ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 68.3

ตอนที่ 68.3

ตอนที่ 68-3 ข่าวร้าย

“ฮูหยินใหญ่เป็นผู้ที่ฉลาด เจ้าเล่ห์ และน่ากลัวมาก

ระหว่างนางกับข้ามีความเกลียดชังที่ฝังลึกอยู่แล้ว ข้าจึงต้องการแก้แค้น ซึ่งมิใช่เรื่องที่ผิดปกติ และข้ามิต้องการดึงเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ดังนั้นจากนี้ไปอย่าเข้าใกล้ข้ามากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามิอาจจะรับมือกับนางได้ตลอดเวลา เข้าใจหรือไม่หมินเต๋อ?”

เมื่อได้ยินคำกล่าวเหล่านี้หลี่หมินเต๋อจึงเบิกตากว้างโดยมิกระพริบตา

หลี่เว่ยหยางเห็นเขามีปฏิกิริยาเช่นนี้ จึงต้องการกล่าวให้ชัดเจนมากขึ้น:

“หากจะให้กล่าวตามตรงก็คือ เจ้ามิมีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ ดังนั้นหากเจ้าต้องการช่วยข้าจริง ๆ ก็คงต้องแอบทำ”

หลี่หมินเต๋อก้มศีรษะลง และรู้สึกว่าหัวใจของเขาเหมือนกำลังจะฉีกขาดด้วยคำกล่าวเหล่านั้น

เขารู้ดีว่า การยั่วโมโหฮูหยินใหญ่นั้นมิใช่เรื่องที่ดี เพราะแม้แต่ฮูหยินสามเองยังมิกล้าเป็นศัตรูกับนางอย่างเปิดเผย

แต่เมื่อเขาได้ยินหลี่เว่ยหยางกล่าวเช่นนี้เขาจึงโกรธมาก เขามิทราบว่าเหตุใดเขาจึงรู้สึกเศร้าเสียใจอยู่ในส่วนลึกภายในหัวใจ

บางทีอาจเป็นเพราะฮูหยินใหญ่หรือบางทีมันอาจจะเป็นพี่สาม หรืออาจเป็นเพราะตัวของเขาเอง

เหตุใดพี่สามจึงต้องแบกรับภาระหนักถึงเพียงนี้?

เหตุใดนางต้องเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น และมิมีความจริงใจต่อผู้ใดเลย

เขามีความรู้สึกที่รุนแรงในเวลานี้เพราะ สิ่งที่หลี่เว่ยหยางอธิบายให้ฟังนั้น เห็นได้ชัดว่าเขามิใช่ผู้ที่มีความสำคัญสำหรับนางอย่างแท้จริง

แต่เป็นเพราะนางรู้สึกว่า จะได้รับความช่วยเหลืออย่างลับ ๆ ซึ่งอาจจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ในภายภาคหน้า

“พี่สามมันเป็นเพราะเราอยู่บนเรือลำเดียวกัน ท่านจึงดีต่อข้าใช่หรือไม่?”

มิใช่ว่าวันหนึ่งเมื่อนางกับเขามิได้อยู่ข้างเดียวกันอีกต่อไปแล้ว นางจะเย็นชาต่อเขา และจะมิใส่ใจเขาอีกต่อไป

หลี่เว่ยหยางสะดุ้ง

เด็กผุู้นี้อ่อนไหวเกินไปหรือไม่? เหตุใดเขาจึงคิดมากเกินเด็กเช่นนี้…

หลี่หมินเต๋อกล่าวอย่างแผ่วเบา เขามิควรกล่าวเช่นนั้นออกไปเลย เพราะมันจะทำให้พี่สาวของเขาเกิดความมิสบายใจ

“ข้าขอโทษ ข้ามันโง่…”

หลี่เว่ยหยางยิ้มและจับมือของเขาแน่นขึ้นอีกเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวว่า:

“ไม่ สิ่งที่ข้าทำลงไปทั้งหมดนั้น มิได้เป็นเพราะเราอยู่ในเรือลำเดียวกัน

ตรงกันข้ามข้าชอบหมินเต๋อมาก ดังนั้นข้าหวังว่า เจ้าจะมิต้องเจ็บปวดจากผู้คนเหล่านั้น”

หลี่หมินเต๋อเงยหน้าขึ้นและกล่าวว่า

“ท่านคิดว่าตัวข้าอ่อนแอเกินไปใช่หรือไม่? จึงกลัวว่าข้าจะสร้างปัญหาให้กับท่าน…”

หลี่เว่ยหยางหยุดชั่วคราวแล้วส่ายหัว:

“ไม่”

ดวงตาสีดำสนิทของหลี่

หมินเต๋อบ่งบอกถึงความเศร้าใจ ขณะที่กล่าวว่า:

“พี่สาม มาถึงจุดนี้แล้ว ท่านยังต้องการที่จะปลอบใจข้าอยู่อีกหรือ?”

“สิ่งที่ข้ากล่าวนั้นเป็นความจริง”

หลี่เว่ยหยางจ้องมองเขาและกล่าวอย่างจริงจังว่า:

“เจ้าเป็นเด็กฉลาด ต่อไปเมื่อเจ้าโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เจ้าจะกลายเป็นที่พึ่งของข้าและฮูหยินสาม

เพราะข้ามิมีน้องชาย และข้ารักเจ้าเหมือนดั่งเช่นน้องชายแท้ ๆ ของตนเอง”

หลี่เว่ยหยางกล่าวถึงจุดนี้พร้อมกับยิ้มด้วยสายตาที่จับจ้องไปที่เขาอย่างลึกซึ้ง

บริเวณทางเดินมีโคมไฟสีแดงส่องสว่างที่แขวนอยู่บนต้นเสาสูง ซึ่งเผยให้เห็นดวงตาของหลี่เว่ยหยางที่กำลังเป็นประกายอย่างเห็นได้ชัด

หลี่หมินเต๋อจับมือของนางแน่น ราวกับว่านางคือส่วนหนึ่งของร่างกายตนเอง:

“พี่สาม ท่านเกลียดชังพี่ใหญ่กับคนอื่น ๆ มากมายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?

อันที่จริงแล้ว ท่านแม่ได้กล่าวกับข้าว่า นางต้องการที่จะกลับไปเยี่ยมท่านยายที่หลินฉวน

และหากนางชอบที่นั่น นางจะซื้อบ้านเพื่อตั้งรกราก และนางจะมิกลับมาที่นี่อีก เพื่อจะได้อยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นท่านสามารถไปกับพวกเราได้…”

การจ้องมองของหลี่เว่ยหยางนั้นเย็นชาและมิได้ใส่ใจในคำกล่าวนั้นเลย เพราะแม้ว่านางต้องการจะมีชีวิตที่สงบสุข ก็คงจะมิสามารถทำได้

เพราะการที่นางจะออกไปจากที่นี่ มันหมายถึงการยอมแพ้ที่จะแก้แค้น

นางมิมีวันลืม…

ในตอนที่ขาของนางถูกตัดออกภาพนั้นยังคงติดตา ชิ้นเนื้อและเลือดที่สาดกระเซ็นไปทุกทิศทางเมื่อมันถูกสับให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

เสียงเยาะเย้ยและถากถางของขุนนางในวังที่เกิดขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของนางนั้น เป็นสิ่งที่นางสามารถจดจำมันได้ทั้งหมด

ในชีวิตนี้ฮูหยินใหญ่และบุตรสาวมิยอมปล่อยให้นางได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข แม้ว่านางจะต้องการก็ตาม และผู้คนเหล่านั้นยังพยายามทำให้ทุกวันของนางมีแต่ความทุกข์!

หลี่เว่ยหยางสูดลมหายใจ ก่อนที่จะกล่าวสั้น ๆ ว่า

“ข้ามิสามารถให้อภัยพวกเขาได้เพราะฉะนั้น ข้าจะมิมีวันไปจะบ้านตระกูลหลี่แห่งนี้!”

หลี่หมินเต๋อประหลาดใจและเลิกคิ้วหนา ขณะที่กล่าวว่า

“พี่สาม?”

ดวงตาของหลี่เว่ยหยางกระพริบตาถี่ และความรู้สึกลึก ๆ ในดวงตาของนางดูเหมือนจะเผยออกมา ทำให้น้ำเสียงของนางดูอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น

ในเวลาเดียวกันความเศร้าที่ซ่อนเร้นเอาไว้ก็ปรากฏขึ้นเช่นเดียวกัน

“ข้าขอโทษ ข้ามิสามารถปล่อยวางได้จริง ๆ ”

ทันใดนั้นหลี่หมินเต๋อก็รู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นจากฝ่ามือของเขา

นางพบว่า ตนเองบีบมือของหลี่หมินเต๋อแน่นเกินไปโดยมิรู้ตัวจึงรีบปล่อยมือเขาทันที

ทันใดนั้นหลี่เว่ยหยางได้เงยหน้าขึ้นมองไปที่ท้องฟ้าอันห่างไกลและได้ยินเสียงนางพึมพำกับตนเองอย่างแผ่วเบาว่า

“อดทน…ข้าจะต้องอดทนให้มากกว่านี้…!”

การแสดงออกของนางในตอนนี้ดูเหมือนว่า นางจะมิใช่พี่สามที่เขาเคยรู้จักมาก่อน

ดูเหมือนว่าเขาจะมิสามารถเข้าใจความรู้สึกที่ซับซ้อนของพี่สามผู้นี้ได้เลย!

แม้ว่าเขาจะมิเข้าใจนางในตอนนี้ แต่สัมผัสได้ว่า ในใจของนางจะต้องมีความลับบางอย่างที่มิอาจบรรยายได้ซ่อนอยู่!

ทันใดนั้นหลี่หมินเต๋อได้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับคว้าแขนของนางเอาไปกอดไว้อย่างอบอุ่น

ในช่วงเวลานั้นความรู้สึกที่มิสามารถอธิบายได้ปรากฏขึ้นทั่วใบหน้าของหลี่เว่ยหยาง

หลี่หมินเต๋อต้องการละทิ้งความเศร้าโศกทั้งหมดทิ้งไป จึงจ้องมองไปยังหลี่เว่ยหยางพร้อมกับยกริมฝีปากขึ้นด้วยรอยยิ้ม:

“หากพี่สามต้องการอยู่ที่นี่ ข้าก็จะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนท่าน”

น้ำเสียงของเขาแม้จะแผ่วเบา แต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความหนักแน่นอย่างชัดเจน

หลี่เว่ยหยางขยับตัวเล็กน้อยขณะที่นางกำลังจะกล่าวอันใดบางอย่างแต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้น

จากนั้นได้มีหญิงสาววิ่งมาอย่างบ้าคลั่งจากระยะไกล และชนเข้ากับผู้คนจำนวนมากตลอดทาง

ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก นางรีบวิ่งมาข้างหน้าหลี่หมินเต๋อ และกล่าวว่า:

“ข่าวร้าย..ข่าวร้าย … คุณชายสามตอนนี้ฮูหยินสามเป็นลมและหมดสติไปแล้ว!

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท