Special District 9 ตอนที่ 183 พันธมิตรที่น่า สนใจ
เขตเจียงหนาน ที่ลานกว้างตระกูลหวู่
เสี่ยวจิ่ว หลิวเปาเฉินและคนอื่นๆ อยู่พูดคุยกับคนของตระกูลหวู่ในห้องนั่งเล่น ส่วนหยวนเค่อก็หารือกับหวู่เวินเซิ่ง
“ดื่มชาสักหน่อยเถอะเสี่ยวหยวน” หวู่เวินเซิ่งผลักถ้วยน้ำชาไปข้างหน้า
“ขอบคุณ” หยวนเค่อพยักหน้า
หวูเวินเซิงหยิบถ้วยชาขึ้นมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เสี่ยวหยวน ถ้าจะร่วมมือกันตอนนี้ฉันว่าสถานการณ์ยังไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่”
หยวนเค่อมองอีกฝ่ายโดยไม่ตอบอะไร
“นายเป็นคนฉลาด เรื่องนี้ฉันวางใจ” หวู่เวินเซิ่งกล่าวเสริมอย่างนุ่มนวล “ครั้งนี้ใครจะช่วยฉันได้ก็ยังไม่รู้ และจะรอดไปได้รึเปล่าเป็นเรื่องที่พูดยากจริงๆ”
หยวนเค่อก็ยังไม่พูดอะไรเช่นเดิม
“ช่วยก็ส่วนช่วย ธุรกิจก็อีกส่วนหนึ่งและฉันก็ติดค้างนายอยู่ ถ้าเราไม่ได้ร่วมธุรกิจกันก็คงไม่มีมิตรภาพเกิดขึ้น” หวู่เวินเซิ่งพูดเป็นเชิงไม่บังคับ “ฉะนั้นก็อย่าสับสนเรื่องนี้ล่ะ ถึงมีอํานาจมากแค่ไหน ในอนาคตฉันก็จะพูดว่านายช่วยฉันมากน้อยแค่ไหนก็เท่านั้น เข้าใจไหมเสี่ยวเค่อ?”
หยวนเค่อวางถ้วยน้ำชาลงก่อนเงยหน้าขึ้นมองหวู่เวินเซิ่ง “ลุงหวู่ บริษัทไม่ใช่ของผม ในเมื่อลุงพูดตรงไปตรงมาผมก็จะบอกตรงๆเลยว่าผมช่วยลุงได้และเต็มใจจะร่วมธุรกิจกันต่อไป ก่อนจะไปเรื่องอื่นก็ขอพูดชัดๆ เลยแล้วกัน ผมช่วยก็เพื่อแลกผลประโยชน์บางอย่างที่ผมควรได้”
หวู่เวินเซิ่งที่ได้ยินคาดไม่ถึงว่าหยวนเค่อจะตั้งเงื่อนไขและพูดอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ไว้หน้าแบบนี้
“ผมช่วยให้ลุงรอด ส่วนลุงก็ช่วยเรื่องยาที่เจียงหนาน…นี่ถึงจะเรียกว่าธุรกิจ” หยวนเค่อมองหวู่เวินเซิ่งอย่างไร้ความรู้สึก “ถ้ามันไม่ได้ผลเราทั้งคู่ก็แค่ลงเอยด้วยความเจ็บปวด ถึงตอนนั้นผมก็คงไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ลุงคิดว่าไง?”
หวู่เวินเซิ่งเหล่มองหยวนเค่อ “นายจะช่วยฉันยังไงล่ะ?”
“ผมจะไปหาพวกเล่ยจื่อ”
“นายแน่ใจเหรอว่าจะหาเขาเจอ?”
“ตอนนี้ยังพูดยาก แต่พอมีเบาะแสอยู่บ้าง” หยวนเค่อคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์
หวู่เวินเซิ่งตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนพูดอย่างรวบรัด “เสี่ยวเค่อ นายต้องหาคนฆ่าลูกชายของฉันจะได้เค้นความจริงมาได้ว่าใครกันแน่อยู่เบื้องหลัง! ส่วนธุรกิจของฉันในเจียงหนานที่นายกับหลานชายของฉันทําร่วมกัน ฉันขอส่วนแบ่งแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์
“ลุงครับ แต่นี่มันธุรกิจสีเทานะ” หยวนเค่อตอบอย่างไม่กระดากอาย “เพราะสิ่งนี้แหละถึงช่วยโน้มน้าวผู้บริหารระดับสูงของหลายๆ บริษัทได้”
หวู่เวินเซิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ฉันให้หลานชายไปตั้งบริษัทการค้าด้วยทุนสองล้าน คิดเป็นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของหุ้นเชียวนะ
สมัยนี้สองล้านก็เป็นจํานวนเงินที่มากพอสมควรเพราะโควตาการส่งออกสินค้าในหนึ่งปีของผู้กํากับในรัฐพื้นทมิฬมีเพียงหนึ่งจุดห้าล้านเท่านั้น และคงไม่มีใครในซ่งเจียงที่สามารถทุ่มเงินได้มากขนาดนี้แล้ว หวูเวินเซิงเองก็เป็นสมาชิกผู้แทน เขาจึงใช้เงินแก้ปัญหาง่ายขึ้นไปอีก
หยวนเค่อที่ได้ยินจึงพูดออกมาอย่างไม่ลังเล “ลุง ถ้าอย่างงั้น…”
“ฉันจะเก็บเงิน ส่วนนายก็ไปหาคน”
“ดีเลย” หยวนเค่อพยักหน้า
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
หยวนเค่อเดินเข้าไปในรถก่อนหันไปบอกหลิวเปาเฉินว่า “ฉันกําจัดเจ้าวัวนั่นออกไปแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับนาย”
“ผมจะพยายามอย่างดีที่สุด”
“เฒ่าหลิว ตราบใดที่นายยังอยู่กับเราแม้ว่าฉันจะใช้งานหนักแค่ไหน ฉันจะช่วยล้างมลทินในสํานักงานตํารวจให้นายเอง” หยวนเค่อให้คํามั่นสัญญา
“ผมต้องทําได้ดีแน่นอน” หลิวเปาเฉินมองเห็นโอกาสและเขาก็พร้อมจะก้าวไปข้างหน้าด้วยทุกทางที่เขาทําได้
“โอเค ถ้าเจอปัญหาอะไรก็โทรมาหาฉันได้เลย ฉันจะช่วยนายเอง”
“มีอีกอย่างหนึ่ง” หลิวเปาเนินพูดอย่างเบื่อหน่าย “ถ้าไม่มีฉินอวี่เรื่องต่างๆ คงจะไม่มาถึงจุดนี้แน่นอน และเฒ่าหลี่ก็ใช้เขาเป็นก้างชิ้นใหญ่ในสํานักงานตํารวจ ผมคิดว่าเราต้องเตือนมันบ้างแล้วล่ะ”
“นายหมายความว่าไง?” หยวนเค่อขมวดคิ้วถาม
หลิวเปาเฉินมองไปที่หยวนเค่อและพูด “เราใช้เรื่องนี้เล นงานฉินอวี่มันได้โดยตรง”
ศูนย์ป้องกันและบรรเทาทุกข์ทางถนนเฟิงหลิน
หลีจือซึ่งสวมกางเกงตัวใหญ่นั่งจิบเบียร์หน้าคอมพิวเตอร์ก่อนจะตะโกน “เวรเอ๊ย! ไอ้สามเจ็ดแปด สามเจ็ดแปดแม่ถึงสิ งี่เง่าสิ้นดีนี่มันหลอกลวงกันชัดๆ!”
“เฮ้ย! เบาเสียงหน่อยสิวะ!” ต้าฮวงก่นด่าขณะถือนวนิยาย “ทั้งตึกได้ยินเสียงแกหมดแล้ว!”
“ยุ่งน่า!” หลีจือพูดอย่างเกรี้ยวกราด “ฉันเสียเงินไปอีกตั้งห้าพันนะโว้ย!”
“นายมันโง่นี่นา” ต้าฮวงบ่นอยู่บนโซฟา “ฉันพนันแพ้ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ไม่เข้าใจจริงๆ ทําไมนายยังเล่นอยู่ได้”
หลีจือปาดเหงื่อบนหน้าผาก “คนมันจะเสียยังไงก็ต้องเสียสิวะ!”
“จะเอาเงินเล็กน้อยด้วยวิธีแบบนั้นอยู่เหรอ? เงินที่หามาได้ก็เอาไปเล่นและไม่รู้จะได้ทุนคืนรึเปล่า…แค่ขยับเมาส์โง่ๆ ก็เสียเงินแล้ว” ต้าฮ่วงถอนหายใจแล้วพูดต่อ “ถ้าชอบเล่นนักก็ใส่ไปอีกสิ แล้วเอาเงินมาแบ่งฉันหน่อยนะเพราะตอนนี้ไม่มีจะกินแล้ว”
“ไปให้พ้นเลย!” หลีจือดุ “ไม่มีแล้ว! หมดตูด ให้ตายเถอะ ไอ้เกมหน้าโง่!”
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
หลีจือนั่งเปื่อยอยู่ในห้องน้ำ มือข้างหนึ่งถือโพยแผ่นเล็กในมือข้างซ้ายและอีกมือหนึ่งคุยโทรศัพท์ “นี่เว็บลักกี้ 888 ใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”
“พนันทางโทรศัพท์ได้ไหม”
“เป็นสมาชิกแล้วหรือยังคะ?”
“ยัง!” หลีจือส่ายหัว
“งั้นคุณต้องมาเปิดบัญชีก่อนนะคะ” อีกฝ่ายกระซิบ “ต้องมาสักครั้งแล้วถึงจะวางเดิมพันทางโทรศัพท์ได้ทีหลังนะคะ”
“แล้วบ่อนของคุณอยู่ที่ไหนล่ะ? ไม่เห็นเขียนบอกไว้เลย”
หอพักของสํานักงานตํารวจ
ฉินอวี่กําลังนอนอยู่บนเตียงขณะโทรไปโทรถามจู้เหว่ย “มาแล้วเหรอ? นายไปไหนมา? อ๋อ…แค่นี้นะอย่าเพิ่งไปซ่งเจียงนะรอก่อน ไม่เป็นไร พอดีมีบางอย่างที่อยากให้นายทํา อ่าใช่ เดี๋ยวรอฉันโทรไปอีกที”
กลางดึก
ในห้องส่วนตัวของเสี่ยวมี่หลินเหนียนเล่ยนอนละเมอขณะที่ใบหน้าเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที
หลินเหนียนเลยลุกขึ้นนั่งพร้อมตะโกนด้วยความหวาดกลัว “ฉินอวี่ช่วยฉันด้วย!”
เสี่ยวมีสะดุ้งตื่นและลืมตามองหลินเหนียนเลย ผมที่ยุ่งเหยิงปรกหน้าทําให้อีกฝ่ายดูน่ากลัวไม่น้อยเธอจึงตะโกนตําหนิไปว่า “นี่! ตะโกนทําไมตกใจหมดเลย ฝันร้ายเหรอ? ฝันว่าอะไรถึงร้องไห้ด้วย…เกี่ยวกับฉินอวี่เหรอ?”