ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 39.2

ตอนที่ 39.2

ตอนที่ 39-2 เนรคุณ

ไป๋จือกลั้นหายใจโดยมิรู้ตัว นางจ้องมองไปยังใบหน้าของจื่อหยานและคุณหนูอย่างลังเลใจ

จากนั้นได้ก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็วโดยแสร้งทำเป็นว่า มิได้ยินอันใดเลย

โม่ฉูผู้ซึ่งกำลังจัดสำรับอาหารบนโต๊ะได้หัวเราะออกมาและกล่าวว่า:

“คุณชายคงมิได้ต้องการเครื่องหยก ทองหรือว่าเงิน

แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกต่างหาก

ท่านสามารถมอบกระเป๋าหรือรองเท้า หรือสิ่งของที่มีประโยชน์ก็ได้”

ในฐานะน้องสาวการส่งกระเป๋าหรือรองเท้าคู่หนึ่งให้พี่ชายของตนเองนั้น เป็นเรื่องที่สามารถทำได้

ของขวัญอาจจะดูเล็กน้อย แต่สื่อถึงความรักที่ลึกซึ้ง หลี่เว่ยหยางพยักหน้าและชมเชย:

“ถูกต้อง”

อย่างไรก็ตาม มันยากที่จะทำแล้วเสร็จ ภายในเวลากระชั้นชิดเช่นนี้

“มีเวลาน้อยเกินไป เราอาจมิสามารถทำได้ทัน”

เพื่อมิให้หลี่เว่ยหยางเปลี่ยนใจ

จื่อหยานจึงกล่าวว่า:

“คุณหนูการเย็บปักถักร้อยอาจเป็นอันตรายต่อดวงตาท่าน ดังนั้นจึงมิควรทำด้วยตนเอง

บ่าวจะเร่งทำทั้งกลางวันและกลางคืน คิดว่า น่าจะทำกระเป๋าให้คุณชายใหญ่ได้ทันเวลา”

สายตาเย็นชาของหลี่เว่ยหยางจ้องมองมาที่นาง แต่ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม:

“จื่อหยาน ขอบใจที่เจ้าจะทำมันแทนข้า”

เมื่อจื่อหยานมิได้ยินคำคัดค้านจากนายหญิง จึงมิสามารถกลั้นยิ้มเอาไว้ได้

นางกังวลว่า จะมิสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตนเองต่อนายน้อยได้อย่างสมเหตุสมผล

และตอนนี้เป็นโอกาสอันดี!

หลังจากจื่อหยานเดินจากไป หลี่เว่ยหยางจึงวางตะเกียบลง

โม่ฉูนำถ้วยน้ำชามาวาง และกล่าวเบา ๆ ว่า:

“คุณหนู อย่าได้โกรธ…”

หลี่เว่ยหยางโกรธมาก จึงกระแทกถ้วยน้ำชาบนโต๊ะอย่างแรงจนน้ำชากระเด็นออกมา และกล่าวอย่างเย็นชาว่า

“หญิงสาวผู้นี้คิดว่าข้าตาบอดหูหนวกหรืออย่างไร?!”

ไป๋จือมิกล้าที่จะออกความเห็น แต่โม่ฉูกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า:

“จื่อหยานเป็นเด็กสาวที่มิมีหัวคิด คุุณหนูได้ออกปากเตือนนางแล้วเมื่อวานนี้ แต่นางก็มิได้เก็บเอาไปไตร่ตรอง”

หลี่เว่ยหยางหายใจเข้าลึก ๆ และคิดว่า ตนเองได้ทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว อีกทั้งยังให้โอกาสถึงสองครั้ง

แต่เด็กสาวผู้นี้คิดเพียงว่า จะปีนขึ้นไปบนกิ่งไม้ที่สูงกว่า โดยมิเคยใส่ใจความรู้สึกของนายหญิง!

หากจื่อหยานมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ก็ควรจะรู้ว่าตนเองมิควรมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับคุณชายใหญ่!

เป็นเวลานานที่หลี่เว่ยหยางมิได้เปล่งเสียงใด ๆ ออกมาและดูเหมือนจะว่า กำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง

ไป๋จือจึงทนมิได้ และในที่สุดได้กล่าวว่า:

“บางทีจื่อหยานอาจถูกหลอกก็เป็นได้!”

หลี่เว่ยหยางเหลือบมองนางช้า ๆ และกล่าวว่า

“จะถูกหลอกหรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่นางต้องคิดได้

เพราะหากนางมิมีประโยชน์ พี่ชายใหญ่จะสนใจสาวใช้ของน้องสาวด้วยเหตุใด!”

เว่ยหยางมิสามารถหักห้ามความขุ่นเคืองจากใจได้ และร่องรอยของความโกรธแค้นทั้งหมดได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง

โม่ฉูครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเอ่ยถามอย่างระมัดระวังว่า:

“คุณหนู เราควรทำอย่างไรดี?”

จากนั้นใบหน้าของหลี่เว่ยหยางจึงค่อย ๆ ผ่อนคลาย:

“หาผู้ใดสักคนคอยเฝ้าดูนางทุกการเคลื่อนไหว แล้วมารายงานข้าเป็นระยะ!”

โม่ฉูรีบรับคำอย่างรวดเร็วว่า:

“รับทราบ”

ไป๋จือแอบเช็ดน้ำตาของตนเอง และเมื่อหลี่เว่ยหยางเห็นแล้วจึงถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา:

“ไป๋จือ ข้ารู้ว่าเจ้าสองคนอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ความสัมพันธ์ของพวกเจ้านั้นมีความลึกซึ้ง”

ไป๋จื่อเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของนางและเริ่มมีความแน่วแน่เกิดขึ้น:

“คุณหนูดีต่อพวกบ่าวทุกคน แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อจื่อหยานเนรคุณต่อท่าน

บ่าวรู้ดีว่าความผิดของนางมิควรให้อภัย ดังนั้นคุณหนูควรทำใจให้สบาย”

หลี่เว่ยหยางหยุดคิดชั่วขณะ จากนั้นจึงกล่าวอย่างใจเย็นว่า:

“ดูเหมือนว่า พี่ชายใหญ่จะทำสิ่งนี้เพื่อล้างแค้นให้กับน้องสาวแท้ ๆ ของตนเอง”

นางมองออกไปนอกหน้าต่าง และได้เห็นดอกบ๊วยเบ่งบานอยู่อย่างโดดเดี่ยว เว่ยหยางจึงอดมิได้ที่จะถอนหายใจ

“อย่าทำตัวให้มีพิรุธ พวกเขาจะดำเนินการในมิช้า”

ไป๋จื่อรีบกล่าวว่า:

“บ่าวเข้าใจแล้ว”

หลี่เว่ยหยางก้มหน้าลงและทานอาหารต่อไป โดยครุ่นคิดถึงเรื่องทั้งหมดในใจ

หลี่หมินเฟิงหยิ่งผยอง แต่เขากลับก้มลงไปสนใจสาวใช้ผู้ต้อยต่ำ

เขาจะใช้จื่อหยานจัดการกับนางหรือไม่?

แต่หลี่หมินเฟิงมิใช่ผู่ที่โง่เขลา เขาคงมิทำผิดพลาดเช่นเดียวกับเหตุการณ์ของฮัวเหม่ย

แล้วเขาพยายามจะทำอันใดกันแน่?

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท