Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 118 ผ่านด่านแรกโดยไม่ทําอะไรเลย

ตอนที่ 118 ผ่านด่านแรกโดยไม่ทําอะไรเลย

ตอนที่ 118 ผ่านด่านแรกโดยไม่ทําอะไรเลย

ฉินอวี่เดินไปที่รถพร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหยวนหัว “ว่าไงลูกพี่หยวน นายกับหยงตงเล่นอะไรกันอยู่เหรอ? นี่มันเกิดอะไรขึ้น พวกนายเปิดฉากยิงโดยที่พวกเรายังไม่ปรากฏตัวเนี่ยนะ? ที่บ้านผลิตกระสุนเหรอ?”

“ไอ้เด็กเปรต อย่าให้กูจับถึงได้นะ!” หยวนหัวเผยสีหน้าอํามหิตพร้อมคํารามลั่น

“โอ้ ฉันว่าคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนายไม่มีสิทธิ์พูดคํานี้” ฉินอวี่กล่าวพลางหัวเราะ “นายควรเริ่มคิดได้แล้วว่าถ้าหยงตงหนี ใครจะเป็นเหยื่อคนต่อไป”

“ไอ้เวรเอ๊ย!” หยวนหัวสบถพร้อมวางสาย “พาคนของหลงสิงไปหยุดไอ้หยงตง! คนฝั่งไอ้เฒ่าหม่าต้องเคลื่อนไหวแล้วแน่นอน”

ภายในตรอก

ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น ชายหัวโล้นกระโดดเข้าไปในรถเพื่อหาที่กําบังก่อนตะโกน “พวกมันมีไม่มาก ยิงสกัดเอาไว้แล้วจับตาดูหยงตงด้วย!”

เมื่อได้ยินคําสั่ง ทั้งหมดจึงระดมยิงอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง

ในทุ่งหญ้าแห้งแล้ง

หยงตงออกวิ่งสุดชีวิต เขาหนีมาไกลได้หลายร้อยเมตร จนในที่สุดก็มาถึงถนนลูกรัง รถคันหนึ่งแล่นผ่านความมืดมิดเข้ามาหาเขาโดยไม่ได้เปิดไฟหน้า

“เอี๊ยด!”

รถยนต์แล่นมาหยุดด้านหน้าหยงตง กระจกฝั่งผู้โดยสารลดระดับลงก่อนที่ชายร่างกํายําจะตะโกนออกมา “ขึ้นรถ!”

หยงตงกระโดดขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังพร้อมปิดประตูก่อนตะโกน “เหยียบให้มิดเลย เร็วเข้า!”

ชายคนขับดึงคลัชต์และเหยียบคันเร่งทันที การเพิ่มความเร็วอย่างกะทันหันทําให้ทุกคนบนรถถูกกระชากติดกับเบาะ

ชายร่างกํายํานั่งอยู่บนเบาะผู้โดยสารขมวดคิ้วขณะหันมาพูดกับหยงตง “นายโชคดีที่ฉันไหวตัวทัน ไม่งั้นคงชิงตัวนายจากพวกที่อยู่ใต้ป้ายไม่ได้แน่”

“แม่งเอ๊ย!” หยงตงเดาะลิ้นพลางปลดกระดุมคอเสื้อ “ฉัน ไม่รู้ว่าไอ้เฒ่าหม่าให้ใครวางแผนแต่ไอ้นั่นมันเจ้าเล่ห์มาก ไม่งั้นเราคงปั่นหัวไอ้เฒ่าหยวนกับไอ้เฒ่าหม่าสู้กันสําเร็จ และนั่นจะทําให้เราหนีง่ายขึ้น”

“ตระกูลหม่ายังไม่ปรากฏตัวเหรอ?” ชายร่างกํายําเอ่ยถาม

“อืม” หยงตงพยักหน้าพร้อมเอ่ยตอบ “พวกมันจับตาดูฉันอยู่”

“งั้นเราคงหนียากแล้ว” ชายร่างกํายํากล่าวเสียงเครียด

หยงตงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบกลับ “ขับรถไปทางถนนสายหลัก ถ้าคนจากหลงสิงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต้องตามล่าฉันแน่ ไอ้เฒ่าหม่ายังต้องการตัวฉัน พนันเลยว่ามันไม่มีทางปล่อยให้ไอ้หยวนหัวจับตัวฉันได้”

“อืม” คนขับรถเปลี่ยนทางไปยังถนนเส้นหลักทันที

สองนาทีต่อมา หลังจากรถแล่นเข้าสู่ถนนสายหลักก็มีรถจี้คันหนึ่งปรากฏขึ้นทางด้านซ้าย

“ใคร?” ชายร่างกํายําถามพลางหยิบปืนขึ้นมา “ศัตรูเหรอ?”

“ไม่น่าใช่” หยงตงส่ายศีรษะ “ไอ้เฒ่าหม่าคงหาคนเยอะขนาดนี้ในเฟิงเป่ยไม่ได้ ต้องเป็นคนจากหลงสิงแน่ ขับชิดขวา เร็ว!”

คนขับรถหมุนพวงมาลัยไปทางขวาพร้อมเหยียบคันเร่งจนมิดทันที

ล้อรถหมุนวนอย่างพยายามเคลื่อนเข้าเลนขวาบนถนนที่ทั้งลื่นและเปียก

“ปัง!”

ทันใดนั้นเสียงปืนดังขึ้น

“ตูม!”

ล้อขวาระเบิดออกส่งผลให้รถเสียการควบคุมและลื่นไถลไป ประมาณแปดเมตรก่อนพุ่งลงในคูน้ำริมถนน

“เตรียมปืน พวกมันมาแล้ว!” ชายร่างกํายําตะโกนสั่งพร้อมยิงปืนไปทางซ้าย

กลิ่นดินปืนอบอวลทั่วรถ ลูกกระสุนเจาะทะลุกระจกและคาอยู่ที่ต้นไม้ด้านข้าง

มือขวาของเฒ่าหม่าที่ซ่อนตัวอยู่ในคูน้ำมาโดยตลอดตะโกนสั่งลูกน้องพร้อมโบกมือซ้าย “ถอย! เร็วเข้า”

หยงตงมองออกไปนอกหน้าต่างและมองเห็นเฒ่าหมาทันที เขาจึงออกคําสั่งพร้อมกําหมัดแน่น “ลงไปหยุดพวกมัน!”

ชายห้าคนกระโดดลงจากรถทันที แต่เฒ่าหม่าและลูกน้องหนีเข้าไปในความมืดจึงทําให้พวกเขาไล่ตามได้ยาก

ขณะเดียวกัน

รถยนต์จากหลงสิงหลายคันแล่นมาจอดริมถนน ชายฉกรรจ์นับยี่สิบคนกระโดดลงจากรถและเคลื่อนพลไปที่คูน้ำทันที

ชายร่างกํายําตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ก่อนตะโกนสั่ง “พวกนายยิงสกัดไว้ ส่วนหยงตงมากับฉัน!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลูกน้องของชายร่างกํายําจึงรีบเข้าไปหลบที่หลังรถและกระหน่ำยิงใส่คนของหลงสิง ทําให้พวกเขาวิ่งหนีตายกระเจิดกระเจิง

“ปัง ปัง ปัง!”

เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หยงตงผู้ซึ่งหนีตายอย่างสุดชีวิตถูกยิงเข้าที่หัวไหล่ขวาจนล้มลงบนหิมะ

ชายร่างกํายําหันกลับมองหยงตงและเข้าไปพยุงร่างของเขาให้ยืนขึ้นก่อนถอยหนีพร้อมหันไปยิงศัตรู “พวกนายพาหยงตงหนีไปก่อน ฉันจะยิงถ่วงเวลาสักพัก!”

หยงตงลุกขึ้นยืนพลางมองร่างของเพื่อนที่สละชีพเพื่อช่วยตนด้วยใบหน้าซีดเซียว เขายืนลังเลชั่วครู่ก่อนคําราม ”เวรเอ๊ย! ฉันยอมตาย…โอเคไหม?”

ชายร่างกํายําหันมองหยงตงอย่างประหลาดใจ

หยงตงตะโกนเสียงดังขณะล้วงปืนออกมา “ไล่ตามไอ้พวกที่ยิงล้อรถเรา!”

“ไม่! เราต้องรอดด้วยกันสิ!” ชายร่างกํายําตะโกน

“ฉันปล่อยให้นายตายกับฉันไม่ได้!” หยงตงร้องเสียงหลงด้วยความหงุดหงิด “ฉันยอมแพ้!”

หลังจากพูดจบ หยงตงวิ่งไปทางที่เฒ่าหม่าและลูกน้องทั้งหมดก็หลบหนีไปทันที

ในคูน้ำ ลูกน้องทั้งสองคนของชายฉกรรจ์ถูกศัตรูยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่มีใครสนใจพวกเขาที่นอนแน่นิ่งอยู่บนหิมะอย่างน่าสมเพช

ขณะถูกไล่ล่าหยงตงและคนอื่นๆ ทําได้เพียงยิงป้องกันตัว ไม่นานพวกเขาก็หมดแรงหลังจากวิ่งได้เพียงสี่ร้อยเมตรขณะที่อีกฝ่ายไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิด

“บ้าเอ๊ย ฉันวิ่งต่อไม่ไหวแล้ว!” หยงตงตะโกนพลางยืนพิงต้นไม้ “เฒ่าหม่า…ฉันไม่หนีแล้ว ถ้านายไม่ออกมาตอนนี้ ฉันจะไปกับหยวนหัว!”

ไม่มีการตอบสนองใดๆ จากอีกฝ่าย

“พวกมันตามมาทันแล้ว!” ชายร่างกํายํากล่าวพลางเหลือบมองฝูงชนด้านหลัง จากนั้นพูดเร่งพร้อมคว้าแขนของหยงตงและประคองให้ลุกขึ้น “ลุกเร็ว พวกเราต้องไปแล้ว! ครั้งนี้นายเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมด ถึงหยวนหัวจะปล่อยผ่านแต่หลงสิงไม่มีวันทําแบบนั้นแน่!”

“ฉันบอกแล้วไงว่าจะไม่หนี!” หยงตงตะโกนพร้อมขว้างปืนเข้าไปในหิมะ

“ลุกขึ้น!” ชายร่างกํายําตะโกนอย่างกระวนกระวายพร้อมดึงหยงตงให้ลุกยืนขึ้นอย่างไม่ลดละ

“หยุดดึงสักที! มีอะไรต้องเป็นห่วง?” หยงตงตะโกนตอบขณะหอบหายใจ “นายไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ฉันมีค่าแค่ไหน?”

ขณะนี้ชายฉกรรจ์สิบห้าคนจากหลงสิงอยู่ห่างจากคูน้ำไม่ถึงห้าสิบเมตร หัวหน้าของพวกเขาขบฟันพลางกล่าวเยาะเย้ย “ดูเหมือนว่าแกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วสินะถึงได้สนุกกับการเล่นเกมขนาดนี้!”

“งั้นก็เข้ามา กูอยู่ตรงนี้! แน่จริงก็ฆ่ากูให้ได้!” หยงตงตะโกนตอบด้วยความยโส

“ไอ้สวะ!” หัวหน้าก้าวไปด้านหน้าพร้อมถือปืนในมือ

หยงตงปิดตาแน่นพร้อมสูดอากาศเข้าเต็มปอด

ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายลดลงอย่างรวดเร็ว ชายฉกรรจ์ติดอาวุธจากฝั่งหลงสิงคํารามดังลั่น “ทิ้งอาวุธลง ซะ!”

ทันใดนั้นแสงสว่างจ้าสาดส่องลงบนถนน

เฒ่าหม่าพันผ้าสีขาวรอบแขนคํารามลั่นคล้ายเสียงระฆัง “หยิบปืนขึ้น! เราจะส่งเหมาจื่อกับเสี่ยวหลิวออกไปพร้อมกับพลุ”

“จับตัวไอ้ชั่วพวกนั้นมา! เราจะล้างแค้นให้พี่น้องที่ตายไป!”

“ล้างแค้น!”

“ล้างแค้น!”

เสียงตะโกนดังกึกก้องทั่วบริเวณ

แม้คนจากตระกูลหม่ามีเพียงห้าคน แต่พวกเขายังคงพุ่งไปข้างหน้าด้วยความกล้าหาญ

ขณะเดียวกัน ฉินอวี่คุยโทรศัพท์ขณะนั่งอยู่บนรถ “ความยากในแผนนี้ไม่ใช่การจับตัวหยงตง แต่เป็นการหลบหนี แล้วฉันจะติดต่อกลับ”

ฉินอวี่วางสายหลังจากคุยเรื่องแผนการ เขากระโดดลงจากรถพลางเดินไปยังคูน้ำที่หยงตงซ่อนตัวก่อนยกยิ้มขณะสบตาอีกฝ่าย “รู้แล้วใช่ไหมว่าทําไมพี่ควรหันหลังให้หยวนหัวตั้งแต่เริ่ม มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างหรือเปล่าหลังจากหนีหัวซุกหัวซุน?”

หยงตงรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเมื่อเห็นฉินอวี่ “นายคือคนที่คุยโทรศัพท์กับฉันเหรอ?!”

ฉินอวี่ตะโกนเสียงดังพร้อมพยุงหยงตงให้ลุกยืนขึ้น “ฟังให้ดีไอ้พวกหมารับใช้ของหลงสิง! ไปบอกลูกพี่พวกแกว่าถ้าวันนี้หยวนหัวทํางานไม่สําเร็จ มันจะไม่มีวันทําได้ตลอดชีวิต! ถ้าเขาอยากทําธุรกิจกับเราจริง โทรศัพท์ของฉันก็พร้อมรับสายตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท