เหอจินหมิงเป็นพวกหยิ่งในเกียรติศักดิ์ศรีทั้งยโสถือดีอย่างยิ่ง และบนยอดสูงสุดของความยโสถือดีก็คือความน้อยเนื้อต่ำใจ
มารดาของเหอจินหมิงเป็นนางกำนัลต่ำต้อยซึ่งไม่เป็นที่สะดุดตาในวัง เพราะความเมามายเพียงครั้งเดียวของอดีตฮ่องเต้จึงได้รับความโปรดปราน จนได้คลอดเขาออกมา แม้จะให้กำเนิดองค์ชาย แต่อดีตฮ่องเต้กลับไม่ชอบพอมารดาของเหอจินหมิงเท่าไหร่นัก
ภายหลังมารดาของเขาทนรับความโดดเดี่ยวไม่ไหวจึงแอบมีสัมพันธ์กับองครักษ์ในวัง เมื่อถูกอดีตฮ่องเต้จับได้ก็สั่งลงโทษสถานหนัก เหอจินหมิงยิ่งได้รับความชิงชังจากอดีตฮ่องเต้เพราะเหตุนี้เอง
เรียกได้ว่าตลอดวัยเด็กของเหอจินหมิงล้วนต้องเติบโตมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจอย่างยิ่ง ดังนั้นเขาจึงเอาแต่หมกมุ่นกับบัลลังก์จนเกินวิสัยธรรมดา ยิ่งกว่านั้นหลังจากขึ้นครองบัลลังก์ยังพยายามกำจัดตัวตนในอดีตทิ้งไปจนหมดสิ้น
กำจัดตัวตนในอดีตอย่างไรน่ะหรือ? ก็ย่อมต้องสังหารผู้คนที่เป็นพยานรู้เห็นความต่ำต้อยของเขา
เหอจินหมิงอาจจะมีความรู้สึกให้กับเจ้าของร่างเดิมอยู่บ้าง หากแต่ความรู้สึกนั้นไม่อาจเทียบเคียงความหยิ่งทะนงอันแรงกล้าในตัวเขาได้เลย
รุ่งเช้าวันต่อมา เหอจินหมิงเบิกดวงตาขึ้น รู้สึกไม่สบายที่ด้านหลังลำคอเป็นอย่างมาก เหมือนกับว่าถูกใครบางคนฟาดเข้าที่หลังคอ
เมื่อมองเห็นภาพเบื้องหน้าได้แจ่มชัด เหอจินหมิงแววตาจดจ่อ รู้ตัวว่ามาที่นี่หลังจากดื่มจนเมามาย อีกทั้งในความทรงจำเลือนรางของเขาคล้ายกับยังปรากฏภาพที่ตนบีบคอตันฝูเซิง
พอผุดลุกขึ้นยืน เหอจินหมิงก็เหลือบไปเห็นคนนอนขดตัวอยู่กับพื้น รูม่านตาหดเล็กลงฉับพลัน
เหอจินหมิงเดินเข้าใกล้ตันหวายที่ขดตัวอยู่บนพื้นอย่างระวัง สายตาตรึงอยู่ที่คราบเลือดบนหน้าผากของตันหวายเนิ่นนาน สุดท้ายก็ยื่นมือไปหยั่งลมหายใจของเขา
ไอร้อนจากลมหายใจสัมผัสถูกมือของเหอจินหมิง เหอจินหมิงผ่อนหายใจพร้อมความรู้สึกผิดหวัง
เห็นตันหวายสลบไสลไม่ฟื้นตื่น เหอจินหมิงราวผีสางเทวดาดลใจให้ยื่นมือไปหมายคว้าลำคอของตันหวาย
อีกนิดก็จะคว้าได้แล้ว รอยยิ้มประหลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเหอจินหมิง
ดวงตาที่ปิดสนิทพลันเบิกขึ้น ตันหวายมองเขาอย่างสับสนงุนงง ราวกับไม่เข้าใจเหตุการณ์ในขณะนี้
“ท่านเป็นใคร?”
ตันฝูเซิงสูญเสียความทรงจำไปแล้ว นี่เป็นสถานการณ์ที่เหอจินหมิงไม่เคยคาดคิดถึงมาก่อน
“ความจำเสื่อมจริงๆ รึ?” เหอจินหมิงชำเลืองมองตันหวายที่นั่งอยู่บนเตียง ศีรษะยังห่อหุ้มด้วยผ้าขาวพลางถามอย่างระแวง
หมอหลวงก้มหน้าลง “คุณชายตันได้รับการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ มีโอกาสสูงที่จะสูญเสียความจำพ่ะย่ะค่ะ”
เหอจินหมิงนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนโบกมือให้หมอหลวงออกไป
ตันหวายเห็นว่าภายในห้องเหลือเพียงแค่สองคนก็กะพริบตาปริบๆ เอ่ยถามด้วยหน้าตาใสซื่อว่า “ตกลงเจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าถามเจ้าตั้งนานแล้วก็ไม่ยอมตอบ เอาเถอะ เจ้าไม่อยากบอกว่าเจ้าเป็นใคร แต่เจ้าต้องบอกมานะว่าข้าเป็นใคร”
“เจ้าชื่อตันฝูเซิง” เหอจินหมิงพลันบังเกิดความรู้สึกพึงพอใจอยู่ลึกๆ “เจ้าคือคุณชายจากตระกูลตัน หลงรักเรามาตั้งแต่เล็ก ภายหลังตระกูลตันวางแผนก่อกบฏ เราคำนึงถึงความผูกพันในวันวาน จึงรักษาชีวิตเจ้าไว้”
ในขณะที่พูด เหอจินหมิงก็จ้องมองหน้าตันหวายเขม็ง คาดหวังว่าจะมองพิรุธบางอย่างบนนั้นออกได้บ้าง แต่เขาก็ต้องผิดหวัง ใบหน้าของคนตรงหน้าฉายแววตื่นตะลึง เดือดดาล สับสน นิ่งงันอย่างที่ควรเป็น ทว่าไม่เห็นความโกรธแค้นหรือกังขาแต่อย่างใด
“ทูลฝ่าบาท ซีหนานอ๋องขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีอาวุโสด้านนอกทลายบรรยากาศแปลกประหลาดระหว่างคนทั้งสอง
เหอจินหมิงมองตันหวายอย่างลึกซึ้งชั่วครู่ สะบัดแขนเสื้อกล่าวว่า “ออกไปห้องหนังสือ”
ขณะที่เหอจินหมิงจากไป บรรยากาศภายในห้องก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยในทันที แต่ใบหน้าของตันหวายกลับบิดเบี้ยวจนดูไม่ได้
แม่ง! ผีสางเท่านั้นที่รู้ว่าเขาอดกลั้นโทสะไว้มากขนาดไหนถึงไม่พลั้งมือฟาดใส่หน้าเขา
(ท่านเจ้าของร่าง!) ระบบส่งเสียงกะทันหัน (จากการตรวจสอบระบบ ด้วยความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของท่านเจ้าของร่าง ค่าความประทับใจของจวินเฉิงเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้นถึงแปดสิบหกเปอร์เซ็นต์แล้ว ท่านเจ้าของร่างโปรดพยายามต่อไป!)
อันที่จริงเพิ่มแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์นายไม่ต้องแจ้งก็ได้นะระบบ เขายังอัดอั้นตันใจไม่พออีกหรือไง!
วิธีแกล้งความจำเสื่อมตันหวายเป็นคนคิดขึ้นมาเอง นี่คือวิธีเอาชีวิตรอดอย่างง่ายที่สุดที่เขาคิดออก และเป็นวิธีที่ทำให้เหอจินหมิงลดการป้องกันตัวต่อเขาได้ง่ายที่สุดอีกด้วย ไม่เช่นนั้นหากเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาคงถูกเหอจินหมิงฆ่าตายไม่ช้าก็เร็ว
ขอเพียงตันฝูเซิงจำอดีตอันแสนอัปยศของเหอจินหมิงไม่ได้ ความชอบพอเล็กๆ ที่เหอจินหมิงมีต่อเจ้าของร่างเดิมก็คงจะอยู่เหนือกว่า ตันหวายจะได้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นบ้างสักเล็กน้อย
ส่วนซีหนานอ๋อง…พอนึกถึงคนในชุดขาวบริสุทธิ์ผู้นั้น ในใจของตันหวายก็เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกอ่อนโยน เขารู้ว่า เขาไม่ได้ใจอ่อนเพราะจวินเฉิงหน้าตาเหมือนไป๋เยว่ แต่เป็นเพราะจวินเฉิงช่วยชีวิตเขาโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทนหลายต่อหลายครั้ง เขาคือความดีงามที่เขาพบเจอเป็นครั้งแรกและเพียงหนึ่งเดียวนับตั้งแต่มาถึงโลกนี้
ตันหวายเป็นคนประเภทหากคนอื่นมาทำดีกับเขาร้อยเท่า เขาก็จะทุ่มสุดตัวเพื่อตอบแทนอีกฝ่ายพันทวี แต่ก่อนเพื่อนๆ ต่างก็บอกว่าเขางี่เง่า แต่ว่าเขากลับไม่คิดเช่นนั้น การทำดีกับผู้อื่นก่อนนั้นไม่ง่ายเลย ไม่ว่าอย่างไรตันหวายก็คิดว่ายากเย็นยิ่งนัก
“ระบบ ผมขอถามคุณอีกที โลกหนึ่งใบไม่สามารถมีเจ้าของร่างสองคนอยู่พร้อมกันได้จริงๆ หรือ?”
(ถูกต้องท่านเจ้าของร่าง เราขอยืนยัน)