ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 56.1

ตอนที่ 56.1

ตอนที่ 56-1ห่วงใย

ขันทีจดบันทึกรายการสมบัติที่นำเสนอและวางกระดาษแผ่นนั้นไว้บนถาดที่เต็มไปด้วยของขวัญมากมาย

น้ำเสียงของเขาคมและชัดเจนในขณะที่กล่าวกับหลี่เว่ยหยางว่า:

“เหตุใดจึงมิรีบขอบพระทัยฝ่าบาทอีก?”

หลี่เว่ยหยางกราบลงบนพื้นด้วยความเคารพและกล่าวว่า

“หม่อมฉันมีความรู้สึกซาบซึ้งในน้ำพระทัยของฝ่าบาท

อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่คิดถึงความทุกข์ทรมานของผู้คนที่อยู่ในความวุ่นวาย หม่อมฉันมิสามารถทนรับสิ่งนี้ได้

หากฝ่าบาททรงอนุญาต หม่อมฉันจะขอใช้สมบัติทั้งหมดนี้ช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนผู้ที่พลัดถิ่นจากบ้านและกำลังหาที่หลบภัย”

เมื่อได้ยินดังนั้นจักรพรรดิ์จึงมีอาการชะงักเล็กน้อย

และเป็นการยากที่จะเดาออกว่า พระองค์ทรงกำลังคิดอันใดอยู่ในส่วนลึกของดวงตาที่เย็นชาคู่นั้น

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มีความกลัวปรากฏขึ้นในใจของพระองค์

พระอัครมเหสียิ้มออกมาเล็กน้อยและพยักหน้า ขณะที่จ้องมองไปยังหลี่เหว่ยหยางด้วยความตั้งใจดีและกล่าวว่า:

“เด็กน้อยผู้อ่อนโยน เจ้ามีความเหมาะสมแล้วที่จะได้รับสมบัติเหล่านี้ เจ้ามิควรปฏิเสธที่จะรับมันเอาไว้

ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ามีความตั้งใจที่ดี ดังนั้นข้าคิดว่า ควรจะตอบแทนบางอย่างเพิ่มเติมให้กับเจ้า

ฝ่าบาททรงมีความเห็นว่าอย่างไรบ้าง?”

จักรพรรดิครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะพยักหน้า:

“พระมารดาตรัสได้ถูกต้องแล้ว

ในเมื่อพระอัครมเหสีตรัสว่า จะให้รางวัลแก่เจ้าเพิ่มเติมนอกเหนือจากเงินและทองเหล่านี้แล้ว

ดังนั้นเราจะมอบตำแหน่งเซียนจูแห่งอันผิงให้เจ้า ส่วนมารดาของเจ้า…”

เมื่อตรัสได้เพียงส่วนหนึ่ง หลี่เว่ยหยางก็ได้กล่าวขึ้นอย่างนุ่มนวล:

“ฝาบาท, ท่านแม่ใหญ่ของหม่อมฉันเป็นขุนนางอันดับหนึ่งอยู่แล้ว”

สิ่งนี้เป็นเพราะว่า หลี่เสี่ยวหรันมีตำแหน่งเป็นอำมาตย์

ดังนั้นฮูหยินใหญ่ และผู้อาวุโสหลี่จึงมีตำแหน่งเป็นขุนนางอันดับหนึ่งซึ่งทุกคนต่างก็รู้กันดีอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ราชโองการของจักรพรรดิสามารถออกได้หลายครั้ง

แม้ว่าฮูหยินใหญ่จะเป็นขุนนางอันดับหนึ่งอยู่แล้ว หากจักรพรรดิจะมอบตำแหน่งอันดับหนึ่งอีกครั้งก็จะมิเป็นปัญหาแต่อย่างใด

แล้วเหตุใดหลี่เว่ยหยางจึงกล่าวในลักษณะนี้อย่างกะทันหัน?

จุดประสงค์ของคำกล่าวนี้มุ่งตรงไปยังจักรพรรดิ์อย่างชัดเจน:

ราวกับว่า นางต้องการที่จะบอกกล่าวให้ฝ่าบาททรงทราบว่า นางยังมีมารดาผู้ให้กำเนิดอยู่!

พระอัครมเหสีเกือบจะหัวเราะออกมาอย่างดังด้วยความชอบใจ

สาวน้อยผู้นี้มิยอมที่จะเสียเปรียบเลยแม้แต่น้อย

เจ้าจอมมารดาจึงทรงเตือนฝ่าบาทว่า

“ฝ่าบาททรงมอบตำแหน่งให้กับท่านแม่ใหญ่ของนางแล้ว

ดังนั้นมารดาผู้ให้กำเนิดเด็กสาวผู้นี้ควรได้รับเกียรติเช่นเดียวกัน”

ในตอนแรกจักรพรรดิมิได้ตระหนักถึงความจริงในข้อนี้

พระองค์ทรงทราบเพียงว่า หลี่เว่ยหยางคือบุตรสาวของหลี่เสี่ยวหรันเท่านั้น แต่มิทราบว่ามารดาที่แท้จริงของนางคือผู้ใด

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนางเป็นผู้ริเริ่มกล่าวถึงเรื่องนี้ขึ้นมา พระองค์จึงมิสามารถแสร้งทำเป็นเฉยเมยได้:

“ดีมาก มารดาผู้ให้กำเนิดของเจ้าจะได้รับตำแหน่งด้วยเช่นกัน”

หลังจากกล่าวจบแล้วพระองค์ทรงลึกขึ้นยืน และกวาดแขนเสื้อ ขณะที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินออกไป

จากนั้นอัครมเหสีทรงสนทนากับหลี่เว่ยหยางด้วยความสนิทสนม

ราวกับว่า พระองค์ทรงเป็นบุคคลที่อยู่ในครอบครัวเดียวกันกับหลี่เว่ยหยาง

ด้วยการแสดงออกของหลี่เว่ยหยางเมื่อครู่ นางอดมิได้ที่จะรู้สึกชื่นชมในความมีไหวพริบของเด็กสาวผู้นี้

ในสายตาของเจ้าจอมมารดา เด็กผู้หญิงที่มีสติปัญญาและความตั้งใจเช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย ถือเป็นสัญญาณอันตรายอย่างมิต้องสงสัย

นางวางมือลงบนมือของหลี่เว่ยหยางอย่างเคร่งขรึม และกล่าวกับนางอย่างจริงใจว่า:

“ผู้หญิงมิควรเข้าร่วมในกิจการของผู้ชายมากจนเกินไป

สิ่งที่เด็กสาวควรศึกษาให้มากคือเรียนรู้กวีนิพนธ์ และภาพวาดอีกทั้งศิลปะแขนงต่าง ๆ

จากนั้นจึงสามารถแต่งงานกับครอบครัวที่ชอบธรรม และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสันติ”

แม้ว่าคำกล่าวเหล่านี้จะมีความคลุมเครือ แต่มีความหมายที่ชัดเจน มันเป็นคำแนะนำและตักเตือนหลี่เว่ยหยางด้วยความห่วงใย

วันนี้เด็กสาวผู้นี้ได้รับการยกฐานะให้สูงส่งและมีเกียรติ

จึงต้องตกอยู่ในวงล้อมของความอิจฉาริษยา และความเกลียดชังจากผู้คนรอบข้าง

อย่างน้อยคำแนะนำนี้อาจจะช่วยเตือนสติได้บ้าง

เพราะความทนงตนของนางอาจทำให้ตนเองต้องประสบกับความล้มเหลวครั้งใหญ่

และจบลงบนพื้นดินอันหนาวเหน็บโดยมิมีผู้ใดหรือสถานที่ใดคอยให้การสนับสนุน

อัครมเหสีมีความกังวลว่า หลี่เว่ยหยางจะมิเข้าใจ

แต่สิ่งที่ได้เห็นคือ หลี่เว่ยหยางมีอารมณ์ที่สงบนิ่ง และพยักหน้า

ราวกับว่า นางรับรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในใจของเจ้าจอมมารดา

และดูเหมือนจะมีความรู้สึกขอบคุณฉายผ่านแววตาของนางออกมา

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท