ตอนที่ 110 แมวเฒ่าผู้อบอุ่นท่ามกลางทุ่งหิมะอันเหน็บหนาว
ด้านข้างรถ
เฒ่าหม่าเอาหิมะก้อนหนึ่งมาถูกับฝ่ามือขณะพูด “ฝากไปบอกผู้กำกับหลี่ด้วยว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ฉันจะรับผิดชอบทั้งหมดเอง และบอกให้เขาช่วยเด็กสองคนนี้ด้วย ตระกูลเราพร้อมรับสิ่งที่จะตามมาทั้งหมด”
ฉินอวี่รู้ดีว่าคนหยิ่งยโสอย่างเฒ่าหม่ายากที่จะยอมลดศักดิ์ศรีของเขามาพูดขอร้องแบบนี้
“คนแก่อย่างฉันจะอายุสั้นลงอีกสักวันสองวันคงไม่เป็นไร” เฒ่าหม่าพูดพลางก้มหน้าลง “แต่ฉันจะยอมให้เชื้อสายตระกูลหม่าจบลงที่ฉันไม่ได้ ช่วยพูดกับเขาให้หน่อยฉินอวี่”
ฉินอวี่ส่ายหัวด้วยท่าทางลำบากใจ “คำพูดของผมตอนนี้คงยังไม่มีน้ำหนักอะไรมากหรอก ถึงผู้กำกับหลี่จะเดิมพันและสนับสนุนผมมาตลอด แต่คนที่หนุนหลังเขาคงไม่ยอมทำเรื่องแบบนี้ง่ายๆ คุณให้ค่าผมมากไปแล้วครับ”
ผู้เฒ่าหม่าเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมาในที่สุด “งั้นก็ลืมมันไปเถอะ คงเป็นชะตากรรมที่เด็กสองคนนั้นต้องเผชิญ ฉันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว”
…
ภายในกระท่อมน้ำแข็ง
แมวเฒ่าตัวสั่นจากความเย็น ขณะโทรไปหาเฒ่าหลีด้วยตาที่เฉียบคม “เฒ่าหลี่ ผมขออะไรลุงหน่อยได้รึเปล่า หม่าเหลาเอ๋อใกล้จะตายแล้ว พอจะช่วยเขาได้ไหม?”
“นี่แกรู้รึเปล่าว่ากรรมการสองในห้าคนของบริษัทหลงสิงมีสิทธิ์ออกเสียงในสภานิติบัญญัติของเขตพิเศษด้วย? แล้วแกรู้รึเปล่าว่าผลของการลักพาตัวสิงจื่อห่าวมีผลยังไง?” ผู้กำกับหลี่แทบจะตะโกนผ่านโทรศัพท์ “แกอยากให้ฉันช่วยหม่าเหลาเอ๋ออีกเหรอ ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ? คิดว่าเขาออกมาเป็นอิสระจากเฟิงเป่ยเพียงแค่ฉันส่งเรื่องไปอย่างนั้นเหรอ?”
“ขอเพื่อนของลุงดูสิ ลุงมีเครือข่ายที่เฟิงเป่ยตั้งเยอะแยะไม่ใช่เหรอ?”
“แกยังพูดเลยนิว่าเครื่อข่ายพวกนั้นเป็นเพื่อนฉัน ไม่ใช่คนรับใช้!” ผู้กำกับหลี่ตะโกนผ่านโทรศัพท์อีกครั้ง “รู้ไหมจะเกิดอะไรขึ้นกับหน่วยพวกนายถ้าพวกหม่าเหลาเอ๋อออกไปได้?”
แมวเฒ่าเงียบไป
“ฉันก็มีอำนาจอยู่เท่านี้ แต่พวกแกสร้างปัญหามาให้กับฉันตลอด แกจะให้ฉันทำไงเอามีดมาจี้คอฉันเลยมั้ย?” ผู้กำกับหลี่พูดเสียงดัง “ฉันจะไม่ไปยุ่งกับเรื่องนี้และไม่ต้องหวังว่าใครจะช่วยได้ ตอนนี้แค่ทำตามฉันบอก แล้วรีบกลับมาที่นี่กับฉินอวี่”
คือผมมีอะไรจะบอกลุง “อันที่จริงผมเป็นคนยิงสิงจื่อห่าวตาย” แมวเฒ่ากล่าว “มันคือความจริงและผมยิงพลาดเอง”
ผู้กำกับหลี่ตกใจมากกับการบอกความจริงอย่างกะทันหันของแมวเฒ่า ทำให้เขาอึ้งไปนานก่อนจะระเบิดความโกรธออกมา “เจ้าโง่ แกมันไอ้ตัวซวยจริงๆ มีความสุขนักใช่ไหมที่ชอบมาล้อเล่นกับความเป็นความตายของฉัน?! นี่มันเรื่องใหญ่! อย่ามาพูดไร้สาระนะไอ้…”
“ถ้าไม่เชื่อผม ผมจะส่งรูปไปให้ดูก็ได้”
“เออ ฉันจะเอารูปของแก!” ผู้กำกับหลี่กระวนกระวายและโมโหมากจนดวงตาของเขาแดงก่ำไปหมดแล้ว เขาเดินไปรอบห้องพร้อมสบถด่าด้วยความโกรธ “เจ้าโง่เอ้ย ไอ้เด็กเวร! แกไม่ควรโกหกเรื่องสำคัญแบบนี้กับฉัน! รู้ไหม…”
“ไม่ได้โกหก มันตายไปแล้วจริงๆ ศพมันแข็งแล้วเนี่ย” แมวเฒ่าตะโกนตอบ
ผู้กำกับทรุดตัวลงบนเก้าอี้ทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของแมวเฒ่า เขาทั้งสับสนและงุนงงอยู่พักใหญ่
“ลุงหลี่ ผมหนีไปไหนไม่ได้แล้ว” แมวเฒ่าพูดเสียวเบา “แต่ตกลงกันแล้วเรื่องนี้เรายังคงมีทางออกอยู่”
“ทางออกไปนรกหน่ะสิ งานนี้ฉันได้ตกนรกแน่!” เฒ่าหลี่ตะโกนก่อนเงียบไปครู่หนึ่งและพูดอีกครั้ง “เดี๋ยวฉันจะคุยกับฉินอวี่หน่อย”
…
สองนาทีต่อมา ฉินอวี่รับโทรศัพท์ของผู้กำกับหลี่ในกระท่อมน้ำแข็ง “ครับผู้กำกับหลี่”
“คือ…เขาตายไปแล้วจริงเหรอ?” ผู้กำกับหลี่ถามอย่างวิตก
ฉินอวี่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับคำถามและเหลือบไปที่แมวเฒ่าด้านข้าง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบไปด้วยเสียงเคร่งขรึม “ใช่ครับ เขาตายแล้ว”
ผู้กำกับหลี่ถึงกับกุมขมับและหลับตาพร้อมพูดออกมาอย่างหมดหนทาง “ทำไมต้องฆ่าด้วย? อะดรีนาลีนมันพลุ่งพล่านรึไง? ฉันไม่เข้าใจความคิดพวกนายตอนนี้เลย”
“เราก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนี้แต่ต้น” ฉินอวี่ตอบ
ผู้กำกับหลี่ถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะถาม “แมวเฒ่าไม่ได้เป็นคนฆ่าเขาใช่ไหม?”
“ใช่ครับ”
“แล้วมันอยู่ในเหตุการณ์รึเปล่า?” ดูเหมือนเฒ่าหลี่จะไม่แปลกใจกับคำตอบของฉินอวี่เท่าไหร่
“เขาอยู่ด้วยครับ”
“แล้วนายมีแผนที่จะจัดการกับเรื่องนี้ไหม?” ผู้กำกับหลี่ถามอย่างไม่สบายใจ
ฉินอวี่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “มีใครบางคนจะมารับโทษแทนเรา”
เฒ่าหลี่ครุ่นคิดพักหนึ่งก่อนถามต่อ “แน่ใจนะว่าเขาจะยอมรับความผิดทุกอย่าง? ถ้ามันล้มเหลวพวกเราต้องลงเหวกันหมดแน่”
“ครับผมมั่นใจ” ฉินอวี่ลังเลครู่หนึ่งก่อนตอบ “ถ้าไม่มีใครทำผมจะทำเอง”
ผู้กำกับหลี่สูดควันบุหรี่ก่อนจะพูด “งั้นก็บอกแผนของนายมา”
ฉินอวี่เรียบเรียงคำพูดตัวเองขณะเดินรอบกระท่อมน้ำแข็งและเริ่มอธิบายแผน “เมื่อสามชั่วโมงที่แล้วผมได้คุยกับหยวนหัวและบอกเขาว่าจะแลกหยงตงกับสิงจื่อห่าว ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าสิงจื่อห่าวตาย ผมคิดว่าทางหยวนหัวก็ยังเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะบริษัทหลงสิงเพิ่งสูญเสียนายน้อยไป ดังนั้นเขาต้องเจอความกดดันที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน ส่วนการติดตามผลผมคิดว่า…”
ผู้กำกับหลี่เข้าใจสิ่งที่ฉินอวี่พูดทุกอย่างก่อนจะขมวดคิ้วถาม “นายต้องรอบคอบนะ ถ้าพวกนั้นรู้ว่าสิงจื่อห่าวตายแล้ว คงไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่ายๆ แน่ แล้วการที่จะลุยงานนี้คนเดียว มันจะไม่…”
“ลุงหลี่” ฉินอวี่พูดแทรก “วันที่คุณไปตกลงร่วมกับพวกเขาคุณก็น่าจะรู้แล้วว่าคนที่อยู่เบื่องหลังหยวนหัวก็คือพวกบริษัทหลงสิง”
ผู้กำกับหลี่แปลกใจกับคำพูดเหล่านั้น
“เพราะที่คุณตัดสินใจจะต่อต้านหยวนหัวก็แปลว่าคุณรู้เบื้องลึกเบื้องหลังในระดับหนึ่งแล้วใช่รึเปล่าครับ?” ฉินอวี่พูดต่อ “เราจะมัวลังเลไม่ได้เพราะตอนนี้ก็น่าจะชัดเจนมากพอ ลุงหลี่ได้เวลาเปิดไพ่ทั้งหมดที่อยู่ในมือคุณแล้ว”
ผู้กำกับหลี่ถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะตอบ “บ้าเอ้ย! ก็จริงที่ฉันรู้ว่าหยวนหัวมีพวกบริษัทหลงสิงหนุนหลัง แต่ก็คาดไม่ถึงว่าพวกแกจะฆ่าสิงจื่อห่าว ฉันสาบานกับพระเจ้าเลยหากรู้ว่าพวกแกประมาทฉันจะไม่กระโดดเข้าไปยุ่งเลย”
“ลุงหลี่งานนี้ผมจะไม่ทำอะไรให้คุณต้องอยู่ในจุดที่เดือดร้อนหรอก” ฉินอวี่กล่าว “ผมจะทำให้ดีที่สุด คุณแค่จัดการเรื่องที่ทางให้เรา ถ้าพลาดขึ้นมาผมจะยอมรับเองว่าเป็นตำรวจทุจริต เป็นคนฆ่าสิงจื่อห่าวและคือผู้ที่จัดการทุกอย่างเอง คุณและหลี่ฟู่กุยจะยังคงเป็นวีรบุรุษของเขตพิเศษที่เก้า”
ผู้กำกับหลี่เงียบไปและถอนหายใจเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วนแล้วตั้งแต่ที่โทรคุยกัน “งั้นแค่นี้นะ”
ไม่กี่นาทีต่อมา
ผู้เฒ่าหม่าเรียกทั้งคู่ไปข้างเขาก่อนกล่าวว่า “เฮ้อ…นี่ไม่ใช่นิสัยฉันเลย ที่ต้องเป็นหนี้ใคร เอาล่ะพวกนายพักผ่อนเถอะ”
แมวเฒ่าสูดลมหายใจก่อนพูด “เมื่ออากาศหนาวเราก็ควรจะแบ่งปันผ้าห่มให้กันมีอะไรพอช่วยได้ก็ช่วย นี่ก็คงเป็นทั้งหมดที่ผมสามารถทำได้เพื่อลุงแล้วล่ะ ผมก็ไม่สนหรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเองถ้ามันผิดพลาดขึ้นมา แต่ลุงหลี่ต้องไม่เป็นอะไร”
ผู้เฒ่าหม่าเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เขาเอามือไปลูบหัวแมวเฒ่าพร้อมพูดว่า “นายยอดเยี่ยมกว่าเหลาเอ๋อของเรามาก”
…
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่หยวนหัวกลับมาที่พักของบริษัทหลงสิง เขาหันไปสั่งกับหยวนเค่อ “ไปเรียกหยงตงมา”
……….……….……….……….