ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 9.1

ตอนที่ 9.1

ตอนที่ 9-1 เสื้อคลุม

แม่นมหลังได้นำเสื้อคลุมกลับมาที่ตำหนักเหอเซียงหยวนในทันที และสั่งให้คนรับใช้ทั้งหมดออกไปด้านนอกให้หมด

จากนั้นจึงกล่าวกับท่านย่าเมิงชิว่า

“ฮูหยินหลี่ ข้ามีบางอย่างจะเล่าให้ท่านฟัง”

เมิงชิสังเกตเห็นท่าทางที่จริงจัง ซึ่งปรากฎอยู่บนใบหน้าของแม่นมหลัว จึงพยักหน้าเล็กน้อย

“มันคืออันใดหรือ?”

แม่นมหลัวเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นโดยละเอียด

“แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ข้ามิควรมีความกังวลใจ แต่คุณหนูเว่ยหยางก็น่าสงสารจริง ๆ

นางมิรู้ และคิดว่าเสื้อคลุมนี้เป็นเสื้อคลุมธรรมดา ท้ายที่สุดนางก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี นางรู้มิทันเลห์เหลี่ยมของผู้อื่น”

เมื่อได้ฟังแม่นมหลัวกล่าวแล้ว เมิงชิ จึงเกิดความรู้สึกสงสัยขณะที่ตรวจดูเสื้อคลุมนั้น

นางใช้มือล้วงเข้าไปด้านในเสื้อคลุมเเค่เพียงเบา ๆ และได้พบว่ามือนั้นได้สัมผัสกับบางสิ่งที่มีความแหลมคม

ทันใดนั้น นางจึงจัองมองลงไปในระยะกระชั้นชิด

“หืม นี่มันอันใดกัน?”

ภายใต้ชั้นของขนสัตว์ที่นุ่มนิ่ม และอบอุ่นนั้น เต็มไปด้วยหนามที่แหลมคม และมันสามารถสะกิดเข้าสู่ผิวหนังได้

เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด มันมิใช่ขนสัตว์ แต่เป็นเข็มขนาดเล็กหลายสิบเข็ม เข็มนั้นบางและมีขนาดที่เล็กมาก

หากผู้ใดที่มิได้เพ่งมองด้วยความตั้งใจ คงมิสามารถสังเกตเห็นถึงความแตกต่างได้

“เหตุใดเสื้อผ้าจึงมีของเช่นนี้ได้”

เมิงชิขมวดคิ้วแน่นขึ้น

“เว่ยหยางเป็นเพียงแค่เด็กสาว นางคงมิรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ เข็มมีขนาดเล็กมากจนแทบจะมองมิเห็นด้วยซ้ำ

ขนเหล่านั้นอาจจะมีส่วนช่วยปกปิดมิให้เห็นเข็มเหล่านี้ได้โดยง่าย

แต่ในขณะที่บุคคลผู้นั้นสวมใส่ และมีการเคลื่อนไหวร่างกาย เข็มจะทิ่มแทงเข้าไปในผิวหนังของพวกเขาได้

ผู้ที่ชั่วร้ายเหล่านั้น! พวกเขากล้าทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!?”

เมิงชิคำรามออกมาด้วยความโกรธเคือง

แม้ว่านางจะมิได้เป็นผู้ที่เลี้ยงดูเว่ยหยางให้เติบใหญ่ แต่เว่ยหยาง ก็ยังคงเป็นหลานสาวของนางอยู่ดี

มิต้องกล่าวถึงว่า นางเป็นเด็กที่บอบบางและมีมารยาทดี

นางกลับมาบ้านหลังนี้ได้เพียงวันเดียว และมีผู้ใดกันคิดวางแผนที่จะทำร้ายนาง?

เมิงชิครุ่นคิดสักพัก นอกเหนือจาก ฮูหยินใหญ่เจียงชิแล้ว มิมีผู้ใดอีกแล้ว ที่มีความต้องการจะกระทำอันใดเช่นนี้!

สีหน้าของเมิงชิแสดงถึงความโกรธแค้น

“เสื้อคลุมตัวปัญหาอยู่ตรงหน้านี้แล้ว นางพยายามทำให้ข้าโกรธใช่หรือไม่?”

แม่นมหลัวมิได้เห็นเมิงชิอยู่ในอาการโกรธมานานมากแล้ว นางจึงรีบก้มศีรษะลง

“ฮูหยินหลี่ บางทีอาจะมิใช่ฝีมือของเจียงชิก็เป็นได้ ข้าเห็นนางปฏิบัติต่อเว่ยหยางด้วยท่าทีที่มีความเมตตา”

“ความเมตตา เช่นนั้นรึ? เด็กผู้นั้นมิได้กำเนิดจากนาง แล้วจะมีน้ำใจกับบุตรสาวของเมียน้อย เช่นนั้นรึ!

ข้าเคยคิดว่า นางเป็นผู้ที่มีภูมิหลังสูงส่ง ซึ่งน่าจะรู้ว่าควรทำอันใด และมิควรทำอันใด แต่นางทำตัวต่ำกว่าที่คิดเอาไว้

เมื่อได้เห็นว่า นางได้กลายเป็นผู้ที่มีความอิจฉาริษยามากจนเกินไป

ครอบครัวของเรามิสามารถที่จะปล่อยให้คำกล่าวแพร่กระจายออกไปได้ว่า

พวกเราเป็นผู้ที่ดูถูกเหยียดหยามและทำร้ายบุตรสาวของเมียน้อย

แม่นมหลัวเจ้าจงนำโม่ฉูไปให้เว่ยหยาง ให้นางสอดส่องแทนข้า”

“รับทราบ” แม่นมหลัวตอบทันที

แม้ว่าท่านย่าใหญ่ผู้นี้ จะเป็นผู้ที่มิค่อยใส่ใจเกี่ยวกับกิจการภายในและทรัพย์สินต่าง ๆ มากนัก

และเมื่อมองจากภายนอกแล้ว นางจะเป็นผู้ที่มีอารมณ์เยือกเย็น

แต่ทว่า ยังคงมีอารมณ์ร้อนที่ซ่อนอยู่ภายใน

หากมีบางสิ่งที่มิถูกต้อง และผิดทำนองคลองธรรม นางจะต้องทำอันใดบางอย่าง

หากมันเป็นเพียงเรื่องเข็มเล็ก ๆ จำนวนมาก สิ่งที่ต้องทำก็คือเอามันออกไป

อย่างไรก็ตาม ท่านย่าใหญ่มีความ กังวลใจว่า ฮูหยินใหญ่จะทำอย่างอื่นอีก

ทำให้ข่าวลือแพร่กระจายออกไป และจะทำร้ายชื่อเสียงของตระกูลหลี่ได้ในที่สุด

นับว่าเป็นโชคดีของเว่ยหยาง ที่ต่อไปนี้ จะมีคนของท่านย่าใหญ่ไปอยู่ดูแลนาง

คราวนี้ฮูหยินใหญ่จะต้องคิดให้ดีเสียก่อนที่จะดำเนินการใด ๆ กับเว่ยหยาง

เมิงชิครุ่นคิดบางอย่าง และกล่าวว่า

“ก่อนที่จะนำเสื้อคลุมตัวนี้ไปคืนนาง ช่วยถอนเข็มออกให้หมด และมิต้องกล่าวอันใดกับเว่ยหยางอีก”

“ข้าเข้าใจแล้ว” แม่นมหลัวกล่าวตอบ

ในขณะนี้ หลี่เว่ยหยางกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังสวนดอกไม้ โดยมีคนรับใช้เดินนำหน้าไป

ระหว่างทางหลี่เว่ยหยาง มีความรู้สึกระคายเคืองผิวหนัง ที่บริเวณลำคอ อาจจะเป็นเพราะผลกระทบจากเข็มเล็ก ๆ เหล่านั้น

ความจริงเข็มเหล่านั้น มิได้เป็นของฮูหยินใหญ่

เข็มเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของหลี่เว่ยหยาง นางติดเข็มในตอนที่มิมีผู้ใดสังเกตเห็น

นางเพียงต้องการที่จะบอกกล่าวให้เมิงชิรู้ว่า สะใภ้ใหญ่เป็นผู้ที่หน้าอย่างหลังอย่าง และมีเล่ห์เหลี่ยมที่แพรวพราว

ทันใดนั้น ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากห้องหนังสือบริเวณตรงข้าม

เป็นเสียงของคนกำลังท่องบทกวีช่างเป็นเสียงที่ไพเราะมาก มันทำให้เว่ยหยางถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ

“คุณหนูเว่ยหยาง นั่นคือคุณหนูใหญ่ นางกำลังท่องบทกวีร่วมกับเพื่อน ๆ !” ฮัวเหม่ยอธิบาย

หลี่เว่ยหยางมองไปที่นางโดยมิได้กล่าวอันใด

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท