ตอนที่ 84 เงามืดคืบคลาน
ครึ่งเดือนผ่านไป
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฉินอวี่มุ่งมั่นในการทำแบบทดสอบเลื่อนขั้นเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสอง ซึ่งผู้กำกับการหลี่ยืนยันกับเขาแล้วว่าภายในต้นปีหน้าเขาจะได้รับการเลื่อนยศสองครั้งจนได้เป็นผู้บังคับหมวด ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องฝึกเขียนรายงานเหตุการณ์และรายงานไตรมาสเพื่อเข้าทดสอบจากสำนักงานตำรวจใหญ่
ในช่วงที่กำลังวุ่นอยู่กับการทดสอบ ฉินอวี่ยกช่องทางค้ายาให้แมวเฒ่ากับคนอื่นๆ ช่วยดูแล ทั้งยังสามารถวางใจให้ทีมโกโก้จัดการเรื่องส่งมอบจึงไม่จำเป็นต้องกังวลมาก
ส่วนหม่าเหลาเอ๋อมีงานล้นมือ เขาต้องเจรจากับเฒ่าสามอยู่บ่อยครั้งเพราะหยวนหัวต้องการเคลียร์เรื่องพิพาทที่เคยมีต่อกัน
ณ เวลาสามทุ่ม
หม่าเหลาเอ๋อนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ในโกดังแห่งหนึ่งโดยปลายสายคือเฒ่าหม่า “ประมาณสามสี่วันก่อนที่เฒ่าหม่าจะติดต่อผมมาครับ”
เฒ่าหม่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบกลับ “ช่วงนี้เราปล่อยสินค้าในราคาที่ถูกลงจนตระกูลหม่ายอดขายตกฮวบ ไม่แปลกถ้าไอ้หยวนหัวจะร้อนใจ…แต่ก็ไม่คิดว่ามันถึงขั้นยอมเจรจาสมานฉันท์แบบนี้”
“ไม่เห็นเป็นเรื่องน่าแปลกใจตรงไหน” หม่าเหลาเอ๋อพูด “หยวนหัวไม่เหมือนเรา หมอนั่นใช้เส้นสายในการทำธุรกิจเยอะ จึงต้องทำทุกทางให้ได้ผลประโยชน์เพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลว”
“ขณะเดียวกันทางฝั่งเรามีแค่พวกฉินอวี่ที่เป็นคนกลางเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วเราเป็นอิสระกว่ามาก และตราบใดที่สามารถเพิ่มยอดขายได้เราก็แทบไม่ต้องพึ่งฉินอวี่เลย เพราะแบบนี้หยวนหัวถึงเริ่มคิดหนัก ถ้ามันยังถอนรากถอนโคนเราไม่ได้ยอดขายของมันก็จะลดลงเรื่อยๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผลประกอบการพัง คนที่อยู่สูงกว่ามันกับหุ้นส่วนธุรกิจทั้งหมดต้องเพ่งเล็งมันแน่ ผมเชื่อนะ…ว่าครั้งนี้มันอยากสมานฉันท์กับเราจริง…แต่คิดว่าเราควรยื้อเวลาตอบตกลงไปอีกหน่อยดีกว่า เพราะการจะดึงทั้งตลาดให้มาเป็นพวกของเรา มันไม่ควรง่ายแบบนี้!”
สภาพอากาศที่หนาวเย็นส่งผลให้เฒ่าหม่าเป็นหวัด เขาไออยู่สองสามครั้งก่อนตอบกลับ “อย่าเพิ่งด่วนตัดสินจากมุมมองเดียว ฉันรู้ว่าไอ้หยวนหัวเป็นคนยังไง มันเคยอยู่จุดสูงสุดมาก่อน…คงไม่ยอมให้ใครขึ้นมาเป็นคู่แข่งแน่นอน เพราะงั้นเราจะประมาทแค่เพราะตอนนี้มันตกต่ำไม่ได้”
“ผมว่าลุงคิดมากไปหรือเปล่า อย่าปล่อยให้เรื่องคราวก่อนมาบั่นทอนความกล้าสิ” หม่าเหลาเอ๋อพูดขึ้น “ลุงก็รู้ว่าการที่กดราคายาต่ำลงทำให้เราได้เปรียบมาก หุ้นของหยวนหัวมีแต่กลุ่มบริษัทใหญ่ที่ต้องการส่วนแบ่งกำไร มันถึงกดราคายาให้ต่ำกว่าเราไม่ได้ไง”
“ผมเลยบอกลุงว่าอย่าคิดมาก อีกอย่างเราก็เตรียมการป้องกันไว้แล้วนี่ ประชุมเมื่อเช้าผมสั่งให้เด็กส่งยาขนยาติดตัวไปด้วยวันละสองร้อยกรัมและค่อยๆ ปล่อยเข้าตลาดทีละนิด วิธีนี้จะทำให้พวกตำรวจทำอะไรเราไม่ได้ หรืออย่างมากที่สุดก็ติดคุกไม่เกินหนึ่งปี”
“ดีแล้วที่รู้จักเตรียมการไว้เราจะได้ไม่เจออุปสรรคมาก แต่ฉันก็อยากเตือนนายไว้หน่อยว่าอย่าประมาท ใกล้จะสิ้นปีแล้วพยายามอย่าสร้างปัญหาให้เฒ่าหลี่มากล่ะ” เฒ่าหม่าพูดกำชับ
“โอเคๆ รู้แล้วหน่า!” หม่าเหลาเอ๋อพยักหน้ารับ “ช่วงนี้ลุงก็พักอยู่บ้านไปก่อนแล้วกัน ส่วนถนนเถ้าธุลีเดี๋ยวผมดูแลเอง รับรองทุกอย่างราบรื่นหายห่วง”
“เออ อย่าชะล่าใจแค่เพราะเราได้เปรียบ จับตาดูโกดังไว้ให้ดีอย่าให้ใครมายุ่มย่าม”
“ครับๆ”
“ดีมาก ฉันว่าจะไปนอนสักหน่อย รู้สึกปวดหัวอีกแล้ว”
“ดูแลตัวเองด้วย”
เมื่อหารือกันจบสองลุงหลานก็วางสาย
…
เวลาสี่ทุ่มในโกดัง
หม่าเหลาเอ๋อสวมเสื้อเชิ้ตทหารนั่งดูรายการออนไลน์ผ่านโทรศัพท์อย่างเบื่อหน่ายบนเก้าอี้
ทันใดนั้นประตูโกดังถูกเปิดออก หลิวจื้อชูเดินเข้ามาพร้อมพูด “ฉันเพิ่งปล่อยของไปสองกล่อง ตอนนี้ในโกดังเหลือไม่ถึงสิบกล่องแล้ว คิดว่าภายในอาทิตย์นี้ก็น่าจะหมดนะ ให้บอกฉินอวี่ตุนของเพิ่มเลยไหม?”
“ฉินอวี่กำลังยุ่งอยู่เรื่องเลื่อนตำแหน่งอยู่ ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้หรอก” หม่าเหลาเอ๋อหาวตอบ “แต่ผมบอกแมวเฒ่าให้แล้วนะว่าของล็อตใหม่น่าจะมาอีกสองสามวัน พี่เตรียมรับของด้วยแล้วกัน”
“โอเค” หลิวจื้อชูพยักหน้า
หม่าเหลาเอ๋อสูบบุหรี่ขณะดูรายการวาไรตี้ในโทรศัพท์ “ช่วงนี้ไม่มีอะไรให้ทำเลย เฮ้อ! พี่จื้อชูหาเพื่อนมาอีกสองคนดิ จะได้เล่นไพ่กัน”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวฉันจะไปแล้ว” หลิวจื้อชูตอบพลางจิบน้ำ “ฉันต้องไปคุยกับพ่อค้าคนอื่นๆ แถวชานเมือง พวกนั้นอยากได้ของฉันเลยต้องไปคุยรายละเอียดก่อน”
“ให้ตายเถอะ แล้วผมจะทำอะไรล่ะทีนี้” หม่าเหลาเอ๋อเป็นคนอยู่ไม่สุข เขาต้องได้ออกไปข้างนอกไม่อย่างนั้นคงไม่สบายใจ
“ก็นั่งดูรายการไร้สาระไปสิ”
“ผมอยู่นี่มาทั้งวันแล้วนะ น่าเบื่อจะตายชัก!” หม่าเหลาเอ๋อบ่นก่อนปิดรายการในโทรศัพท์และหารายชื่อติดต่อ
“กริ๊ง!”
แต่ไม่ทันไรก็มีสายโทรเข้าเสียก่อน
หม่าเหลาเอ๋อตาลุกวาวรีบกดรับสายทันใด “ว่าไงแมวเฒ่า? คิดถึงฉันเหรอ?”
“นายอยู่ไหน?” แมวเฒ่าถาม
“อยู่โกดัง มีอะไรหรือเปล่า?”
“ว่างไหม? เฒ่าหลู่จากกองความมั่นคงอยู่กับฉัน” แมวเฒ่าตอบ “ถ้าว่างก็มาด้วยกันสิ ฉันจะได้แนะนำนายให้เขารู้จัก!”
“เฒ่าหลู่ที่เป็นผู้บัญชาการกองความมั่นคงสาธารณะน่ะเหรอ?”
“ใช่ คนนั้นแหละ” แมวเฒ่าพยักหน้าตอบ “แต่ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ พรุ่งนี้ค่อยมาก็ได้ ฉันยังต้องร่วมงานกับเขาอีกสักพัก…คงได้เจอกันบ่อยๆ”
“ตอนนี้แหละ ฉันว่างพอดี” หม่าเหลาเอ๋อรีบลุกขึ้น “ถ้านายไม่โทรมาฉันคงเบื่อตายไปแล้ว อยู่ไหนล่ะ? ฉันจะได้ไปหา”
“อยู่ย่านพี่รอง”
“รับทราบ เดี๋ยวเจอกัน” หม่าเหลาเอ๋อพูดจบก็วางสายก่อนหันไปคว้าเสื้อโค้ตที่แขวนไว้
หลิวจื้อชูนั่งอยู่บนโซฟามองท่าทีของหม่าเหลาเอ๋อก่อนถามว่า “นายจะไปไหน?”
“แมวเฒ่าจะแนะนำผมให้ผู้บัญชาการกองความมั่นคงรู้จัก ต้องรีบไปแล้ว”
“เชื่อตายล่ะ หาเรื่องกินเหล้าอีกสิไม่ว่า” หลิวจื้อชูพูดขัด
“ใช่ที่ไหน! หาพันธมิตรใหม่ก็เป็นงานเหมือนกัน!” หม่าเหลาเอ๋อตะโกนตอบขณะวิ่งออกจากโกดังไป “เสี่ยวฉู่ ฉันไม่อยู่สักพักนะ ฝากจ่ายยาตามจำนวนที่ฉันตั้งไว้แล้วก็ดูแลโกดังให้ด้วย!”
“กุญแจอยู่กับพี่หรือเปล่า?” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนพื้นตะโกนถาม
“อยู่บนโต๊ะ ใช้เสร็จแล้วเก็บด้วยอย่าให้ใครเอาไป”
“โอเคครับ”
หลังผลักภาระให้คนอื่นแล้ว หม่าเหลาเอ๋อก็ออกจากโกดัง หลิวจื้อชูเองยังมีงานต้องทำที่ชายแดนจึงไม่ได้อยู่นานนัก
…
ห้าทุ่ม
มีรถคันหนึ่งแล่นมาจอดหลังโกดัง ชายหนุ่มเดินขึ้นรถพร้อมถามว่า “เอาของมาหรือเปล่า?”
“อยู่ในรถ” คนขับตอบ “เขาไม่อยู่เหรอ?”
“ใช่ ออกไปเที่ยว” ชายหนุ่มตอบ “ขนของเข้าทางหลังโกดัง เสร็จแล้วก็รีบไปซะ”
“โอเค” คนขับพยักหน้า
ห้านาทีต่อมา คนขับรถก็หมุนพวงมาลัยขับออกไปทันที ระหว่างอยู่บนถนนเขากดข้อความส่งหาใครบางคนว่า ‘เรียบร้อยแล้วครับ’
………………………………….