ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 69.1

ตอนที่ 69.1

ตอนที่ 69-1 ความหลัง

ใบหน้าของฮูหยินสามซีดขาวจนเกือบจะกลายเป็นสีเทาแล้วในตอนนี้

แก้มของนางที่เคยแดงก่ําและมีความงดงามได้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ด้วยน้ําหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็วภายในช่วงเวลานานเท่าใด

แต่ดวงตาของนางยังคงสดใสเป็นประกายอย่างน่าอัศจรรย์

ในใจของหลี่เว่ยหยางมีความหวาดกลัวเล็กน้อยหากมีอันใดเกิดขึ้นกับฮูหยินสาม..

สายตาของนางจับจ้องไปที่หสิหมิ่นเต่อ ผู้ซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างตัวยอาการสงบเงียบ

“ฮูหยินได้เวลาทานยาแล้ว” สาวใช้กล่าวกับผู้ปวยด้วยน้ําเสียงที่แผ่วเบา

ฮูหยินสามเหลือบมองไปที่ชามยาและส่ายหัวช้า ๆ ขณะที่หลี่เว่ยหยางเห็นใบหน้าของนาง ซึ่งดูราวกับว่านางกําลังมีอาการเหนื่อยหอบอย่างเห็นได้ชัด

นางเกรงว่า ฮูหยินสามจะเหนื่อยเกินไป จึงขอร้องให้นางพักผ่อนและบอกกล่าวให้นางทําใจให้สบายและมิต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องใดทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม ฮูหยินสามพยายามลดเสียงของตนเองลงให้มากที่สุดและกล่าวว่า

“เมื่อผู้อื่นเอ่ยถามเจ้าเกี่ยวกับอาการเจ็บปวยของข้า เจ้าจะตอบว่าอย่างไร?

หลเว่ยหยางครุ่นคิดแล้วตอบว่า

“ข้าจะกล่าวว่า ฮูหยินสามกําลังจะหายดีในมิช้า”

“บอกกล่าวพวกเขาไปว่าอาการของข้าดีขึ้นมากแล้ว เพียงแค่ช่วงนี้ต้องการพักผ่อน มากขึ้นเท่านั้น”

จากนั้นฮูหยินสามจึงจ้องมองไปยังหลี่หมินเดือและถอนหายใจอย่างแผ่วเบา

หลเว่ยหยางจึงนึกขึ้นมาได้ว่า หากมีอันใดเกิดขึ้นกับฮูหยินสาม ผู้คนเหล่านั้นจะทําอันใดกับหมินเพื่อ?

เพราะแท้จริงแล้ว หมุนเพื่อมิใช่เลือดและเนื้อของตระกูลหลี

หากแม่บุญธรรมผู้เดียวที่รักเขาเสียชีวิตลง การใช้ชีวิตของเขาในตระกูลหะจะต้องยากลําบากอย่างแน่นอน

ถึงแม้จะมีข่าวลือแพร่สะพัดออกไป ก็คงจะใช้เวลานานนักที่ข่าวลือจะเงียบหายไปในที่สุด

“เจ้ามิเห็นหรือว่าข้าเป็นปกติดี”

ฮูหยินสามกล่าวในขณะที่ลุกขึ้นจากเตียง และนางใช้มือทั้งสองข้างจับที่เตียงเพื่อพยายามพยุงร่างให้ตนเองลุกขึ้นยืน

“ข้ามีความรู้สึกว่าตนเองจะหายดีในมิช้า”

นางยิ้มเล็กน้อยและพยายามก้าวเดินไปข้างหน้า แต่หลังจากเดินได้เพียงสองสามก้าวเท่านั้นขาของนางก็ได้เกิดอาการอ่อนแรงอย่างกะทันหัน

และหากมิใช่เพราะหลีเว่ยหยางรีบเข้าไปรองรับร่างของนางเอาไว้ด้วยความรวดเร็ว นางคงจะ สมลงไปกับพื้นแล้ว

เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าดวงตาของหลี่หมินต่อจึงเปียกชุ่มไปด้วยน้ําตาทันที เขามกล้าแม้แต่จะมองสบตามารดาบุญธรรมของตนเองในขณะนี้

หลเว่ยหยางเข้าใจแล้วว่า สุขภาพของฮูหยินสามนั้นย่ําแย่มาก

เป็นเพราะแต่เดิมนั้น สุขภาพของนางก็มีค่อยแข็งแรงนัก และตอนนี้นางติดเชื้อโรคระบาด ซีงมิใช่อาการเจ็บป่วยทั่วไปแล้วจะทําอย่างไรดี?

ตอนนี้ภายในหัวสมองของหลี่เว่ยหยางสับสนวุ่นวายและตึงเครียดเป็นอย่างมาก

นางพยายามอย่างหนักที่จะคิดย้อนกลับไปว่า ในตอนนั้นนางจัดการกับโรคระบาดในพื้นที่ภัยพิบัติอย่างไรบ้างแต่สุดท้ายก็มิสามารถรื้อฟื้นความทรงจําได้เลย

นางรู้แค่ว่าในช่วงเวลานั้น ตอนที่โรคระบาดได้แพร่กระจายไปสู่ผู้คน มีจํานวนผู้เสียชีวิตมากกว่าตอนที่เกิดภัยพิบัติมากนัก

และการแพทย์ก็มิสามารถช่วยอันใดได้เลย

นางพยุงร่างของฮูหยินสามมานั่งที่บริเวณข้างเตียง ตวงตาของฮูหยินสามดูเหมือนว่ากําลังค้นหาอันใดบางอย่าง

“ ท่านแม่ ท่านกําลังมองหาพิณอยู่ใช่หรือไม่?” หลี่หมินเพื่อเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา

ท่าทางของเขาในตอนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่มาก จนดูเหมือนว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า ที่มีเหมือนเด็กสิบขวบเลย

หลเว่ยหยางรู้สึกเสียใจที่เขาต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้ เหตุใดเด็กน้อยผู้นี้จึงต้องแบกรับภาระมากมายที่ตนเองมิได้เป็นผู้ก่อ?

หากเขาสูญเสียแม่บุญธรรมผู้เดียวที่รักเขาไปจริง หมินเพื่อจะทําอย่างไรต่อไป

ฮูหยินสามพยักหน้าตอบรับคําถามของบุตรชาย

ทันใดนั้นหลีหมิ่นเต่อคว้ามือของมารดาจากมือของหลี่เว่ยหยางเพื่อช่วยพยุงนางให้ลุกขึ้นยืน และประคองร่างของนางเดินตรงไปยังตําแหน่งที่พิณวางอยู่

ฮูหยินสามยกมือขึ้นลูบสายของมันอย่างแผ่วเบา

เมื่อเห็นภาพตรงหน้าหลี่เว่ยหยางจึงขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

ฮูหยินสามก้มศีรษะลง และจดจ่ออยู่กับการเล่นพิณ เพลงที่นางเล่นเป็นเพลงที่ไพเราะและมีความน่าประทับใจที่สุด

หลี่เว่ยหยางเคยได้ยินว่า ฮูหยินสามมักจะนั่งอยู่ในสนามผู้เดียวและเล่นเพลงนี้เป็นประจํา

เพลงนี้เป็นเพลงที่สามีของนางแต่งขึ้นมาเพื่อนาง

หลเว่ยหยางถอนหายใจอย่างแผ่วเบา หัวใจของท่านอาสะใภ้สามมิเคยลืมสามีของตนเองที่ล่วงลับไปแล้วแม้แต่น้อย

บทเพลงที่นางบรรเลงนั้นมีความซาบซึ้งและเศร้าโศกเป็นเพลงที่

ทันใดนั้นสายพิณได้ขาดในทันที ฮูหยินสามจึงเกิดอาการตกใจอยู่ชั่วขณะ จากนั้นนางได้ หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลัง ก่อนที่จะกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า

“ตอนนี้ข้ามีโอกาสได้เป็นมารดาเช่นเดียวกับผู้อื่นแล้ว”

หลี่หมินเพื่อรู้สึกตกใจและก้มศีรษะลงทันที

จากมุมมองของหลี่เว่ยหยาง นางสามารถสังเกตเห็นได้เพียงแค่ว่าผิวที่บอบบางของเด็กน้อยซีดขาวลงไปอีกหลังจากได้ยินคํากล่าวนั้น

“เว่ยหยางข้ามเคยเล่าเรื่องนี้ให้กับผู้ใดฟังมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ดูเหมือนว่าหากข้ามเปิดเผยมันก็คงจะมีมีผู้ใดสามารถล่วงรู้ในชั่วชีวิตนี้

เจ้ารู้หรือไม่ว่า เหตุใดข้าจึงต้องการช่วยเจ้า

เป็นเพราะข้าเกลียดชังฮูหยินใหญ่ แต่เหตุใดข้าจึงเกลียดนางเจ้าคงมิทราบถึงเหตุผลนี้อย่างแน่นอน

ผู้คนทั่วไปมักจะคิดว่าฮูหยินใหญ่เป็นผู้ที่มีจิตใจดี แต่แท้ที่จริงแล้วภายในหัวใจของนางนั้นมีแต่ความหยิ่งยโสและมักจะดูหมิ่นดูแคลนพวกเราดังนั้นข้าจึงมิเคยชอบนางเลย

ย้อนกลับไปในสมัยนั้น สามีของข้าต้องไปประจําอยู่ที่ต่างเมือง

ดังนั้นในเวลานั้น ข้าจึงถูกทิ้งให้อยู่ในความดูแลของบ้านตระกูลหลี่

หลังจากนั้นสามีของข้าได้กลับมายังเมืองหลวง และได้รับการเลื่อนตําแหน่งให้สูงขึ้น

ดังนั้นข้าจึงมีอํานาจในการจัดการเรื่องภายในครอบครัวมากขึ้น

ผู้ใดจะรู้ว่า ฮูหยินใหญ่พยายามที่จะทําให้ข้าแท้งลูก และนางก็สามารถทําได้สําเร็จ และข้ามสามารถมีลูกเป็นของตนเองได้อีกต่อไป

เดิมที่สามีของข้าเป็นผู้ที่อ่อนแอและมีจิตใจดีงาม และเมื่อเขาได้รับรู้เรื่องนี้แล้ว จึงมิได้ต่อว่า ฮูหยินใหญ่และมิได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ให้ผู้ใดฟัง

แล้วหลังจากนั้นเขาคิดมาก และตรอมใจตายด้วยความเศร้าโศกในที่สุด

ช่วยบอกข้าที่ว่าข้าสมควรที่จะเกลียดนางหรือไม่?

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท