ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 55.2

ตอนที่ 55.2

ตอนที่ 55-2 สิ่งที่ต้องการมิใช่ทองคำ

หลี่เว่ยหยางเงยหน้าขึ้นและกล่าวว่า:

“ฝ่าบาท, เว่ยหยางกำลังกล่าวเรื่องเกี่ยวกับข้อดีของมันเท่านั้น และในตอนแรกหม่อมฉันมิสามารถมองเห็นข้อเสียของนโยบายเหล่านั้นได้”

นางมิใช่ผู้หยั่งรู้ นางจะสามารถล่วงรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างไร?

จักรพรรดิพยักหน้าและกล่าวว่า:

“เจ้ายังเด็ก การที่จะมีข้อมูลเชิงลึกเช่นนี้นั้นค่อนข้างหายาก แล้วตามความคิดของเจ้า เราสมควรจะแก้ปัญหานี้อย่างไร?”

หลี่เว่ยหยางยิ้มและกล่าวว่า:

“การบรรเทาสาธารณภัยควรเริ่มจากการจัดระเบียบเจ้าหน้าที่บริหารเสียใหม่

ฝ่าบาทได้โปรดส่งสายลับที่ไว้ใจได้ไปตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อลงโทษขุนนางที่ทุจริตอย่างจริงจัง”

ปฏิกิริยาของจักรพรรดิมีอาการสั่นสะเทือน จากนั้นจึงทรงโบกมือเรียกขันทีส่วนพระองค์เข้ามาและกล่าวว่า:

“ถ่ายทอดราชโองการออกไป ผู้คนทั่วไปทั้งหมด หากพบว่าเจ้าหน้าที่ประพฤติทุจริตสามารถทำการจับกุม และส่งตัวมายังเมืองหลวงเพื่อรับโทษได้ทันที

และด่านตรวจที่อยู่บนถนนทั้งหมดต้องยอมให้ผ่านโดยสะดวก หากผู้ใดกล้าขัดขวางจะต้องถูกประหารทันทีเช่นกัน”

จากนั้นหลี่เว่ยหยางกระซิบ:

“ฝ่าบาท ได้โปรดกำหนดขอบเขตโทษในการทุจริตทางการเงินด้วยเพคะ!”

จักรพรรดิกล่าวอย่างเย็นชาว่า:

“นับจากนี้ การทุจริตเงินกองทุนบรรเทาทุกข์เกินหนึ่งร้อยเหรียญทุกคนจะถูกประหาร!”

หลี่เว่ยหยางกระพริบตาของนางถี่ขึ้น:

“แต่มีผู้กระทำผิดมากมาย หม่อมฉันกลัวว่า หากพวกเขาถูกฆ่าทั้งหมดในคราวเดียว

จะทำให้มีเจ้าหน้าที่มิเพียงพอที่จะเติมเต็มจุดต่าง ๆ ”

จักรพรรดิจ้องมองไปที่นาง และทันใดนั้นก็ได้หัวเราะขึ้น:

“แล้วเจ้าคิดว่า ควรทำอย่างไร?”

หลี่เว่ยหยางยิ้ม:

“เกี่ยวกับปัญหาการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่และขุนนาง คงจะต้องเป็นฝ่าบาท ที่ทรงมีพระปรีชาที่สุด”

จักรพรรดิพยักหน้าและกล่าวว่า:

“เราจะปล่อยให้เรื่องการแต่งตั้งขุนนางเป็นหน้าที่ของบิดาเจ้าก็แล้วกัน”

เมื่อผู้อาวุโสหลี่ได้ยินดังนั้นจึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

การดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งประพฤติทุจริตอาจจะสร้างความขุ่นเคืองให้กับผู้คนจำนวนมาก

แต่หากอำนาจในการแต่งตั้งยังอยู่ในความเข้าใจ ก็มิสำคัญว่าเจ้าหน้าที่ที่จะถูกแต่งตั้งขึ้นมาใหม่นั้นจะมาจากที่ใด

พวกเขาทุกคนจะหาวิธีประจบเอาใจตระกูลหลี่ เพื่อให้ตระกูลหลี่เกิดความพึงพอใจ และนี่นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก

เจ้าจอมมารดาหัวเราะชอบใจขณะที่กล่าวว่า

“ข้ามิเคยเห็นหญิงสาวที่มีความคิดลึกซึ้งเช่นนี้มาก่อน

ฝ่าบาท… พระองค์จะต้องตอบแทนนางอย่างเหมาะสม”

จักรพรรดิเหลือบมองไปยังหลี่เว่ยหยางส่ายหัวและกล่าวว่า:

“เด็กหญิงผู้นี้ยังเด็กเกินไป จึงมิเหมาะกับการได้รับตำแหน่งจากองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะให้รางวัลเป็นทองและเงิน”

ตามที่คาดไว้เขาเป็นจิ้งจอกเฒ่า ดังนั้นเขาจึงมิเต็มใจที่จะมอบอำนาจให้กับสาวน้อยผู้นี้?

หัวใจของหลี่เว่ยหยางสั่นสะท้านขณะที่ได้เกิดรอยยิ้มบนใบหน้าซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างมาก

นางโค้งคำนับด้วยความสุภาพและอ่อนโยนสามครั้งอย่างจริงใจ และกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

“หม่อมฉันขอบพระทัยสำหรับคำสรรเสริญของอัครมเหสี แต่รู้สึกอับอายที่ได้รับคำชมที่มิสมควรได้รับ

หม่อมฉันเพียงแค่โชคดีเท่านั้นที่ได้พบกับความสง่างามและความเฉลียวฉลาดของฝ่าบาท ทำให้หญิงผู้หนึ่งสามารถบอกกล่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ได้

หม่อมฉันเป็นเพียงราษฎรธรรมดาผู้หนึ่ง ที่ต้องการแบ่งเบาภาระบางอย่างของฝ่าบาทเท่านั้น

ดังนั้นจึงมิกล้ารับรางวัลจากพระองค์เพคะ”

นางกล่าวด้วยท่าทีที่มิได้มีความเย่อหยิ่งจองหอง หรือเอาแต่ใจเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเจ้าจอมมารดาความเห็นดังนั้นจึงยิ้มกว้างและกวักมือเรียกขณะที่กล่าวว่า

“เด็กโง่ เจ้าสมควรได้รับสิ่งตอบแทนเหล่านั้น และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือกษัตริย์ตรัสแล้วย่อมมิคืนคำ!”

จักรพรรดิพยักหน้าเห็นด้วย แล้วจึงโบกมือส่งสัญญาณให้กับขันทีคนสนิทของพระองค์

และคนผู้นั้นพยักหน้าทันที ก่อนที่จะออกจากห้องโถงใหญ่และกลับมาหลังจากนั้นมินานนัก

โดยมีผู้คนถือถาดมากกว่ายี่สิบถาดเดินเข้ามาในบริเวณห้องโถงอย่างต่อเนื่อง

ในแต่ละถาดนั้นมีทองคำแท่งและเครื่องประดับซึ่งแต่ละชิ้นนั้นเป็นของล้ำค่าซึ่งหาได้ยาก

แม้แต่ผู้อาวุโสหลี่ผู้ซึ่งเคยเห็นทองและเครื่องประดับมาแล้วมากมายก็เกิดความตื่นตาตื่นใจเช่นเดียวกัน

สิ่งนี้นับว่าเป็นรางวัลมากมายที่สุดที่บรรดาสาวใช้ในตำหนักนี้เคยเห็น

สาวใช้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นจ้องมองด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความอิจฉาตาร้อนเป็นอย่างมาก

หลี่เว่ยหยางมิได้เงยหน้าขึ้นมองทองเหล่านั้นเลย นางเพียงแต่คุกเข่าบนพื้นอย่างสงบเงียบ

ทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของนางนั้น มิสามารถมองเห็นได้

ทอง? นางมิต้องการมัน!

สิ่งที่เว่ยหยางต้องการนั้นมีค่ามากกว่าทองคำ!

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท