ตอนที่ 109 แข่งกับเวลา
ณ คฤหาสน์เริงรมย์ในซ่งเจียง
ในห้องทำงาน หยวนหัวปลดกระดุมคอเสื้อออกขณะนั่งบนเก้าอี้และควานหาของบางอย่างในกระเป๋า
“เฒ่าหยวน เกิดอะไรขึ้นในเฟิงเป่ยกันแน่?” ชายหัวล้านเอ่ยถาม
หยวนหัวเอามือกุมหน้าพลางถูไปมาอย่างหงุดหงิดก่อนตอบเสียงแผ่ว “ฉันขอบุหรี่มวนหนึ่ง”
ชายหัวล้านไม่เข้าใจท่าทีของหยวนหัวแต่ก็ยอมหยิบบุหรี่จากกล่องส่งให้หยวนหัวโดยไม่ขัดอะไร
หยวนหัวรับบุหรี่ด้วยมือที่สั่นเครือก่อนนำมาคาบไว้ที่ปากแล้วล้วงมือควานหาของในกระเป๋าอีกครั้งและหันไปหาชายหัวล้าน “ไฟแช็ก”
ชายหัวล้านยิ่งสงสัยหนัก เมื่อทนไม่ไหวจึงถามอีกครั้งขณะยื่นไฟแช็กให้อีกฝ่าย “สรุปมันเกิดอะไรขึ้น?”
“ตุบ!”
ทันใดนั้นหยวนหัวลุกขึ้นและเอากำปั้นทุบโต๊ะ เขาคายบุหรี่ทิ้งก่อนตอบด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “ไอ้พวกตระกูลหม่า…ลักพาตัวสิงจื่อห่าวไป”
ชายหัวล้านตกตะลึงทันทีที่ได้ยิน
หยวนหัวหลับตาพยายามสูดหายใจลึกเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนออกคำสั่ง “เตรียมตั๋วรถไฟไปเฟิงเป่ย”
“เดี๋ยวจัดการให้ครับ” ชายหัวล้านเริ่มมีท่าทีกระสับกระส่ายเมื่อได้รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาหันไปตะโกนทันที “มีใครยังอยู่ข้างนอกไหม? เออ…เดวิด เข้ามาข้างในหน่อย!”
ไม่นานกลุ่มคนทั้งแปดก็ออกจากห้องไป กระทั่งเดินมาถึงล็อบบี้หยวนหัวก็หันมาสั่ง “โทรบอกหยวนเค่อให้พาคนมีฝีมือไปกับเราด้วย”
“ได้ครับ” ชายหัวล้านพยักหน้า
…
รุ่งสาง หยวนหัวกับลูกน้องอีกเจ็ดคนเดินทางมาถึงบริษัทเภสัชกรรมหลงสิง
เมื่อเข้าไปในล็อบบี้ของตึกก็บังเอิญพบกับประธานสิงเจ้าของบริษัทที่กำลังเดินมาพอดี
“ว่าไงประธานสิง!” หยวนหัวเดินเข้าหาชายร่างอ้วนพร้อมกับโค้งคำนับให้พลางยื่นมือหาเป็นการทักทาย “ไม่คิดเลยนะครับว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้”
ประธานสิงยิ้มรับพลางเอื้อมมือไปจับมือหยวนหัวด้วยท่าทีเป็นมิตร “ก็แค่พวกแก๊งนักเลงข้างถนน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
“เราจะทำทุกวิธีเพื่อช่วยลูกชายคุณให้ได้ ผมเอาหัวเป็นประกันเลยว่านายน้อยสิงจื่อห่าวต้องกลับบ้านอย่างปลอดภัย!” หยวนหัวประกาศกร้าว
“ไปคุยกันข้างบนเถอะ!” ประธานสิงหันไปหาเลขาก่อนสั่งว่า “ระหว่างนี้ดูแลลูกน้องหยวนหัวไปก่อน เดี๋ยวฉันจะบอกปีเตอร์ให้พาไปเลี้ยงข้าวเอง”
“ได้เลยค่ะท่านประธาน” เลขาตอบกลับ
ประธานสิงตบบ่าหยวนหัวก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “อย่าคิดมากหน่า นายเองก็คุมถนนในซ่งเจียงมาหลายปีไม่ใช่เหรอ…ยังต้องกลัวอะไรอีก? ปะ ขึ้นไปดื่มชากันก่อน”
หยวนหัวหันไปบอกกับลูกน้องของตนว่า “พวกนายไปกับเลขาประธานสิงก่อนแล้วกัน”
“โอเค”
“ได้ครับ”
หยวนเค่อ ชายหัวล้าน และคนอื่นๆ พยักหน้ารับ
“ทางนี้ๆ” ประธานสิงกวักมือเรียก
หยวนหัวเดินตามคำเชิญไป
ไม่นานประธานสิง หยวนหัว และรองประธานอีกสองคนก็เข้าไปในลิฟต์
ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิด หยวนหัวก็หันมาพูดกับประธานสิงด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด “ประธานสิง เรื่องนี้ผมผิด…”
“เพียะ!”
ประธานสิงตบหน้าหยวนหัวก่อนถามด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “ฉันเป็นคนช่วยให้แกมีกินมีใช้ทุกวันนี้ แต่แกกลับตอบแทนด้วยการทำให้ลูกฉันถูกลักพาตัว แบบนี้มันหมายความว่ายังไง?”
หยวนหัวถูกตบจนหน้าชา หลังตั้งสติได้เข้าจึงเงยหน้าพูด “ลูกชายท่านประธานต้องปลอดภัยครับ”
ประธานสิงถอดแว่นขอบทองออกมาเช็ดพลางก่นด่าหยวนหัว “เพราะเชื่อลมปากแกนั่นแหละ ลูกฉันถึงถูกลักพาตัวไปแบบนี้”
หยวนหัวเถียงไม่ออก
เมื่อลิฟต์เคลื่อนมาจนถึงชั้นบนสุด ประธานสิงก็เดินนำหน้าทุกคนไปยังห้องพักผ่อน
…
ภายในห้อง ชายสี่คนนั่งลงบนโซฟา ประธานสิงหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบก่อนถาม “นายจะรับรองความปลอดภัยของลูกฉันได้ยังไง?”
หยวนหัวถูฝ่ามือกับขากางเกงเพื่อเช็ดเหงื่อและตั้งสติเรียบเรียงคำพูดก่อนตอบกลับ “พวกมันไม่มีเส้นสายในเฟิงเป่ย เพราะงั้นคงซ่อนตัวได้ไม่นานหรอกครับ ระหว่างทางมาที่นี่ผมได้ติดต่อกับบริษัทโทรคมนาคมหลายที่ไว้แล้ว เราสามารถใช้…”
“ฉันไม่ได้ถามเรื่องนั้น” ประธานสิงพูดขัดทันที
หยวนหัวเงียบปากลง
“เลิกพูดอ้อมไปอ้อมมาสักที หลังจับตัวสิงจื่อห่าวไป พวกมันต้องติดต่อแกมาแล้วแน่ๆ” ประธานสิงขมวดคิ้ว “บอกมาว่าเงื่อนไขคืออะไร”
อันที่จริงหยวนหัวอยากจะโกหก แต่ด้วยไม่รู้ว่าตระกูลหม่าติดต่อหาประธานสิงหรือยัง เพราะหากประธานสิงรู้เรื่องแล้วแกล้งถาม ขืนโกหกไปคงจบไม่สวยแน่
หยวนหัวลังเลครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจพูดความจริง “ครับ…พวกมันเสนอเงื่อนไขมาแล้ว”
“ก็พูดมาสิ”
หยวนหัวกัดฟันเงยหน้าสบตาประธานสิง “ในอีกสองวันข้างหน้า พวกมันให้เอาตัวหยงตงไปแลกครับ”
“ใช่คนที่นายส่งมาจัดการเสี่ยวฉู่หรือเปล่า?” ประธานสิงถาม
“ใช่ครับ”
“งั้นก็แลกไปสิ” ประธานสิงพูดขณะลากที่เขี่ยบุหรี่ “ส่งมันไปแล้วเอาลูกฉันกลับมา”
“ประธานสิง ผมว่าเราน่าจะหาทางอื่นนะครับ คิดดูสิ…ถ้าเราทำตามแผนพวกมัน ต้องใช้เวลานานกว่าสองวันซึ่งไม่รู้ว่านายน้อยจื่อห่าวจะโดนทารุณยังไงบ้าง” หยวนหัวพยายามเกลี้ยกล่อม “ผมว่าเราควรใช้เวลาสองวันนี้ตามหาพวกมัน ด้วยอิทธิพลของบริษัทหลงสิงกับการช่วยเหลือของบริษัทโทรคมนาคมต้องเปิดโปงที่อยู่ของพวกมันได้แน่ ขอเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง…ผมสัญญาว่าจะลากหัวพวกมันออกมาให้ได้”
ประธานสิงดับบุหรี่ก่อนพูดกับหยวนหัว “เลิกเพ้อเจ้อสักที นายควรจะฆ่าไอ้เสี่ยวฉู่นั่นตั้งแต่ทำยาปลอมสำเร็จ แต่กลับปล่อยให้มันหลุดมือหนีมาจนถึงเฟิงเป่ย เรื่องขี้ปะติ๋วแค่นั้นยังจัดการไม่ได้…แล้วจะให้ฉันไว้ใจกับยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ว่างั้นเหรอ? คิดว่าคนที่พวกมันจับไปคือใคร? นั่นลูกชายฉันนะโว้ย! คนที่มีค่ามากกว่าชีวิตของตระกูลหยวนทั้งโคตร! ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?!”
หยวนหัวกำหมัดแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ปกติที่สุด
“ฉันจะให้พวกเจ้าหน้าที่ช่วยจัดการ ส่วนนายก็บอกลูกน้องตัวเองด้วยว่าอย่าเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้าจนลูกฉันตกอยู่ในอันตราย” ประธานสิงออกคำสั่ง “สองวันจากนี้ต้องได้ตัวจื่อห่าวกลับมา…ได้ยินไหม? บอกไว้ก่อนเลยนะ…ถ้าไม่สำเร็จ อย่าหวังว่าพวกนายจะรอดชีวิตกลับซ่งเจียง!”
…
หลังพูดคุยกันเสร็จ
หยวนหัวเดินออกจากลิฟต์ด้วยสีหน้าไม่สู้ดี พรรคพวกที่รออยู่ตรงล็อบบี้และห้องข้างๆ เมื่อเห็นก็กรูกันเข้ามาหา “พี่ฉันมาแล้ว ไปกันเถอะ”
บนถนนที่มีหิมะหนาเตอะ หยวนหัวเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถ ทันใดนั้นหยงตงที่อยู่ตรงเบาะหลังก็พรวดพราดออกมาถามด้วยความใคร่รู้ “ประธานสิงว่าไงบ้างครับ?”
หยวนหัวมองดูหยงตงที่กำลังกระสับกระส่ายด้วยท่าทีหนักใจ
…
กลางพื้นที่รกร้าง
หม่าเหลาเอ๋อยังคงนอนโคม่าอยู่ทั้งที่เลือดหยุดไหลแล้ว พ่อค้าปืนที่เฒ่าหม่าเคยติดต่อก็ไม่รับโทรศัพท์
หากไม่มีหมอมาช่วยรักษา เกรงว่าหม่าเหลาเอ๋ออาจไม่รอดถึงเที่ยงคืนนี้
ด้วยไม่มีทางเลือก ฉินอวี่จึงโทรหาผู้กำกับการหลี่แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับเช่นกัน
“เป็นไง? ติดต่อเฒ่าหลี่ได้หรือเปล่า?” เฒ่าหม่าถามอย่างร้อนรน
ฉินอวี่ส่ายหัว “ข่าวเรื่องสิงจื่อห่าวคงไปถึงซ่งเจียงแล้ว”
เฒ่าหม่าใจตกไปถึงตาตุ่ม เขาเข้าใจในสิ่งที่ฉินอวี่ต้องการจะบอก
………………………………….