ตอนที่ 38-2 สาวใช้เลื่อนขั้น
จากนั้นได้ยินเสียงของโม่ฉูตะโกนออกไปว่า:
“ผู้ใดแอบอยู่ตรงนั้น คุณหนูอนุญาตให้เข้ามาได้!”
สาวใช้ตัวน้อยรีบเดินเข้ามาหาหลี่เว่ยหยางอย่างหวาดกลัว และรีบทำความเคารพหลี่เหว่ยหยาง จากนั้นจึงกล่าวว่า
“คุณหนู บ่าวมีบางอย่างจะรายงาน”
หลี่เว่ยหยางจ้องมองนางอย่างใจเย็น และไป๋จื่อผู้ซึ่งนิ่งเงียบอยู่นานได้กล่าวว่า:
“คุณหนู นี่คือสาวใช้ที่มีชื่อว่าซิ่วเอ๋อ นางทำงานอยู่ที่ห้องชงชา”
สาวใช้จากห้องชงชาหรือ?
เมื่อรู้สึกมิแน่ใจ หลี่เว่ยหยางจึงเอ่ยถามอย่างอบอุ่นว่า
“มีสิ่งใดที่ผิดปกติหรือ?
ซิ่วเอ๋อกล่าวตอบว่า:
“เมื่อครู่คุณชายใหญ่มาที่นี่ และกล่าวว่า เขาได้ทำพัดหายไปที่บริเวณสนามหญ้าด้านนอก
และได้ขอให้สาวใช้ของคุณหนูช่วยค้นหามัน
ตอนนั้นจื่อหยานกำลังเย็บปักอยู่ในตำหนักหยวนซีพอดี
ดังนั้นนางจึงอาสาที่จะไปช่วยหา และสั่งให้บ่าวเข้ามาแจ้งคุณหนู”
หลี่เว่ยหยางจ้องมองไปยังซิ่วเอ๋อเป็นเวลานาน และทันใดนั้นได้ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน:
“ไป๋จือให้รางวัลกับนางด้วย
อีกสามวันเลื่อนระดับให้นางขึ้นมาเป็นสาวใช้ระดับสอง
และมิต้องกลับไปที่ห้องชงชาอีก จัดห้องให้นางพักที่ตำหนักหยวนซีจะได้รับใช้ข้าได้สะดวก”
เมื่อได้ยินดังนั้น ซิ่วเอ๋อจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และละล่ำละลักกล่าวว่า:
“บ่าว…บ่าวขอบคุณหนู!”
จากสาวใช้ตัวเล็ก ๆ ที่ต้องทำงานหนัก ได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นสาวใช้ระดับสองในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ
นี่เป็นข่าวดีมาก ทำให้ซิ่วเอ๋อเดินจากไปอย่างมีความสุขอย่างหาที่เปรียบมิได้
หลี่เว่ยหยางจิบชาเล็กน้อยอย่างใจเย็น ขณะที่ไป๋จื่อกล่าวว่า:
“คุณหนู อันที่จริงแล้วจื่อหยานควรจะรายงานให้ท่านทราบก่อน คงเป็นเพราะนางคิดน้อยไป โปรดอย่าได้ตำหนินางเลย”
สาวใช้ออกไปจากตำหนักหยวนซี กับคุณชายโดยมิได้รับอนุญาตจากนายหญิง ดูเหมือนว่าจะมิใช่สิ่งที่สมควรทำ
หรือมีบางอย่างที่ทำให้นางหลงลืมสถานะของตนเอง?
หลี่เว่ยหยางยิ้มอย่างใจเย็นและกล่าวว่า:
“บางทีนางอาจจะประมาท หรือมีจุดประสงค์บางอย่างที่มิมีผู้ใดคาดคิดถึง
หรือนางคิดว่า สถานะของข้าในบ้านตระกูลหลี่แห่งนี้ ต่ำต้อยเกินไป!”
คุณหนูสามกล่าวพร้อมกับมีความจริงจังเกิดขึ้นใบหน้าอย่างชัดเจน
ตอนนี้ใบหน้าของไป๋จื่อจึงเปลี่ยนเป็นซีดขาวทันที
หลี่เว่ยหยางจ้องมองไปที่นางและกล่าวว่า:
“จื่อหยานและเจ้าก็เหมือนกัน เจ้าทั้งคู่เดินทางมาพร้อมกันกับข้าจากเมืองผิงเฉิง
ข้าปฏิบัติต่อเจ้าทั้งสองเหมือนดั่งเช่นคนในครอบครัว
แต่นั่นมิได้หมายความว่า ข้าจะสามารถทนได้ทุกอย่าง”
ไป๋จื่อก้มหัวลงและรู้สึกหวาดกลัวภายในใจเป็นอย่างมาก
นางแอบตำหนิจื่อหยานที่ทำตามอำเภอใจของตนเอง
นายหญิงสั่งให้นางดูแลตำหนักหยวนซี แต่นางกลับออกไปกับผู้ใดบางคน
ในตอนนี้ไป๋จือยังมิได้ค้นพบความหมายที่ลึกซึ้งมากไปกว่านี้
แต่โม่ฉูรู้ดี ขณะที่คิ้วของนางนั้นขยับขึ้น
“ไปสั่งให้แม่นม และสาวใช้ทั้งหมดของตำหนักหยวนซีมาที่นี่!” หลี่เว่ยหยางสั่ง.
“รับทราบ” โม่ฉูรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ภายในเวลามิกี่อึดใจต่อมา ทุกคนได้มารวมตัวกันที่นี่ นอกจากจื่อหยานที่หายตัวไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้
หลี่เว่ยหยางนั่งอยู่บนเก้าอี้ ขณะที่สายตาของนางได้กวาดไปทั่วทุกคนในห้อง
จากนั้นนางได้ชี้นิ้วไปที่แม่นมผู้หนึ่ง:
“ข้าเกลียดผู้ที่มิมีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองที่สุด
เจ้าออกไปหาพ่อบ้าน แล้วแจ้งกับเขาว่า ตำหนักหยวนซีแห่งนี้มิมีที่ว่างสำหรับเจ้าแล้ว
เจ้าควรคิดหาช่องทางอื่นในการหาเลี้ยงชีพ!”
“คุณหนู, บ่าว ……”
เมื่อนางถูกไล่ออกจากตำหนักแล้วคงเป็นเรื่องยากที่จะมีชีวิตรอด
ใบหน้าของแม่นมผู้นั้นซีดเผือด และนางเกิดความรู้สึกกลัวจนตัวสั่นไปหมด
“บ่าวมิทราบว่า ตนเองทำอันใดผิด…”
“มิรู้ว่าทำอะไรผิด! เช่นนั้นหรือ?
เมื่อครู่เจ้าไปที่ใดมา!
เหตุใดตอนที่พี่ชายใหญ่มา เจ้าจึงมิเข้ามาแจ้งข้า
เจ้าต้องการให้ผู้อื่นคิดว่า ข้าจงใจที่จะละเลยพี่ชายของตนเอง เช่นนั้นหรือ?”
แม่นมอยู่ในอาการตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก:
“เป็นคุณชายใหญ่ที่สั่งว่า มิจำเป็นต้องแจ้ง……”
หลี่เว่ยหยางกล่าวอย่างเย็นชา
“ไร้สาระ!
จะมิมีการแจ้งเตือนเมื่อมีคนเข้ามาในตำหนักหยวนซีของข้าได้อย่างไร?
พี่ชายใหญ่เป็นผู้ที่มีการศึกษา จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะกล่าวเช่นนั้น
เห็นได้ชัดว่า เจ้าจงใจที่จะละเลย! แล้วยังจะกล้าใส่ร้ายพี่ชายใหญ่อีก
ข้าจะต้องลงโทษให้ผู้อื่นเห็นเป็นเยี่ยงอย่าง
เอานางไปโบยยี่สิบไม้!”
จากนั้นแม่นมได้ถูกลากออกไปโดยคนรับใช้ที่โม่ฉูเรียกเข้ามา
โดยมิทันแม้แต่จะอ้อนวอนขอการให้อภัย
ทุกคนมองไปที่แม่นมด้วยความเห็นอกเห็นใจ แต่มิมีผู้ใดกล้าที่จะกล่าวแทนนาง
พวกเขาเข้าใจแล้วว่า ตราบใดที่ผู้อาวุโสหลี่ยังคงโปรดปรานคุณหนูสาม
ดังนั้นตำหนักหยวนซีแห่งนี้จะยังคงเป็นคุณหนูสามที่มีอำนาจเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียว!
ในขณะนี้จื่อหยานได้เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข
และเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ใบหน้าอันบอบบางของนางนั้นจึงกลายเป็นสีขาวซีดในทันที!