าต่างกันเสียงได้เป็นอย่างดี เธอเรียกเสียงเบามาก เฉินถิงเซียวที่อยู่นอกหน้าต่างไม่ได้ยิน

แต่เขาสามารถมองเห็นทรงปากเธออย่างชัดเจน

เขาไม่ได้เจอหน้าเฉินมู่เกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว

เจ้าก้อนแป้งเหมือนจะตัวโตขึ้นมาอีกนิดแล้ว บนตัวใส่ชุดนอนที่ขนปุกปุย คนทั้งคนดูแล้วนุ่มนิ่มมาก อุณภูมิของห้องนอนน่าจะกำลังดี แก้มตุ้ยนุ้ยของเธอยังอมชมพูเล็กน้อย

เดิมทีเขานึกว่าเฉินมู่เห็นเขาแล้วจะกลัว

จู่ๆกลางค่ำกลางคืนนอกหน้าต่างมีคนโผล่มา ไม่ว่าใครก็ต้องกลัวกันทั้งนั้นแหละ

แต่ว่าเธอแค่มองแว๊บเดียวก็ดูออกแล้วว่าเป็นเขา แถมยังเงียบกริบไม่ส่งเสียงอย่างเชื่อฟัง

สองพ่อลูกมีหน้าต่างกันเสียงกั้นไว้บานนึง ต่างก็ไม่ได้ยินเสียงของอีกฝ่าย แม้แต่สีหน้าของอีกฝ่ายก็ยังมองไม่ค่อยชัดเจน แต่เฉินถิงเซียวกลับไม่เคยรู้สึกได้อย่างชัดเจนเหมือนนาทีนี้ว่านี่คือลูกสาวที่มีสายเลือดเชื่อมต่อกับเขา

บนตัวเธอมีสายเลือดเดียวกันกับเขา เธอใช้นามสกุลของเขา เป็นพยานรักของเขากับมู่น่อนน่อน

เธอต้องการเขามาก และไว้ใจเขามาก

เธอกับเฉินถิงเซียวไม่เหมือนกัน บนตัวเขาแบกรับการติดค้างที่มีต่อแม่และพันธนาการที่ปล่อยวางไม่ลง แต่เฉินมู่แค่ตัวคนเดียว

เธอบริสุทธิ์ และควรได้รับความรัก

หน้าตาที่แต่ไหนแต่ก็เคร่งขรึมของเฉินถิงเซียว ได้มีความตื้นตันใจกับความรักความเมตตาเพิ่มมากขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว

จู่ๆ ข้างหูมีเสียง“แก๊ก”ดังขึ้น

เฉินถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเฉินมู่ได้เปิดตัวล็อกหน้าต่างออกแล้ว กำลังยิ้มและตั้งตาตั้งตารอเขาอยู่ แถมยังเปิดปากพูดกับเขาว่า:“พ่อรีบเข้ามาเร็วค่ะ”

เฉินถิงเซียวนึกถึงพวกนี้ที่จริงก็เป็นเรื่องครึ่งนาทีเท่านั้น ไม่ได้ใช้เวลานานเท่าไหร่

แต่เฉินมู่กลับได้ช่วยเขาเปิดหน้าต่างแล้ว

เฉินถิงเซียวยื่นมือเปิดหน้าต่าง จากนั้นได้โบกมือให้เฉินมู่ เพื่อส่งสัญญาณให้เฉินมู่หลีกทางหน่อย

เฉินมู่ถอยหลังไปสองก้าวอย่างเชื่อฟัง เพื่อให้เฉินถิงเซียวเข้ามา

เพียงแต่ เฉินมู่ตัวเล็กขาสั้น ถอยหลังไปข้างๆสองก้าวก็เหมือนไม่ได้ถอยยังไงอย่างงั้น

เฉินถิงเซียวรู้สึกจนปัญญา แต่กลับไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเอามิคลึงหน้าต่างแล้วกระโดดเข้ามา

ตอนที่เขาหล่นมาที่พื้นคือนั่งยองๆอยู่ที่บนพื้น เขาเพิ่งหล่นสู่บนพื้นปุ๊บ เฉินมู่ก็พุ่งมากอดคอของเขาไว้แล้ว และพูดด้วยสีหน้าเศร้าใจ:“หนูนึกว่าวันนี้คุณพ่อจะไม่มีแล้วเสียอีก”

เฉินถิงเซียวอึ้งไปครู่นึง และได้ยื่นมือข้างนึงออกไปปิดหน้าต่าง มืออีกข้างที่ว่างอยู่ได้ยื่นมาประคองแผ่นหลังของเธอไว้:“ใครบอกว่าวันนี้พ่อจะมา?”

มือของเขาใหญ่เกินไป แค่มือข้างเดียวก็แทบจะคลุมแผ่นหลังเธอไว้แล้ว

เจ้าตัวเล็ก

หลังจากเฉินถิงเซียวปิดหน้าต่างแล้ว ก็ได้ดึงผ้าม่านไปปิดหน้าต่างไว้ จากนั้นถึงอุ้มเฉินมู่พร้อมลุกขึ้นมา

สำหรับเฉินมู่แล้ว คำถามของเฉินถิงเซียว เกินความสามารถของเธอไปหน่อย

มู่น่อนน่อนเคยบอกเธอว่าเฉินถิงเซียวจะมารับพวกเธอ พอเธอเริ่มคิดถึงเฉินถิงเซียวขึ้นมา ก็ย่อมคิดทุกวันอยู่แล้วว่าเฉินถิงเซียวจะมา

และมู่น่อนน่อนก็ไม่เคยพูดอย่างแน่ชัดว่าวันนี้เฉินถิงเซียวจะต้องมาแน่นอน

คือในจิตใต้สำนึกของเฉินมู่ล้วนๆที่อยากให้เฉินถิงเซียวมา

เฉินมู่ยื่นมือเกาหัว จากนั้นถึงพูดอย่างจริงจังว่า:“คุณแม่บอกว่าคุณพ่อจะมารับพวกเรา หนูก็เลยรอคุณพ่อทุกวันค่ะ”

รอเขาทุกวัน?

เฉินถิงเซียวอดหัวเราะไม่ได้ เจ้าก้อนแป้งที่ดูตัวกะเปี๊ยกนิดเดียว เวลาพูดจาขึ้นมานี่ก็ปลุกเร้าอารมณ์เหมือนกันนะเนี่ย ก็ไม่รู้ว่าไปฝึกมาจากมู่น่อนน่อนหรือเปล่า

เชาเพิ่งคิดถึงตรงนี้ ก็ได้เห็นเฉินมู่เรียกคำนึงว่ส:“คุณแม่!”

เฉินถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นมู่น่อนน่อนกำลังยืนมองพวกเขาอยู่ที่ไม่ไกล

เมื่อครู่ตอนที่มู่น่อนน่อนอยู่ห้องน้ำได้เปิดน้ำ คิดเรื่องราวจนค่อนข้างเหม่อลอย จึงไม่ได้ยินความเคลื่อนไหวเริ่มแรกของเฉินถิงเซียว

จนกระทั่งเฉินถิงเซียวเข้ามา หลังจากโดดมาที่พื้นได้สร้างความเคลื่อนไหว เธอถึงเดินออกมาจากห้องน้ำ

ปรากฏพอออกมาปุ๊บ ก็เห็นเฉินถิงเซียว

ผู้ชายตัวเป็นๆคนนี้จู่ๆได้โผล่อยู่ที่ในห้องนอน กำลังอุ้มเฉินมู่ไว้และพูดคุยกันอยู่

เธอแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย

หลังจากสายตาของทั้งสองได้บรรจบอยู่กลางอากาศ ก็ไม่ได้เคลื่อนย้ายออกอีกเลย

เฉินมู่เห็นมู่น่อนน่อนยืนนิ่งไม่ขยับสักที อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงเตือนเธอ:“แม่คะ คุณพ่อค่ะ!”

“มู่น่อนน่อน”เฉินถิงเซียวเรียกชื่อของเธอ เสียงยังคงทุ้มต่ำไพเราะอีกเช่นเคย

มู่น่อนน่อนเงยหน้าเล็กน้อย ยังคงจ้องมองเขาไว้

เฉินถิงเซียวใช้มือข้างเดียวอุ้มเฉินมู่ไว้ แล้วกางมืออีกข้างออก ใบหน้ายังคงเย็นชาเหมือนที่ผ่านมา พร้อมพูดอย่างใจเย็น:“ให้เวลาคุณสามวินาทีเดินเข้ามา ผมอาจจะให้อภัยคุณโดยที่ถือสาเรื่องบาดหมางก่อนหน้านี้”

เขาเพิ่งพูดจบ มู่น่อนน่อนก็ได้พุ่งมาอย่างไว กระโจนเข้ามาในอ้อมกอดของเขา

สะเปะสะปะอย่างกับเด็กคนนึง

เฉินถิงเซียวเก็บแขนให้แน่น กดเธอเข้ามาที่อ้อมอกอย่างมั่นคง จากนั้นได้พูดเสียงทุ้มต่ำที่ข้างหูเธอ:“ให้อภัยคุณแล้ว”

ให้อภัยกับการดึงดันทำตามใจตัวเอง โดยที่ไม่รับฟังข้อเสนอของคนอื่นของเธอ ให้อภัยเธอที่ไม่ปรึกษากับเขาก็ตัดสินใจให้ลี่จิ่วเชียนคุมตัวเธอจากไปเอง

มู่น่อนน่อนกำเสื้อผ้าของเขาไว้ หัวใจที่กระวนกระวายมาทั้งวันได้สงบลงมาอย่างสิ้นเชิงในนาทีนี้

ไม่นาน เฉินถิงเซียวก็รู้สึกได้ว่ามือของมู่น่อนน่อนได้ลูบจับไปมาอยู่ที่บนตัวเขา แม้กระทั่งยังมีแนวโน้มว่าจะล้วงไปที่ชายเสื้อของเขา

เฉินถิงเซียวจับมือของเธอไว้อย่างแม่นยำพร้อมกดเสียงต่ำ ดูแล้วค่อนข้างร้าย:“มู่น่อนน่อน ไม่ได้เจอกันมานานขนาดนี้ ผมสามารถเข้าใจความทรมานของคุณ เพราะผมเองก็เหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่เหมาะที่จะทำเรื่องพวกนั้น ยิ่งไปกว่านั้น มู่มู่ยังอยู่ในห้องด้วย”

พริบตาเดียว อารมณ์ที่ซึ้งและสบายใจอะไรพวกนั้นได้หายไปในกลีบเมฆทันที มู่น่อนน่อนผลักเขาออกและพูดอย่างไม่สบอารมณ์:“ฉันอยากดูว่าคุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า ใครจะเหมือนคุณที่วันๆเอาแต่คิดเรื่องลามกพวกนั้น!ไร้ยางอาย!”

ข้างๆมีเสียงไร้เดียงสาของเฉินมู่ก้องมา:“อะไรคือไร้ยางอายคะ?”

มู่น่อนน่อนเกือบลืมไปเลยว่าเฉินมู่ยังอยู่ข้างๆ จะอธิบายก็ไม่ใช่ ไม่อธิบายก็ไม่ได้

เธอกะพริบตาปริบๆ จากนั้นได้ยื่นมือทิ่มไหล่ของเฉินถิงเซียว ความหมายชัดเจนมากว่าให้เขาอธิบายให้เฉินมู่ฟัง

เฉินถิงเซียวได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเธอ เขาได้ส่งสายตาที่มีความลึกซึ้งกระตุ้นให้เกิดความสนใจให้เธอ จากนั้นถึงหันมาถามเฉินมู่ว่า:“มู่มู่ง่วงมั้ย?”

เฉินมู่ส่ายหัว:“ไม่ง่วงค่ะ”

เฉินถิงเซียวยักคิ้ว ก้าวสองสามก้าวก็ได้เดินมาถึงที่ขอบเตียงแล้ว เขาวางเธอลงที่บนเตียง:“ไม่ง่วงก็เล่นเองนะ”

เฉินมู่มองเฉินถิงเซียวด้วยหน้าเซ่อๆ แววตาเต็มไปด้วยความมึนงง

เหมือนตรงไหนมันผิดสังเกต?

ทำไมต้องเล่นเองด้วย?คุณพ่อไม่เล่นกับเธอเหรอ?

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท