ตอนที่ 126 ชายผู้มาจากเขตรกร้าง
เมื่อได้ยินเสี่ยวฉีสั่ง คนขับรีบสับคันโยกข้างแผงหน้าปัดรถทันที
“เคร้ง!”
กล่องเหล็กที่ติดอยู่ใต้บังโคลนปล่อยโซ่กันลื่นลงมารัดเข้ากับล้อรถ
“ใช้เกียร์ต่ำแล้วเร่งเครื่องต่อ” เสี่ยวฉีสั่ง
คนขับรถทําตามคําสั่งทันที
“เหล่าซื่อ ใครอยู่ตรงกลาง?” เสี่ยวฉีถามพลางกระชับปืนในมือ
“คนที่อยู่ตรงกลางใส่แจ็กเกตดํากับกางเกงลายตาราง!” เหล่าซื่อตอบกลับ “ไอ้หัวโล้นที่อยู่ข้างๆ น่าจะเป็นรองหัวหน้าฉันเห็นมันเป็นคนออกคําสั่ง”
บนทางลาดชัน เมื่อชายหัวโล้นเห็นรถจี๊ปกําลังไล่ตามก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายตั้งใจมาชิงตัวเฒ่าหม่าจากมุมมองของเขาตระกูลหม่าเป็นหมากสําคัญในเกมนี้และพวกฉินอวี่เป็น เพียงเบี้ยเสริมเท่านั้น
หลังรู้จุดมุ่งหมาย ทันทีที่รถจี๊ปพุ่งมาทุกคนจึงแตกขบวนกัน
ท่ามกลางความชุลมุน หยวนหัวตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “กันเฒ่าหม่าไว้ อย่าให้พวกมันได้ตัวไป!”
ชายหัวโล้นรีบดึงเฒ่าหม่าเข้ามาและเอาปืนจ่อหัวทันทีก่อนตะโกนไปทางรถจี๊ป “หยุดรถซะ ไม่งั้นฉันยิง!”
“บุกต่อไป!” เสี่ยวฉีไม่สนใจคําขู่
“บอกให้หยุด อยากให้ไอ้แก่นี่ตายรึไง!” ชายหัวโล้นตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
ด้วยแรงขับเคลื่อนอันทรงพลังของรถจี๊ปทําให้มันสามารถไต่ขึ้นทางลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โซ่กันลื่นที่ล้อบดไปตามพื้นหิมะจนเกิดประกายไฟเมื่อกระทบกับก้อนหิน
“ปัง ปัง ปัง!”
ลูกน้องของหยวนหัวกระหน่ำยิงใส่รถจี๊ปของเสี่ยวฉี แต่โชคร้ายที่มันถูกเสริมด้วยโลหะชนิดพิเศษ ทําให้กระสุนไม่สามารถเจาะทะลุทําได้เพียงทิ้งรอยไว้เท่านั้น
ไม่นานรถจี๊ปก็ฝาดงกระสุนกระทั่งตามทันพวกหยวนหัว
“ตึง ตึง!”
ชายสองคนที่อยู่ขอบขบวนนอนร้องโอดโอยหลังถูกรถจี๊ปชนกระเด็น เมื่อเห็นท่าไม่ดีคนที่เหลือจึงแตกขบวนหนีตาย
“ไปอีกสามเมตรแล้วเลี้ยวซ้าย” เสี่ยวฉีตะโกนสั่ง “เหลาซื่อคุ้มกันฉันด้วย!”
เหลาซื่อลดหน้าต่างลงก่อนยกปืนกลมาตั้งและยิงกราดโดยไม่เล็ง
เมื่อได้ยินเสียงกระหน่ำยิงของปืนกล เหล่าลูกน้องของหยวนหัวจึงพากันหนีตายอีกครั้ง
ขณะเดียวกันชายหัวโล้นพูดพึมพําด้วยความประหลาดใจ เพราะรถจี๊ปขับผ่านหน้าเขาไปโดยไม่ชะลอเลยแม้แต่น้อย “ปะ เป้าหมายไม่ใช่เฒ่าหม่าเหรอ?”
“เอี้ยด!”
พูดไม่ทันขาดคํา คนขับรถก็หักพวงมาลัยเลี้ยวซ้ายกระทั่งหน้าต่างฝั่งผู้โดยสารหันมาเผชิญหน้ากับหยวนหัว
หยวนหัวผงะถอยหลังเมื่อรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของอีกฝ่าย “พวกมันหมายหัวฉัน!”
ลูกน้องสองคนรีบถืออาวุธเข้าคุ้มกันผู้เป็นนายทันที
เสี่ยวฉีที่นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสารลดหน้าต่างลงก่อนยกปืนออกมายิง
“ปัง ปัง ปัง ปัง!”
สิ้นเสียงปืนสี่นัดลูกน้องสองคนที่บังหยวนหัวอยู่ล้มลงทันที
ชายหัวโล้นที่เพิ่งตั้งสติได้รีบยิงสวนไปที่รถจี๊ป
“ปึก!”
เฒ่าหม่าที่บาดเจ็บสาหัสกระทุ่งข้อศอกใส่ชายหัวโล้นอย่างแรงก่อนตะโกน “ยิงมัน!”
“ปัง ปัง ปัง!”
เสี่ยวฉีกระหน่ำยิงอีกสามนัดกระทั่งเห็นหยวนหัวเดินเซ เอามือกุมหน้าอกและล้มลง
“ก้มหัวลง!” เหลาซื่อกดหัวเสี่ยวฉีลงก่อนตะโกนสั่งคนขับ “ถอย!”
อีกฝ่ายเมื่อเห็นพวกเสี่ยวฉีกําลังจะล่าถอยก็ระดมยิงใส่ที่นั่งฝั่งผู้โดยสารทันที
“ปล่อยฉัน!” เสี่ยวฉีพยายามผลักเหล่าซื่อออก
เขาเปลี่ยนมาถือปืนมือซ้ายขณะดันหลังตัวเองกับเบาะรถ และใช้มืออีกข้างดึงคันโยกปรับเบาะลง
เสี่ยวฉีปรับท่าให้ขนานกับเบาะ มีเพียงส่วนหัวเท่านั้นที่โผล่พ้นขอบหน้าต่าง
กระสุนจากศัตรูเจาะทะลวงเข้าหน้าต่างจนเกิดประกายไฟทั่วทั้งรถ
เสี่ยวฉีสูดลมหายใจก่อนพุ่งตัวออกไปยิงปืนสองนัด
“ปัง ปัง!”
กระสุนสองนัดเจาะเข้าต้นขาของหยวนหัว
เสี่ยวฉีตะโกนสั่งอย่างไม่สบอารมณ์ “หยุดรถก่อน”
“หยุดก็ตายสิวะ!”
คนขับรถไม่สนใจคําสั่ง เขาหักพวงมาลัยซ้ายสุดและเหยียบคันเร่ง
รถจี๊ปหักเลี้ยวลงเชิงเขาอย่างรวดเร็ว เสี่ยวฉีกัดฟันกรอดพร้อมลุกขึ้นนั่งและตะโกนออกไป “ฟังฉันให้ดีไอ้พวกชาติหมา! ฉันคือเสี่ยวฉีจากเขตรกร้าง ถ้าพวกแกฆ่าฉินอวี่ อาทิตย์หน้าฉันจะยกพวกไปถล่มตระกูลสวะของแกรวมไปถึงไอ้อ้วนในเฟิงเป่ยนั่นให้ราบคาบ!”
เสียงประกาศกร้าวดังก้องไปทั่วเชิงเขาก่อนรถจี๊ปจะขับหนีไป
บนเชิงเขา ชายหัวโล้นโยนปืนทิ้งและวิ่งไปหาหยวนหัวอย่างรวดเร็วพร้อมตะโกน “เฒ่าหยวน!”
เลือดสดไหลทะลักออกจากอกหยวนหัว เจ้าตัวนอนนิ่งไร้เรี่ยวแรง ดวงตาทั้งสองข้างเริ่มพร่าเลือน
“แม่งเอ๊ย!” ชายหัวโล้นลุกขึ้นเตะลูกน้องที่อยู่ด้านข้างพลางตะคอก “พวกแกอยู่ใกล้เขาแท้ๆ ปล่อยให้พวกมันยิงมาได้ยังไง!”
ลูกน้องคุกเข่าลงคร่ำครวญก่อนตอบ “กะ ก็รถมันขับเร็วนี่ครับ! อีกอย่างฝีมือพวกมันไม่ธรรมดา ตอนที่พวกผมยิงเข้าไปในรถ แทนที่จะหลบ..พวกมันกลับเอนเบาะ! ผมไม่ เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน…”
“ไร้ประโยชน์” ชายหัวโล้นตะคอก
เขาเข้าไปประคองหยวนหัวพลางตะโกนลั่น “ใครก็ได้รีบโทรหาประธานสิงที! ให้กลับไปเฟิงเปยคงไม่ทันแน่ รีบพาเขาไปโรงพยาบาลทหารที่ใกล้ที่สุดเร็ว!”
เหล่าตระกูลหยวนพากันแบกคนเจ็บออกจากพื้นที่และกลับไปที่รถอย่างทุลักทุเลโดยไม่มีใครสนใจไล่ล่าฉินอวี่ เสี่ยวฉี และคนอื่นๆ อีก
ตระกูลสิ่งที่ตั้งใจมาคาดคั้นเอาที่อยู่สิงจื่อห่าวจากเฒ่าหม่าก็ถอนกําลังตามไปด้วย
….
รถคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดรับชายหัวโล้นขณะเขาโทรหาประธานสิง
“เฒ่าหยวนถูกยิง พวกผมต้องรีบไปโรงพยาบาลของกองทหารรักษาการณ์เดี๋ยวนี้!”
“เกิดบ้าอะไรขึ้น? พวกแกมีกันตั้งหลายคน ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง?!” ประธานสิ่งอุทานอย่างไม่เชื่อ
“อย่าเพิ่งถามเรื่องไร้สาระตอนนี้! ถ้าเฒ่าหยวนตาย…ผมสาบานเลยว่าคุณจะไม่มีวันได้ขายยาในซึ่งเจียงอีก!” ชายหัวโล้นกระแทกเสียงอย่างร้อนรน “รีบติดต่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเร็วเข้า!”
ประธานสิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนถาม “แล้วจื่อห่าวอยู่ไหน?”
“ผมไม่รู้ แต่เราได้ตัวเฒ่าหม่ามา” ชายหัวโล้นตอบกลับ
ประธานสิ่งใจชื้นขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น “เดี๋ยวฉันจะรีบติดต่อโรงพยาบาลให้”
ทั้งคู่วางสายหลังพูดจบ
ไม่นานประธานสิ่งก็ติดต่อกลับ “ไปโรงพยาบาลของกองทหารรักษาการณ์ในเขตพัฒนาออกจากเฟิงเปยไปไม่ไกลก็ถึง”
“ที่นั่นมันโรงพยาบาลเล็กนี่” ชายที่นั่งข้างชายหัวโล้นพูดขึ้น
“หยวนหัวต้องถึงมือหมอให้ไวที่สุด” ประธานสิ่งตอบพร้อมขมวดคิ้ว “แผลโดนยิงขนาดนั้นให้กลับเฟิงเป่ยคงไม่ทันการ”
…..
บนรถ
หยวนหัวค่อยๆ ลืมตามองชายหัวโล้นด้วยสีหน้างุนงง
“อดทนไว้ใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว” ชายหัวโล้นพยายามตั้งสติ
หยวนหัวยกแขนอันไร้เรี่ยวแรงขึ้นลูบผ้าพันแผลฉุกเฉินซึ่งเต็มไปด้วยเลือดบริเวณหน้าอกก่อนหลับตาและพูดขึ้น “ทะ โทรหาหยวนเค่อ….บอกให้หมอนั้นรีบ…”