ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 46.1

ตอนที่ 46.1

ตอนที่ 46 ใต้เข่าลูกผู้ชายมีทองคำ

คงมิมีผู้ใดสามารถทนดูหลี่หมินเฟิงคุกเข่าสำนึกผิดได้?

เพราะเหตุใดกัน?

ในขณะนี้แม้แต่ห้องโถงที่มีความกว้างใหญ่ ก็ยังเกิดความเงียบสงบจนน่าประหลาดใจ

ในสายตาของทัวเป่าเจิ้น ได้เกิดร่องรอยของการเยาะเย้ยแพร่กระจายไปทั่วใบหน้า

และครุ่นคิดว่า ตนเองจำเป็นที่จะต้องกล่าวอันใดออกไปหรือไม่?

ในขณะนี้หลี่เว่ยหยางมองเข้าไปในดวงตาที่เลือดเย็นของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

ทันใดนั้น ทำให้นางนึกถึงช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวด ในตอนที่ขาของนางถูกตัดออก มันทุกข์ทรมานจนแทบจะมิต้องการหายใจ

“พี่สามจะมิมีทางโกหก!”

เมื่อได้ยินเสียงนั้นร่างของของหลี่เว่ยหยางจึงสะดุ้งสุดตัว

ทันใดนั้นได้มีมือน้อย ๆ ดึงมือของนางไปจับไว้อย่างแน่นหนา

นางหันศีรษะไปพร้อมกับจ้องมองมือของตนเองที่ถูกเด็กชายกุมเอาไว้

จากนั้นจึงได้สบตากับดวงตาของหลี่หมินเต๋อ ซึ่งกำลังส่องประกายแวววาว

ราวกับดวงดาวได้ส่องแสงอย่างมั่นคง ซึ่งมันเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และความไว้วางใจ

บริเวณหน้าผากของเด็กน้อยผู้นี้เปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ

ดูแล้วช่างเหมือนกับ แก้วคริสตัลที่สดใสส่องประกายระยิบระยับ

หลังจากที่เขาได้ทราบข่าวนี้ จึงรีบวิ่งมาหาเว่ยหยางที่ตำหนักเหอเซียงหยวนในทันที เพื่อมาอยู่เคียงข้างพี่สาวอันเป็นที่รัก

มันแปลกมากที่ก่อนหน้านี้นางยังมีความรู้สึกอึดอัดและคับข้องใจ

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เว่ยหยางสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่กำลังแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจของนาง

ทำให้นางมีความรู้สึกมีกำลังใจ และพร้อมที่จะต่อสู้ต่อไป

ขณะที่ทุกคนตั้งคำถาม และมีความสงสัยเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ในตัวนาง

แต่เด็กน้อยผู้นี้ กลับพร้อมที่จะยืนเคียงข้างนางโดยมิมีข้อแม้อันใด

นางจับมือของหลี่หมินเต๋ออย่างแน่นหนาเพื่อแสดงความรู้สึกขอบคุณ

จากนั้นได้ปล่อยมือจากเขาอย่างรวดเร็ว และเดินไปยังด้านหน้าของท่านย่า ก่อนที่จะคุกเข่าลงต่อหน้านาง:

“ท่านย่า ตั้งแต่เว่ยหยางกลับมา มีเรื่องราววุ่นวายเกิดขึ้นมากมายในบ้านตระกูลหลี่แห่งนี้

โดยที่ข้ามิได้ตั้งใจที่จะสร้างปัญหาให้กับทุกคน

ดังนั้น ท่านย่าได้โปรดส่งตัวข้ากลับไปที่เมืองผิงเชิงด้วยเถิด!”

นางกล่าวด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง แต่ในดวงตาของนางดูเหมือนจะมีร่องรอยของน้ำตาเอ่อคลออยู่

ขณะนั้นทุกคนมิมีความกล้าพอที่จะมองไปยังภาพตรงหน้า

ขณะนี้ได้เกิดเงียบงันขึ้นอีกครั้ง จนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจของผู้คน

ในเวลานี้ท่านย่าหัวเราะออกมาด้วยเสียงอันดัง

คิ้วของนางมิได้ขมวดเหมือนดั่งเช่นในตอนแรก และมุมริมฝีปากของนางได้ยกขึ้น ทำให้สีหน้าที่มีแต่ความแข็งกร้าวได้อ่อนลงทันที

จากนั้นท่านย่าได้ตัดสินใจที่จะกล่าวออกมาว่า

“เฟิงเอ๋อ คุกเข่าต่อหน้าน้องสาวของเจ้า แล้วยกน้ำชาเพื่อยอมรับความผิดของตนเองเสีย”

การแสดงออกของหลี่หมิน เฟิงเปลี่ยนไปอย่างมาก ขณะที่มองย้อนกลับไปด้วยความสับสน

และเมื่อได้เห็นดวงตาที่เย็นชาของท่านย่า เขาจึงกัดฟันและเดินไปอย่างรวดเร็ว

ราวกับว่า ใช้ความเกลียดชังเป็นกำลังในการหยิบถ้วยน้ำชา

เขาเดินเข้าไปหาหลี่เว่ยหยาง ขณะที่หายใจแรง และกล้ามเนื้อทุกส่วนบนใบหน้ากระตุกโดยมิได้กล่าวอันใดออกมา

ในขณะเดียวกันนั้น อีกด้านหนึ่ง

ฮูหยินใหญ่ได้เผยให้เห็นถึงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นสุดขีด

หากมิใช่เพราะ มีผู้คนอยู่มากมายเช่นนี้ นางคงจะรีบวิ่งไปฉีกหน้าหลี่เว่ยหยางให้สาสมกับความแค้น

ท่านใดนั้น หลี่จางเล่อได้หันกลับมาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา และจ้องมองไปยังองค์ชายสามด้วยสายตาที่อ้อนวอน

ในขณะนี้ร่องรอยของการเยาะเย้ยได้ย้ายมาบนใบหน้าของหลี่เว่ยหยาง

นางจ้องมองไปยังหลี่หมินเฟิง ขณะที่รอคอยการคุกเข่าของเขา!

ในเวลานี้ ทันใดนั้นแขนเรียวได้กางออก เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของหลี่หมินเฟิง:

“พี่หมินเฟิง ใต้เข่าลูกผู้ชายมีทองคำ

ท่านสามารถคุกเข่าต่อหน้าสวรรค์โลก จักรพรรดิ บุพการีและครูบาอาจารย์ได้

แต่ท่านจะคุกเข่าต่อหน้าเด็กผู้หญิงได้อย่างไร ?!”

ใบหน้าขององค์ชายสาม มีความคมคาย และสง่างามอย่างเห็นได้ชัด

ภายใต้เสื้อผ้าสีสันสดใสนั้น คิ้วและขนตาของเขาดำขลับ ทำให้ผู้คนมิสามารถละสายตาไปได้

เมื่อได้ยินคำกล่าวนั้น หลี่หมินเฟิงจึงเกิดอาการตกตะลึง จากนั้นจึงหยุดการกระทำของตนเองในทันที

สายตาของหลี่เว่ยหยางเคลื่อนไปจับจ้องที่ใบหน้าขององค์ชายสาม

ทัวเป่าเจิ้นก็มองมาที่นางเช่นกันและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาตั้งใจมองหลี่เว่ยหยางอย่างจริงจัง

เห็นได้ชัดว่า มีการอดทนอย่างเงียบสงบ และมีความยับยั้งชั่งใจอยู่ในท่าทีนั้น

แต่สามารถรู้สึกได้ ถึงการระเบิดของความโกรธที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งมันพุ่งผ่านร่างกายของนางออกมา

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท