ตอนที่ 71-2 ฆ่าล้างตระกูล
ทันใดนั้นหลเว่ยหยางได้หันหน้ากลับมาและเห็นภาพตรงหน้าอย่างชัดเจน
คนชั้นสูงเช่นนี้สมควรจะประพฤติตนให้มีมารยาทที่สุภาพและดีงาม โดยเฉพาะต่อหน้าผู้หญิง
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ที่อยู่นอกจารีตที่ดีงาม เช่นเดียวกับชายหนุ่มผู้นี้อยู่บนโลกใบนี้ ซึ่งประพฤ ติตัวมิได้มีความแตกต่างจากอันธพาลข้างถนนแต่อย่างใด!
ในที่สุดนางก็สามารถเข้าใจได้ว่าเหตุใดขุนนางแห่งบ่อชางจึงมิชอบบุตรชายผู้นี้ เป็นเพราะนิ สัยของเขานั้นช่างน่ารังเกียจสิ้นดี
เขาต้องการที่จะทําอันใดกันแน่?
หลีเว่ยหยางลดเสียงของตนเองลงเพื่อซ่อนความโกรธแค้นของนาง แต่น้ําเสียงนั้นกล่าวอย่าง แน่วแน่ว่า:
“ท่านต้องการอันใดอีก!”
ได้ตอนที่กล่าวนั้นใบหน้าของนางมีรอยยิ้มตามปกติ ทําให้นางดูช่างอบอุ่นและมีความสงบ สุขเป็นอย่างมาก แต่ท่าทีของนางดูเหมือนเสือที่ถูกเหยียบหาง
ความเป็นศัตรูแฝงอยู่ระหว่างคิ้วคู่นั้นของนาง ขณะที่หญิงสาวจ้องมองไปยังเกาจินเหมือนงูพิ ษที่กําลังจ้องมองเหยื่อของมันอย่างใกล้ชิด
และสายตาคู่นั้นทําให้เกาจนเกิดความรู้สึกหวาดกลัวเป็นครั้งที่สอง แต่เมื่อคิดถึง คุณหนูใหญ่ผู้งดงาม ที่เขาพึงพอใจทําให้ต้องการแสดงความกล้าที่มีอยู่ในตนเอง
“ข้าให้ลูกท้อแก่เขาเป็นรางวัล แต่เขายังกินมันมหมดเลย!”
เกาจินยิ้มอย่างเย็นชา
คํากล่าวนั้นทําให้คิ้วของหลี่เว่ยหยางโก่งขึ้นทันที ดวงตาของนางแทงทะลุเข้าไปในดวงตาขอ งชายหนุ่มราวกับมีดที่แหลมคม
จากนั้นเกาจินรู้สึกตกใจมากจนต้องก้าวถอยหลังทันที
“เจ้า!”
“ท่านพี่ท่านกลัวอันใด…”
– หลี่เว่ยหยางกล่าวขณะที่นางเอื้อมมือไปหยิบลูกท้อที่พื้น จากนั้นนางยัดมัน เข้าไปในปากของเกาจินทันทีพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนหวาน:
“ลูกท้อที่ดีเช่นนี้จะให้หมินเพื่อกินได้อย่างไร? ท่านควรเก็บเอาไว้กินเอง”
เกาจินคาดมีถึงว่า นางจะกล้าทําเช่นนี้ เขาหยิบลูกท้อที่สกปรกออกมาปากแล้วคายลงพื้นทัน
จากนั้นเขาตะโกนด้วยเสียงที่ดังมากว่า
“หลี่เว่ยหยางเจ้ามันไร้การศึกษา!”
หลี่เว่ยหยางยิ้มขณะที่ดวงตาของนางกลอกกลับไปกลับมาระหว่างผู้คนในศาลาและเกาจินะ
“ท่านพี่ ท่านรู้หรือไม่ว่า จักรพรรดิ ทรงยกย่องว่าข้าเป็นผู้ที่มีเกียรติและสง่างามอีกทั้งยังมีค วามโดดเด่น
แล้วท่านมาดูหมิ่นข้าเช่นนี้ มิเท่ากับเป็นการคัดค้านความคิดเห็นของจักรพรรดิหรือ?
โอ้! ท่านกล้ากล่าวคําเหล่านี้ต่อหน้าองค์ชายทั้งสองพระองค์ ท่านกําลังละเมิดอํา นาจของจักรพรรดิต่อหน้าเชื้อพระวงศ์!”
ตอนนี้สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก
เกาจินโกรธแค้นมาก แต่เขามิกล้าที่จะทุบตีหลี่เว่ยหยาง เขาจึงพุ่งไปข้างหน้าเพื่อลากหลี่หมิน เต๋อออกมา
แต่หลี่เว่ยหยางขัดขวางความพยายามของชายหนุ่มผู้นี้ เขาจึงมิสามารถเอื้อมมือไปหาหลี่หมิ นเต่อได้
แต่นิ้วของเขากลับไปโดนเส้นผมของหลี่เว่ยหยางโดยบังเอิญ และทําให้ปิ่นปักผมหลุดออกมา โดยมิได้ตั้งใจ
และได้ยินเพียงเสียงปอมแปม ขณะที่ปิ่นปักผมนั้นหล่นลงไปในทะเลสาบ
จากนั้นเกาจินได้หัวเราะอย่างสุดเสียงด้วยความชอบอกชอบใจยิ่งนัก
แต่หลี่เว่ยหยางมิสนใจเขา และเดินออกมาสองสามก้าว ขณะที่นางจ้องมองลงไปในทะเลสาบ
เกาจีนกล่าวว่า
“คุณหนูสาม ข้ามิได้ตั้งใจที่จะทําเช่นนี้เลย โอ้! ช่างน่าเสียดายจริง ๆ
ดูเหมือนว่าเจ้าจะเสียดายสมบัติชิ้นนี้มาก มันเป็นของขวัญที่คนรักของเจ้าให้มาใช่หรือไม่?
แต่ในสายตาของข้าแล้ว มันช่างดูไร้ค่า มิต้องกังวลใจ ข้าจะมอบปิ่นปักผมชิ้นใหม่ที่มีความง ดงามมากกว่านี้ให้กับเจ้า”
หลี่เว่ยหยางเลิกคิ้วด้วยความสงสัยเล็กน้อย
ขณะที่เกาจินยิ้มกว้างอย่างมีความสุขะ
“เป็นอันใด? เจ้าเสียดายปิ่นปักผมอันนี้มากเลยหรือ?
เช่นนั้นจงกระโดดลงน้ําไปเพื่องมหามันสิ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเติบโตมาจากชนบทเช่นนั้นเจ้าคง จะว่ายน้ําเก่งมาก
การงมหาของเพียงแค่นี้คงมิใช่เรื่องใหญ่สําหรับเจ้าสินะ.ฮ่า ๆ ๆ ๆ …”
เขารู้ว่า นางมิกล้าที่จะกระโดดลงไปจริง ๆ จึงหัวเราะออกมาด้วยเสียงอันดัง
จากนั้นเสียงหัวเราะของเขาหยุดลงทันใด และสีหน้าของเขาได้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
ทุกคนเห็นมิชัดเจนว่าหลี่เว่ยหยางแสดงท่าที่อย่างไร แต่เห็นเพียงมือของนางตบเข้าไปที่ใบห น้าเขาอย่างแรง
เกาจนเดินโซซัดโซเซและล้มลงจากการถูกตบ เขานอนลงบนพื้นและจ้องมองคนตรงหน้า ด้วยความตื่นตระหนก
จากนั้นผู้คนที่เฝ้าดูจากศาลาทั้งหมดรีบร้อนลุกขึ้นยืนด้วยความพร้อมเพรียงกัน
ขณะที่เกาหมินตะโกนอย่างรวดเร็วว่า
“หลี่เว่ยหยางเจ้ามันบ้าไปแล้ว!”
หลังจากนั้นนางได้วิ่งเข้ามาหาเขาเพื่อตรวจสอบอาการของเกาจินะ
“เอ่อ…พี่รองเป็นอย่างไรบ้าง?”
และภาพที่เห็นคือ ฟันของเกาจินหลุดออกมาพร้อมกับมีเลือดอยู่เต็มปากและครึ่งหนึ่ง ของใบหน้าเขาบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะนี้เขาจ้องมองด้วยความสับสนและมิมีแม้แต่โอกาสที่จะโต้ตอบ
หลี่หมินเฟิงรีบเดินเข้าไปและกล่าวเสียงดังว่า
“เว่ยหยาง เจ้ามันโอหังเกินไปแล้ว!
แม้ว่าเจ้าจะเป็นเซียนจู แต่เจ้าจะตบตีผู้คนอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ได้อย่างไร?”
องค์ชายสาม หัวเป่าเจิ้นจ้องมองไปยังหลี่เว่ยหยางด้วยสายตาที่เย็นชา ขณะที่เขารู้สึกว่านาง ช่างทําในสิ่งที่โง่เขลา
องค์ชายห้าทั่วเปารุ่ยตําหนินางโดยตรงว่า
“หลี่เว่ยหยาง ข้าจะรายงานเรื่องนี้ต่อพระบิดา และทูลให้พระองค์ทรงทราบถึงการกระทํา ผิดของเจ้าอย่างแน่นอน!”
หลีเว่ยหยางยิ้มในทันใด และรอยยิ้มของนางนั้นบ่งบอกถึงความโหดร้ายอย่างเห็นได้ชัด
“องค์ชายห้า ได้โปรดอย่าลืมทูลจักรพรรดิด้วยว่า สาเหตุเป็นเพราะพี่เกาจนทําปิ่นปักผมแปด แฉกที่พระองค์ทรงประทานให้กับหม่อมฉันตกลงไปในทะเลสาบ
เขากล้าทําลายของขวัญขององค์จักรพรรดิ และข้าสงสัยว่าจักรพรรดิจะจัดการกับเขาอย่าง ผ่อนปรนหรือไม่?”
เมื่อได้ยินคํากล่าวเหล่านั้นแล้ว ทุกคนต่างก็อยู่ในอาการตกตะลึง
จากนั้นหลี่จางเล่อได้กล่าวว่า
“สิ่งนี้คือของขวัญที่จักรพรรดิทรงประทานให้เช่นนั้นหรือ?”
หลี่เว่ยหยางเดินเข้าไปหาผู้ซึ่งเป็นพี่สาวหนึ่งก้าว และแกว่งเครื่องประดับบนศีรษะของตนเอง รวมทั้งกําไลและแหวนที่มีสีทองอร่ามที่อยู่ในมือของนาง
“ใช่แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นของขวัญสําหรับข้าโดยจักรพรรดิ
เกาหมินมิอยากจะเชื่อคํากล่าวของเว่ยหยางเลย
“เจ้าเป็นบ้าหรือ? เจ้าจะสวมของขวัญของจักรพรรดิเหล่านี้เดินไปเดินมาในวันธรรมดาเช่นนี้ ได้อย่างไร?!”
หลี่เว่ยหยางกระตุกปากและกล่าวว่า
“มันเป็นของขวัญจากองค์จักรพรรดิ์ที่ทรงประทานให้ข้าเป็นการส่วนตัว แน่นอนว่าข้ารู้สึก มีความสุขมาก ที่ได้สวมใส่มัน!
ผู้ใดจะทราบว่า พี่เกาจินมีความกล้าที่จะทําลายของขวัญที่จักรพรรดิทรงมอบให้?
นี่เป็นความผิดที่มีโทษทัณฑ์สถานหนัก ซึ่งสามารสั่งประหารล้างทั้งตระกูลได้ ดูเหมือนครั้งนี้ เราทุกคนจะต้องมาตายพร้อมกันเพราะพี่เกาจินเพียงผู้เดียว
ข้ามิทราบว่า จักรพรรดิ์จะทรงประทานศพที่สมบูรณ์ให้กับพวกเราหรือไม่… “
เมื่อได้ยินดังนั้นเกาจินจึงตกใจเป็นอย่างมากจนถึงขั้นรีบร้อนปีนขึ้นไปบนสะพานและจ้องมอง ลงไปในทะเลสาบที่มีระลอกคลื่นมีสิ้นสุดนั้น
ในขณะที่เขาเกิดความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เข็มกลัดหยก!
ของขวัญจากจักรพรรดิ
การฆ่าล้างตระกูลหลี ซึ่งเป็นผลมาจากการทําลายของขวัญของจักรพรรดิ?
จะทําอย่างไร? จะทําอย่างไร? จะทําอย่างไรดี?
ขณะนี้ดวงตาของหลี่จางเล่อบ่งบอกถึงความสับสนภายในใจอย่างเห็นได้ชัด และกําลัง จะกล่าวบางอย่างออกมา
แต่ทันใดนั้นเสียงของเว่ยหยางดังขึ้นว่า
“พี่ใหญ่ ตอนนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นกับของขวัญที่องค์จักรพรรดิทรงพระราชทานให้กับข้า ดัง นั้นข้าจึงมิสามารถหลีกหนีความรับผิดชอบได้
เรามสามารถหลีกเลี่ยงความผิดนี้ได้ สําหรับข้านั้นมิใช่เรื่องสําคัญ แต่ท่านมีรูปลักษณ์ที่งดงา มซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย ที่คราวนี้ท่านต้องมาถูกตัดหัวพร้อมกับข้า”