ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 48.1

ตอนที่ 48.1

ตอนที่ 48-1 มารดา

อากาศที่อบอุ่นเช่นนี้ ทำให้ดอกบีโกเนียส่งกลิ่นหอมเย้ายวนออกมาซึ่งมันมิใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด

หลี่เว่ยหยางขมวดคิ้วขึ้น ขณะที่จ้องมองดูโม่ฉูสั่งให้สาวใช้นำกระถางดอกบีโกเนียเข้ามาในบริเวณห้อง

เมื่อมองไปยังดอกบีโกเนียเหล่านั้นที่มีหลายหลากสี ดอกของมันเป็นช่อมีสีขาวสีชมพู และสีแดง

ในขณะที่ใบของมันมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจที่มีสีเขียวเข้ม

ความงดงาม และกลิ่นหอมของมันสามารถทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นเกิดความหลงใหลได้

ดอกบีโกเนียเป็นดอกไม้โปรดของนางในชาติที่แล้ว

เมื่อนึกย้อนกลับไป ยังจำได้ว่าในพระราชวังหลวงได้ปลูกต้นบีโกเนียเอาไว้มากมาย

ในเวลานั้น นางคิดว่าต้นบีโกเนียที่มีความสดใสและงดงามนั้น เป็นตัวแทนของความห่วงใยและความรักจากทัวเป่าเจิ้นที่มีต่อนาง

หลังจากนั้น นางจึงได้รู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว ดอกบีโกเนียมีความหมายว่าดอกไม้แห่งความทุกข์ระทม

ในความเป็นจริงแล้ว ทัวเป่าเจิ้นเป็นผู้ที่น่ารังเกียจมาก ทุกสิ่งที่เขาทำมันเป็นเพียงแค่การเล่นละคร

การที่เขาส่งบีโกเนียมาในวันนี้มันเหมือนเป็นการประชดประชัน

จากนั้นได้ยินเสียงของโม่ฉูกล่าวว่า:

“องค์ชายสามกล่าวว่า ดอกไม้แต่ละดอกมีความหมายในตัวของมันเอง

และยังกล่าวอีกว่า วันนี้เขาได้เข้ามารบกวนบ้านตระกูลหลี่โดยมิได้ตั้งใจ จึงส่งดอกไม้เหล่านี้มาให้บรรดาคุณหนูแทนคำขอโทษ

ดอกโบตั๋นสำหรับคุณหนูใหญ่,

ดอกกุหลาบแรกแย้มสำหรับคุณหนูรอง,

ดอกมะลิสำหรับคุณหนูสี่

สำหรับคุณหนูห้าคือ… “

เมื่อเห็นการแสดงออกบนสีหน้าของหลี่เว่ยหยางแล้ว โม่ฉูจึงมิสามารถกล่าวให้จบประโยคได้

จากนั้นจึงหุบปากลงอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นต้นบีโกเนียที่ออกดอกนี้แล้ว มันช่างเหมือนกับเปลวไฟที่เผาไหม้หัวใจของคุณหนูสาม

แต่หลี่เว่ยหยางได้เอื้อมมือไปลูบไล้ดอกไม้ที่งดงามเหล่านั้นโดย มิรู้ตัวในที่สุด

นางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่มือคู่นั้นจะแข็งขึ้น และเด็ดดอกบีโกเนียดอกที่งดงามที่สุดออกมา

สีของดอกไม้นั้นช่างมีความสดใสและมันยังเป็นสีแดงที่น่าหลงใหล และภายใต้แสงเทียน มันดูเหมือนกับสีของเลือด

มือของนางค่อย ๆ กำดอกไม้นั้นด้วยความเคียดแค้น ราวกับว่าต้องการบดขยี้ให้มันแหลกเหลวในมือของนาง

จากนั้นจึงเหวี่ยงมันทิ้งอย่างรุนแรงทำให้กลีบดอกไม้ร่วงหล่นลงบนพื้น

โม่ฉูจ้องมองภาพเหตุการณ์นี้อย่างประหลาดใจ ขณะที่หลี่เว่ยหยางกล่าวว่า

“ลมยามเย็นพัดแรง ทำให้ต้นบีโกเนียถูกทำลาย”

โม่ฉูเข้าใจถึงความหมายของคำกล่าวนั้น จึงรีบโค้งคำนับและกล่าวว่า:

“รับทราบ”

ไป๋จือยังมิเข้าใจถึงสถานการณ์ตรงหน้า รู้เพียงว่าเกิดความรู้สึกสับสนและงุนงงเป็นอย่างมาก

คุณหนูสามเป็นอันใดไป เหตุใดต้องทำเช่นนั้น…?

ณ ตำหนักฟู่อันหยวน

เมื่อฮูหยินใหญ่กลับมาถึงห้องโถงภายในตำหนักของตนเองแล้ว จึงรีบไล่สาวใช้ทุกคนออกไปจากห้องในทันที

จากนั้นจึงตะคอกด้วยเสียงอันดังออกมาว่า:

“คุกเข่า!”

เสียงนี้ทำให้หลี่จางเล่อสะดุ้งสุดตัว เพราะนางมิเคยเห็นมารดาของตนเองใช้น้ำเสียงที่รุนแรง และแสดงท่าทางที่ดุร้ายเช่นนี้มาก่อน

นางตกตะลึงจนลืมที่จะขยับร่าง จนกระทั่งแม่นมหลินใช้นิ้วสะกิดเตือน นางจึงรีบคุกเข่าลงในทันที

“วันนี้เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าทำอันใดลงไป?”

เมื่อหลี่จางเล่อได้ยินคำกล่าวของมารดา จึงทราบทันทีว่า ต้องเป็นเรื่องที่นางและพี่ชายใหญ่ร่วมมือกันใส่ร้ายเว่ยหยางในวันนี้

เมื่อรู้ว่า มารดากำลังโกรธ หลี่จางเล่อจึงทำได้แค่เพียงก้มหน้าลงโดยมิการอันใดออกมา

“เจ้ารู้หรือไม่ ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าเลี้ยงดูเจ้าด้วยความเอาใจใส่มาโดยตลอด

และพยายามทำให้เจ้าเป็นหญิงสาวที่มีความงดงามมากที่สุดในโลกเพื่ออันใด!”

ทันใดนั้นหลี่จางเล่อได้เงยหน้าขึ้นกล่าวว่า

“ข้าทราบว่าท่านแม่รักข้า แล้วเหตุใดท่านจึงมิยืนหยัดเพื่อข้า ท่านปล่อยให้นั่งเด็กบ้านั่นทำเช่นนั้นได้อย่างไร?!”

จากนั้นความโกรธของฮูหยินใหญ่ก็มิสามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป:

“เจ้ามันโง่! ปกติแม่สอนเจ้าอย่างไร?!

สถานะของเจ้านั้นสูงส่ง ซึ่งเด็กสาวบุตรของหยินเหนียงผู้นั้นมิสามารถเทียบเจ้าได้เลย เหตุใดต้องลดตัวลงไปทำเช่นนั้น!

เจ้าต้องการให้ข้าโกรธจนกระอักเลือดตายเลยใช่หรือไม่?!”

หลี่จางเล่อหันหน้าหนี และจากนั้นน้ำตาได้ร่วงหล่น แต่ยังคงแสดงท่าทีดื้อดึง โดยมิยอมรับผิด

หัวใจของผู้เป็นมารดามีความรู้สึก กังวล และเสียใจอย่างมาก จนแทบจะกลั้นใจตาย

เมื่อเห็นสถานการณ์มิสู้ดี แม่นมหลินจึงพยายามปลอบประโลมให้นางใจเย็นลง

โดยการรินน้ำชา และรีบส่งให้นางและหลังจากฮูหยินใหญ่จิบแล้ว จึงมีท่าทีที่สงบลง:

“จางเล่อ เจ้ายังมิเข้าใจภารกิจของตนเองอีกหรือ?”

หลี่จางเล่อรู้สึกประหลาดใจในท่าทีของมารดาที่เปลี่ยนแปลงไป

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน