Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 111

ตอนที่ 111

ตอนที่ 111 ผมขอถามคุณแค่คำถามเดียว

หยวนเค่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แทนที่จะออกไปทันทีเขากลับนั่งบนโซฟาแล้วพูดว่า “นี่ขนาดเราอยู่กันที่บริษัทหลงสิงก็ยังมีคนซุบซิบไปทั่ว”

“ซุบซิบเรื่องอะไรล่ะ?” หยวนหัวถามด้วยความสงสัย

“คนของเราและพวกบริษัทหลงสิง เล่ากันว่าเงื่อนไขที่อีกฝ่ายเสนอให้แลกหยงตงกับสิงจื่อห่าวดูเหมือนว่าประธานสิงจะอนุมัติทันทีเลยนะ” หยวนเค่อกล่าว

พอได้ยินหยวนหัวก็สาปแช่งทันที “บัดซบเอ๊ย มิน่าล่ะ! ไม่มีทางที่ไอ้หมูตอนนั้นจะรู้เรื่องนี้ได้ มันถึงได้พยายามชวนคุยเรื่องนี้กับฉัน”

“อาจไม่ใช่เสมอไป” หยวนเค่อส่ายหัวพร้อมตอบ “ข่าวอาจจะมาจากคนของเราแทนก็เป็นได้”

หยวนหัวตกตะลึงเมื่อได้ยิน

“ทั้งสองบริษัทก็ทำงานร่วมกันมาระยะหนึ่งแล้ว ไม่น่าแปลกถ้าผู้บริหารของเราบางคนจะไปสนิทสนมกับคนของบริษัทหลงสิง” หยวนเค่ออธิบาย

หยวนหัวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “มีคนไม่มากที่รู้เรื่องนี้ มีแค่เจ้าหัวโล้นและคนอื่นสองสามคน”

“อาจเป็นพวกเขาแล้วล่ะพี่ ไม่มีทางที่คนจากบริษัทหลงสิงจะมาผูกมิตรกับพนักงานทำความสะอาดของบริษัทของเราได้” หยวนเค่อตอบก่อนจะมองไปที่พี่ของเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมอยากรู้ว่าตอนนี้พี่จะเอายังไงต่อ”

“ท่าทีพวกเฒ่าหม่าตอนนี้ชั่วร้ายไม่น่าไว้ใจ” หยวนหัวบ่นอย่างหงุดหงิด “ไม่มีทางที่บริษัทหลงสิงจะปล่อยให้เรื่องนี้จบลงอย่างง่ายแน่ ถ้าฉันไม่ยอมตกลงเงื่อนไขงี่เง่านี่ ตอนนี้ก็ต่อรองไม่ได้เพราะยังต้องเพิ่งหุ้นส่วนทางธุรกิจกับทางนั้น แต่ถ้าฉันยอมตกลงแลกตัวก็เหมือนเอาหยงตงโยนไปในนรกดีๆ นี่เอง”

“อืม หยงตงคงไม่รอดถ้าเป็นอย่างนี้ ในการแลกตัวพวกมันไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่นอน” หยวนเค่อกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

จากนั้นเขาก็เริ่มวิเคราะห์สถานการณ์ก่อนพูดออกไป “ตอนนี้เราเสียเปรียบมากเพราะสิงจื่อห่าวอยู่ในมือพวกมันคงต้องยอมตามน้ำไปก่อน ถ้าทำแบบนี้ถึงเราจะช่วยสิงจื่อห่าวได้ แต่ก็ต้องแลกกับการสูญเสียสมาชิกฝีมือดีของเราไปแน่นอน”

“ในอนาคตเราจะต้องอ่อนแอลงไปอีก เมื่อเป็นงั้นหนึ่งเราก็จะหมดความเชื่อถือ บริษัทหลงสิงต้องไม่พอใจแน่ และสองพวกผู้บริหารคนอื่น ในบริษัทคงจะรู้สึกไม่สบายใจกับการเคลื่อนไหวนี้อย่างแน่นอน เพราะคุณเลือกผลประโยชน์มากกว่าเลือกชีวิตพนักงานของตัวเอง”

หยวนหัวถามด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองพร้อมดวงตาสีแดงเรื่อ ขณะมองน้องชายของตน “แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ?”

“ถ้าหยงตงถูกฆ่าตายระหว่างการเปลี่ยนตัว พี่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทียังไง? แล้วจะมีเกิดอะไรต่อกับสิงจื่อห่าว?” หยวนเค่อถามขึ้นมาทันที

หยวนหัวตะลึงกับคำถาม

“อันที่จริงเราก็ไม่มีทางที่จะช่วยหยงตงได้” หยวนเค่อกล่าว “ถ้าเขาจะตายก็คงเป็นไปตามชะตากรรม เราคง…”

“หยุดพล่ามได้แล้ว!” หยวนหัวเข้าใจสิ่งที่น้องชายของตนจะพูด เขาตบโต๊ะพร้อมตะโกนว่า “พอ! ออกไปได้แล้ว ฉันไม่ต้องการได้ยินคำพูดของแกอีก!”

“ฉันไม่ออก!” หยวนหัวลุกขึ้นยืนและพูดต่อ “ฉันรู้ดีว่าพี่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพและความภักดี แต่ตอนนี้พี่ไม่มีสิทธิ์เลือก! พี่คือหัวหน้าบริษัทและเวลานี้พี่ต้องรู้ว่าอะไรสำคัญสิ!”

“แกมันคิดตื้น หยวนหัวคว้าเสื้อตรงหน้าอกของน้องชายพร้อมตะคอก “คิดดีๆ นะถ้ามันถูกเปิดเผยพวกเราโดนถล่มแน่! ไม่มีความลับที่ปิดบังได้ตลอดแกก็น่าจะรู้…ออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันไม่อยากคุยเรื่องไร้สาระกับแก!”

หยวนเค่อเดินออกมาพร้อมใบหน้าฟกช้ำหลังจากทั้งสองทะเลาะกันกว่าสิบนาที เขาเตะลิฟต์ด้วยความโกรธ

ชายหัวโล้นพร้อมพรรคพวกอีกสองคนเดินชนหยวนเค่อจึงเอ่ยปากถาม “คุณจะไปไหน?”

“ฉันมีเรื่องด่วนที่ต้องกลับไปซ่งเจียง” หยวนเค่อทิ้งคำพูดนี้ไว้และเดินออกไปโดยไม่สนใจอะไร

ชายหัวโล้นงุนงงกับเหตุการณ์นี้ เขาหันไปถามชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างเขาว่า “เกิดเรื่องขนาดนี้แล้วยังทำตามใจชอบอีกเหรอเนีี่ย?”

“ยังไม่ชินอีกรึไง?” ชายวัยกลางคนตอบกลับ “เวลาเกิดเรื่องสองคนนั้นก็จะชอบทะเลาะกันตลอดไม่ใช่เหรอ?”

“นั่นสินะ” ชายหัวโล้นถอนหายใจยาวก่อนจะเดินต่อ

หยวนหัวนั่งสงบสติอารมณ์อยู่บนโซฟาอยู่พักใหญ่ก่อนจะโทรหาหยงตงเป็นการส่วนตัว

สักครู่ใหญ่หยงตงเข้ามาในห้องของหยวนหัวและนั่งลงฝั่งตรงข้าม

เขามองหยวนหัวก่อนที่จะถามทันทีว่า “ข่าวลือที่ว่านั่นจริงเหรอครับ?”

หยวนหัวเงยหน้าสบตาของหยงตงในขณะที่กำหมัดแน่น ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ฮ่าๆๆ”

เสียงหัวเราะของหยงตงทำลายความเงียบก่อนจะพูดต่อ ก่อนจะพูดอะไรออกมา “สิงจื่อห่าว คนโง่ที่ไร้ความสามารถ ถ้าไม่เป็นเพราะเขาป่านนี้พวกเฒ่าหม่าและหม่าเหลาเอ๋อคงมาคุกเข่าตรงนี้แทนแล้ว แผนของผมที่เสนอไปทุกคนก็เห็นแล้วว่าได้ผลหรือไม่ แต่พอเสนอความคิดแล้วยังต้องเสนอชีวิตอีกงั้นเหรอ? ฮ่าๆๆ ผมไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว”

หยวนหัวถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “เรารู้จักกันมากี่ปีแล้ว?”

“คุณไม่ต้องพูดให้มันยืดยาวหรอกครับ ผมเข้าใจคุณดี” หยงตงพูด “ผมขอถามคุณแค่คำถามเดียว คุณจะเลือกผมหรือสิงจื่อห่าว? แต่ยังไงผมก็เคารพการตัดสินใจของคุณและยอมทำตามทุกคำสั่งหากคุณจะเลือกไอ้สิงจื่อห่าวนั่น”

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันที

หยวนหัวพ่นควันบุหรี่ออกมาก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนและมองหยงตงด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

“เฮอะ” หยงตงหัวเราะกับตัวเองในขณะที่เขาหันหน้าหนี

หยวนหัวคุกเข่าพร้อมก้มลงกับพื้นและพูดว่า “หยงตง…ถ้าสิงจื่อห่าวไม่กลับมา เหล่าพี่น้องในบริษัทนับพันของพวกเราจะตกงาน ขอร้องล่ะ ช่วยฉันได้ไหม? นั่นหมายความว่าเราจะได้ช่วยพี่น้องทั้งหมดด้วย!”

หยงตงกลืนน้ำลายขณะหยิบบุหรี่มาจุดสูบเงียบๆ

หยวนหัวมองหยงตงพร้อมกับพูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “หยงตงเราเป็นเพื่อนกันมาหลายปี นายก็น่าจะรู้นิสัยของฉันถ้าบอกว่านายไม่อยากทำ ฉันก็จะไม่ทำให้นายลำบากและออกจากเฟิงเป่ยตอนนี้เลย ฉันพร้อมยอมรับชะตากรรมเอง”

“คุณหยวน คุณรู้รึเปล่าว่าทำไมพวกเขาทุกคนถึงตั้งฉายาให้ผม?” หยงตงถามขึ้นทันที

“พวกเขาคงรู้ว่านายเป็นคนจัดการเรื่องยาปลอม” หยวนหัวตอบอย่างตรงไปตรงมา

“ใช่ พวกเขาเกลียดผมมากกว่าคุณ” เขาพูดอย่างเคร่งขรึมขณะสูบบุหรี่ “ตอนนี้พวกเขาคงไม่ได้แค่จะกู้ชื่อเสียงกลับมาเท่านั้น จากที่ผมคอยโจมตีพวกเขาตั้งแต่เหตุการณ์ยาปลอม และคนของพวกเขาก็ต้องตายไปทีละคนเพราะแผนการของผม คุณคงเดาไม่ยากใช่ไหมว่าพวกเขาจะทำอะไรเมื่อได้ตัวผมไป?”

หยวนหัวเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ทันทีที่พวกเราได้ตัวสิงจื่อห่าวมาอย่างปลอดภัยแล้ว ฉันจะช่วยนายทันที ฉันสัญญา!”

หยงตงลุกขึ้นยืนพร้อมกับฝืนยิ้มอย่างขมขื่น เขาพยักหน้าและพูดว่า “ได้ ผมจะทำมัน”

“งั้นเหรอ?”

“คุณถึงกับคุกเข่าแล้ว ผมคงไม่มีทางเลือกอื่น” หยงตงถอนหายใจยาว ขณะที่เขาหันหลังกลับและเดินออกจากห้องพลางพูด “เตรียมการได้เลย ผมจะรอฟังคำสั่งจากคุณ”

หลังสิ้นเสียง หยวนหัวก็ค่อยๆ หลับตาลงและน้ำตาไหลอาบทั้งสองแก้มของเขา

บนรถ

แมวเฒ่าหันไปหาฉินอวี่ก่อนถามด้วยความสงสัย “นายนั่งส่งข้อความถึงใครสักคนมาตั้งแต่ตะกี้แล้ว…และนายก็ใช้โทรศัพท์เครื่องใหม่ด้วย!”

ฉินอวี่หันหน้าจอโทรศัพท์ให้แมวเฒ่าดูและพูดว่า “ลุงหลี่”

……….……….……….……….

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท