กู้จือหยั่นไม่มีแบล็กการ์ดของเฉินซื่อ มันเป็นรุ่นลิมิเต็ด เฉพาะคนของตระกูลเฉินเท่านั้นถึงมีได้ เขาไม่รู้ว่าการ์ดมีขีดจำกัดมากน้อยเท่าไร
มู่น่อนน่อนปัดมือของกู้จือหยั่นออก “ดึงฉันทำไม นั่งลงดื่มสิ!”
คนเมาแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาด เดิมทีกู้จือหยั่นยังมีความตั้งใจเป็นพิเศษ แต่ถูกมู่น่อนน่อนออกแรงดึงลงไปนั่ง
หลังจากนั้น มู่น่อนน่อนลากขวดไวน์มายัดใส่มือกู้จือหยั่น “ดื่ม!”
กู้จือหยั่นอยากดึงมือออก แล้ววางขวดกลับไป แต่ไม่ช้าเขาก็พบว่า เขาไม่มีทางดึงมองออกจากมู่น่อนน่อนได้เลย
หลังจากมู่น่อนน่อนยัดขวดไวน์ใส่มือกู้จือหยั่นสำเร็จแล้ว ก็ตบๆ มือเขา “ดื่มให้อร่อยนะ! มา!”
มู่น่อนน่อนพูดจบ ก็หันหน้าไปหยิบอีกขวด ต้องการยกชนดื่มกับกู้จือหยั่น
แต่เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อดื่มเป็นเพื่อนเธอ
เขาแกล้งทำเป็นดื่มกับมู่น่อนน่อน แล้วโทรเรียกให้ผู้จัดการพาพนักงานเสิร์ฟหญิงสองคนขึ้นมา
พนักงานเสิร์ฟมาในเวลาไม่นาน กู้จือหยั่นสั่งพวกเธอทันที “พาคุณมู่ท่านนี้ ไปส่งที่ห้องพักแขกชั้นบน”
“ทำอะไร ไปไหน” มู่น่อนน่อนขมวดคิ้ว “ปล่อยฉัน อย่ามายุ่งกับฉัน!”
พนักงานเสิร์ฟมองกู้จือหยั่นด้วยสีหน้าลำบากใจ “ประธานกู้”
กู้จือหยั่นสองมือเท้าเอว พูดอย่างอารมณ์เสีย “มองผมทำไม! ถ้าเธอไม่ไปกับพวกคุณ พวกคุณก็คิดหาวิธีให้เธอไปกับพวกคุณสิ”
แต่ละคน สมองไม่ทำงานเลย!
“ค่ะ” เมื่อพนักงานได้ยินก็ไม่อิดออดอีก ทั้งสองประคองมู่น่อนน่อนออกไป
เพียงแต่มู่น่อนน่อนดิ้นรนอย่างหนักด้วยความไม่ชอบใจไปตลอดทาง
กู้จือหยั่นตามหลังพวกเธอไป ครุ่นคิดแล้วส่งเสียงเรียกมู่น่อนน่อน
“น่อนน่อน”
“ฮะ?”
ยังรู้จักส่งเสียงตอบ เหมือนยังไม่เมามากเกินไป
กู้จือหยั่นใช้ประโยชน์ตอนนี้ที่เธอกำลังเบลอๆ เมาครึ่งไม่เมาครึ่ง เดินไปตรงหน้าเธอและพูดหลอกเธอ “ถิงเซียวรู้ว่าคุณดื่มอยู่ที่นี่ ก็รีบมาหาคุณ พวกเรารีบไปกันเดี๋ยวนี้เลยเถอะ”
มู่น่อนน่อนที่ตอนนี้เมามากแล้ว ไหนเลยจะยังจำได้ว่าเฉินถิงเซียวมาไปแล้ว
เธอเงยหน้าฉับ ดวงตาพร่าเบลอ อัตราการพูดค่อนข้างยานคาง “เฉินถิงเซียวมาเหรอ เรารีบไปกัน……”
ในที่สุดมู่น่อนน่อนก็ตามพนักงานเสิร์ฟไปอย่างเชื่อฟัง เช่นนี้กู้จือหยั่นถึงได้ถอนหายใจโล่งอก
เวลาฉุกเฉิน ก็ต้องงัดเฉินถิงเซียวออกมาถึงจะได้ผล
หลังจากพนักงานเสิร์ฟส่งมู่น่อนน่อนเข้าห้องไป ก็อยู่ข้างในและช่วยอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มู่น่อนน่อน
กู้จือหยั่นยืนนอกห้อง จุดบุหรี่สูบไปหนึ่งที แล้วเอาโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเฉินถิงเซียว
“ผมให้คนพาน่อนน่อนมาส่งในห้องที่คุณเคยอยู่” ห้องนั้นเป็นที่พักประจำขณะเฉินถิงเซียวที่อยู่จีนติ่ง เมื่อมีเวลาเฉินถิงเซียวมักพักอยู่ที่นี่ สิ่งของที่ควรมีในห้องจึงพร้อมสรรพ
ต่อให้ช่วงหลังเฉินถิงเซียวจะไม่ได้อยู่ที่จีนติ่งเท่าไรแล้ว ห้องนั้นก็ยังคงทิ้งไว้ รอให้เฉินถิงเซียวเช็คอินได้ตลอดเวลา
เมื่อเขาพูดจบ ก็รอเฉินถิงเซียวพูดเงียบๆ
ผ่านไปชั่วครู่ ปลายสายถึงมีเสียงขุ่นของเฉินถิงเซียวดังมา “คุณให้ใครไปส่ง”
กู้จือหยั่นรู้สึกว่าคำถามนี้ค่อนข้างอันตรายอย่างอธิบายไม่ได้ เขาขบคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “พนักงานเสิร์ฟหญิงสองคน”
“อืม” เฉินถิงเซียวส่งเสียงตอบรับ และพูดว่า “รบกวนแล้ว”
กู้จือหยั่นรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้ตัวคุณก็มาแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมหลังจากนั้นถึงให้ผมพาน่อนน่อนมาส่งที่ห้องให้คุณ พวกคุณมีเรื่องอะไรกันอีก”
“ไม่มีอะไร” น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวบางเบา
กู้จือหยั่นมีลางสังหรณ์ว่าเฉินถิงเซียวกำลังจะวางสาย เขาจึงพูดทันที “คุณอย่าเพิ่งวางสาย งานเลี้ยงอาหารค่ำคืนนี้ ถึงผมไม่ได้ไป แต่ผมได้ยินว่าคุณพาซูเหมียนไปด้วย คุณจะบอกว่าจู่ๆ คุณก็พบว่าซูเหมียนคือรักแท้ถึงได้ไปหาเธอ ให้ตายผมก็ไม่เชื่อ”
“หึ” เฉินถิงเซียวหัวเราะเย็นชา “ที่ไม่ได้เพราะผมไม่รักมู่น่อนน่อนเหรอ”
กู้จือหยั่นชะงักไปครู่หนึ่ง เพราะตลอดที่พูดคุย ไม่ได้สนใจสูบบุหรี่ ก้นบุหรี่จึงเผานิ้ว
เขาเจ็บจนต้องสูดปากร้อง “ซี๊ด” ก่อนจะพูดว่า “…….ได้”
จากนั้นเฉินถิงเซียวก็วางสายไป
กู้จือหยั่นดีดสลัดเขม่าที่สะสมบนก้นบุหรี่ งอขาข้างหนึ่งเตะกำแพงไปสองทีอย่างเบื่อหน่าย
……
วันรุ่งขึ้น
เมื่อมู่น่อนน่อนลืมตา พลันรู้สึกโลกหมุน มึนศีรษะอย่างหนัก สติก็ไม่ค่อยตื่นดี
นอนบนเตียงสักพัก สติของมู่น่อนน่อนถึงได้ค่อยๆ กลับคืนมา ก่อนที่เธอจะเริ่มจำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ช้าๆ
เฉินถิงเซียวมาแล้วก็ไป หลังจากนั้นกู้จือหยั่นมา ให้คนพาเธอมาส่งที่ห้อง
เมื่อคืน หลังจากเฉินถิงเซียวไปแล้ว แม้เธอจะเมามาก แต่ตอนนี้เมื่อมานึกๆ ดู ยังสามารถจำเรื่องราวทั้งหมดเมื่อคืนได้
มู่น่อนน่อนหยุงตัวลุกขึ้นนั่ง หันมองไปรอบห้อง พบว่าห้องนี้คือห้องที่เฉินถิงเซียวใช้พักในจีนติ่ง
นึกถึงใบหน้าเย็นชาของเฉินถิงเซียวเมื่อคืน ถ้าให้เฉินถิงเซียวรู้ ว่าเมื่อคืนเธอนอนที่นี่อีก ไม่รู้ว่าจะพูดคำหยาบคายอะไรบ้าง
มู่น่อนน่อนลงจากเตียง หลังจากรีบอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็รื้อผ้าปูเตียงโยนลงพื้น จากนั้นเรียกรูมเซอร์วิส
ไม่นานรูมเซอร์วิชก็มา
“เปลี่ยนผ้าปูที่นอนทั้งหมด” มู่น่อนน่อนพูดจบก็เดินออกไป
เธอเดินไปพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา การบริการของที่นี่ค่อนข้างได้มาตรฐาน มีการชาร์จโทรศัพท์มือถือให้เธอด้วย
มู่น่อนน่อนโทรไปหากู้จือหยั่น “ขอบคุณคุณเรื่องเมื่อคืน”
กู้จือหยั่นบ่นเกี่ยวกับทิศทางในคำพูดของมู่น่อนน่อน “ตอนที่พูด พูดให้ชัดเจนหน่อย อะไรคือขอบคุณผมเรื่องเมื่อคืน……อย่าพูดอะไรที่ง่ายต่อการเข้าใจผิดสิ……”
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่ากู้จือหยั่นคนนี้ยิ่งแก่ยิ่งจู้จี้เรื่องมาก
เธอขัดจังหวะคำพูดของกู้จือหยั่น “ขอบคุณที่คุณให้คนไปส่งฉันที่ห้องพัก”
“ไม่ต้องขอบคุณผม ถ้าจะขอบคุณ คุณก็……” กู้จือหยั่นลังเลครู่หนึ่ง นึกไปถึงคำพูดในสายของเฉินถิงเซียวเมื่อคืน ก็เปลี่ยนเสียงทันทีและพูดว่า “ต่อไปคุณอย่าดื่มมากขนาดนั้น ถิง……เสิ่นเสี่ยวเหลียงจะเป็นห่วง……”
“ขอบคุณ ฉันเข้าใจแล้ว” มู่น่อนน่อนพูดจบ ก็ไม่ได้ให้โอกาสกู้จือหยั่นได้จุกจิกยืดเยื้ออีก รีบพูดว่า “แล้วพบกันใหม่” และวางสายไป
เธอไม่ใช่คนขี้เมา เมื่อวานที่วิ่งโร่มาดื่มที่จีนติ่ง มันก็แค่มีแรงกระตุ้นเกิดขึ้นมาเท่านั้น
เธอถูกกระตุ้นอย่างสมบูรณ์เพราะการปรากฏตัวของเฉินถิงเซียวกับซูเหมียน เธอถึงได้ทำเรื่องที่หุนหันพลันแล่นแบบนี้
ถ้าเป็นเวลาปกติ เธอไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่
เธอกล้าดื่มเหล้ามาก ก็เพราะอยู่ในจีนติ่ง เธอถึงได้กล้าดื่มขนาดนั้น
ต่อให้เฉินถิงเซียวไม่สนใจเธอ กู้จือหยั่นที่เห็นแก่หน้าเสิ่นเหลียง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สนใจเธอ
ทัศนคติของเฉินถิงเซียวนั้นเด็ดขาดเหมือนเคย
เขารู้สึกเหนื่อยหน่ายจริงเหรอ
เฉินถิงเซียวเป็นคนที่มีเหตุผลและใจเย็น แม้ว่าสิ่งที่มู่น่อนน่อนพูดในขณะนั้นจะทำให้เขาโกรธมาก แต่ถ้าเขาไม่ได้อยากแยกทาง อย่างไรก็ไม่มีทางไล่เธอ
แต่เฉินถิงเซียวไล่เธอแบบนี้ พูดให้ชัดคือ เขามีความคิดอยากแยกทางกับเธอนานแล้ว