ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art – ตอนที่ 85

ตอนที่ 85

ตอนที่ 85 ขึ้นเขาหยวนชู

เช้าวันรุ่งขึ้นหิมะก็หยุดลง หิมะหนาปกคลุมไปทั่วพื้นดิน

หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จเหล่าอัจฉริยะและญาติๆก็ไปรวมตัวกันที่ลานกว้างด้านหน้าอาคาร

‘ในที่สุดข้าก็มาถึงการคัดเลือกรอบสุดท้าย นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของข้าแล้ว’ อัจฉริยะคนหนึ่งยืนอยู่ตรงมุมเพียงคนเดียว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ‘นี่คือการเสี่ยงดวงครั้งสุดท้ายของข้า ข้าอายุยี่สิบแล้ว ข้าจะต้องติดอันดับให้ได้’

อัจฉริยะหลายคนนิ่งเงียบ ความกดดันนี้นั้นมันมากมายมหาศาล

แม้แต่องค์หญิงหลี่อิ๋งและคนอื่นๆที่ติดสิบอันดับแรกในรอบคัดเลือกไปอย่างฉิวเฉียดเองก็เป็นกังวล พวกเขาก็มั่นใจว่าจะสอบติด แต่พวกเขารู้สึกกลัว! หากจู่ๆเขาหยวนชูเปลี่ยนไปเลือกคนอื่นแล้วดันพวกเขาให้ขึ้นมาอยู่ในยี่สิบอันดับแรกล่ะ มันก็ยังน่ากังวลไม่ใช่เหรอ?

หลังจากการคัดเลือก คนที่น่าจะได้เข้าสู่เขาหยวนชูแน่ๆก็น่าจะมีเมิ่งชวน ชี่หยวนถงและซงชา

“พวกเขามาแล้ว”

“ราชาตงเหอและอื่นๆมากันแล้ว”

ทุกคนต่างนิ่งเงียบ เมิ่งต้าเจียงและเมิ่งชวนเงยหน้าขึ้นมองราชาตงเหอ ชายผมกระเซิงและหญิงสาวชุดสีฟ้าที่เดินเข้ามา ทั้งสามคนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ากลุ่มคน

ราชาตงเหอกวาดสายตามองไปยังทุกคนและพูดว่า “วันนี้เป็นวันคัดเลือกรอบสุดท้ายของเขาหยวนชู การคัดเลือกรอบสุดท้ายนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเจ้า ตราบใดที่พวกเจ้าสามารถแสดงให้เห็นว่าแข็งแกร่งหรือมีคุณสมบัติเพียงพอ เขาหยวนชูของเราก็จะรับเจ้าเข้าไป แต่ว่าที่ว่างมีอยู่ยี่สิบที่เท่านั้น ดังนั้นพวกเจ้าส่วนใหญ่ก็จะถูกคัดออก”

ทุกคนรับฟังไปเงียบๆ

“ทำผลงานให้ดี พวกเจ้าแปดสิบสามคนปีนี้ก็อายุยี่สิบแล้ว” ชายผมกระเซิงกล่าวเช่นกัน “ถ้าเจ้าพลาดโอกาสนี้ เจ้าจะไม่มีโอกาสครั้งที่สอง”

“ไปกันได้” หลังจากที่ราชาตงเหอพูดจบ พื้นที่รอบตัวเขาก็บิดเบี้ยวก่อนจะห่อหุ้มทุกคนที่อยู่ที่ตรงนั้น ทุกคนต่างมองราชาตงเหอตรงๆไม่ได้อีกครั้งหนึ่ง

เมิ่งชวนรู้สึกถึงพลังที่มองไม่เห็นโอบล้อมเขาเบาๆ มีบางอย่างที่มองไม่เห็นอยู่ใต้เท้าของเขาคอยเป็นที่เหยียบ จากนั้นเขาก็ลอยขึ้นไป

เทพอสูรทั้งสามลอยขึ้นไปพร้อมกับคนเกือบสองร้อยคน พวกเขาบินไปยังเขาหยวนชูขนาดยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางก้อนเมฆ

เขาเหาะกันได้เร็วขนาดนี้ทั้งๆที่แบกคนไปด้วยตั้งสองร้อยคนได้ยังไงกัน? เมิ่งชวนรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เหล่าอัจฉริยรู้สึกได้ว่าตัวเองลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆค่อยๆออกจากเมืองหยวนชูและมุ่งหน้าไปยังเขาหยวนชู

เขามองเห็นเขาหยวนชูได้อย่างชัดเจน และแม้จะเดินทางด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อของราชาตงเหอ แต่ก็ยังใช้เวลาถึงสิบนาทีกว่าจะถึง

เมิ่งชวนและคนอื่นๆรู้สึกตกใจมากเมื่อได้เห็นเขาหยวนชูใกล้ๆ

สูงตระหง่าน กว้างขวาง ยิ่งใหญ่…

มันใหญ่จนราวกับพวกเขาเป็นแค่เศษฝุ่นเล็กๆตรงหน้ามัน

ฟิ้ววว

หลังจากลอยผ่านเชิงเขาไป พวกเขาก็บินไปเรื่อยๆ ผ่านยอดเขาข้ามไปที่หุบเขา

ราชาตงเหอพาเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายไปที่ทางเข้าของหุบเขาขนาดใหญ่ เทพอสูรมากมายมารวมตัวกันที่ทางเข้าแล้ว นอกจากขุนนางเมฆาใต้ ราชาทะเลชีไห่และเทพอสูรคนอื่นๆที่มาดูการทดสอบเมื่อวานแล้ว ยังมีเทพอสูรคนอื่นๆอีก พวกเขาอยู่กันประมาณห้าสิบคน

“นั่นเมิ่งชวนรึ?”

“จิตรับรู้ระดับ S?”

เทพอสูรที่เพิ่งมาดูการทดสอบ สังเกตเห็นเมิ่งชวน

หลังจากที่ราชาตงเหอร่อนลง เขาก็เดินไปที่ผู้อาวุโสที่ใส่ชุดผ้าเนื้อเนียน

“ผู้อาวุโสอี่” ราชาตงเหอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านมาที่นี่เพื่อชมการคัดเลือกรอบสุดท้ายด้วยงั้นหรือ?”

“ท่านเจ้าเขาสั่งให้ข้ามาดูเมิ่งชวนที่ว่านี่เป็นการส่วนตัว” ผู้อาวุโสกล่าว ทั้งสองยืนอยู่ตรงหน้าเหล่าเทพอสูรคนอื่นๆ เทพอสูรคนอื่นๆนั้นมีท่าทีแสดงความเคารพทั้งสองอย่างเห็นได้ชัด เพราะทั้งสองนั้นเป็นเทพอสูรระดับราชาทั้งคู่ มีเทพอสูรระดับราชาอยู่เพียงน้อยนิด และพวกเขาเหล่านั้นจะมีสถานะที่สูงมากๆ ยิ่งไปกว่านั้น เทพอสูรระดับราชาส่วนมากจะต้องคอยคุมด่านขนาดใหญ่ ทำให้พวกเขาออกมาไม่ได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นการหายากที่พบเทพอสูรระดับราชาถึงสองคนมาเฝ้าดูการทดสอบ

“ท่านเริ่มได้เลย” ผู้อาวุโสกล่าว “ข้าจะคอยดูอยู่ข้างๆ”

“เข้าใจแล้ว” ราชาตงเหอก้าวไปข้างหน้านิดหน่อยก่อนจะมองดูเหล่าอัจฉริยะ “การคัดเลือกรอบสุดท้ายมีสองส่วน ส่วนแรกคือการสังหารอสูร!”

แววตาของอัจฉริยะหลายคนลุกวาว บางทีการทดสอบรอบสุดท้ายของเขาหยวนชูจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่ว่ามีเพียงการสังหารอสูรเท่านั้นที่ไม่ได้เปลี่ยนไป!

“พวกเจ้าหลายคนคงคิดว่ายังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเจ้าออกมาในรอบแรก ตอนนี้โอกาสของเจ้ามาถึงแล้ว การสังหารอสูรเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแสดงความแข็งแกร่งของเจ้า” ราชาตงเหอชี้ไปที่หุบเขาตรงหน้า “ดูนั่น มีอสูรจำนวนนับไม่ถ้วนถูกขังอยู่ในหุบเขา อีกไม่นานเจ้าจะได้ต่อสู้กับพวกมัน เจ้าจะสังหารพวกมันกี่ตัวก็ได้ แต่ผู้นำอสูรสังหารแค่สิบตัวก็พอ จะสังหารไปกี่ตัวไปก็ไม่มีประโยชน์ ส่วนแม่ทัพอสูรน่ะหรือ? ยิ่งสังหารได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”

จากนั้นเมิ่งชวนและคนอื่นๆก็มองไปที่หุบเขา

หุบเขาขนาดใหญ่ถูกหมอกบดบังเอาไว้ ด้านหลังหมอกนั้นสามารถมองเห็นถ้ำและหน้าผาได้อย่างเลือนลาง และหากฟังเสียงดีๆแล้ว ก็จะได้ยินเสียงคำรามต่ำดังมาแต่ไกล

ถ้าบนหน้าผานั้นค่อนข้างจะไกลเลย เมิ่งชวนกะระยะทางจากความรู้สึกของเขาได้ประมาณหนึ่งลี้

‘อสูรนับไม่ถ้วนถูกขังอยู่ในหุบเขา? ทำไมเขาหยวนชูถึงขังอสูรไว้มากมายขนาดนี้? เพื่อทดสอบพวกเราอย่างนั้นหรือ?’ เมิ่งชวนสงสัยในจุดประสงค์ของเขาหยวนชู

“การทดสอบนี้ใช้เวลาหนึ่งก้านธูป” ราชาตงเหอกล่าวต่อ “หากพวกเจ้ากำลังจะถูกสังหาร ข้าจะเป็นคนช่วยเจ้าเอง เอาล่ะ ไปกันได้”

เมิ่งชวน เหยียนจิน ชี่หยวนถง ซงชา ฉู่หยง หยานเฟิง เหยียนซื่อท่ง จินฮ้วนและอัจฉริยะคนอื่นๆเดินไปที่หุบเขานั้น

ส่วนเหล่าญาติๆนั้นได้แต่มองดูการทดสอบอย่างเป็นกังวล

“ราชาตงเหอ” เทพอสูรชุดสีแดงกล่าวขึ้น

“เริ่มได้” ราชาตงเหอพยักหน้า

จากนั้นหญิงสาวชุดแดงก็ก้าวไปข้างหน้า ร่างของเธอวูบหายไปโผล่ตรงหน้าหุบเขานั้น

เมิ่งชวนและคนอื่นๆมองไปที่เทพอสูรชุดสีแดงด้วยความประหลาดใจ

เทพอสูรชุดสีแดงยังคงเดินต่อไป เธอค่อยๆเดินทีละก้าว เดินผ่านอัจฉริยะจำนวนมากก่อนจะไปถึงถ้ำใกล้ๆหุบเขานั้น

ทุกๆถ้ำมีอสูรที่ถูกตรวนเอาไว้อยู่ พวกมันเหล่านั้นขยับตัวไม่ได้ พวกมันต้องอาศัยอยู่ในถำ้มืดๆตลอดเวลาโดยมีความเกลียดชังมนุษย์ที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่จู่ๆโซ่ตรวนของพวกมันก็ร่วงลงสู่พื้น

“โอ?” อสูรในถ้ำดูประหลาดใจ ทำไมโซ่ที่ตรวนมันไว้อยู่ถึงปลดออก? อย่างไรก็ตาม พวกมันต่างมีความสุข

“พวกเราหนีกันได้แล้ว”

“ท่านราชาอสูรต้องช่วยพวกเราไว้แน่ๆ” พวกอสูรรีบออกมาจากถ้ำ

เทพอสูรชุดสีแดงเดินผ่านหุบเขาไป อสูรจำนวนมากกระโดดลงมาจากถ้ำเหล่านั้น อสูรบางตนกำลังปีนป่ายหน้าผาเหมือนกับเดินเล่น บางตนก็กำลังสยายปีกบินอยู่เหนือหุบเขา

พื้นดิน หน้าผา และท้องฟ้าเต็มไปด้วยอสูร มีพวกมันเป็นพันตัวตรงนั้น

“มีมนุษย์อยู่ที่นี่”

“ฆ่ามันซะ”

เหล่าอสูรพุ่งเข้าใส่เทพอสูรหญิงคนนั้น

“เงียบ” จู่ๆเธอก็พูดขึ้นมา มีคลื่นพลังที่มองไม่เห็นแผ่กระจายไปทั่วหุบเขาพร้อมกับเสียงของเธอ

เหล่าอสูรที่ก่อนหน้านี้ต่างวิ่งเต้นและทำท่าทีดุร้าย เงียบลงในทันทีและมองมาทางหญิงสาวชุดสีแดงด้วยความเคารพ

ภายในใจของเมิ่งชวนและคนอื่นๆรู้สึกสะพรึง

เพียงคำๆเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้อสูรกว่าพันตัวนิ่งเงียบอยู่กับที่ได้อย่างนั้นหรือ?

เทพอสูรชุดสีแดงหันกลับมามองเมิ่งชวนและคนอื่นๆ “ที่ตรงนี้มีอสูรทั้งหมด 1227 ตัว มีผู้นำอสูรกว่าพันตัวในนั้น ส่วนแม่ทัพอสูรนั้นมีทั้งหมด 135 ตัว พวกเจ้าแค่ต้องปกป้องตัวเองให้ได้ก่อนที่จะคิดสังหารอสูรพวกนั้น”

สีหน้าของเหล่าอัจฉริยะเปลี่ยนไป ขนาดเมิ่งชวนและเหยียนจินยังทำหน้าขรึม พวกเขารู้ดีว่าแม่ทัพอสูรแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ว่าที่ตรงนี้มีพวกมันเป็นร้อยตัวเลยรึ?

หากพวกเขาบุกเข้าไปเลย ก็คงจะไม่มีทางที่จะได้แตะตัวอีกฝ่ายด้วยซ้ำ แทนที่จะเป็นสังหารอสูร พวกเขานั่นแหละจะเป็นฝ่ายถูกสังหาร!

“ฆ่าสิ สังหารมนุษย์ทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าเจ้าสิ” เทพอสูรชุดสีแดงชี้ไปทางเมิ่งชวนและคนอื่นๆ

ดวงตาของอสูรนับพันที่เชื่อฟังในตอนแรกเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงด้วยความบ้าคลั่ง พวกมันคำราม ส่งเสียงร้องดังก้องไปทั่วทั้งหุบเขาและพุ่งเข้ามาใส่เมิ่งชวนกับคนอื่นๆอย่างบ้าคลั่ง บางตนพุ่งโฉบมา ส่วนบางตัวก็ปีนป่ายหน้าผาลงมาอย่างว่องไว และส่วนมากก็พุ่งเข้าใส่จากพื้นดิน

เทพอสูรชุดสีแดงเฝ้ามองอย่างใจเย็น หลังจากนั้น เธอก็เหาะกลับไปที่ทางเข้า

“เริ่มขึ้นแล้ว”

ราชาตงเหอและเทพอสูรอีกคนเฝ้าดูอยู่นิ่งๆ ตรงข้างๆนั้นมีก้านธูปที่ถูกจุดเอาไว้

การทดสอบสังหารอสูรจะดำเนินไปด้วยเวลาหนึ่งก้านธูป

ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art

ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art

Status: Ongoing

โลกนี้ถูกรุกรานโดยเหล่าปิศาจมานานนับศตวรรษ มนุษยชาติได้รวมตัวกันก่อตั้งสำนักที่เก่าแก่อย่างสำนักเขาหยวนชูขึ้นมา และจัดตั้งระบบการฝึกฝน พร้อมทั้งส่งเทพอสูรไปป้องกันประตูทางเข้าโลกต่างๆ

เมิ่งชวนอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่เชี่ยวชาญกระบี่ไว แม้ว่าชีวิตนี้จะได้รับมรดกอันล้ำค่า แต่ปณิธานที่อยู่ภายในใจมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือกำจัดพวกปิศาจให้สิ้นซาก! ในอดีตมารดาของเขาได้ยอมสละชีวิตของตนเองเพื่อปกป้องเขา เรื่องนี้กลายเป็นแผลในใจที่ไม่อาจจะลืมเลือนได้ เขามุ่งมั่นและทุ่มเททุกอย่างเพื่อที่จะได้เข้าสู่เขาหยวนชู และได้รับทรัพยากรกับการสั่งสอนที่ดีกว่า นอกเหนือจากการฝึกฝนแล้ว สิ่งเดียวที่ทำให้จิตใจของเขาสงบลงได้ก็คือการวาดรูป และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท