Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 65

ตอนที่ 65

ตอนที่ 65 นิสัยของหมาป่า

สองวันต่อมา

ณ ห้องพักแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากเจียงโจวประมาณแปดสิบกิโลเมตร ฉินอวี่ถามเถ้าแก่เจ้าของห้องพักว่า “เพื่อนของผมเป็นยังไงบ้างครับ?”

“เขายังมีไข้อยู่เพราะยาของเราไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ” เถ้าแก่ตอบ “ผมว่าพาหมอมารักษาจะดีกว่านะ”

“คุณพอจะหาหมอให้เราได้ไหมครับ? ส่วนเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา” ฉินอวี่กล่าว

“ผมรู้จักอยู่คนหนึ่งแต่เขาเป็นพวกปากไม่มีหูรูด ผมกลัวว่าเขาจะสร้างความเดือดร้อนให้คุณน่ะ” เถ้าแก่เอ่ยตอบ

ฉินอวี่ชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนถอนหายใจและหันไปพูดกับอีกฝ่ายว่า “อย่างงั้นคงต้องรบกวนให้เถ้าแก่หายาที่ดีกว่านี้แล้วล่ะครับ แต่ก่อนอื่นเราควรรักษาอาการไข้ของเขาก่อน”

“ครับ ผมจะสั่งให้คนนำยามาจากเจียงโจว” เถ้าแก่ตอบ

ฉินอวี่ล้วงเงินจำนวนหนึ่งออกมาส่งให้เถ้าแก่และพูดว่า “ขอบคุณมากครับ”

“ขอบใจมากเลยพ่อหนุ่ม” เถ้าแก่ตอบพลางหยิบเงินใส่กระเป๋าและพูดกับฉินอวี่ก่อนออกจากห้องว่า “เดี๋ยวผมจะเอาข้าวมาส่งให้นะ”

ห้องพักประเภทนี้มักพบได้ในเขตพัฒนาที่มีระดับความปลอดภัยสูงและมีกฎระเบียบที่เคร่งครัด ซึ่งเหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการพักชั่วคราว แต่สิ่งอำนวยความสะดวกและสภาพความเป็นอยู่นั้นแย่มาก ส่วนเมนูอาหารขึ้นอยู่กับว่าในตู้เย็นของเจ้าของห้องพักนั้นเหลืออะไรอยู่บ้าง

แต่ข้อดีคือราคาถูก และเจ้าของมักมีไหวพริบรู้ว่าเมื่อไหร่ควรพูดหรือไม่ควร

หลังจากคุยกับเจ้าของห้องพัก ฉินอวี่มุ่งหน้ากลับไปยังห้องด้านในสุดทางซ้ายมือที่มีฉีหลินนอนหน้าซีดอยู่ทันที แม้เขาจะอ่อนแรงแต่ก็ยังถามอย่างกังวลว่า “เป็นยังไงบ้าง? โกโก้ติดต่อมาหรือยัง?”

“ไม่ต้องห่วง ฉันกำลังประสานงานอยู่” ฉินอวี่กล่าว “นายเป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะ”

ตอนนี้ดูเหมือนว่าน้ำหนักของฉีหลินลดลงประมาณสิบกิโลกรัม แก้มที่เคยอวบดูเล็กลงมาก “ฉันกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับแมวเฒ่า และกลัวว่าพวกเขาจะกลับคำ”

“ฉันรู้สึกว่าโกโก้สนใจร่วมมือกับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่จับตัวหลี่ถงได้” ฉินอวี่พูด “และอีกอย่างฉันยังติดต่อกับแมวเฒ่าได้ทุกครั้งที่ต้องการ ดังนั้นฉันคิดว่าเขาน่าจะสบายดี”

“ดีแล้ว…” ฉีหลินพยักหน้ารับ

“อดทนอีกนิดนะ…ฉันคุยกับเถ้าแก่แล้ว เขากำลังไปซื้อยามาให้เรา” ฉินอวี่กล่าว “ถ้าไข้ยังไม่ลด ฉันคงต้องบอกให้โกโก้พาหมอมารักษาแล้วล่ะ”

“ฉันยังทนไหว” ฉินอวี่ตอบกลับ

ฉีหลินมองฉินอวี่อยู่ครู่หนึ่งราวกับว่ามีอะไรจะพูด แต่ก็ไม่พูดออกมา

ฉินอวี่มักอ่านสีหน้าของคนอื่นออกเสมอ เขาจึงเอ่ยถามฉินอวี่ขณะหยิบบุหรี่ไฟฟ้าออกมาสูบ “นายมีอะไรจะพูดเหรอ?”

ฉีหลินเกาศีรษะ

ฉินอวี่พ่นควันบุหรี่ออกมาก่อนกล่าวเสริมว่า “พวกเราสามคนผ่านเหตุการณ์เฉียดตายมามากมาย ยังมีอะไรที่นายบอกฉันไม่ได้อีก?”

“ฉันอยากขออะไรบางอย่างน่ะ”

“พูดมาสิ”

“ฉันอยากเป็นคนดูแลเส้นทางขนส่งสินค้าจากเจียงโจวไปซ่งเจียงหลังจากรื้อมันขึ้นมาใหม่” ฉินอวี่กล่าว

ฉีหลินไม่รู้ตัวว่าทุกครั้งที่มีปัญหาเขามักขอความคิดเห็นจากฉินอวี่เสมอ

ฉินอวี่กะพริบตาด้วยความประหลาดใจหลังจากที่ได้ยินฉีหลินพูดก่อนขมวดคิ้วแน่น “บอกตรงๆ ฉันเตรียมแผนไว้แล้ว”

ฉินอวี่ตกตะลึง “นายจะให้ตระกูลหม่าจัดส่งยาเหรอ?”

“ไม่มีทาง!” ฉินอวี่ปฏิเสธทันควัน

“พวกเราสามคนเสี่ยงชีวิตเพื่อรักษาเส้นทางการขนยา แล้วจะปล่อยให้ตระกูลหม่าติดต่อกับโกโก้โดยตรงได้ยังไง? ถ้าผู้จัดจำหน่ายและผู้ค้ามีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นต่อกัน คนกลางอย่างเราจะมีประโยชน์อะไร? พวกเราก็จะกลายเป็นส่วนเกินในธุรกิจนี้น่ะสิ แม้ว่าตระกูลหม่าจะอยู่ข้างเดียวกับเฒ่าหลี่ แต่ถ้าพวกเขาสามารถติดต่อโกโก้ได้โดยตรง ความสำคัญของเราก็จะลดลง”

ฉีหลินไม่คาดคิดว่าฉินอวี่จะคิดไปไกลขนาดนั้น จึงพยักหน้าโดยไม่รู้ตัวและตอบว่า “ใช่ นายพูดถูก”

“ฉันวางแผนให้นายอยู่ที่นี่กับโกโก้เพื่อตรวจดูสินค้า และฉันจะสร้างเครือข่ายกระจายสินค้าขึ้น” ฉินอวี่พูดขึ้นขณะที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า

“งานนี้ค่อนข้างอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเดินทางไปมาระหว่างซ่งเจียงและเจียงโจว นายจะเอาชีวิตไปเสี่ยงไม่ได้เพราะนายมีแม่กับน้องสาวต้องดูแล นอกจากนี้คนคนนั้นต้องติดต่อกับโกโก้และตระกูลหม่าเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย และถ้ามีปัญหาหรือข้อขัดแย้งเกิดขึ้น เขาต้องเป็นคนไกล่เกลี่ยหรือกดดันเพื่อแก้ปัญหา…”

ฉีหลินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนพูดขึ้นอีกครั้ง “ฉินอวี่ ฉันอยากลองดูสักตั้ง”

ฉินอวี่มองฉีหลินชั่วครู่ก่อนพูดแนะนำ “ฉันหวังว่านายจะเข้าใจความหวังดีของฉันนะ มันไม่ง่ายเลยที่ต้องอยู่ในสายงานนี้ นายก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับอาหลงแล้วนี่ ถ้าตระกูลหยวนรู้ว่าเราเชื่อมต่อเส้นทางค้ายาได้ พวกมันก็จะสืบหาผู้จัดจำหน่ายผ่านคนกลาง อีกทั้งยังยังมีคนจำนวนมากที่สนใจในผลประโยชน์นี้ การค้ายาให้กำไรมากเกินไปจึงเกิดการแข่งขันสูง…ซึ่งคังเกอก็คือหนึ่งในเหยื่อ ดังนั้นฉันและแมวเฒ่าจึงไม่อยากให้นายเสี่ยงอันตราย…”

“เข้าใจแล้ว ฉันมีแม่และน้องสาวต้องดูแลเลยเอาชีวิตไปเสี่ยงไม่ได้สินะ…” ฉีหลินมองฉินอวี่ด้วยความโกรธ “แต่ฉันไม่อยากอยู่เฉยๆ ให้นายปกป้องเพราะเรื่องนี้ ฉันไม่อยากใช้ชีวิตแบบเดิมและฝากชีวิตไว้ในกำมือของคนอื่น! ตอนนี้ฉันเรียนรู้แล้วว่าคนเราต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเองเท่านั้น!”

ฉินอวี่เงียบ

“ให้ฉันทำเถอะ ฉันจะทำให้ดีที่สุด” ฉีหลินกล่าวอีกครั้ง “ฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว…ถ้าไม่พยายาม ฉันก็จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้”

“นายคิดดีแล้วเหรอ?”

“อืม ฉันตัดสินใจแล้ว “ฉินอวี่ยืนยัน

“โอเค ฉันจะให้นายจัดการเรื่องนี้” ฉินอวี่กล่าว “ฉันกับแมวเฒ่าจะจัดการเรื่องเจ้าหน้าที่ในขณะที่นายดูแลเรื่องสินค้า เราสามคนลงเรือกันแล้ว มาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กันเถอะ!”

“อืม!” ฉีหลินตอบด้วยรอยยิ้ม

ฉินอวี่วางบุหรี่ไฟฟ้าลงก่อนลุกยืนขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพูดว่า “ฉันต้องโทรหาเฒ่าหม่า”

“เพื่อยืนยันรายการสินค้าเหรอ?”

“อืม เรื่องยืมเงินด้วย” ฉินอวี่ตอบ

ฉีหลินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยิน “ยืมเงินเหรอ?”

“โกโก้ไม่ปล่อยยาให้ฟรีๆ หรอก เราต้องจ่ายมัดจำถ้าอยากได้สินค้าล็อตแรก” ฉินอวี่กล่าว “แต่พวกเราไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่ามัดจำน่ะสิ”

ยิ่งฟังฉีหลินก็ยิ่งสับสน “เราให้เฒ่าหม่าจ่ายเงินแทนไม่ได้รึไง? ฉันว่าเขาน่าจะเต็มใจจ่ายนะ ไม่อย่างงั้นเราโทรหาเฒ่าหลี่ เขาน่าจะจัดการเรื่องนี้ได้…เราจำเป็นต้องยืมเงินเฒ่าหม่าด้วยเหรอ?”

“ไม่ได้” ฉินอวี่ส่ายศีรษะ “เราจะให้เฒ่าหม่ากับเฒ่าหลี่เป็นคนจ่ายเงินไม่ได้”

ฉีหลินตกอยู่ในห้วงความคิด เมื่อได้ยินคำพูดยืนยันของฉินอวี่

ฉินอวี่หัวเราะเบาๆ ก่อนอธิบาย “เฒ่าหลี่เป็นผู้กำกับการแห่งสำนักงานตำรวจรัฐพื้นทมิฬ คำพูดของเขามีน้ำหนักกับเจ้าหน้าที่ ในขณะที่ตระกูลหม่าเพิ่งถูกหยวนหัวกวาดล้าง เขาต้องใช้เส้นทางการขนยาในการฟื้นฟูอำนาจแน่นอน เราถึงไม่ควรมองข้ามอำนาจของเขาในซ่งเจียงไงล่ะ แล้วดูเราสิ…เรามีอะไรบ้าง? นอกจากความกล้าของนายและความบ้าบอของแมวเฒ่าแล้ว มีอะไรอีกไหมที่เราสู้พวกเขาได้?”

ฉีหลินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “เรามีโกโก้เป็นผู้จำหน่ายยา”

“ถูกต้อง” ฉินอวี่พยักหน้า “ผู้จัดจำหน่ายคือกุญแจสำคัญที่เชื่อมโยงพวกเราเข้าด้วยกัน ในเมื่อเรามีกุญแจอยู่ในมือแล้ว เราต้องฉวยโอกาสควบคุมตลาดยาในซ่งเจียงซะ เราจะให้เฒ่าหลี่แย่งเงินของเราไปไม่ได้ และเราก็จะคุยทุกอย่างกับเฒ่าหม่าไม่ได้เช่นกัน นายต้องเข้าใจว่าเขาอยู่ภายใต้การดูแลของเรา…พวกเขาต้องพึ่งพาเราเพื่อทำมาหากิน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉีหลินยกนิ้วโป้งและกล่าวว่า “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแมวเฒ่าที่หยิ่งทะนงถึงเชื่อฟังนาย และทำไมเฒ่าหลี่ถึงอยากสนับสนุนนายเหมือนกัน…นายมีบางอย่างที่พวกเราไม่มีนี่เอง”

“หืม? มันคืออะไร?” ฉินอวี่ถามด้วยความสงสัย

ฉีหลินส่ายศีรษะอยู่ครู่หนึ่งก่อนคิดหาคำเปรียบเปรย “มีนิสัยเหมือนหมาป่า มีจมูกไว้ดมกลิ่นเหยื่อ และมีความมุ่งมั่นในการไล่ล่า”

“ฮ่าๆๆ อย่างงั้นเหรอ?” ฉินอวี่ตอบพลางหัวเราะออกมาก่อนกดหมายเลขโทรศัพท์ของเฒ่าหม่า

สิบวินาทีต่อมา

“ฮัลโหล?” เสียงของเฒ่าหม่าดังจากปลายสาย

“ลุงหม่าส่งรายการยาที่ต้องการกับราคาให้ผมหน่อย ส่งมาตอนนี้เลยนะ”

“ฉันจะส่งให้เดี๋ยวนี้แหละ” ดวงตาของเฒ่าหม่าเปล่งประกายเมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“แล้วก็ขอยืมเงินหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์” ฉินอวี่กล่าว “ผมจะทยอยคืนเป็นงวดๆ”

เฒ่าหม่าขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ต้องการเงินเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันมีแค่…”

“ลองคิดหาวิธีดูสิ เพราะผมต้องการเดี๋ยวนี้”

“โอเค ฉันจะหามาให้” เฒ่าหม่าพยักหน้ารับคำ

“แค่นี้แหละ”

หลังจากวางสาย เฒ่าหม่าก็โทรหาผู้ช่วยทันที “เอารายการสินค้าที่เราเคยใช้และเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์มาให้ฉันเร็วที่สุด”

“เงินมากขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว

“อืม ฉินอวี่เจรจากับผู้จัดจำหน่ายสำเร็จแล้ว เส้นทางการค้ายาจะถูกรื้อขึ้นใหม่เร็วๆ นี้” เฒ่าหม่าพูดด้วยความกระปรี้กระเปร่า “หยวนเค่อไล่ต้อนเราจนไม่เหลือพื้นที่ให้หายใจ ถ้าไม่ดิ้นรนตอนนี้ เราก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว”

…………………………………..

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท