ตอนที่ 150 รูปสลักน้ําแข็ง 30000 ชิ้น
เมิ่งชวนพุ่งทะยานไป เขาลงบนต้นไม้และใช้มันเป็นที่เหยียบกระโดดขึ้นไปบนกําแพงเมือง และพบว่าอสูรทั้งสามหมื่นตัวนั้นยังไม่ล่าถอยกลับไป!
แม้ว่าผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาหลายตนได้ตายไปแล้ว แต่กองทัพอสูรก็ยังไม่โจมตี! พวกมันจะโจมตีหรือล่าถอยตามคําสั่งของราชาอสูรเท่านั้น
ราชาอสูรยังไม่ได้ออกคําสั่งใดๆ เราถอยไม่ได้!
หากล่าถอยโดยไม่ได้รับอนุญาตหมายถึงความตายเมื่อกลับไปถึงแดนอสูร!
เมื่อราชาอสูรสังหารเทพอสูรได้หมด พวกเราจะกวาดล้างเมืองฉงชานซะ!
แม้ว่าพวกอสูรจะไม่ค่อยสบายใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าหนี ตามกฏของพวกมันแล้วนั้น หากราชาอสูรล่าถอย พวกมันจะออกคําสั่งให้กองทัพอสูรล่าถอยไปด้วย แต่พวกมันไม่รู้ว่าในตอนนี้ราชาอสูรได้ตายหมดแล้ว ไม่เหลือผู้ใดที่จะออกคําสั่งให้พวกมันแล้ว!
หากเฟิงโหวเทพอสูรเข้ามาช่วยจัดการกับปัญหา เหล่าราชาอสูรคงจะตื่นตระหนกเมื่อรับรู้ได้ถึงพลังจากไกลๆแล้ว! และเฟิงโหวเทพอสูรนั้นช้ากว่าเมิ่งชวน ดังนั้นคงจะมีราชาอสูรที่หนีรอดออกไปได้ตัวสองตัว
อย่างไรก็ตาม พวกมันเห็นว่าเมิ่งชวนเป็นแค่เทพอสูรระดับมหาสุริยัน พวกมันมั่นใจว่าจะสู้กับเขาได้ เพราะไม่ว่าอย่างไรแล้วราชาอสูรทั้งห้าตนก็ร่วมมือกับราชาอสูรระดับสามหัวกะทิ! และด้วยความมั่นใจของพวกมันนั้นเอง จึงทําให้ตระหนักได้ถึงความแตกต่างก็ตอนที่สายเกินไป
โชคดีที่พวกมันยังไม่ได้โจมตี เมิ่งชวนถอนหายใจเมื่อเห็นว่าอสูรกว่าสามหมื่นตัวนั้นยังไม่โจมตีเมือง
เขากลัวว่าพวกอสูรจะโจมตีเมืองฉงชานในขณะที่เขากําลังสู้กับราชาอสูร นั่นคงจะทําให้มีมนุษย์ตายเป็นจํานวนมากอย่างแน่นอน นั่นเป็นเหตุว่าทําไมเขาจึงสังหารผู้บัญชาการอสูรและรองผู้บัญชาก่อน
จะหนีตอนนี้ก็สายไปแล้ว เมิ่งชวนจ้องมองกองทัพอสูรโดยไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย
เส้นสายฟ้าพุ่งผ่านไปและลงตรงใจกลางกองทัพอสูรข้างนอกเมือง
นั่นเทพอสูรนี่! พวกอสูรหวาดกลัว
สายฟ้าปะทุออกมาจากร่างของเมิ่งชวน กระแสพลังวินาศหนาทึบสีดํากระจายออกไปทั่วครอบคลุมพื้นที่กว่าร้อยจัง
กระแสพลังวินาศนั้นบางลงเมื่อปกคลุมพื้นที่ที่กว้างเช่นนี้ แต่ว่าอสูรธรรมดานั้น เพียงแค่แตะเข้ากับกระแสพลังวินาศ ก็แข็งกลายเป็นรูปสลักน้ําแข็งแข็งอยู่ตรงนั้น! กระแสพลังวินาศของเขานั้นร้ายแรงกว่าไอพิษของราชาอสูรบึงพิษมาก
ไม่ว่ากระแสพลังวินาศจะผ่านไปตรงไหน อสูรจํานวนมากก็จะแข็งตายคาที่ กลายเป็นรูปสลักน้ําแข็งตลอดไป
พวกอสูรไม่สนใจกฏอีกต่อไป ต่อหน้าความตาย มันได้แต่วิ่งหนีไปทุกทิศทุกทาง
แต่เมิ่งชวนเร็วเกินไป! เขาอ้อมไปด้านข้างของกองทัพอสูรในทันที เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ เขาก็วนรอบกองทัพอสูรไปแล้วถึงเจ็ดครั้ง! ทุกครั้งที่เขาทําเช่นนั้น ทุกอย่างในระยะร้อยจิ้งจะแข็งอยู่กับที่
อสูรทั้งหมดถูกแช่แข็ง
น่าอัศจรรย์
เหล่าทหารที่อยู่บนกําแพงเมืองต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้าพวกเขา เพียงไม่ถึงชั่วอึดใจกว่าเก้าส่วนของกองทัพอสูรสามหมื่นตนก็แข็งตายจนหมด
เมิ่งชวนเปลี่ยนเป็นสายฟ้าและวนรอบอสูรที่กําลังหนีอยู่ ก่อนจะเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นก้อนน้ําแข็ง
อสูรที่บินได้หลายตัวพยายามจะหนีแต่ก็ไม่สามารถหนีไปจากเขตการรับรู้ของเมิ่งชวนได้ พวกมันถูกแช่แข็งจนตายไม่ก็ถูกสายฟ้าฟาด
ภายในสิบวินาที อสูรกว่าสามหมื่นตัวก็ถูกจัดการจนหมด! ไม่มีตัวไหนที่เหลือรอดเลย
เทพอสูร! เทพอสูร! เหล่าทหารบนกําแพงเต็มไปด้วยความรู้สึกยินดีพร้อมกับร้องตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น
นี่คือความแข็งแกร่งของเทพอสูร! กองทัพอสูรทั้งกองถูกจัดการจนสิ้นในเวลาแค่ไม่กี่วินาที
หลังจากวาดล้างกองทัพอสูรเรียบร้อยแล้ว เมิ่งชวนก็มองขึ้นไปทางเหนือ พวกอสูรบุกเข้ามาจากทางเหนือ นั่นหมายความว่าประตูพิภพจะต้องอยู่ทางเหนือของเมืองฉงชาน
ดังนั้นแล้ว เขาจึงไปสํารวจที่ทางเหนือ
กองทัพอสูรทิ้งร่องรอยการทําลายล้างตลอดทาง ดังนั้นจึงตามรอยพวกมันได้ง่ายมาก
เจอแล้ว เมิ่งชวนพบกับประตูพิภพที่บิดเบี้ยวซึ่งมีความยาวกว่าร้อยจิ้ง มีรอยเท้าจํานวนนับไม่ถ้วนอยู่รอบๆ
ฟุบ เมิ่งชวนเก็บกระแสพลังกลับไปและลงไปยืนบนต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากหุบเขารกร้างนั้น เขานั่งรออยู่บนกิ่งไม้เงียบๆ
จัดการกับอสูรที่บุกเข้ามาได้ไม่ได้หมายความว่าจะจบ
เขาต้องยืนยันว่าจะไม่มีอสูรโผล่ออกมาจากประตูพิภพอีก! จากนั้นถึงจะกลับไปที่ด่านเปยเหอได้หลังจากที่มีคนจากเขาหยวนชูมาทําหน้าที่แทน
ฝ่าบาท ข้าเห็นมันอย่างชัดเจน กองทัพอสูรที่แข็งแกร่ง 30000 ตนวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่กลับถูกแช่แข็งจนตายคาที่ ไม่มีเหลือรอดแม้แต่ตนเดียว ตัวนิ่มร่างชุดสีดํานั่งคุกเข่าและรายงานต่อราชาอสูรชั้นสูงหลานหยู่ต้า
พวกมันหนีไม่ทันรึ? หลานหยู่ต้าขมวดคิ้วเล็กน้อยในขณะที่ราชาอสูรตัวอื่นๆที่อยู่รอบๆตกอยู่ในความโกลาหล
อสูรสามหมื่นตนหนีไม่ทันแม้จะแยกกระจายไปทุกทิศทางรึ?
บางตัวสามารถบินได้แล้วบางตัวยังสามารถดําดินได้ แต่พวกมันไม่รอดเลยซักตัวรึ?
เหล่าราชาอสูรรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อ
ข้าเห็นได้อย่างชัดเจน แม้จะอยู่ในความมืดข้าก็สามารถเห็นวัตถุขนาดเท่าฝ่ามือที่อยู่ห่างออกไปสองได้อย่างชัดเจน ตัวนิ่มตะโกนออกมา ประตูทางเหนือของเมืองฉงชาส่องสว่างไปด้วยแสงจากคบเพลิง กองทัพอสูรสามหมื่นตนนั้นเด่นสะดุดตามากในแสงเช่นนั้น ข้าเห็นได้อย่างชัดเจนในขณะที่ยืนอยู่บนเขา อสูรพวกนั้นถูกแช่แข็งจนตายหมด! ไม่มีตัวไหนเหลือรอด! ข้ากลัวมากจึงรีบหนีกลับมาในทันที
โห? หลานหยู่ต้าวางมือสีดําของมันลงบนเก้าอี้ มันพูดอย่างใจเย็น การที่จะหยุดไม่ให้อสูรกว่าสามหมื่นตัวหนีไปได้ คงจะเป็นฝีมือของเฟิงโหวเทพอสูรที่มีเขตแดนเป็นแน่ การที่โผล่ออกมาหลังจากการโจมตีได้เช่นนี้ เฟิงโหวเทพอสูรนั่นคงจะกําลังเดินทางและอยู่ใกล้เมืองฉงชานพอดี ช่างเถอะ ถือเสียว่าพวกมันโชคดีไปก็แล้วกัน
มันไม่สนใจที่จะเสียลูกสมุนไปเล็กน้อย เมื่อรู้ว่ามีเทพอสูรที่แข็งแกร่งอยู่ในพื้นที่ มันก็ไม่ส่งลูกสมุนออกไปให้ตายฟรีอีกแล้ว
ข้างๆทะเลสาบเสี้ยวจันทร์ มีศพของราชาอสูรถูกกองกันไว้อยู่ ทหารหลายคนวิ่งมาและต้องตกใจกับซากศพของราชาอสูรเหล่านี้
เทพอสูรจากเขาหยวนชูบังเอิญผ่านมาทางเมืองฉิงชานของเราและช่วยพวกเราไว้พอดี หวังฟูเฉิงกล่าวยิ้มๆ ในเมื่ออสูรถูกจัดการจนหมดแล้ว ถ่ายทอดคําสั่งไป เมืองกลับมาสงบเหมือนเดิมแล้ว ให้ทุกคนออกจากอุโมงค์ได้
ขอรับ ทหารตอบรับด้วยเสียงอันดัง และถ่ายทอดคําสั่งไปด้วยความตื่นเต้น
หวังฟูเฉิงมองไปที่หูเชี่ยว พี่หูเชี่ยวช่วยเฝ้าศพของราชาอสูรพวกนี้หน่อย คืนนี้เขาหยวนชูจะส่งคนมา จากนั้นพวกเราจะมอบซากศพให้พวกเขา
รับทราบ หูเซี่ยวพยักหน้า เขามองไปที่แขนที่ขาดไปและถอนหายใจ ข้าคงจะต้องไปที่เขา หยวนชูเพื่อจะรักษาแขนของข้า
มีเทพอสูรที่ทรงพลังบางคนสามารถรักษาอาการบาดเจ็บรุนแรงได้
อย่างเฉียนหยูยังสามารถฟื้นคืนจากอาการบาดเจ็บรุนแรงได้ มีเพียงจุดตันเถียนที่ถูกทําลายเท่านั้นที่ไม่สามารถรักษาได้ แต่อาการบาดเจ็บภายนอกทุกอย่างถูกรักษาจนสมบูรณ์
ฮ่าๆ เขาหยวนชูสามารถงอกแขนที่ขาดให้เจ้าได้ภายในวันเดียว เอาล่ะ เดี๋ยวข้าขอไปหาศิษย์พี่เมิ่งก่อน หวังฟูเฉิงยิ้ม จกานั้นเขาก็เปลี่ยนเป็นลําแสงและพุ่งไปยังกําแพงทิศเหนือ
จากนั้นเขาก็เห็นรูปสลักน้ําแข็งสีขาวเงินจํานวนมากอยู่นอกเมือง! ภาพที่อยู่ตรงหน้านั้นน่าตื่นใจยิ่ง แม้นจะเป็นฤดูร้อน แต่รูปสลักเหล่านั้นแข็งไปจนถึงกระดูก
หวังฟูเฉิงมองดูก้อนน้ําแข็งเหล่านั้นด้วยความตกใจ ศิษย์พี่เมิ่งสุดยอดเสียจริง เขาคงจะแข็งแกร่งพอๆกับเฟิงโหวเทพอสูรเลยด้วยซ้ําสินะ??