ตอนที่ 78 ชะล่าใจ
อันที่จริงหยงตงตั้งใจออกจากร้านอยู่แล้ว ทว่าได้ยินคำพูดไม่เข้าหูของผู้จัดการเข้าจึงเลือกที่จะนั่งต่อ “จะไล่ฉันหรือไง?”
“หม่าเหลาเอ๋อเป็นถึงคนบ้าแห่งถนนเถ้าธุลีเลยหนิ เขาคงไม่ชอบให้ใครทำตัวเหนือกว่าหรอกมั้ง” ผู้จัดการร้านพูดขึ้น “แถมวันนี้เขาค่อนข้างเมาด้วย เดี๋ยวอีกสักพักคงกลับมาแหละ”
หยงตงรู้อยู่แล้วว่าหม่าเหลาเอ๋อเป็นอันธพาลเอาแต่ใจ คงไม่คุ้มแน่ถ้ามีเรื่องกับเขา ซึ่งสาเหตุที่หม่าเหลาเอ๋อตั้งท่าหาเรื่องผู้จัดการร้านเป็นเพราะความหงุดหงิดส่วนตัวล้วนๆ
หยงตงรู้สึกโมโหมาก ถ้าเขาออกจากร้านก็เท่ากับกลัวหม่าเหลาเอ๋อ แต่ถ้ายังอยู่ปัญหาใหญ่ต้องตามมาแน่นอน
หลังคิดหนักอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ยิ้มและพูด “ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าจะได้เจอหม่าเหลาเอ๋อที่นี่”
“พี่อย่าหาเรื่องใส่ตัวเลย เชื่อผมเถอะ”
“อย่ามาแส่! ไปเอาไวน์มาเพิ่ม…ฉันจะนั่งต่อ” หยงตงสั่งก่อนยิ้มเยาะ
“เฮ้อ…” ผู้จัดการร้านลุกขึ้นถอนหายใจ
หยงตงหันไปพูดกับเพื่อนที่อยู่ด้านข้างว่า “โทรไปบอกที่บ้านให้ส่งใครก็ได้มาสองคน แต่ตอนมาถึงให้ทำทีแจ้งว่าบริษัทเรามีปัญหานะ…”
…
หลังช่องทางการค้าถูกฟื้นฟู หลิวจื้อชูก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังหนึ่งไม่ไกลจากถนนเถ้าธุลีนัก หากขับรถคงใช้เวลาราวสิบนาทีเท่านั้น
หลิวจื้อชูยืนอยู่ข้างรถหม่าเหลาเอ๋อบนถนนหน้าบ้าน เขาพูดกำชับคนในรถว่า “รีบกลับไปนอนซะ พรุ่งนี้เรามีเรื่องต้องจัดการอีกเยอะ ถ้าตื่นแล้วค่อยโทรมา”
“ครับพี่” หม่าเหลาเอ๋อพยักหน้า
“ดูแลตัวเองด้วย”
“พี่ก็เหมือนกัน”
“เออ” หลิวจื้อชูพยักหน้าก่อนเดินกลับเข้าบ้าน
เมื่อเห็นว่าหลิวจื้อชูไปแล้ว คนขับรถจึงหันมาถามหม่าเหลาเอ๋อว่า “จะกลับบ้านไหมครับ?”
“พาฉันไปโกดังก่อน” หม่าเหลาเอ๋อตอบขณะลูบสะเก็ดแผลบนหน้า
…
ยี่สิบนาทีต่อมาไวน์ที่สั่งไปมาเสิร์ฟ จากนั้นก็มีชายสองคนวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในร้านตรงไปยังโต๊ะที่หยงตงนั่งอยู่ “ลูกพี่หยวนให้มาตามกลับด่วนครับ เกิดเรื่องขึ้นที่บริษัท!”
“เกิดอะไรขึ้น?” หยงตงถามชายสองคนที่เพิ่งมาถึง
“ผมก็ไม่ทราบรายละเอียดเหมือนกันครับ เขาบอกแค่ว่าให้คุณหยงไปหาเดี๋ยวนี้”
“เฮ้อ…ขนาดวันหยุดก็ยังต้องทำงาน” หยงตงบ่นพลางลุกจากที่นั่งก่อนหันไปพูดกับผู้จัดการร้านว่า “ฝากเก็บเครื่องดื่มไว้ก่อนแล้วกัน ฉันต้องรีบไปทำธุระ”
“ได้เลยครับพี่!” ผู้จัดการร้านรีบลุกขึ้นพยักหน้า “ทางร้านเรายินดีให้บริการเสมอ ไว้เจอกันใหม่ครับ!”
เมื่อหาทางออกโดยไม่ให้ตัวเองเสียหน้าได้แล้ว หยงตงจึงเดินนำลูกน้องทั้งหลายออกจากร้านไป
ด้านนอกร้านมีรถคันหนึ่งฝ่าถนนหิมะมาก่อนจอดอยู่ข้างถนน
หม่าเหลาเอ๋อกับลูกน้องสองคนลงมาจากรถ
ขณะเดียวกันหลงตงกับพรรคพวกก็กำลังเดินออกมาจากร้าน ทั้งสองฝ่ายได้เผชิญหน้ากันโดยบังเอิญ
“จะรีบไปไหนล่ะ?” หม่าเหลาเอ๋อพูดทั้งคราบเลือดยังคาอยู่มุมปาก กลิ่นแอลกอฮอล์เหม็นหึ่งไปทั่ว
หยงตงชะงัก “แกต้องการอะไร?”
“เอาเลือดหัวแกออกไง!”
ทันทีที่พูดจบหม่าเหลาเอ๋อก็ชักปืนออกพร้อมเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายทันที
ผู้จัดการร้านเมื่อได้ยินเสียงเอะอะจึงรีบออกไปดูก่อนพูดเกลี้ยกล่อมว่า “หม่าเหลาเอ๋อ อย่ามีเรื่องกันตรงนี้ได้ไหม? ไว้หน้าฉันหน่อย”
หม่าเหลาเอ๋อจ้องหน้าผู้จัดการพลางตะคอกว่า “ตอนฉันโดนกระทืบก็ไม่เห็นใครหน้าไหนไว้หน้าฉันนี่”
ผู้จัดการร้านพูดไม่ออก
“ชอบแส่เรื่องคนอื่นมากนักหรือไง? หืม?” หม่าเหลาเอ๋อพูดประชดประชันก่อนผลักผู้จัดการร้านออก “อย่าสาระแนเรื่องคนอื่นให้มาก ถอยไป!”
หยงตงยืนจ้องหน้าหม่าเหลาเอ๋อก่อนพูดขึ้น “เจอขนาดนั้นแล้วยังไม่จำอีกเหรอ? ขนาดเฒ่าหม่ายังไม่กล้าโผล่หัวมา…หรือแกยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเป็นยังไง?”
หม่าเหลาเอ๋อยกปืนขึ้นชี้หัวหยงตง “รำคาญเสียงแมลงวันว่ะ!”
หยงตงนิ่งอึ้งเมื่อเห็นหม่าเหลาเอ๋อเมาจนควบคุมตัวเองไม่อยู่
“ฉันมีข้อเสนอ” หม่าเหลาเอ๋อพูดขณะกดปืนจ่อหัวอีกฝ่าย “นับหนึ่งถึงสาม คุกเข่าลงกราบแทบเท้าฉันสามครั้งและเรียกฉันว่าลูกพี่ ไม่งั้นหัวแกกระจุยแน่”
“คิดจะขู่ฉันหรือไง?” หยงตงพูดเย้ยหยัน
“คิดว่าไม่มีใครกล้าขัดแกงั้นเหรอ? ไอ้หม่าเหลาเอ๋อ” พรรคพวกหยงตงที่อยู่ข้างซ้ายเอื้อมมือรั้งแขนหม่าเหลาเอ๋อ
หม่าเหลาเอ๋อสะบัดแขนออกและยกปืนขึ้นเหนี่ยวไกทันที
“ปัง!”
เสียงปืนดังลั่นทั่วบริเวณ
กระสุนปืนเจาะเข้ามือพรรคพวกของหยงตงจนเลือดอาบ
ความวุ่นวายก่อนหน้าหยุดลงทันตา
หม่าเหลาเอ๋อกระชากคอเสื้อหยงตงและตะคอกใส่ด้วยความโกรธแค้น “รู้หรือเปล่าว่าญาติพี่น้องกับคนของฉันต้องตายไปกี่คน หา! รู้บ้างไหม?!”
หยงตงตกตะลึง
“คิดว่าฉันเมาเหรอ?” หม่าเหลาเอ๋อตบหน้าหยงตงอย่างกวนประสาท “ฉันแค่ดื่มย้อมใจก่อนมาเจอแกเฉยๆ เข้าใจหรือยัง?”
หยงตงโมโหเลือดขึ้นหน้า เขาพาลสาปแช่งโชคชะตาของตัวเองวันนี้ที่พามาเจอคนโง่ไร้เหตุผล
“ไอ้หยงตง…กราบเท้าฉันสามครั้งเดี๋ยวนี้” หม่าเหลาเอ๋อชี้ปืนลงอย่างเอาเรื่องก่อนตะโกนนับ “หนึ่ง!”
หยงตงกำหมัดจ้องหน้าหม่าเหลาเอ๋อโดยไม่พูดคำใด
“สอง!” หม่าเหลาเอ๋อเค้นเสียงนับด้วยอารมณ์ร้อนที่คุกรุ่นอยู่ในอก นิ้วชี้ของเขาเคลื่อนไปที่ไกปืน
หยงตงสีหน้าไม่สู้ดี เขาหันมองรอบตัวก่อนพยายามพูดเกลี้ยกล่อม “หม่าเหลาเอ๋อ ถนนเถ้าธุลีใหญ่จะตาย แกยังพอมีที่ยืนอยู่นะ”
“พล่ามอะไรของแก? คิดว่าฉันโง่หรือไง? ต่อให้ฉันไม่เอาปืนจ่อหัวแกวันนี้ ยังไงพรุ่งนี้ฉันก็โดนพวกแกหาเรื่องอยู่ดี” หม่าเหลาเอ๋อตะโกนลั่น “ตกลงจะกราบเท้าฉันไหม?!”
หยงตงชะงักกับคำพูดของหม่าเหลาเอ๋อก่อนหันมองท่าทีของคนที่ล้อมอยู่
“ฉันให้โอกาสแกแล้วนะ ยืนนิ่งๆ ล่ะ…ฉันจะได้ยิงไม่พลาด”
“เดี๋ยวก่อน!” เมื่อเห็นว่าหม่าเหลาเอ๋อจะเหนี่ยวไกจริงๆ หยงตงจึงรีบตะโกนขึ้นก่อนปัดมือไปด้านข้าง “ฉันทำก็ได้!”
หม่าเหลาเอ๋อยิ้มอย่างได้ใจก่อนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
หยงตงโมโหเลือดขึ้นหน้า ใจเต้นแรงจนแทบทะลุ
“ไปคุกเข่าตรงนั้น!” หม่าเหลาเอ๋อชี้ไปทางซ้าย
“เออ” หยงตงตอบด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ เขาผลักหม่าเหลาเอ๋อให้หลีกทางก่อนคุกเข่านั่งหลังตรงพร้อมตะโกนลั่นว่า “ลูกพี่หม่าเหลาเอ๋อ! สมใจแกหรือยัง?”
“ฮ่าๆ!” หม่าเหลาเอ๋อระเบิดเสียงหัวเราะพลันตบหัวหยงตง “กราบด้วยสิ!”
หยงตงกราบลงพื้นสามครั้งตามคำสั่ง
“กราบให้มันดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง? แต่เอาเถอะ…ฉันพอใจแล้ว ไว้มาเล่นกันใหม่นะ…หยงตง” หม่าเหลาเอ๋อตบหัวหยงตงอีกสองครั้งก่อนเดินลงบันได “ฉันไปล่ะ!”
ชายสองคนที่หม่าเหลาเอ๋อพามาด้วยยืนล้วงกระเป๋ารออยู่อีกฝั่ง
หลังทั้งสามคนขึ้นรถ หม่าเหลาเอ๋อถ่มน้ำลายลงพื้นพลางตะโกนบอกหยงตงด้วยสีหน้าสมเพชว่า “ฝากไปบอกหยวนหัวด้วยนะ สายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับ ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เพราะงั้นอย่าดูถูกคนที่ต่ำกว่า! ตระกูลหม่าจะไม่มีทางตกต่ำไปตลอดแน่ ตระกูลหยวนของพวกแกเองก็ไม่อาจสูงส่งได้นานเหมือนกัน! ถึงเวลาของถนนเถ้าธุลียุคใหม่แล้ว!”
…
หลายนาทีต่อมา
คนขับรถบีบพวงมาลัยแน่น เขายังคงตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่หาย ใบหน้าหวั่นวิตกหันมองหม่าเหลาเอ๋อก่อนพูด “ประมาทเกินไปหรือเปล่าครับ? ถึงยังไงหยงตงก็เป็นสมาชิกคนสำคัญในเขตนี้ ไม่คิดเหรอครับว่าเขาจะมาแก้แค้น?”
“มัวแต่กลัวนั่นนี่แล้วเมื่อไหร่จะได้ลืมตาอ้าปากสักที” หม่าเหลาเอ๋อตอบ “ไม่เห็นต้องคิดอะไรมาก ถ้ามันไม่ยอมคุกเข่าก็เป่าหัวมันซะ มีปืนอยู่ในมือไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร”
…………………………………