ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 659 น้ำตาที่เย็นเฉียบ

บทที่ 659 น้ำตาที่เย็นเฉียบ

ศีรษะของเจียงซ่งติดเข้าไปในรถทั้งศีรษะ ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ สั่นไปทั้งตัว บนตัวก็มีคราบน้ำไหลลงมา

นี่คือกลัวจนฉี่ราด?

มู่น่อนน่อนมองเจียงซ่งอย่างเย็นชาแวบนึง ก็ได้เงยหน้าไปมองที่ลี่จิ่วเชียน

นาทีนี้เธอกลับใจเย็นและตื่นตัว

ลี่จิ่วเชียนเห็นมู่น่อนน่อนยืนอยู่ไม่ขยับ สีหน้าซีเรียสเล็กน้อย พร้อมทั้งได้พูดอย่างเคร่งขรึมและเด็ดขาด:“มาที่ด้านหลังผม!”

มู่น่อนน่อนก็ยังยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ดี

ถูกผู้ชายที่เกือบจะทำลูกสาวเธอตายช่วยชีวิตเอาไว้อีกครั้ง เธอไม่อยาก

ไม่อยากเลยสักนิด

ดูเหมือนลี่จิ่วเชียนจะอ่านความคิดของเธอจนทะลุปรุโปร่ง:“ถ้าวันนี้คุณไม่ไปกับผม ยังจะสามารถเห็นพระอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้หรือเปล่า คุณน่าจะรู้ดีแก่ใจที่สุด ถ้าคุณไปกับผม ยังมีโอกาสแก้แค้นผมอยู่”

มู่น่อนน่อนเบิกตากว้างทันที

เธอฟังออกว่าลี่จิ่วเชียนกำลังใช้วิธีกระตุ้นกับเธอ

แต่ว่า แววตาของลี่จิ่วเชียนมีแต่ความใจกว้าง

น้ำเสียงของเขาจริงจัง เขาอยากช่วยเธอจริงๆ

ใบหน้าเขาไม่มีรอยยิ้ม สีหน้าบูดบึ้งและแฝงด้วยความรู้สึกที่เย็นชา นี่คือหน้าตาของเขาที่ลบความเสแสร้งออกแล้ว

เธอไม่อยากถูกลี่จิ่วเชียนช่วยจริงๆ

แต่ว่า ถ้าตายอยู่ในมือของเจียงซ่ง งั้นก็ยิ่งไม่คุ้มเลย

มู่น่อนน่อนเม้มปากไว้แน่น แล้วเดินไปที่ข้างหลังของลี่จิ่วเชียนอย่างช้าๆ

เธอเดินมาถึงด้านหลังของลี่จิ่วเชียนแล้ว ก็รู้สึกได้เลยว่าไหล่ของลี่จิ่วเชียนได้ตกลงไปเหมือนกับว่าผ่อนคลายลงเยอะ จากนั้นได้หันมาพูดเสียงเบาว่า:“ขึ้นรถของผม!”

มู่น่อนน่อนไม่มีการลังเลอีก ได้หันหลังไปขึ้นรถโดยตรง

ประตูรถที่เธอเปิดคือประตูฝั่งคนขับ

ลี่จิ่วเชียนได้ดึงเจียงซ่งออกมาจากกระจกรถทันที คุมตัวเขาเดินมาถึงหน้าประตูรถ

มู่น่อนน่อนได้ยื่นมือเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับที่ลี่จิ่วเชียนพิงอยู่ออก

ชีวิตน้อยๆของเจียงซ่งยังอยู่ในกำมือของลี่จิ่วเชียน เขาพูดจาตัวสั่น:“แก……แกยังไม่ปล่อยฉันอีก!ฉันปล่อย……นังแพศยา……อ๊า!!”

คำพูดตอนท้ายของเขายังไม่ได้พูดออกมา ก็ถูกลี่จิ่วเชียนกระชากไปโยนใส่พื้นแล้ว ส่งเสียงโอดโอยออกมา

ในขณะเดียวกัน ลี่จิ่วเชียนได้ขึ้นรถไปอย่างไว

เขาขึ้นรถปุ๊บ มู่น่อนน่อนก็ขับเคลื่อนรถยนต์เลย

รถซิ่งด้วยความเร็วสูงสุด ทำให้แม้แต่ลูกน้องของเจียงซ่งก็ยังไหวตัวไม่ทันเลย

แต่ถึงลูกน้องพวกนั้นของเจียงซ่งดึงสติกลับมาก็ไม่มีกะจิตกะใจไปจับพวกเขา เพราะลี่จิ่วเชียนลงไม้ลงมือกับเจียงซ่งไม่เบาเลย

พวกเขาย่อมต้องรักษาชีวิตของเจ้านายตัวเองเอาไว้ก่อนอยู่แล้ว ไม่งั้นไม่มีคนจ่ายเงินเดือนให้

หลังจากพวกเขาขับออกมาได้ระยะทางช่วงนึง ก็ได้ยินเสียงไซเรนรถตำรวจ

มู่น่อนน่อนคิดๆแล้วได้พูดว่า:“ก่อนหน้านี้ฉันได้โทรแจ้งตำรวจค่ะ”

ลี่จิ่วเชียน“อืม”คำนึง แล้วหันมามองเธอ:“จอดชิดริม ผมมาขับเอง”

สภาพของมู่น่อนน่อนไม่ค่อยดีจริงๆ เธอมองดูแวบนึง พอเห็นว่าไม่มีรถตามมาแล้วจริงๆ ส่วนรถตำรวจก็ได้ขับไปจากอีกฝั่งนึงพอดี เธอจึงวางใจขับรถไปจอดชิดริมถนน

เธอเปลี่ยนที่นั่งกับลี่จิ่วเชียน ลี่จิ่วเชียนคอยขับรถไปด้วยและถามเธอคำนึง:“แผลของคุณเป็นไงบ้าง?”

“ไม่ถึงตายหรอก” ถึงถูกลี่จิ่วเชียนช่วยชีวิตเอาไว้ ก็ไม่สามารถมาหักลบกับเรื่องที่ลี่จิ่วเชียนเคยทำเหล่านั้นหรอก

เธอไม่เคยเห็นคนที่โรคจิตกว่าลี่จิ่วเชียนมาก่อน

ร้ายสุดๆ แต่กลับช่วยเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

กลับกันยังได้ทำให้อารมณ์ของมู่น่อนน่อนเปลี่ยนมาค่อนข้างซับซ้อน

เดิมทีหลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่วิลล่า ตอนนั้นมู่น่อนน่อนเกลียดลี่จิ่วเชียนจริงๆ

แต่ตอนนี้ เหมือนความเกลียดชังนั้นก็ได้จืดจางลงไปบ้างอีก

ลี่จิ่วเชียนก็ไม่ได้พูดอะไรมากอีก

ที่จริงบาดแผลที่คอไม่ได้ลึกเท่าไหร่ เลือดแข็งตัวแล้ว แผลไม่มีเลือดไหลออกมาอีก ขอแค่อย่าไปสะกิดโดนแผล สามารถอดทนจนถึงโรงพยาบาลอยู่

มู่น่อนน่อนพิงอยู่ที่เบาะนั่ง หันหน้ามองไปนอกกระจกรถ

จู่ๆเธอได้นั่งตัวตรงกะทันหัน:“จอดรถ!”

ลี่จิ่วเชียนไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร แต่ก็ได้จอดรถให้เธอ

รถของเขาเพิ่งจอดนิ่ง มู่น่อนน่อนก็เปิดประตูรถลงจากรถไปเลย

ลี่จิ่วเชียนขมวดคิ้ว มองไปตามสายตาของมู่น่อนน่อน ก็เห็นเฉินถิงเซียวกับซูเหมียนที่กอดคออยู่ด้วยกันพอดี

เขายกมุมปาก และพูดเองเออเองคำนึง:“น่าสนุกจริงๆ”

มู่น่อนน่อนเดินเร็วมาก แต่เธอเดินไปถึงระยะที่ห่างจากเฉินถิงเซียวกับซูเหมียนไม่กี่ก้าวก็ได้หยุดลงมาแล้ว

เมื่อครู่เหลือบมองอยู่บนรถแวบนึง เธอยังนึกว่าตัวเองตาฝาดไปเสียอีก

เพราะฉะนั้น เธอจะเดินเข้ามาใกล้หน่อย ดูให้ชัดเจนหน่อย

ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเฉินถิงเซียวกับซูเหมียนจริงๆ

มู่น่อนน่อนหยุดลงมา ยืนอยู่กับที่ พร้อมกัดฟันไว้แน่น จ้องเฉินถิงเซียวกับซูเหมียนเอาไว้อย่างไม่คลาดสายตา

ซูเหมียนเห็นมู่น่อนน่อนแล้ว ได้ผลักเฉินถิงเซียวออกด้วยความเขินอาย พร้อมกับพูดว่า:“คุณดูสิคะ นี่ไม่ใช่คุณมู่เหรอคะ?”

เฉินถิงเซียวหันไปมองมู่น่อนน่อนด้วยแววตาลุ่มลึก ยากมากที่จะอ่านใจเขาออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

เขาจ้องมู่น่อนน่อนอยู่ครู่นึง จากนั้นได้ตอบเรียบเฉยคำนึงว่า:“อ๋อ”

ซูเหมียนพึงพอใจกับหน้าตาเย็นชาของเฉินถิงเซียวมาก เธอแกล้งพูดอย่างประหลาดใจ:“เธอดูเหมือนเกิดเรื่องอะไรขึ้นเลยค่ะ?ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นภรรยาเก่าของคุณ ไม่ถามเธอหน่อยเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น?”

“คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่จำเป็นต้องถามให้มากความ ไปกันเถอะ”เฉินถิงเซียวพูดจบ ก็ได้ช่วยซูเหมียนเปิดประตูรถของฝั่งข้างคนขับ

ซูเหมียนยิ้มให้มู่น่อนน่อนอย่างได้ใจ เชิดหน้าชูตาขึ้นรถไปอย่างเย่อหยิ่ง

ที่จริงตั้งแต่ต้นจนจบคนที่มู่น่อนน่อนมองมีแค่เฉินถิงเซียวเท่านั้น

คนที่เธอแคร์ก็มีแค่เฉินถิงเซียวเท่านั้น

แต่เฉินถิงเซียวพูดอะไรนะ?

คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่จำเป็นต้องถามให้มากความ

ดีมาก ไม่จำเป็นต้องถามให้มากความ

ซูเหมียนขึ้นรถ เฉินถิงเซียวปิดประตูรถและจะหันไปขึ้นรถที่อีกฝั่ง

ในขณะนี้ เขาได้ยินข้างหลังมีเสียงเย็นชาของมู่น่อนน่อนก้องมา:“เฉินถิงเซียว!”

ที่จริงพวกเขาไม่เคยถือสาในการเรียกชื่อของอีกฝ่ายเลย ต่างก็เรียกชื่อเต็มของกันและกัน แต่ไม่เคยมีความรู้สึกว่าห่างเหินกันเลยจริงๆ

แต่นาทีนี้ ตอนที่มู่น่อนน่อนเรียกชื่อของเขา ทำให้เขามีความรู้สึกหนาวเย็นตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก

เขาหันหลังให้กับมู่น่อนน่อน ไม่ได้หันกลับไปเลย

สีหน้าของมู่น่อนน่อนเย็นชาสุดๆ:“สมดังปรารถนาคุณแล้ว ต่อไปเราสองคนเป็นแค่คนที่ไม่เกี่ยวข้องกัน!”

เธอพูดจบแล้วเดินหันหลังเหมือนตอนที่มา ได้เดินไปหารถของลี่จิ่วเชียนอย่างไว ไม่นานก็ได้ขึ้นรถของลี่จิ่วเชียนไป

ลี่จิ่วเชียนมองเธอด้วยสีหน้าขี้เล่น:“ไปได้แล้ว?”

สีหน้าของมู่น่อนน่อนเย็นเหมือนฤดูหนาวนี้

“สมดังปรารถนาคุณแล้ว นับแต่นี้ไปฉันกับเฉินถิงเซียวไม่มีเกี่ยวพันกันอีก”

สีหน้าของลี่จิ่วเชียนชะงักเล็กน้อย จ้องหน้าเธอไว้ หัวเราะอย่างคลุมเครือทีนึง:“งั้นเหรอ?แล้วคุณร้องไห้ทำไม?”

มู่น่อนน่อนตกใจไปครู่นึง จากนั้นได้ยื่นมือจับแก้มตัวเอง

นิ้วมือสัมผัสโดนความเปียกชื้นที่เย็นเฉียบบนใบหน้า

เธอยื่นมือมาที่ตรงหน้าอย่างลังเล ที่แท้เธอร้องไห้เหรอเนี่ย

เป็นน้ำตาที่เย็นเฉียบ

มู่น่อนน่อนยื่นมือเช็ดน้ำตาบนใบหน้าทิ้งด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วพูดด้วยเสียงที่เย็นชาอีกเช่นเคย:“ฉันเจ็บแผลเกินไป ขืนยังไม่รีบไปโรงพยาบาลเร็วๆ ฉันก็จะตายอยู่บนรถคุณแล้ว”

“ผมไม่ให้คุณตายหรอก” นาทีนี้ลี่จิ่วเชียนย่อมไม่เชื่อคำพูดไร้สาระของมู่น่อนน่อนอยู่แล้ว ถึงมู่น่อนน่อนพูดอย่างจริงจังก็เถอะ

ลี่จิ่วเชียนขับซิ่งตลอดทาง เพื่อส่งมู่น่อนน่อนไปถึงโรงพยาบาลอย่างไว

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท