ตอนที่ 144 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 32)
ไช่ซือชิงขมวดคิ้วมุ่น พยายามขัดขืนเจี่ยงหลีที่คอยผลักไสไล่ส่งอย่างสุดกำลัง
การกระทำของเจี่ยงหลีดูหยาบคายเกินไปในสายตาของตันหวาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไช่ซือชิงที่ถูกทำร้ายร่างกายอย่างต่อเนื่อง
บรรยากาศระหว่างทั้งสองฝ่ายต่างคุกรุ่น พริบตาเดียวก็กลายเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทในครอบครัว ตันหวายจึงเอ่ยปากห้ามปรามในที่สุด
ตันหวาย “พี่ๆ ทั้งสอง พวกเรามาเข้าเรื่องกันสักทีได้ไหม?”
พอได้ยินเสียงของตันหวาย เจี่ยงหลีก็หยุดการเคลื่อนไหว ทอดมองมายังตันหวายด้วยสีหน้าอ้อนวอน
ตันหวายทำเป็นมองไม่เห็น พลางเอามือเคาะโต๊ะรับแขกตรงหน้า “เรื่องของพวกคุณไว้ค่อยคุยกันทีหลัง เรามาคุยเรื่องของพวกเรากันก่อน”
“พวกเรามีเรื่องอะไรต้องคุยกัน?” ไช่ซือชิงขมวดคิ้ว สายตาเต็มไปด้วยแววมุ่งร้าย ไม่อยากจะสนใจแขกผู้ไม่ได้รับเชิญคนนี้
ตันหวายแค่นหัวเราะในลำคอ ไม่ได้สนใจแววตามุ่งร้ายของไช่ซือชิงเช่นกัน กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ข่าวฉาวช่วงหลายวันมานี้ พวกคุณมีเอี่ยวด้วยหรือเปล่า?”
ไม่ยกเรื่องนี้มาพูดก็แล้วไป แต่หากพูดถึงเรื่องนี้เมื่อไหร่เจี่ยงหลีเป็นต้องสีหน้าเปลี่ยน เรื่องนี้ส่งผลกระทบกับเขาไม่น้อยเช่นกัน ทุกครั้งพอไปถึงบริษัทก็มักจะมีคนมองเขาด้วยสายตาสมเพชเวทนา ทำเหมือนว่าเขาเป็นไอ้หน้าโง่โดนเมียสวมเขา
“เวรเอ๊ย!” เจี่ยงหลีเหวี่ยงเท้าเตะเข้าที่โต๊ะ ขู่คำรามว่า “อย่าให้รู้นะว่าใครมันปากสว่าง เดี๋ยวพ่อจะเชือดให้ตายคามือ”
ตันหวายหรี่ตา คิดในใจว่าเจี่ยงหลีคงไม่สนใจรักษาภาพพจน์ตัวเองแล้วจริงๆ
เหลือบตาขึ้นมองไช่ซือชิง สีหน้าของไช่ซือชิงดูมีพิรุธชอบกล เหงื่อกาฬผุดพรายเต็มหน้าผาก ไม่กล้าสบตากับตันหวาย
“คุณเป็นคนส่ง?” ตันหวายถาม
“พูดเหลวไหล!” ไช่ซือชิงเงยหน้าขวับขึ้นมา ดวงตาแฝงไว้ด้วยความเดือดดาล “ผมจะเปิดโปงคุณไปทำไม!”
ตันหวายคลี่ยิ้ม ค่อยๆ หยิบมือถือขึ้นมาค้นหน้าจอยื่นให้ไช่ซือชิงดู
“คุณจ้างใครมาแอบถ่าย ซื้อตัวนายหน้าอย่างไร ซื้อมากเท่าไหร่ กว้านซื้อพวกแอคเคาท์ใหญ่มากี่ราย กุข่าวอย่างไรบ้าง ผมรู้หมดทุกอย่างแล้ว” ตันหวายยิ้มแย้ม “เพิ่งเคยเห็นคนลักกินขโมยกินได้ไร้ยางอายขนาดนี้”
ไช่ซือชิงพลันหน้าซีด ก้าวถอยไปข้างหลังพลางกล่าวเสียงหนักแน่น “ใครก็กุเรื่องได้ทั้งนั้น!”
นี่จะออกตัวว่าไม่ยอมรับ? ตันหวายพยักหน้าอย่างพอจะเข้าใจ ไม่ยอมรับก็เชิญตามสบายเถอะ
“งั้นเรามาคุยเรื่องอื่นกัน” ตันหวายเก็บมือถือกลับลงไป “มาคุยเรื่องที่คุณกับหลิวปิ่งซูรวมหัวกันเล่นตุกติกกับยาคุมกำเนิดได้อย่างไรดีกว่า”
เจี่ยงหลีกับไช่ซือชิงต่างสีหน้าเปลี่ยนฉับพลัน เพราะความวิตกกังวล แว่นตาบนสันจมูกของเจี่ยงหลีจึงลื่นไถลลงมาเล็กน้อย
เมื่อเห็นสีหน้าของเจี่ยงหลีก็รู้ทันทีว่าเขารู้เห็นเรื่องนี้ด้วย ตันหวายแค่นหัวเราะ คิดในใจว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยเขาจะได้ไม่รู้สึกผิดขนาดนั้น
ตันหวาย “ทุกคนอย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้สิ ยิ้มกันหน่อยเร็ว!”
แชะ
ตันหวายเก็บมือถือเข้ากระเป๋าอย่างใจเย็น ก่อนเดินออกจากประตูไปขึ้นรถโดยไม่แยแสสายตาตื่นตระหนกของคนทั้งคู่
ตันหวายขับรถตรงดิ่งกลับคอนโดเล็กของกงฉือ พอจอดรถสนิทก็ส่งรูปภาพที่เพิ่งถ่ายในคฤหาสน์เมื่อครู่ไปให้คนคนหนึ่ง แล้วจึงโทรศัพท์ไปหาพร้อมกล่าวเข้าประเด็นทันที “ปล่อยเลย”
ตันหวายไม่มีจิตคิดร้ายกับใคร แต่ก็รู้จักใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งเช่นกัน
ตอนแรกวางแผนว่าจะหาหลักฐานจับไช่ซือชิงกับหลิวปิ่งซูเข้าตะรางก็พอแล้ว แต่พวกเขากลับหาเรื่องใส่ตัว ไม่นึกว่าจะใช้เสียงวิพากษ์วิจารณ์มากดดันเขา
“หมิงเยว่” ฮั่วหมิงที่อยู่ปลายสายลังเลเล็กน้อย “ดูเหมือนจะมีผู้มีอิทธิพลอีกกลุ่มหนุนหลังเราอยู่ อีกอย่าง ช่วงนี้มีคนกำลังสืบข้อมูลของกงฉือ นายว่ามันเป็นเพราะ…”
ตันหวายชะงักไป สีหน้าแววตาเปี่ยมไปด้วยความอาฆาตแค้น “พวกไหนกัน?”
“ยังสืบไม่ได้ แต่ดูจะไม่มีเจตนาร้ายอะไร บางทีกงฉือเองอาจจะรู้ นายจะลองถามเขาดูไหม?”
ตันหวายเงยหน้าขึ้นมองชั้นที่พวกเขาพักอาศัย พบว่ายังเปิดไฟสว่าง จึงรีบเอ่ยตอบรับแล้ววางสายโทรศัพท์ทันที
ตอนที่ 145 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 33)
คอนโดสูงเพียงไม่กี่ชั้น ไม่ต้องใช้ลิฟต์ก็ยังเดินขึ้นไปไหว ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว
(ท่านเจ้าของร่าง ค่าประสบการณ์ของท่านโอนเข้าสู่บัญชีเรียบร้อยแล้ว ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นสามร้อยแต้ม ขณะนี้มีค่าประสบการณ์หนึ่งพันแปดสิบแต้ม)
ตันหวายชะงักฝีเท้าที่ก้าวขึ้นบันได กล่าวอย่างงุนงงว่า “พูดจริงป่ะเนี่ย!”
ระบบไม่พอใจเล็กน้อย (ระบบของเราเคยไม่รักษาเครดิตด้วยหรือไง ในเมื่อบอกว่าจะให้ก็ต้องให้อยู่แล้ว)
ตันหวายรีบปลอบใจระบบที่หงุดหงิดฉุนเฉียว ระบบเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยๆ ไม่คอยโอ๋ไม่ได้หรอก
อันที่จริงเขารู้สึกว่าภารกิจนี้ช่างง่ายดายเหลือเกิน อย่างกับแจกคะแนนให้ฟรีอย่างไรอย่างนั้น ถึงอย่างไรเขาก็ต้องพากงฉือกลับไป ไม่จำเป็นต้องทำเป็นภารกิจเสียด้วยซ้ำ
“ระบบ คุณแจกค่าประสบการณ์ให้ผมฟรีๆ ใช่หรือเปล่า?” ตันหวายถาม
(เราใจกว้างแบบนี้ซะเมื่อไหร่ แค่เห็นว่าค่าประสบการณ์ท่านเพิ่มช้าเกินไป ก็เลยยื่นเรื่องขอเท่านั้นเอง)
“ขอบใจนะ”
ระบบที่จู่ๆ ก็ได้รับคำขอบคุณจากเจ้าของร่างของตนพลันตะลึงงัน ก่อนจะส่งเสียงตอบรับอย่างขัดเขินเล็กน้อย
พอตันหวายเข้าประตูมาก็มองปราดไปเห็นกงฉือที่นั่งอยู่บนโซฟา กงฉือหันหลังให้กับเขา ท่าทางดูหงอยเหงาเศร้าซึม
“กงฉือ”
ตันหวายโพล่งขึ้นมาโดยไม่ทันได้เตรียมตัว กระทั่งเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อไปดี
กงฉือหันหน้ากลับมา เมื่อเห็นตันหวายก็พลันตาเป็นประกาย รีบสาวเท้าก้าวมาถึงตัวเขาก่อน แล้วคว้าตันหวายไปกอดไว้แน่นในอ้อมแขน
“คุณกลับมาแล้ว”
กงฉือเอาคางเกยบนไหล่ของตันหวาย กดทับจนเขารู้สึกเจ็บ แต่ก็ไม่ได้ผลักไสคนบนตัวออกไป
ตันหวายเอื้อมมือไปกอดเอวของกงฉือเอาไว้ ถามขึ้นว่า “ผมได้ยินว่า มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังตามหาคุณ”
ตันหวายหยั่งเชิงกล่าว เขาเอาแต่รู้สึกว่าวันนี้กงฉือทำตัวแปลกไปจากเดิม
“เกี่ยวข้องกับผม แต่ไม่ได้มีเจตนาร้าย คุณไม่ต้องกังวลนะ” กงฉือค่อยๆ คลายกอดจากตันหวายให้เขาถอดเสื้อคลุมออก ข้างในห้องร้อนอบอ้าวจนตันหวายเหงื่อแตกพลั่กแล้ว
พอเก็บเสื้อผ้าเรียบร้อย ตันหวายที่กำลังจะเดินไปหากงฉือก็หยุดชะงักกะทันหัน รู้สึกว่าต่อมกลิ่นด้านหลังต้นคอมีอาการผิดปกติ
ฟีโรโมนกลิ่นชาเขียวฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ตันหวายสีหน้าเปลี่ยนทันใด ตระหนักได้ว่าระยะพิเศษมาถึงอีกแล้ว เนื่องจากใช้ยาคุมกำเนิดมาเป็นเวลานาน ระยะพิเศษของเขาจึงเว้นช่วงสั้นลงเรื่อยๆ จนก่อนให้เกิดวงจรอันเลวร้าย
กงฉือได้กลิ่นฟีโรโมนอันเข้มข้นเช่นกัน ก่อนหันไปมองตันหวายที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างไม่เชื่อสายตา
ตันหวายหน้าแดงซ่านไปหมด หอบหายใจหนักหน่วงไม่หยุด ท่าทางราวกับทุกข์ทรมานแสนสาหัส
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กลิ่นอายภายในห้องไม่ได้มีเพียงแค่ชาเขียวอีกแล้ว แต่ยังคละเคล้าด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ กลิ่นแอลกอฮอล์นี้ไม่ฉุนแสบจมูกเหมือนแอลกอฮอล์ทั่วไป แต่กลับหอมหวนชวนเคลิบคลิ้มใหลหลง
“ฟีโรโมนของคุณเป็น…กลิ่นแอลกอฮอล์?” ตันหวายนิ่งอึ้งไป เขามักจะได้กลิ่นเหล้าจางๆ จากตัวกงฉือเป็นประจำก็จริง แต่เขานึกว่าเป็นเพราะกงฉือชอบดื่มเหล้าจึงมีกลิ่นติดตัวมา คิดไม่ถึงเลยว่าฟีโรโมนของเขาจะเป็นกลิ่นแอลกอฮอล์
ตันหวายกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำไมถึงมีคนที่ฟีโรโมนเป็นกลิ่นแอลกอฮอล์อยู่ด้วย ถ้าอย่างนั้นเวลาตีตราจะไม่เมากันพอดีหรือ ไม่รู้เหมือนกันว่าโอเมก้าคนนั้นจะโชคร้ายสักแค่ไหน
ค่อนแคะไปได้ครึ่งทาง ตันหวายก็ตกตะลึงเมื่อพบว่าที่แท้ตนคือโอเมก้าผู้โชคร้ายคนนั้นเอง
“คือว่า…” ตันหวายหน้าแดงภายใต้สายตาอันเร่าร้อนของกงฉือ กล่าวหยั่งเชิงว่า “ก่อนจะตีตรา ขอต้มซุปแก้เมาค้างก่อนได้ไหม?”
กงฉือ “…”
ตันหวาย “…”
ตันหวายไม่ใช่หนุ่มน้อยไร้เดียงสาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ในโลกที่ผ่านมา ใช่ว่าเขาจะไม่เคยทำเรื่องอย่างว่ากับคนรักของตน เพียงแต่เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความรู้สึกรุนแรงเช่นนี้
ในจักรวาล ABO ระยะพิเศษไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยจริงๆ! นี่คือความคิดสุดท้ายก่อนที่ตันหวายจะหมดสติไป