ตอนที่ 175 เงื่อนงําของคดีฆาตกรรม
ห้าทุ่มสามสิบนาที
ในสถานีกระจายข่าวทางอินเทอร์เน็ต แผนกผู้สื่อข่าว
หลินเหนียนเล๋ยสวมสูทรัดรูปสีดําและผมถูกหวีไปทางด้านหลังอย่างเรียบร้อยทําให้ดูเป็นมืออาชีพ เธอเคาะประตูห้องทํางานของหัวหน้าแผนก
“เข้ามา” เสียงเรียกดังมาจากด้านใน
หลินเหนียนเล๋ยผลักประตูและเดินเข้าห้องไปก่อนทักทายคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าด้วยรอยยิ้ม “ผู้จัดการจ่าวเรียกฉันมามีอะไรรึเปล่าคะ?”
“เหนียนเล๋ย!” ผู้จัดการจ่าวเป็นชายวัยห้าสิบรูปร่างอวบอ้วนหน้าตามาตรฐาน โดยรวมแล้วเขาดูเป็นมิตรและเข้ากับคนง่าย “มานี่สิ นั่งก่อน”
หลินเหนียนเล๋ยนั่งลงก่อนจะถาม “ผู้จัดการจ่าว ที่เรียกมาเพราะเรื่องคอลัมน์ของฉันรึเปล่าคะ?”
“เปล่า ฉันเรียกมาเพราะมีงานใหม่ให้เธอทําต่างหาก” ผู้จัดการกล่าวต่อ “ชั่วโมงก่อน มีคดีฆาตกรรมแถวสถานีเหนือของซ่งเจียง อยากให้เธอไปตามและหารายละเอียดเบื้องหลังคดีนี้มาให้ได้มากที่สุด อย่าลืมบันทึกขั้นตอนทั้งหมดอย่างละเอียดล่ะ..ฉันคิดว่าจะแบ่งข่าวให้คนติดตามเป็นสี่ตอน”
หลินเหนียนเล่ยถามด้วยความประหลาดใจ “ผู้จัดการจ่าว ฉันจําได้ว่าที่ผ่านมาคุณห้ามไม่ให้ฉันไปยุ่งกับคดีฆาตกรรมไม่ใช่เหรอ?”
“คดีเหล่านั้นมันอันตราย และไม่มีประโยชน์หรอกถ้าให้เธอทําข่าว” ผู้จัดการตอบอย่างตรงไปตรงมา “น้าของเธอกับฉันเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาก่อน ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอฉันจะเอาหน้าที่ไหนไปบอกกับยัยนั่น”
“ผู้จัดการจ่าว ฉันว่าเราควรแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออก ไม่งั้นฉันจะโดนเพื่อนร่วมงานหมั่นไส้เอานะคะ” หลินเหนียนเล่ยกล่าวอย่างเชื่องช้า
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันเห็นความเป็นเด็กรุ่นใหม่ไฟแรงในตัวเธอแล้วล่ะ!” ผู้จัดการกล่าวด้วยรอยยิ้ม “โอเค ฉันเอางานนี้ให้เธอแล้วนะ ตั้งใจทําให้ดี!”
“เข้าใจแล้วค่ะ! ฉันจะทําให้ดีที่สุด!” หลินเหนียนเล่ยสนใจคดีดังกล่าวจึงตอบรับโดยไม่ลังเล
ผู้จัดการจิบน้ำก่อนที่จะถามเธอทันที “เหนียนเล่ย วันหยุดนี้เธอว่างรึเปล่า?”
“คะ?” หลินเหนียนเล่ยชะงัก “ใช่ วันอาทิตย์นี้ฉันว่าง…มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“ลูกชายฉันจะกลับมาช่วงวัดหยุดพอดี” ผู้จัดการจ่าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไปเจอหน่อยได้ไหม? เขาได้ยินมาว่าเธอใช้เวลาหนึ่งปีในการศึกษาเขตพี่เศษที่สาม และหมอนั้นอยากพบเธอมาก”
หลินเหนียนเล่ยเข้าใจทันทีว่ามันหมายความว่าไง เธอปัดชายผมไปด้านข้างขณะตอบ “อ๋อ…ได้ค่ะ ฉันจะไปพบเขาวันอาทิตย์นี้”
“ฮ่าฮ่า ลูกฉันก็จะมาทํางานในสถานีของเราด้วย” ผู้จัดการพูดต่อ “จะเป็นการดีที่เด็กรุ่นใหม่มีความสามารถอย่างพวกเธอจะมีปฏิสัมพันธ์ดีต่อกันไว้”
หลินเหนียนเล่ยลุกขึ้นยืนขณะตอบ “แน่นอน! งั้นฉันขอตัวไปจัดการงานก่อนนะคะ”
“อืม ไปเถอะ” ผู้จัดการจ่าวตอบพร้อมพยักหน้า
บ้านเลขที่แปดสิบแปด
ฉินอวี่เพิ่งจ่ายค่าเช่ารายเดือนเสร็จ จู้เหว่ยก็โทรมาพอดี
“ฮัลโหล?”
“มีบางอย่างเกิดขึ้นตรงสถานีเหนือ เหยียนทั้งหนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัทหวู่เหย้าและคนขับรถของเขาถูกฆ่าตายในแฟลตที่เพิ่งซื้อมาใหม่” จู้เหว่ยพูดอย่างกังวล “ ตอนนี้ผมอยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว”
ฉินอวีกระวนกระวายขณะถามกลับไป “มีคนตายอีกแล้วเหรอเนี่ย?”
“นั่นสิ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
“ไม่สมเหตุสมผลเลย ยิ่งสืบคดีนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งมั่วกันไปหมด” ฉินอวี่ส่ายหัว “ใครรับคดีนี้มาเหรอ?”
“หมวดหนึ่งครับ เหมือนจะกําลังดําเนินการกับคดีอยู่ พวกเขาเป็นคนแจ้งเรื่องนี้ให้พวกเรารู้” จู้เหว่ยตอบ
“แล้วหลิวเปาเฉินล่ะ?” ฉินอวี่ถาม
“เขาเพิ่งได้รับแจ้งเหมือนกันและกําลังมุ่งหน้ามาที่นี่”
“แล้วใครเป็นคนยืนยันว่าเป็นศพของเหยียนคัง?”
“ใครสักคนในหมวดหนึ่ง ผมก็ไม่รู้รายละเอียดเหมือนกันพอไปถึงพวกนั้นก็บอกเลยว่าเหยื่อเป็นหุ้นส่วนของบริษัทหวู่เหย้า” จู้เหว่ยกล่าวต่ออย่างรวดเร็ว “ผมว่าข้อมูลก็น่าจะไม่ผิดพลาดนะ”
ฉินอวีรีบรวบรวมข้อมูลทุกอย่างในหัวก่อนจะสั่งการอย่างเร่งรีบ “จู้เหว่ยนคนในทีมของกเราไปค้นหาเบาะแสรอบๆก่อน”
“พวกเขาทําไปแล้ว ทีมนิติเวชและคนอื่นกําลังรวบรวมหลักฐานอยู่”
“ไม่ ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น” ฉินอวี่ปฏิเสธคําพูดของจู้เหว่ยทันทีพร้อมเตือนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ลองคิดดู ที่อยู่อาศัยเหยียนคังความสําคัญยังไง?”
จู้เหว่ยเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้น
“รีบจัดการเลย ฉันจะตามไปเดี๋ยวนี้”
“ได้ครับ เข้าใจแล้ว”
“แค่นี้นะ”
หลังวางสายฉินอวี่ก็รีบออกไปอย่างรวดเร็วโดยทิ้งการเซ็นชื่อในสัญญาเช่าฉบับใหม่ไว้ก่อน
ระหว่างทาง
หลิวเปาเฉินนั่งอยู่ในรถขณะโทรคุยกับหยวนเค่อ “ใช่ ผมเพิ่งได้รับแจ้งคดีนี้และกําลังมุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุ”
“รู้สาเหตุของการฆาตกรรมแล้วหรือยัง?” หยวนเค่อถามอย่างกังวล “พวกเขาสันนิษฐานว่าเป็นอุบัติเหตุหรือเปล่า?”
“หมวดหนึ่งเป็นคนของเฒ่าหลีทั้งนั้น พวกนั้นไม่บอกรายละเอียดอะไรเลย” หลิวเปาเฉินตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ถ้าไม่ใช่เพราะคนของผมมาบอกคงไม่รู้เรื่องนี้”
“รีบไปให้เร็วที่สุดแล้วบอกฉันทันทีหลังจากรู้รายละเอียดแล้ว”
“เข้าใจแล้ว”
ทั้งสองวางสาย
ในแฟลตสองชั้น ตํารวจได้ปิดล้อมพื้นที่เพื่อกันไม่ให้ฝูงชนมารวมตัวมุงดูกัน
ด้านซ้ายมีรถมาจอดปิดทางพอดี หลินเหนียนเล่ยแต่งกายด้วยเสื้อแจ็กเกตขนนกขณะก่นด่าใส่เจ้าหน้าที่อย่างเดือดดาล “ฉันบอกไปหมดแล้วยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ฉันเป็นนักข่าวนะ! ฉันมีสิทธิ์จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทําไมไม่ให้ฉันเข้าไป?”
“เรากําลังหาเบาะแสในที่เกิดเหตุอยู่ จะให้คนอื่นเข้ามาได้ยังไง?”
“ฉันแค่มาเก็บภาพข่าวตรงทางเข้าเอง ฉันไม่รบกวนงานพวกคุณหรอก”
“ยังไงก็ไม่ได้ครับ”
“ได้…ฉันจะรอ แล้วเมื่อไหร่การรวบรวมหลักฐานจะเสร็จล่ะ?” หลินเหนียนเล่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์
“ไม่รู้ๆ รอต่อไปเถอะ!” เจ้าหน้าที่ตํารวจหมดความอดทน
ตอนนั้นก็มีรถตํารวจมาจอดที่เกิดเหตุพอดี ฉินอวี่พร้อมกับติงกั๋วเซิน ฟู่เสี่ยวห่าวและคนอื่นอีกสองสามคนเดินไปยังบริเวณปิดล้อม
“รองผู้บัญชาการหมวดฉิน!”
“รองผู้บัญชาการหมวดฉิน!”
เจ้าหน้าที่ต่างรวมตัวกันเพื่อยืนตรงทักทายฉินอวี่
ฉินอวี่ตอบด้วยการพยักหน้าก่อนจะสังเกตเห็นหลินเหนียนเล่ยจึงถามอย่างสงสัย “เธอมาทําอะไรที่นี่เนี่ย?”
“ฉินอวี่! มาได้ประจวบเหมาะพอดีเลย!” หลินเหนียนเล๋ยมองฉินอวี่ด้วยความประหลาดใจก่อนจะยิ้มออกมา เธอรีบวิ่งไปข้างหน้าและคว้าแขนของเขาทันที “ช่วยฉันหน่อยนะครั้งนี้ครั้งเดียว ให้ฉันเข้าไปเก็บรูปทําข่าวหน่อยเถอะ”
“เธอจะบ้าเหรอ เจ้าหน้าที่กําลังรวบรวมหลักฐานอยู่จะให้เธอเข้าไปได้ยังไงล่ะ?”
“เถอะนะ ฉันไม่รบกวนงานพวกนายหรอกแค่ถ่ายไม่กี่รูปเอง” หลินเหนียนเล๋ยขอร้องด้วยถ้าทางเขินอาย “พี่ขา ช่วยเราหน่อยนะ ถ้าช่วยหนูจะเลี้ยงข้าวพี่โอเคไหม?”
“เปลี่ยนเป็นหนูอยู่กับพี่สักคืนแทนได้ไหมล่ะ?”
“ไอ้คนบ้า!” ใบหน้าของหลินเหนียนเล่ยแดงขึ้น
“งั้นรอก่อนนะ หลังจากทีมนิติเวชและคนอื่นออกไปฉันจะโทรหา” ฉินอวี่เอนตัวไปกระซิบข้างหูของหลินเหนียนเล๋ย
“ก็ได้” หลินเหนียนเล๋ยตอบพร้อมพยักหน้า
“ฉันไปทํางานก่อน” ฉินอวีพูดก่อนเดินเข้าไป
หลายนาทีต่อมาที่ชั้นหนึ่งของอาคาร
จู้เหว่ยหอบหลักฐานจํานวนมากขณะมองฉินอวีอย่างเบิกบานใจ “สัญชาตญาณหัวหน้าเฉียบคมจริงๆ พอวางสายผมก็เจอหลักฐานสําคัญบางอย่าง!”
“มันคืออะไร?” ฉินอวี่ถามอย่างกังวล
“ผมเจอสมุดบัญชีของเขากับบริษัทหวู่เหย้าซ่อนอยู่ในลิ้นชักห้องนอน แถมในนี้ยังระบุบริษัทอื่นอีกตั้งเจ็ดที่” จู้เหว่ยกล่าวด้วยความตื่นเต้น “ฮ่าฮ่า มีข้อมูลในนี้มากโขเลยล่ะ”
ฉินอวี่ครุ่นคิด
“รองผู้บัญชาการหมวดฉินครับ”
วันเส้นเดินไปเรียกฉินอวี่ “แฟลตนี้อยู่ใกล้สถานีเหนือมาก รอบๆ จึงมีกล้องวงจรปิดด้วยและจากการตรวจสอบมีผู้กระทําผิดทั้งหมดห้ารายทั้งหมดสวมหน้ากาก แต่หัวหน้ามีรูปร่างคล้ายกับคนที่ฆ่าหวู่เหย้ามาก”
ฉินอวี่นิ่งอึ้งเป็นเวลานานก่อนพึมพํา “ดูเหมือนว่าพวกฆาตกรจะส่งข้อมูลให้หลิวเปาเฉินซะเอง โดนพวกนั้นสับขาหลอกแล้ว!”