ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art – ตอนที่ 143

ตอนที่ 143

ตอนที่143 ถอนกําลัง

เพิ่งชวนและคนอื่นๆถูกเหล่าราชาอสูรจู่โจมอย่างต่อเนื่อง แต่การป้องกันของพวกเขานั้นสมบูรณ์แบบ

นายพลจางหวินอู่ที่ได้รับการปกป้องอยู่ สามารถซัดทวนสั้นของเขาได้อย่างสบายใจ ทวนสั้นเปลี่ยนกลายเป็นลําแสงสีทองเมื่อถูกซัดออกไป ในระยะเพียงสิบปิ้ง ราชาอสูรระดับสามธรรมดาก็ไม่สามารถหลบทวนนั้นได้และตายไปในทันที

“หัวหน้า พวกเราอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว” เมื่อราชาอสูรกระทิงเห็นดังนั้นมันก็ส่งกระแสจิตไป “พวกเราพยายามโจมตีใส่เพิ่งชวนแล้ว แต่เราทะลวงการป้องกันของมันไม่ได้เลย! จางหวินอู่เองก็ซัดทวนสั้นได้แบบไม่ต้องกังวลอะไร ราชาอสูรระดับสามของเราตายไปห้าตนแล้วพวกเราจะปล่อยให้จางหวินอู่โจมตีตามใจชอบต่อไปไม่ได้แล้ว”

ราชาอสูรในชุดสีดํามองดูสนามรบอย่างใจเย็นและตัดสินสถานการณ์ แผนของมันผิดพลาดตอนแรกมันเชื่อว่าไม่ว่าเพิ่งชวนจะเร็วแค่ไหน แต่หากต้องรับการโจมตีจากอสูรหลายๆตนพร้อมกันมันก็ต้องยากแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นมือใหม่ในสนามรบ การจะทะลวงการป้องกันของเขานั้นคงจะเป็นเรื่องง่าย และหากว่ามันสามารถสังหารอัจฉริยะที่มีร่างอสูรตัดสายฟ้าที่สมบูรณ์ได้ล่ะก็ มันก็จะได้แต้มเป็นจํานวนมหาศาล!

แต่ว่าสถานการณ์มันกลับไม่ตรงตามที่มันคิดเอาไว้

แผนของมันก็ไม่ได้แย่ แค่มันไม่รู้ว่าแก่นสารแห่งจิตของเพิ่งชวนนั้นไปถึงระดับสองแล้ว เขตการรับรู้ของเขากว้างขึ้นเป็น 20 จัง ไม่มีสิ่งใดที่เขาสัมผัสไม่ได้ในระยะนั้น เพิ่งชวนแข็งแกร่งกว่าที่มันคิดเอาไว้เขาสามารถควบแน่นพลังของแก่นสารแห่งจิตเข้ากับร่างกายตอนไหนก็ได้

“เปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีใส่นี่ฉิวแทน” ราชาอสูรในชุดคลุมสีดําสั่งการผ่านกระแสจิต

“รับทราบ” กําลังใจของราชาอสูรทุกตนเริ่มดีขึ้น

พวกมันหมดหวังที่จะโจมตีโดนเมิ่งชวนมาซักพักแล้ว และพวกมันจะเปลี่ยนไปโจมตีใส่เทพอสุรคนอื่นได้ก็ต่อเมื่อได้รับคําสั่ง พวกอสูรทําตามคําสั่งอย่างเคร่งครัด หากมันขัดขืนมีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่

“ทักษะการเคลื่อนไหวของเจ้านี่มันแปลกเกินไป มันป้องกันได้ดีมากเกินไป พวกเราทะลวงเข้าไปไม่ได้เลย แต่ฉีฉิวนั้นอ่อนแอกว่า” ราชาอสูรพวกนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจเทพอสูรคนอื่นๆนั้นคือศัตรูเก่าของพวกมัน

ในแง่ของการต่อสู้ระยะประชิด ในหมู่ศัตรูที่มันเคยเจอมา จางหวินอู่นั้นแข็งแกร่งที่สุด! รองลงมาคือเทพอสูรหญิงที่ใช้ดาบคู่ มู่ฉิง ที่อ่อนแอที่สุดคือเทพอสูรที่มีร่างเทพสว่างโชติฉีฉิว

แต่ในแง่ของการป้องกัน ฟานเฉิงนั้นคือที่สุด!

แต่ว่าเมื่อเริ่มการต่อสู้ไปได้พักหนึ่งพวกมันก็พบว่าการป้องกันของเมิ่งชวนนั้นไม่ด้อยไปกว่าของฟานเฉิงเลย

ครืน!

หนวดและเถาวัลย์แหลมทะลวงออกมาจากพื้นและโจมตีใส่ฉีฉิว

ราชาอสูรเริ่มเข้าประชิดกันเรื่อยๆ!

“ฉีฉิว ระวัง!”

ทุกคนต่างตกใจ มันรวดเร็วเกินไป! แม้ว่าเพิ่งชวนและคนอื่นๆยืนแยกกันอยู่ แต่พวกเขาก็ยังอยู่ใกล้กัน ก่อนหน้านี้ราชาอสูรโจมตีใส่เพิ่งชวนอย่างบ้าคลั่ง แต่ในตอนนี้พวกมันแทบทั้งหมดเบ่งเบนความสนใจไปที่ฉีฉิวแทน! ราชาอสูรหัวกะทิทั้งสามตัวเป็นหัวหอกในการโจมตีนี้สถานการณ์ของฉีฉิวตอนนี้วิกฤติขึ้นในทันที

แกรัง จางหวินอู่พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทวนสั้นในมือทั้งสองเล่มของเขาบัดการโจมตีของราชาอสูรในทันที มันเปลี่ยนกลายเป็นภาพติดตาสีทอง และหลังจากใช้ไปหลายกระบวนท่าจางหวินอู่ก็ป้องกันการโจมตีที่โจมตีใส่ฉีฉิวได้เกินครึ่ง จากนั้นฉีฉิวก็ป้องกันการโจมตีที่เหลือไป

และด้วยการช่วยเหลือของหยางจิงอู่จึงทําให้ฉีฉิวสามารหลบการโจมตีอันบ้าคลั่งของเหล่าอสูรไปได้ แต่ว่ามันก็ทําให้หยางจึงอู่ไม่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจไปสังหารศัตรูได้

“มันประเมินข้าต่ําไปแล้ว” แววตาของเมิ่งชวนทอประกายเย็นชา ก่อนหน้านี้เขาถูกราชาอสูรกลุ่มใหญ่ล้อมโจมตี แต่ตอนนี้มีเพียงห้าตัวที่โจมตีใส่เขาอยู่ พวกมันต่างเป็นราชาอสูรระดับสามธรรมดาอย่างนั้นรึ? ไม่มีพวกหัวกะทิเลยซักตัว?”

ท่ามังกรคําราม!

เพิ่งชวนโจมตีใส่โดยไม่รีรอ

ราวกับเมิ่งชวนแบ่งออกเป็นห้าร่าง แต่ละร่างแทงออกมาเป็นลําแสงแสบตาราวกับสายฟ้ามันทะลวงผ่านอากาศไปในทิศทางที่แปลกประหลาด มันส่งเสียงแหลมบาดแก้วหูราวกับมังกรที่ทะยานตัวขึ้นมาจากผิวน้ํา ราชาอสูรระดับสามทั้งห้าตัวนั้นเห็นแค่แสงที่วาบขึ้นมาก่อนที่ลําแสงกระบี่จะมาโผล่ตรงหน้ามัน

มันเร็วเกินไป! เร็วจนอากาศบิดเบี้ยวจนระยะทางถูกย่นลง

ราชาอสูรทั้งห้าไม่มีเวลาหลบทัน

ฟุบๆๆๆ!

ลําแสงกระบี่แทงทะลุหว่างคิ้วผ่านกระโหลกของพวกมันทุกตัว ราชาอสูรอาจจะยังมีชีวิตอยู่ต่อได้ซักพักหากหัวใจมันถูกทําลาย แต่หากหัวมันถูกกทะลวงไปเช่นนั้นก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่

ราชาอสูรล้มทรุดลงไปกันทีละตัว

นั่นทําให้ราชาอสูรที่กําลังโจมตีใส่ฉีฉิวต้องนิ่งไป มันรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมา

ราชาอสูรระดับสามห้าตัวตายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว?

“ท่าสังหารของมันเร็วเกินไป! การโจมตีของจางหวินอู่ก็ยังไม่เร็วเท่านั้นเลยไม่ใช่เหรอ?”

“ร่างอสูรตัดสายฟ้ารวดเร็วราวกับสายฟ้า มันเร็วจริงๆ”

” เร็วไปแล้ว”

ราชาอสูรระดับสามธรรมดาสั่นสะท้าน

ด้วยร่างเทพอสูรระดับสูงพิเศษที่สมบูรณ์แบบนั้น พละกําลังและพลังปราณของเมิ่งชวนก็เพียงพอที่จะจัดการกับราชาอสูรพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย! นั่นยังไม่รวมถึงระดับวิชากระบี่ของเขาอีกมีเพียงราชาอสูรหัวกะทิเท่านั้นที่จะต่อกรกับเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีเขตแดนของแก่นสารแห่งจิตอีก เขารับรู้สถานการณ์ในสนามรบได้อย่างสมบูรณ์แบบ! ไม่จําเป็นต้องใช้พลังแก่นสารแห่งจิตในการโต้กลับเลยด้วยซ้ํา

ราชาอสูรห้าตัวนั้นไม่มีค่าพอที่จะให้เขาใช้พลังของแก่นสารแห่งจิตด้วย

“เยี่ยมยอด” จางหวินอู่ที่ตอนนี้ได้แต่ป้องกัน เช่นเดียวกันกับฉีฉิว หยู่จี้หยานและคนอื่นๆต่างมีความสุข

แต่ว่าทางฝั่งของเหล่าราชาอสูรนั้นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง พวกมันดูจะท้อแท้ขึ้นมา

“การป้องกันของเมิ่งชวนนี้แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว แต่การโจมตีของมันทรงพลังยิ่งกว่า”

“กระบี่ของมันเร็วเกินไป เร็วจนแทบจะป้องกันมันไม่ได้เลย”

“จากข้อมูลที่ได้รับมา เทพอสูรมหาสุริยันที่มีร่างอสูรตัดสายฟ้าที่สมบูรณ์จะเร็วเท่ากับราชาอสูรระดับที่ห้าเลย! การโจมตีของมันเองก็เร็วมากๆด้วย”

“พวกเราไม่ควรจะเข้าต่อสู้ระยะประชิดกับมัน และหากพวกเราต้องเข้าประชิดตัว พวกเราต้องล้อมมันด้วยราชาอสูรจํานวนมากกว่าสิบตนเหมือนคราวก่อน ต้องกดดันมันเอาไว้ให้เพียงพอ”

พวกราชาอสูรพูดคุยกันผ่านกระแสจิต ทําให้การโจมตีของมันเริ่มอ่อนลง

“หัวหน้า ราชาอสูรระดับสามตายไปสิบตนแล้ว พวกเราทําอย่างไรดี?” ราชาอสูรกระทิงถามมันเป็นรองหัวหน้า ประวัติของมันเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าของหัวหน้าของมันเลยแค่มันอ่อนแอกว่านิดหน่อยเท่านั้น

เมื่อเทียบกับครั้งก่อนๆแล้ว แม้ว่าจะไม่มีราชาอสูรหัวกะทิตนไหนที่ตายไป แต่การสูญเสียราชาอสูรระดับสามไปสิบตนก็เรียกได้ว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่

“เจ้าเพิ่งชวนนี่” ราชาอสูรในชุดคลุมสีดําต้องปวดหัว

ให้โจมตีเพิ่งชวนอย่างนั้นเหรอ? แต่พวกมันทะลวงการป้องกันของเขาไม่ได้ และนั่นจะทําให้จางหวินอู่ซัดทวนสั้นอันทรงพลังของเขาได้อย่างต่อเนื่อง จะไม่สนใจเขาเหรอ? เมิ่งชวนก็จะโต้กลับในทันที! การโจมตีของเมิ่งชวนนั้นรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาด และความเร็วในการสังหารราชาอสูรที่อ่อนแอกว่าของเขาก็ไวกว่าของจางหวินอู่มาก!

พวกมันไม่สามารถโจมตีใส่หรือไม่สนใจเขาได้!

“ถอยทัพ!” ราชาอสูรในชุดสีดําสั่งการผ่านกระแสจิต “ส่งคําสั่งไปว่าถอยทัพ”

ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ การถอยทัพจะทําให้สูญเสียน้อยที่สุด

“รับทราบ” ราชาอสูรระดับสามทั้งหมดหยุดโจมตีและกลับไปหลบอยู่ในเขตแดนที่ซ้อนๆกันอยู่ในทันที

เสียงแตรสัตว์ดังขึ้น

ราชาอสูรระดับสองที่กําลังต่อสู้กับเทพอสูรอยู่บนกําแพงก็ล่าถอย จากนั้นมันก็รีบกระโดดลงจากกําแพงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าหลิวซีเยว่จะยิงโดนพวกมันอย่างต่อเนื่อง แต่ราชาอสูรพวกนั้นก็ยังวิ่งไปที่ประตูพิภพอย่างไม่หยุดยั้ง

พวกอสูรที่ก่อนหน้านี้พยายามจะปีนกําแพงก็หวนกลับมาราวกับน้ําหลากและวิ่งไปที่ประตูพิภพอย่างบ้าคลั่ง

พวกมันกําลังล่าถอย!

กลับกัน พวกอสูรที่อยู่ที่กําแพงชั้นนอกต่างตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง พวกมันไม่สามารถ ล่าถอยได้และได้แต่มุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง พวกมันอยากจะผ่านประตูเมืองไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้เพื่ออิสระภาพ

“พวกอสูรล่าถอยกันแล้ว” จางหวินอู่ยิ้ม ทุกคนรู้สึกโล่งใจ

“น้องเมิ่ง ทําได้ดีมาก” ฉีฉิวกล่าวชม

“เอาล่ะๆ อย่าพึ่งดีใจไป พวกเรายังต้องยื้อราชาอสูรระดับสามพวกนี้ไว้อยู่ ต้องระวังตัวให้ดีว่ามันไม่ใช่ลูกไม้จู่ๆพวกมันก็อาจจะโจมตีใส่กําแพงก็ได้”

พวกราชาอสูรไม่ได้จะเล่นแง่หรือลูกไม้ใดๆทั้งสิ้น บางทีพวกมันคงจะรู้ดีว่ามันไร้ประโยชน์ต่อหน้าผู้บัญชาการอย่างจางหวินอู่

ในไม่ช้า ราชาอสูรระดับสองที่ยังมีชีวิตอยู่ก็กลับไปก่อน จากนั้นก็เป็นอสูรธรรมดาที่หนีกลับเข้าไปจากนั้นราชาอสูรระดับสาม 15 ตัวก็กลับเข้าไป และสุดท้ายราชาอสูรอีก 35 ตัวก็กลับเข้า ไปในที่สุด

และอสูรที่ไม่สามารถหลบหนีไปได้ก็ถูกเทพอสูรมนุษย์สังหารจนหมด

มีอสูรเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ถูกขังเอาไว้ในอนาคตพวกมันจะเป็นเป้าฝึกซ้อมสําหรับทหารมนุษย์ส่วนอสูรตัวอื่นๆก็ถูกสังหารอย่างไร้ปรานี

หลังจากที่พวกราชาอสูรกลับสู่แดนอสูรจนหมด ผ่านไปครึ่งชั่วยามด่านเปยเหอก็สงบลงในที่สุดส่วนข้างนอกนั้นก็มีทหารที่คอยไล่ตามอสูรที่หนีไปจากด่านเปยเหอได้

ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art

ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art

Status: Ongoing

โลกนี้ถูกรุกรานโดยเหล่าปิศาจมานานนับศตวรรษ มนุษยชาติได้รวมตัวกันก่อตั้งสำนักที่เก่าแก่อย่างสำนักเขาหยวนชูขึ้นมา และจัดตั้งระบบการฝึกฝน พร้อมทั้งส่งเทพอสูรไปป้องกันประตูทางเข้าโลกต่างๆ

เมิ่งชวนอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่เชี่ยวชาญกระบี่ไว แม้ว่าชีวิตนี้จะได้รับมรดกอันล้ำค่า แต่ปณิธานที่อยู่ภายในใจมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือกำจัดพวกปิศาจให้สิ้นซาก! ในอดีตมารดาของเขาได้ยอมสละชีวิตของตนเองเพื่อปกป้องเขา เรื่องนี้กลายเป็นแผลในใจที่ไม่อาจจะลืมเลือนได้ เขามุ่งมั่นและทุ่มเททุกอย่างเพื่อที่จะได้เข้าสู่เขาหยวนชู และได้รับทรัพยากรกับการสั่งสอนที่ดีกว่า นอกเหนือจากการฝึกฝนแล้ว สิ่งเดียวที่ทำให้จิตใจของเขาสงบลงได้ก็คือการวาดรูป และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท