ตอนที่ 54 ถาโถม
“รั้งมันไว้”
“ตราบใดที่รั้งมันไว้ได้ มันก็จะตาย” ผู้นำอสูรทั้งสองสั่งในขณะที่ลูกน้องพวกมันพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ มีอสูรนกห้าตัวพุ่งโฉบลงมาจากท้องฟ้า
เมิ่งชวนก็รู้สึกกดดันเช่นกัน
ผู้นำอสูรทั้งสองตัวนี้ หนึ่งในนั้นสามารถปลดปล่อยกลิ่นอายอสูรได้ ในขณะที่อีกตัวหนึ่งควบแน่นแก่นอสูรไปแล้ว เมิ่งชวนตัดสินความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้ในทันทีด้วยสัมผัสของเขา นอกจากนี้ยังมีอสูรระดับสูง 19 ตัวและอสูรระดับต่ำอีก 176 ตัว ‘หากข้าถูกพวกอสูรรั้งเอาไว้ ข้าก็จะถูกฝูงอสูรโถมเข้ามาทันที และหลังจากนั้นผู้นำทั้งสองตัวนั้นก็จะสังหารฆ่า’
‘แม้ว่าข้าจะแข็งแกร่งกว่าผู้นำอสูรทั้งสอง แต่แรงข้าก็มีจำกัด หากข้าถูกตรึงเอาไว้ ข้าก็จะถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆ’
นี่คือสนามรบ อสูรกลุ่มใหญ่พุ่งเข้ามา ถ้าไม่ใช่เพราะขอบเขตการรับรู้ของเขาล่ะก็ เขาคงหลีกเลี่ยงกองทัพอสูรนี้ไปแล้ว
“สังหาร” แม้ว่าเขาจะรู้สึกต้องการ แต่เขาก็ไม่ได้ลดความเร็วลง เมื่อเทียบกับจอมยุทธในระดับเดียวกันแล้ว เขาสามารถรับมือกับการโจมตีแบบกลุ่มได้ดีมาก ขนาดทำให้ศัตรูโจมตีใส่ตัวเองยังได้เลย!
เมิ่งชวนปลดปล่อยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ เปลี่ยนเป็นติดตาและพุ่งเข้าหาอสูรตนหนึ่ง
“มันไม่หลบแต่พุ่งเข้าหาแทนอย่างนั้นรึ?”
“หยุดมัน”
“เร็วเข้า!”
อสูรทั้งสองร้อยตัวนั้นค่อนข้างจะกระจัดกระจายไปทั่ว และไม่ได้ล้อมเขาอย่างสมบูรณ์ก่อนที่เมิ่งชวนจะเริ่มโจมตี
‘ช้าไป’ ขณะที่เมิ่งชวนพุ่งไปข้างหน้า เขาก็ชักกระบี่ออกและกระบี่ก็เปล่งแสงขึ้น
เพียงวูบเดียว อสูรสามตัวก็ถูกหั่นเป็นชิ้น ลำแสงกระบี่ส่องแสงครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาพุ่งตรงไปยังแม่ทัพอสูรหมีดำ ลำแสงกระบี่วูบขึ้นหลายครั้งและอสูร 30 ตัวที่ยังล้อมเขาได้ไม่ดีก็ถูกหั่นเป็นชิ้นได้อย่างง่ายดาย ลำแสงกระบี่นั้นยาวประมาณสองถึงสามจั้ง มันหั่นอสูรออกเป็นสองส่วนได้สบาย มันทำให้อสูรตัวอื่นๆที่พร้อมที่จะกระโจนเข้าใส่เขาต้องตัวสั่นด้วยความกลัว และยังกระโจนเข้ามาหาช้าลงอีกด้วย
เขารู้สึกได้ถึงอสูรที่กำลังพุ่งเข้ามาในขณะที่กำลังกวัดแกว่งกระบี่อย่างต่อเนื่อง ความเร็วของเขาจึงตกลงอย่างช่วยไม่ได้
“หลีก” ผู้นำอสูรสองตนพุ่งเข้ามา หนึ่งในนั้นเป็นอสูรแมงมุมในขณะที่อีกหนึ่งเป็นอสูรแพะ
แมงมุมอสูรนั้นไวกว่า มันถือกระบี่สองคมอยู่ในมือทั้งหกของมัน มันเข้าไปในระยะ5จั้งจากเมิ่งชวนเป็นตัวแรก โดยไม่มีสัญญาณใดๆ มันก็เปิดปากและปล่อยใยแมงมุมออกมาหวังจะห่อหุ้มเมิ่งชวนไว้ มันอยู่ใกล้และเร็วเกินไป
อย่างไรก็ตาม เพราะได้รับการฝึกฝนจากฝนธนูมาแล้ว ความเร็วในการตอบสนองของเมิ่งชวนก็สูงยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ ทุกสิ่งในระยะสิบจั้งรอบตัวเขาก็อยู่ในขอบเขตประสาทสัมผัสเช่นกัน! ขณะที่อสูรแมงมุมเปิดปาก เมิ่งชวนก็เตรียมพร้อมในทันที
ร่างของเขาหายไป
อ่านตอนล่าสุดที่ mynovel.co หรือ www.thainovel.com
ใยแมงมุมสีขาวไปพันร่างของอสูรชั้นต่ำผู้โชคร้ายสองตัวแทน อสูรทั้งสองตัวนั้นร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดขณะที่พวกมันเปลี่ยนเป็นเนื้อบดอย่างรวดเร็วหลังจากถูกใยแมงมุมตรึงไว้กับพื้น เมื่ออสูรแมงมุมเห็นว่าท่าสังหารของมันนั้นพลาดก็รู้สึกไม่พอใจเสียเท่าไหร่นัก
“ตาย!” เมิ่งชวนใช้วิชาการเคลื่อนที่และโจมตีใส่ผู้นำอสูรทั้งสอง
อสูรแมงมุมฟาดฟันด้วยกระบี่สองคมของมัน และทันใดนั้นฝนกระบี่ก็ฟาดฟันลงมาใส่เมิ่งชวน ส่วนอสูรแพะนั้น มันเข้ามาโจมตีใส่ในระยะใกล้
ฉับฉับ
เมิ่งชวนเคลื่อนตัวไประหว่างผู้นำอสูรทั้งสอง เขาควบคุมสถานการณ์ได้ดีมาก เขาสามารถมองเห็นรูปแบบการโจมตีของแม่ทัพอสูรทั้งสองได้อย่างชัดเจน และเพียงกระบี่เดียว หนึ่งในกระบี่สองคมของอสูรแมงมุมก็ถูกเบี่ยงไปทางอสูรแพะ
‘เกิดอะไรขึ้น?’ อสูรแมงมุมและอสูรแพะตื่นตระหนก ทำไมพวกมันถึงฟันกันเอง?
พวกมันไม่รู้ว่าผู้นำนิกายอสูรฟ้าสาขาตงหนิงสองคนเคยเจอสถานการณ์คล้ายๆกับแบบนี้มาก่อน อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นเมิ่งชวนทำแค่ตอนใช้ “พลังแห่งวิญญาณ” เท่านั้น แต่ในตอนนี้ เขาสามารถทำมันได้อย่างง่ายดาย
แก๊ง! อสูรแพะป้องกันการโจมตีของอสูรแมงมุมทันที
ฉับ
ที่ตามการโจมตีของอสูรแมงมุมก็เป็นการฟาดฟันที่อ่อนโยนไร้ซุ่มเสียงจากเมิ่งชวน
‘อะไรกัน?’ หัวใจของอสูรแพะสั่นสะท้าน ลำแสงกระบี่ถึงคอมันแล้ว และไม่นาน หัวมันก็ปลิวออกไป
ผู้นำอสูรแพะตายแล้ว
อสูรแมงมุมรู้สึกได้ถึงความผิดปกติในทันที แต่เมิ่งชวนหันกลับมาและฟันลงอย่างรุนแรง นี่เป็นกระบวนท่าแรกของอัสนีห้าโลกา! มันรวดเร็วมาก และสายฟ้าก็ถูกปล่อยออกมา พลังของสายฟ้ายังคงอ่อนแอมาก ร่างอันแข็งแกร่งของปีศาจแมงมุมจึงทนได้อย่างง่ายดายโดยไม่ก่อให้เกิดผลใดๆ อย่างไรก็ตามแรงอันน่าเหลือเชื่อของการโจมตีครั้งนี้ทำให้ยากที่จะกันเอาไว้ได้ โชคดีที่อสูรแมงมุมมีแขนอยู่หกแขน แต่กระบี่สองคมทั้งหกนั้นก็แทบจะป้องกันไม่ได้ ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เกิดช่องว่าง
การโจมตีครั้งที่สองเข้ามาเร็วกว่าเดิม
เมื่อแมงมุมอสูรสัมผัสได้ถึงอันตรายถึงตาย มันก็อ้าปากและพยายามพ่นใยออกมาทันที แค่เพียงมันเปิดปาก เมิ่งชวนก็สัมผัสได้อย่างชัดเจน เขาไม่อยากโดนใยแมงมุมในระยะนี้ เขาใช้ “พลังแห่งวิญญาณ” ในกระบวนท่าที่สอง ทำให้ลำแสงกระบี่เคลื่อนที่เร็วขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ และเข้าไปซ้ำช่องว่างที่เปิดออก ฟันผ่านคอของมันไป
ก่อนที่แมงมุมอสูรจะได้พ่นใยออกมา หัวของมันก็ปลิวออก
เหล่าผู้นำอสูร อสูรแพะและอสูรแมงมุมเสียชีวิตทีละตน
อสูรรอบข้างตื่นตระหนก ผู้นำทั้งสองนั้นแข็งแกร่ง ตนหนึ่งสามารถปลดปล่อยกลิ่นอายอสูรได้ ในขณะที่อีกตนหนึ่งควบแน่นแก่นอสูรได้แล้ว กระนั้นพวกมันยังถูกสังหารในหนึ่งหรือสองกระบวนท่าเพียงเท่านั้นเองหรือ?
ข้าจะถูกพวกมันจับไม่ได้ เมิ่งชวนรู้ดีว่าเขาเผยเทคนิคออกไปนิดหน่อยแล้ว
ในแง่ของความแข็งแกร่ง เขาเหนือกว่าผู้นำอสูรทั้งสอง อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้น หากเป็นการสู้กันตัวต่อตัวล่ะก็ คู่ต่อสู้ของเขาคงจะใช้วิชาต้องห้าม และเขาคงจะต้องใช้สองถึงสามกระบวนท่าในการฆ่าอสูรแพะ และอาจจะต้องใช้ถึงสิบกระบวนท่าในการฆ่าแมงมุมอสูร
อย่างไรก็ตาม หากเขาต้องสู้แบบตะลุมบอนล่ะก็ เขาคงจะต้องถูกอสูรล้อมรอบเยอะกว่านี้ และเขาต้องใช้ทุกโอกาสในการช่วยชีเยว่ ดังนั้น เขาจะต้องผ่านอุปสรรค์พวกนี้ไปให้ไวที่สุด!
ก่อนอื่นเขาใช้ความเร็วทำให้พวกมันฟันกันเอง หลังจากนั้นก็ใช้โอกาสนั้นฆ่าอสูรแพะในการโจมตีครั้งเดียว ถัดมา เขาใช้แรงทั้งหมดกับพลังแห่งวิญญาณหลอมรวมเข้ากับวิชากระบี่เพื่อฆ่าอสูรแมงมุมโดยไว
ซุบบบ
เมิ่งชวนพุ่งเข้าหาแม่ทัพอสูรหมีดำ เขารู้สึกกดดันในขณะที่วางแผนเพื่อจัดการผู้นำอสูรทั้งสองโดยไว
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของอสูรรอบๆ มนุษย์คนนี้น่ากลัวเกินไป! อย่างแรกเขากำจัดอสูรธรรมดาที่ล้อมรอบได้อย่างง่ายดายก่อนที่จะสังหารแม่ทัพอสูรสองตนในพริบตา เขามีพลังมากจนคาดไม่ถึงสำหรับใครก็ตามที่ไม่ใช่เทพอสูรหรือราชาอสูร
“ฮืม? “แม่ทัพอสูรในไกลๆเห็นการตายของอสูรแพะและอสูรแมงมุมซึ่งแข็งแกร่งพอๆกับเขา มันจึงรู้สึกอันตราย
นอกจากนี้เมิ่งชวนยังไม่เลือกที่จะหนี แต่กลับพุ่งเข้าหาแม่ทัพอสูรหมีดำ
“เจ้าฆ่าผู้นำทั้งสองของข้างั้นรึ?” แม่ทัพอสูรหมีดำมองดูอยู่ไกลๆ ร่างสูงห้าจั้งของมันสูงกว่าอาคารโดยรอบ แขนของมันหนายิ่งกว่าต้นไม้ และมันก็จ้องมองไปที่มนุษย์ตัวจ้อยด้วยความเย็นชา
“ในเมื่อมันต้องการจะตายนัก ล้อมมันซะ อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้” อสูรหมีดำกล่าว “ฆ่าจะบดขยี้มันเสีย”
“ล้อมมัน”
“อย่าปล่อยให้มันหนี”
“ล้อมมัน”
กองทัพที่ก่อนหน้านี้พุ่งไปทางสำนักเต๋าจิงหู่เต็มแรง ก็หยุดตามคำสั่งของแม่ทัพและหันมาล้อมเมิ่งชวนแทน
อสูรเกือบหนึ่งพันตัว ที่กระจายไปเกือบหนึ่งลี้ เริ่มล้อมเขา แรงกดดันที่มีต่อเมิ่งชวนนั้นมหาศาล
เมิ่งชวนจ้องมองด้วยความเย็นชา
หากพวกมันไปถึงสำนังเต๋าจิงหู่ สำนักเต๋าจะต้องเจอปัญหาใหญ่แน่ๆ ด้วยอาวุธยุทโทปกรที่มีอยู่ สำนักเต๋าสามารถจัดการกับอสูรธรรมดาๆได้ อย่างไรก็ตาม หากต้องเจอกับแม่ทัพอสูรก็คงจะลำบาก หากต้องเจอกับแม่ทัพอสูรล่ะก็…. พวกเขาอาจต้องใช้คนจำนวนมากกว่านี้เพื่อช่วยป้องกัน ต้องใช้จำนวนเพื่อที่จะทดแทนความแข็งแกร่ง
“จับมัน” แม่ทัพอสูรหมีดำชี้ไปยังเมิ่งชวนที่กำลังพุ่งเข้ามา
อสูรนับร้อยที่อยู่ใกล้แม่ทัพกระโจนเข้ามา
“สังหารมัน!”
ในตอนนี้เอง เมิ่งชวนชักกระบี่ออกมา เขาฟาดฟันอย่างดุเดือด
ฉับๆๆๆ! ลำแสงกระบี่ที่ยาวหลายจั้งพุ่งออกมา ในพริบตาเดียว เมิ่งชวนก็เหวี่ยงกระบี่ไปกว่าร้อยครั้งแล้ว
ลำแสงกระบี่พุ่งเข้าใส่อสูรที่พุ่งเข้ามา
หลังจากตระหนักรู้ถึง”พลัง” เขาสามารถปลดปล่อยพลังปราณได้ หลังจากควบแน่นแก่นเทพอสูร พลังปราณจะได้รับการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นกลายเป็นกระแสปราณ จนรากฐานของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าจอมยุทธในระดับเดียวกัน ร่างกายของเขาและแก่นแท้ก็แข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า! ลำแสงกระบี่ที่ดึงพลังจากฟ้าดินมาใช้นั้นก็ทำให้มันยาวขึ้นอีกหลายจั้ง! กระบี่นับร้อยพุ่งออกมาจนเหล่าอสูรหวาดหวั่น
ฉับๆๆๆๆๆๆ
ลำแสงกระบี่เร็วเกินไป แม้ว่าอสูรกลุ่มใหญ่จะหนีไปด้วยความตื่นตระหนก แต่พวกมันก็ถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย บางตัวก็ถูกผ่าครึ่ง ลำแสงกระบี่บางเล่มหั่นผ่านอสูรสามตัวพร้อมกันด้วยซ้ำ
ในพริบตาเดียว อสูรกว่าครึ่งร้อยตาย มีเพียงอสูรไม่กี่ตัวเท่านั้นที่โชคดีพอที่จะรอด พวกมันกลัวเกินกว่าจะพุ่งเข้าไปด้วยซ้ำ
‘พลังปราณของข้าหมดลงครึ่งหนึ่งในทันที ข้าทำแบบนี้บ่อยไม่ได้จริงๆ’ เมิ่งชวนรู้สึกเหมือนจุดตันเถียนของเขานั้นว่างยิ่งกว่าเดิม