ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 59.1

ตอนที่ 59.1

ตอนที่ 59-1 สามีภรรยาในชาติที่แล้ว

มีบางอย่างที่ทำให้องค์ชายสามเกิดความรู้สึกตื่นเต้นขณะที่พระองค์ทรงตรัสว่า:

“คุณหนูสาม เป็นคนสำคัญของงานเลี้ยงในวันนี้ แล้วเหตุใดเจ้าจึงหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่?”

หลี่เว่ยหยางลูบไล้นิ้วเรียวงามผ่านเส้นผมของตนเองอย่างผ่อนคลายพร้อมกับยิ้มและกล่าวว่า:

“งานเลี้ยงนี้มีไว้สำหรับพี่ใหญ่ที่จะดื่มด่ำกับความหรูหรา

หากหม่อมฉันยืนขวางทางของพี่ใหญ่ มันจะเป็นอาชญากรรมที่สมควรตายเป็นแน่!”

“เจ้ากำลังกล่าวอันใด?”

ทัวเป่าเจิ้นเกิดความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ท่าทางของเขายังคงรักษารอยยิ้มที่อบอุ่นเอาไว้

“งานเลี้ยงตอนเย็นมิได้จัดขึ้นสำหรับคุณหนูใหญ่นี่นา…”

หลี่เว่ยหยางยิ้มเบา ๆ

“วันนี้องค์ชายสามมาเพื่อแสดงความยินดีกับหม่อมฉัน

แต่ความจริงแล้ว พระองค์กำลังชั่งน้ำหนักคุณค่าของพวกเราในใจของท่านพ่อใช่หรือไม่?”

“เจ้า…”

ทัวเป่าเจิ้นมิได้คาดหวังว่า นางจะพูดจาขวานผ่าซากเช่นนี้ เขาจึงตกตะลึง แต่ยังคงยิ้มสดใสและมิมีท่าทีเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

หลี่เว่ยหยางเลิกคิ้วมองเขา:

“องค์ชายสามมิจำเป็นต้องกังวล แม้ว่าหม่อมฉันจะช่วยฝ่าบาท และท่านพ่อแก้ไขเรื่องยุ่งยาก

แต่ในสายตาของท่านพ่อแล้ว ข้าก็เป็นเพียงแค่บุตรสาวของหยินเหนียงที่มิคู่ควรกับความสนใจของเขา

ตำแหน่งสุภาพสตรีแห่งอันผิงของข้านั้นมิได้มีความหมายในสายตาของเขา

แต่พี่ใหญ่แตกต่างออกไป พี่ใหญ่เป็นบุตรสาวคนโปรดของท่านพ่อ

และญาติทางฝ่ายท่านแม่ใหญ่นั้นมีอำนาจทางทหารอยู่ในมือ และแน่นอนว่า นางยังมีความงดงามที่มิมีผู้ใดสามารถเทียบได้

ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว พี่ใหญ่จะเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับองค์ชายสาม”

นางกล่าวพร้อมกับใบหน้าที่ไร้ร่องรอยของอารมณ์ใด ๆ นอกจากรอยยิ้มที่สดใสบนริมฝีปากนั้น

และดูเหมือนจะมีการดูถูกเหยียดหยามในสายตาของนางด้วยเช่นกัน

ทัวเป่าเจิ้นสังเกตเห็นสิ่งนี้ และทันใดนั้นได้มีความรู้สึกสงสัยเกิดขึ้นในใจ

เด็กสาวผู้นี้สามารถเข้าใจความตั้งใจของเขาได้ในพริบตา เขายิ้มเล็กน้อย:

“ดูเหมือนว่า เจ้าจะเป็นผู้ที่มีสติปัญญาที่หายาก”

การจ้องมองของหลี่เว่ยหยางยังคงจับจ้องมาที่เขา แต่ดูเหมือนว่าในแววตาคู่นั้นจะมิมีสิ่งใดปรากฏให้เห็นนอกจากความเป็นศัตรู

หลังจากเกิดใหม่ในครั้งนี้ ในที่สุดนางก็คิดได้แล้ว

แม้ว่าหลี่จางเล่อจะมีความงดงามที่มิมีผู้ใดสามารถปฏิเสธได้

แต่สิ่งที่ท้วเป่าเจิ้นให้ความสำคัญมากที่สุดในเวลานี้คือการสนับสนุนของท่านอำมาตย์หลี่ และผู้มีอำนาจทางทหารของตระกูลเจียงที่อยู่เบื้องหลังนาง

บุรุษผู้นี้นี้มิเพียงแต่มีความทะเยอทะยานและความกล้าหาญเท่านั้น แต่ยังมีความอดทนที่มิมีผู้ใดสามารถเทียบได้

เขาอดทนใช้ชีวิตฉันสามีภรรยากับนางมานานเป็นเวลาถึงแปดปี จนกระทั่งนางหมดความสำคัญ เขาจึงปลิดชีพนางทิ้ง

ทัวป๋าเจินจ้องมองนางอย่างพิจารณา และเกิดความรู้สึกว่า ความจริงแล้วหลี่เว่ยหยางนั้นนับได้ว่าเป็นหญิงสาวที่มีความงดงามเช่นเดียวกัน

แต่เมื่อเทียบกับคุณหนูใหญ่แล้วนางยังคงขาดคุณสมบัติที่เขามีความต้องการ

ยิ่งไปกว่านั้น ในการเผชิญหน้ากับเขา นางมิได้มีเสน่ห์และความสง่างามแบบผู้หญิง

นอกจากนี้แล้วนางยังมีความมุ่งมั่นและความทะเยอทะยานอย่างท่วมท้น เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาจึงถอนหายใจออกมา:

“ตั้งแต่แรกที่เราพบกัน ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีความเกลียดชังเราอย่างสุดซึ้ง…”

มุมริมฝีปากของหลี่เว่ยหยางโค้งขึ้นขณะที่นางกล่าวอย่างมิเต็มใจว่า:

“องค์ชายสามเข้าใจผิดแล้ว พระองค์และหม่อมฉันแทบมิรู้จักกันเลย เช่นนั้นความเกลียดชังที่ลึกซึ้งจะเกิดขึ้นระหว่างเราได้อย่างไร”

ทัวเป่าเจิ้นรู้สึกสับสนในหัวใจ และพบว่าเขามิมีทางเข้าใจความคิดของหญิงสาวผู้นี้ได้เลยแม้แต่น้อย

ความรู้สึกนี้ก่อตัวขึ้นเป็นปมปริศนาภายในใจของเขาโดยมิได้ตั้งใจ

เขากล่าวอย่างเป็นกันเองว่า:

“เจ้าต้องเข้าร่วมงานเลี้ยง ถีงแม้ว่าจะเป็นเพียงการปูทางให้หลี่จางเล่อ แต่งานเลี้ยงในคืนนี้คงจะขาดเจ้ามิได้

องค์รัชทายาทได้ฝากของขวัญมาแสดงความยินดีกับเจ้าด้วย และเราตั้งใจจะนำเสนอให้กับเจ้าต่อหน้าทุกคนในระหว่างงานเลี้ยง

เช่นนั้นหากเจ้ามิเข้าร่วมงานเลี้ยงจะถือว่า เจ้าขัดต่อเจตจำนงขององค์รัชทายาท”

เขาคิดว่าหลี่เว่ยหยางจะหาข้ออ้างอื่นเพื่อปฏิเสธ และมิคาดหวังว่านางจะยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มที่สดใสและกล่าวว่า:

“ขอบคุณองค์ชายสามสำหรับการเตือนความจำ”

เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว นางจึงออกเดินไปตามทิศทางของงานเลี้ยง

ไป๋จื่อโค้งคำนับทัวเป่าเจิ้นและรีบเดินตามหลี่เว่ยหยางไป

ท้วเป่าเจ้้นแสดงท่าทีประหลาดใจ หลังจากนั้นเขาได้จ้องมองตามร่างที่เดินห่างออกไปของหลี่เว่ยหยางด้วยรอยยิ้มจาง ๆ

ในบริเวณงานเลี้ยง หลี่จางเล่อกำลังสนทนาอย่างร่าเริงกับบุตรสาวคนอื่น ๆ ของครอบครัวชนชั้นสูง

ในอีกด้านหนึ่ง บรรดาฮูหยินกำลังสนทนากันอย่างออกรสออกชาติ

ฮูหยินตงภรรยาของท่านขุนนางระดับสาม ผู้ซึ่งมีอายุประมาณสี่สิบปี แต่งกายด้วยชุดที่เรียบหรูและดูมีสง่า อีกทั้งยังประดับตกแต่งด้วยไข่มุกและอัญมณีล้ำค่า

นางยิ้มเล็กน้อยขณะที่กล่าวกับฮูหยินใหญ่ว่า:

“งานเลี้ยงนี้เตรียมไว้สำหรับคุณหนูสามมิใช่หรือ แล้วเหตุใดยังมิเห็นนางเลย?”

ฮูหยินใหญ่ยิ้มกว้างแต่มิได้กล่าวอันใดออกมา เพียงแค่คิดว่า ดีแล้วที่หลี่เว่ยหยางมิมาร่วมงาน

เด็กสาวที่มาร่วมงานในวันนี้ทุกคนมิสามารถเทียบกับหลี่จางเล่อได้เลย

และเนื่องจากนางมิสามารถเทียบได้กับพี่สาวของตนเอง ดังนั้นจะมาให้ตนเองเสียหน้าด้วยเหตุใด

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน