พูดถึงเรื่องตอนนั้น มู่น่อนน่อนทอดถอนใจเล็กน้อย
“เสี่ยวเหลียง ความจริงแล้วมีเรื่องหลายเรื่องที่ในตอนนั้นรู้สึกว่าลำบาก ตอนนี้ทำให้ฉันหวนคิดถึงในตอนนั้น กลับรู้สึกว่าก็ไม่ได้ลำบากอะไรมาก”
“นี่เรียกว่าแผลเป็นที่หายดีแล้วจนลืมความเจ็บปวด!” เสิ่นเหลียงแหย่ที่หัวของมู่น่อนน่อนไปทีหนึ่ง:“ถึงอย่างไรเธอก็ต้องระวังเฉินจิ่งหยุ้นหน่อย ฉันไปก่อนนะ”
“ขับรถระวังด้วยนะ”
เสิ่นเหลียงหันกลับมาแล้วเดินถอยหลัง:“รู้แล้วนะ! ถ้าหากแต่งงานแล้วจู้จี้จุกจิกอย่างนี้ ชีวิตนี้ฉันก็ไม่อยากแต่งงานแล้ว!”
ใบหน้ามู่น่อนน่อนผุดรอยยิ้มออกมา มองดูเสิ่นเหลียงขับรถจากไป แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าถึงค่อย ๆ จางลง!”
ลี่จิ่วเชียนคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย เขาเชี่ยวชาญเรื่องการใช้คนและเรื่องราว
กลัวว่าวันหนึ่ง ลี่จิ่วเชียนอยากจะคุกคามเธอนั้น แม้แต่เสิ่นเหลียงก็อาจจะไม่ยอมละเว้น
ดังนั้น ช่วงนี้ทางที่ดีอย่าเพิ่งติดต่อกับเสิ่นเหลียงจะดีที่สุด
……
ถ้าหยุดคิดเรื่องเลว ๆ ของลี่จิ่วเชียนที่แอบทำอย่างลับ ๆ แล้ว รูปลักษณ์และบุคลิกลักษณะของเขานั้นถือว่าเยี่ยมยอดเลย เป็นศาสตราจารย์ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพิเศษในมหาวิทยาลัย ในบรรดาศาสตราจารย์วัยกลางคนหัวล้าน เขาก็เป็นคนที่ดูสะดุดตาที่สุด
ด้วยเหตุนี้ ลี่จิ่วเชียนจึงกลายเป็นคนดังอย่างรวดเร็ว
เมื่อมู่น่อนน่อนออกไปทำงานนั้น ก็ได้แวะไปทานอาหารข้างนอก จึงบังเอิญได้ยินสาว ๆ เหล่านั้นคุยกันถึงเรื่องลี่จิ่วเชียนศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย Z
ลี่จิ่วเชียนสามารถซื้อใจคนได้อย่างช่ำชอง
แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก
มู่น่อนน่อนคิดถึงเรื่องราวในตอนนั้น ลี่จิ่วเชียนเพื่อต้องการความเชื่อใจจากเธอ จึงไม่ลังเลดูแลเธอที่เป็นเจ้าหญิงนิทราสามปีเต็ม ๆ
ความเพียรพยายามแบบนี้ ไม่ใช่คนทั่วไปที่จะทำได้
ลี่จิ่วเชียนกลายเป็นคนดัง นี่เดิมทีก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ
แต่ เธอลืมไปเลยว่า คนดังนั้นมักจะมีทั้งเรื่องที่จริงและไม่จริง
“ศาสตราจารย์ลี่หล่อมากจริง ๆ โดยเฉพาะตอนที่สอนอยู่ในห้องเรียน!”
“ไม่รู้ว่าคนแบบไหนกันที่จะโชคดีกลายเป็นคุณนายลี่ คิด ๆ แล้วรู้สึกน่าอิจฉาจัง!”
“……”
มู่น่อนน่อนแค่ทานอาหารกลางวันในร้านอาหารเท่านั้น สาว ๆ โต๊ะข้าง ๆ ก็พูดคุยแต่เรื่องของลี่จิ่วเชียน
ถ้าหากว่าพวกเธอรู้ลี่จิ่วเชียนเป็นเศษสวะ ที่ทำเรื่องเลว ๆ อย่างลับ ๆ แม้แต่เด็กก็ไม่เว้น ไม่รู้ว่าพวกเธอจะยังคลั่งไคล้เขาอยู่อีกหรือเปล่า
มู่น่อนน่อนยิ้มเยาะ แล้วเรียกพนักงาน:“คิดเงินค่ะ”
ตอนที่เธอออกไปนั้น ตรงกันข้ามก็มีหญิงสาวสองคนเดินเข้ามา
ก็ไม่รู้ว่าเหตุผลอะไร สองสาวนั้นจ้องมองมู่น่อนน่อนตลอดเวลา
จนกระทั่งเธอเดินออกไปไกล ตอนที่หันกลับมานั้น ยังคงเห็นหญิงสาวสองคนนั้นชี้มาทางตัวเอง
มู่น่อนน่อนขมวดคิ้วเบา ๆ แล้วก็รีบก้าวเท้ายาวเดินกลับไปที่ห้องทำงานของฉินสุ่ยซาน
“คุณมู่……”
เธอเดินเข้าไปนั้น พนักงานให้ห้องทำงานก็ทักทายเธอด้วยท่าทีกระอึกกระอัก
มู่น่อนน่อนหยุดชะงักเท้าขึ้น แล้วถามเธอ:“เป็นอะไร ทำไมถึงมองฉันแบบนั้น มีอะไรก็ให้พูดมา”
พนักงานคนนั้นส่ายหน้า:“คุณดูจากในอินเทอร์เน็ตเองนะคะ”
มู่น่อนน่อนพลางหยิบโทรศัพท์มา พลางเดินไปยังห้องทำงานของฉินสุ่ยซาน
ตอนเช้าฉินสุ่ยซานออกไปคุยธุระด้านนอก ตอนนี้ยังไม่กลับมา แต่ว่าห้องทำงานของเธอ มู่น่อนน่อนสามารถเข้าออกได้ตามสบาย
มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป แล้วนั่งลงบนโซฟา หยิบโทรศัพท์ออกมาท่องอินเทอร์เน็ต
มู่น่อนน่อนเข้าหน้าเพจบันเทิงท้องถิ่น แล้วก็เห็นถึงในสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น
“เปิดตัวแฟนสาวของศาสตราจารย์ลี่ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเธอ!”
หัวข้อที่ได้รับความสนใจจากผู้ชม จำนวนการคลิกเกินสบล้านครั้งแล้ว ความคิดด้านล่างก็เกินหมื่น
มู่น่อนน่อนดูข้อมูลก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นถึงค่อยคลิกดูรายละเอียดข้อความ
แค่ดูก็ชัดเจนอยู่แล้ว ยังต้องมีรายละเอียดอะไรอีก รูปด้านบนสุดที่ขยายใหญ่อย่างละเอียด ก็เพียงพอที่จะทำให้สื่อต่าง ๆ เขียนรายงานได้อย่างยาวเหยียดแล้ว เพียงพอที่จะให้คนดูคิดไปต่าง ๆ นานา
เป็นรูปที่ถูกถ่ายเมื่อสองสามวันก่อนที่เธอออกไปทานข้าวกับลี่จิ่วเชียน
เมื่อก่อนมู่น่อนน่อนก็เคยถูกนักข่าวแอบถ่ายภาพ และก็บล็อกมาหลายครั้งแล้ว เธอยังคงอ่อนไหวกับกล้องเล็กน้อย
แต่ว่าวันนั้นเธอไม่รู้สึกเลยว่ามีคนแอบถ่าย
อีกทั้งรูปยังถ่ายได้ออกมาชัดเจน……
มือของมู่น่อนน่อนที่จับมือถือไว้ได้กำแน่นขึ้น แล้วออกจากหน้าเพจอินเทอร์เน็ต จากนั้นโทรศัพท์ไปหาลี่จิ่วเชียน
ลี่จิ่วเชียนที่เหมือนกับรอโทรศัพท์ของเธอมาโดยตลอด เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นเพียงสองครั้ง ก็ถูกรับสายขึ้น
“น่อนน่อน” น้ำเสียงของเขาที่อ่อนโยน แต่ฟังแล้วมู่น่อนน่อนถึงกับขนลุก
มู่น่อนน่อนจึงไม่มีความเกรงใจ เธอจึงถามตรง ๆ :“ลี่จิ่วเชียน คุณหมายความว่าอย่างไร ฉันเห็นข่าวแล้ว! นี่คุณตั้งใจให้คนมาถ่าย และเขียนข่าวออกมาใช่ไหม”
“ฉลาดจริง ๆ!” ข่าวเพิ่งจะออกมา คุณก็รู้ว่าผมเป็นคนทำ” น้ำเสียงของลี่จิ่วเชียนฟังดูแล้ว เหมือนรู้สึกภาคภูมิใจ
มู่น่อนน่อนโมโหกัดริมฝีปาก:“ทางที่ดีคุณช่วยฉันไปชี้แจงให้กระจ่างเดี๋ยวนี้!”
“นี่คุณกำลังออกคำสั่งผมเหรอ” น้ำเสียงของลี่จิ่วเชียนสบาย ๆ แต่มู่น่อนน่อนกลับรู้สึกได้ว่าในน้ำเสียงของลี่จิ่วเชียนมีความโกรธซ่อนอยู่
มู่น่อนน่อนกำลังจะอ้าปากพูด ก็ได้ยิเสียงเปิดประตูดังขึ้นจากด้านหลัง
“แล้วแต่คุณจะคิดก็แล้วกัน” มู่น่อนน่อนพูดเสร็จก็วางสายโทรศัพท์ลง
มู่น่อนน่อนกุมโทรศัพทไว้แน่น สูดลมหายใจเข้ายาว ๆ เพื่อระงับอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นถึงหันหน้ามา
ฉินสุ่ยซานผลักประตูเข้ามาพอดี สายตาตกกระทบไปที่ใบหน้าของมู่น่อนน่อนครู่หนึ่ง:“นี่เธอเป็นอะไร สีหน้าดูแย่จัง”
เธอพลางพูดพลางเดินไปที่ด้านหน้าโต๊ะทำงาน แล้วต่อสายภายในเรียกผู้ช่วยชงกาแฟมาให้เธอ
เมื่อผู้ช่วยออกไป มู่น่อนน่อนถึงได้เดินมาที่ด้านหน้าโต๊ะทำงานของฉินสุ่ยซาน จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี้
ฉินสุ่ยซานจิบกาแฟหนึ่งเบา ๆ แล้วพลางเปิดคอมพิวเตอร์พลางคุยกับมู่น่อนน่อน:“คืนพรุ่งนี้มีงานอีเว้นท์ เธอไปร่วมงานกับฉันนะ”
วินาทีต่อมา กาแฟในปากของเธอก็พุ่งทะลักออกมา
“อึก……แค่ก ๆ……
ฉินสุ่ยซานสำลักจนน้ำตาไหลออกมา จากนั้นปิดจมูกแล้วรีบกล่าวขึ้น:“ทิชชู ยื่นทิชชูให้ฉันหน่อย!”
มู่น่อนน่อนน่าจะคาดเดาได้ว่าฉินสุ่ยซานเห็นถึงอะไร จึงได้มีปฏิกิริยาเช่นนี้
เธอยื่นกล่องทิชชูให้ฉินสุ่ยซานด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
ฉินสุ่ยซานสักพักถึงได้สงบลง
คอมพิวเตอร์ของเธอเป็นแล็ปท็อป เธอจึงหันแล็ปท็อปมาทางมู่น่อนน่อน:“พูดสิ เธอกับศาสตราจารย์คนนี้ยังไงกัน ไม่ว่าจะข่าวอะไรก็มีเธอไปพัวพันตลอด นี่เพิ่งจะสงบไปสองสามวันหลังเธอกลับมาเองนะ! ฉันรู้สึกว่าเธอไปเป็นนักเขียนบทคงจะเก่งน่าดู แต่ว่าเป็นไปนักแสดงหน้าจอเถอะ”
มู่น่อนน่อนจ้องเขม็งเธอแวบหนึ่ง:“ไร้สาระ”
“ไม่เป็นนักแสดงก็ได้ รายการวาไรตี้เป็นไง ตอนนี้รายการวาไรตี้ต่าง ๆ ทางทีวี ออนไลน์ ต่างทำเงินได้มากเลยนะ!” น้ำเสียงอของฉินสุ่ยซานจริงจังมาก พูดราวกับเป็นเรื่องจริง
เห็นสีหน้าของมู่น่อนน่อนยังคงแย่ ฉินสุ่ยซานจึงไม่พูดล้อเล่นกับเธออีก
ฉินสุ่ยซานทำสีหน้าจริงจัง :“ข่าวเหล่านี้ต้องการให้ฉันช่วยเคลียร์ให้ไหม”
“ไม่ต้องหรอก ขอบคุณนะ วันนี้ฉันขอตัวกลับก่อน” มู่น่อนน่อนพูดจบก็ถือกระเป๋าเดินออกไป
ฉินสุ่ยซานไม่ลืมที่จะเตือนเธอ:“เออ งานอีเว้นท์คืนพรุ่งนี้ เธออย่าลืมเชียวนะ!”
“ฉันรู้แล้ว”