ตอนที่ 87 มุม
บนถนน
ฉินอวี่เหลือบมองแมวเฒ่าขณะขับรถพร้อมถามอย่างเฉยเมย “เมื่อคืนนายอยู่กับหม่าเหลาเอ๋อเหรอ?”
“อืม” แมวเฒ่าตอบ
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าหม่าเหลาเอ๋อมีหน้าที่ดูแลช่องทางการค้ายาแล้วนายไม่ควรออกไปเที่ยวกับเขา หม่าเหลาเอ๋อไม่ใช่คนที่แยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัวได้…” ฉินอวี่ตำหนิด้วยความโมโห “แล้วมันก็เกิดปัญหาขึ้นจริงๆ”
“แต่ฉันไม่ได้บังคับให้เขาออกมา วันนั้นเฒ่าลู่จากหน่วยความมั่นคงอยู่ใกล้ๆ ฉันเลยอยากแนะนำให้พวกเขารู้จักกัน” แมวเฒ่าตอบตามจริง “ฉันถามแล้วว่ามีธุระอย่างอื่นหรือเปล่า เขาตอบว่า…เบื่อจะตายอยู่แล้ว…”
ฉินอวี่ถอนหายใจก่อนพูดว่า “หม่าเหลาเอ๋อไม่ใช่คนเลว แต่เขาปล่อยให้เรื่องเล่นเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ไอ้เวรนั่นสามารถทำทุกอย่างเพื่อไปเที่ยวเล่น ฉันไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”
…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ทันทีที่ฉินอวี่และแมวเฒ่าเดินเข้าไปในบ้านของเฒ่ามา พวกเขาเห็นหม่าเหลาเอ๋อนั่งก้มหน้าเงียบอยู่บนโซฟา
“ตอบสิ! หุบปากทำไม?” เฒ่าหม่ายืนเท้าเอวพร้อมตะโกนใส่หม่าเหลาเอ๋อด้วยใบหน้าแดงก่ำ “แกรู้ว่าวันนั้นเราจะปล่อยสินค้า ส่วนจื้อชูมีธุระแล้วทำไมแกไม่ไปเฝ้าโกดัง?!”
หม่าเหลาเอ๋อเกาศีรษะด้วยความหงุดหงิดก่อนเงยหน้าขึ้นตอบ “แมวเฒ่าบอกว่าจะแนะนำคนให้รู้จัก ผมเลยคิดว่า…”
“เพียะ!”
เฒ่าหม่าตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ เขาตบหน้าหม่าเหลาเอ๋ออย่างรุนแรงจนอีกฝ่ายตกโซฟา
“แกมีข้ออ้างเสมอ” เฒ่าหม่าจ้องหม่าเหลาเอ๋อ “ฉันทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นตอนที่แกทำตัวโง่เง่าได้ แต่แกช่วยทำตัวดีๆ เมื่อถึงเวลาที่ต้องจริงจังได้ไหม? ไม่ช้าก็เร็วแกจะฆ่าพี่น้องทุกคนด้วยสมองกลวงๆ ของแก!”
หม่าเหลาเอ๋อถ่มเลือดออกมาก่อนก้มหน้าเงียบ
“ตอนที่ไอ้เฒ่าสามโทรมา ฉันเตือนแกแล้วว่าให้ระวังตัวเอาไว้ เพราะฉันรู้ดีว่าไอ้หยวนหัวไม่ใช่คนที่ยอมถอยหลังและแบ่งผลประโยชน์ให้เรา” เฒ่าหม่ายกนิ้วสั่นระริกขึ้นชี้หม่าเหลาเอ๋อพร้อมตะโกน
“แต่แกทำอะไรบ้าง? ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่มีคนหลอกใช้ แกก็จะไปที่นั่นทันที แกอายุยี่สิบแล้วแต่ในสมองมีแค่เรื่องเหล้ากับกะหรี่…ถ้าวันหนึ่งฉันตายไป แกจะมีสิทธิ์อะไรมารับช่วงต่อ? ทำยังไงให้คนเชื่อใจ? ไม่ต้องพูดถึงหยวนหัวหรอก แกเทียบมันไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้ว!”
หม่าเหลาเอ๋อเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรี แม้อยู่ในสถานะที่โต้แย้งไม่ได้ แต่เขาโมโหที่โดนดุด่าแบบนี้จึงกำหมัดพร้อมตะโกนว่า “อย่าให้ผมเจอไอ้เหี้ยนั่นนะ พ่อจะบดกระดูกให้เป็นผงเลย”
“นายเห็นไหม?” คำพูดเหล่านั้นทำให้เฒ่าหม่าโมโหมากกว่าเดิม เขาชี้ไปที่หลานชายพร้อมกันไปพูดกับหลิวจื้อชูด้วยท่าทีไม่เชื่อ “ไอ้โง่นี่ยังไม่รู้ตัวว่าผิดเลย! แกเมาหรือว่าในหัวมีแต่กะหรี่…”
หม่าเหลาเอ๋อก้มหน้าอีกครั้ง
“ถ้าวันนี้ไม่ฟาดแก ฉันคงจะเสียใจกับพี่น้องทุกคนที่ต้องเจอเหตุการณ์วันนี้!” เฒ่าหม่าถอดเข็มขัดพลางชี้ไปที่พื้น “คุกเข่าเดี๋ยวนี้!”
“ละ…ลุง…ค่อยคุยกันทีหลังได้ไหม? เรามาแก้ปัญหากันก่อน…” หม่าเหลาเอ๋อตอบขณะเหลือบไปเห็นฉินอวี่และแมวเฒ่าด้วยใบหน้าแดงก่ำ เขาดูอึดอัดอย่างไม่น่าเชื่อ
“ฉันบอกให้คุกเข่าเดี๋ยวนี้!” เฒ่าหม่าตะโกน เขาโมโหเกินกว่าจะสนใจว่ามีใครอยู่รอบๆ อีกต่อไป
เมื่อเห็นว่าเฒ่าหม่าใกล้เป็นลมเพราะความโมโห หม่าเหลาเอ๋อจึงคุกเข่าลงบนพื้นอย่างว่าง่ายทันที
“เพียะ เพียะ เพียะ”
เฒ่าหม่าฟาดหลานชายด้วยเข็มขัดอย่างไร้ความปรานี ส่วนอีกฝ่ายคุกเข่าอยู่กับที่โดยไม่หลบหรือบ่นออกมา
ฉินอวี่ลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดพวกเขา “ลุงหม่า อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ฟาดเขาไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น…”
“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่านายคิดอะไรอยู่ นายรู้ดีว่ากุญแจโกดังสำคัญแค่ไหนแต่ก็ยังส่งมันให้คนนอก ฉันขอเปิดหัวแกดูหน่อยเถอะว่ามีอะไรอยู่ในนั้น!” เฒ่าหม่าบ่นขณะฟาดเข็มขัดอย่างรุนแรง
หม่าเหลาเอ๋อถูกฟาดจนมีบาดแผลทั่วร่างกาย แต่เมื่อได้ยินเฒ่าหม่าพูดขึ้น เขาตอบทันทีว่า “คนร้ายคือเสี่ยวฉู่เหรอ? ไอ้เด็กเปรต!”
“ลุงหม่า ถ้าลุงยังทำแบบนี้ฉันจะกลับ” ฉินอวี่ตะโกนใส่เฒ่าหม่า “ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว เราควรคิดแก้ไขปัญหาสิทำแบบนี้ต่อไปมันจะมีประโยชน์อะไร?”
เฒ่าหม่าหอบหายใจพลางโยนเข็มขัดไปด้านข้างก่อนชี้หม่าเหลาเอ๋อและตะโกนว่า “แกนี่มันไร้ประโยชน์จริงๆ ฉัน…เฒ่าหม่าไม่กลัวไอ้หยวนหัว แต่กลัวว่าจะไม่มีใครในตระกูลรับช่วงต่อธุรกิจ!”
เส้นเลือดที่คอของหม่าเหลาเอ๋อปูดขึ้นเมื่อได้ยิน แต่เขากลับเลือกที่จะก้มหน้าเงียบต่อไป
“ไปคุยกันในห้องนั้น” ฉินอวี่มองแมวเฒ่าก่อนพยุงเฒ่าหม่าเข้าไปในห้อง
ขณะเดียวกัน ภายในห้องนั่งเล่น
“มา ยืนขึ้น” หลิวจื้อชูพูดขณะพยุงหม่าเหลาเอ๋อให้ลุกยืนขึ้น
หม่าเหลาเอ๋อหันไปถามหลี่จื้อชูด้วยดวงตาแดงก่ำว่า “คนร้ายคือเสี่ยวฉู่ใช่ไหม?”
หลิวจื้อชูถอนหายใจก่อนตอบ “จะเป็นใครได้อีกในเมื่อเขาเป็นคนเก็บกุญแจ? แล้วเมื่อเช้าเราติดต่อเขาไม่ได้เลย”
หม่าเหลาเอ๋อพูดด้วยสีหน้าโหดร้าย “ผมเป็นคนผูกก็ต้องเป็นคนแก้ ถ้าหาตัวคนร้ายไม่ได้ ผมจะคุกเข่าที่ถนนเถ้าธุลีเพื่อขมาผู้ตาย ผมจะไม่ขัดขืนเลยถ้าชาวบ้านอยากจะรุมฆ่า”
หลังจากพูดจบ หม่าเหลาเอ๋อเดินออกจากบ้านทันที
“กลับมา!” หลิวจื้อชูตะโกนขณะไล่ตามหม่าเหลาเอ๋อ
“ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก ผมจะไปตามหาเสี่ยวฉู่!” หม่าเหลาเอ๋อตะโกน
…
ภายในห้อง
เนื่องจากเฒ่าหม่าอาละวาดก่อนหน้านี้ เขาจึงเริ่มไออย่างรุนแรงทันทีที่นั่งลง ฉินอวี่เห็นดังนั้นจึงหยิบแก้วน้ำมาวางไว้บนโต๊ะ “จิบน้ำก่อน ในเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โกรธไปก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ”
“ไอ้เด็กไร้ประโยชน์! ไม่ว่าฉันจะสอนอะไรไป มันก็ไม่โตขึ้นเลย!” เฒ่าหม่าถ่มน้ำลายก่อนส่ายศีรษะด้วยความขุ่นเคือง “เขายอมให้ศัตรูเข้าไปยุ่งกับสินค้าที่อยู่ในอาณาเขตของเรา ฉันไม่รู้จะพูดยังไงกับมันดี”
“ฉันผิดเอง เมื่อคืนฉันเป็นคนโทรหาเขา” แมวเฒ่ารับผิด “เขาคิดว่าการทำความรู้จักกับผู้บัญชาการของหน่วยความมั่นคงจะเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจของลุง”
“ไร้สาระ!” เฒ่าหม่าโวยวายทันที “ไอ้เด็กนั่นจะไม่รู้เหรอว่าอะไรสำคัญกว่าที่นี่? ไอ้เหลาเอ๋อเป็นแค่คนโง่ที่ทำพลาดกี่ครั้ง มันก็ไม่จำเลยสักครั้ง มันทิ้งความรับผิดชอบทั้งหมดเพื่อทำตัวไร้สาระ…”
แมวเฒ่าเงียบ
ฉินอวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนเปลี่ยนหัวข้อ “เฒ่าหม่า ลองคิดดูสิว่าเราจะทำยังให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด?”
เฒ่าหม่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนถอนหายใจและพูดว่า “ผู้ซื้อมันเป็นคนจำสินค้าที่ซื้อได้ สาเหตุที่พวกเขาเคยสนับสนุนฉันเพราะคิดว่ายาของเรามีคุณภาพ อีกทั้งยังมีราคาที่ยุติธรรม ดังนั้นพวกเขาจึงถือว่าฉันเป็นผู้มีพระคุณ”
“ตอนนี้ยาของเรากลับฆ่าคน แล้วฉันจะมีหน้าไปเจอลูกค้าได้ยังไง? แม้จะอธิบายจนปากเปื่อย แต่ใครจะเชื่อล่ะ? และมากไปกว่านั้นยาปลอมไม่ได้มีแค่กล่องที่เราขายไป มันต้องทำให้แน่ใจว่าจะทำทุกอย่างเพื่อทำลายพวกเราให้สิ้นซากในครั้งเดียว…ฉันคิดไว้แล้วว่ายาส่วนใหญ่ที่ถูกกองบัญชาการยึดขณะรื้อค้นถูกสับเปลี่ยนไปแล้ว”
“เราเอาเงินไปซื้อเด็กส่งยามารับผิดแทนได้ไหม?” แมวเฒ่าถาม “อ้างว่าพวกเขาแอบผลิตยาเองเพื่อจะได้เงินเพิ่ม ตราบใดที่เขารับผิด เราสามารถใช้เส้นสายในสำนักงานเพื่อปกป้องเขา…มันน่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้นะ”
“ถ้านายเป็นลูกค้าจะเชื่อไหมล่ะ?” เฒ่าหม่าถาม “อีกอย่างที่กองบัญชาการตำรวจยังมีของปลอมอยู่ เราจะอธิบายเรื่องนี้ยังไงดี?”
แมวเฒ่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนส่ายศีรษะ “อืม แผนนี้ใช้ไม่ได้ ถ้าเราทำแบบนั้นอาจทำให้สถานการณ์แย่ลง”
…
ในตรอกข้างคฤหาสน์เริงรมย์บนถนนเถ้าธุลี เฒ่าสามยืนสูบบุหรี่พร้อมพูดว่า “หาไอ้เด็กนั่นให้เจอแล้วฆ่ามันซะ”
“หนึ่งพัน” ชายหน้าแดงที่อยู่ตรงหน้าเฒ่าสามตอบ
“ฉันให้หนึ่งพันห้า ทำงานให้ดีล่ะ” เฒ่าสามกล่าวพลางมองไปรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ก่อนพูดต่อ “ฉันจะจ่ายตอนที่แกเอาศพมันกลับมา”
“โอเค” ชายหน้าแดงตอบก่อนเดินออกจากซอย
………………………………….